###### รีวิวหนังสือ ตาผมเป็นต้นเชอร์รี่ - คนเราจะไม่มีวันตาย ตราบใดที่ใครคนหนึ่งยังรักเรา ######



สวัสดีค่ะ








รีวิวหนังสือเล่มที่สองของปี (และเป็นอีกเล่มของโครงการรีวิวหนังสือของนายอินทร์) ค่ะ กับเรื่องนี้




https://www.naiin.com/product/detail/198107/


ตาผมเป็นต้นเชอร์รี่
เขียนโดย อันเจลา นาเน็ตตี
แปลโดย นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
จำนวนหน้า 128 หน้า
ราคาปก 235 บาท





เรื่องย่อ

เรื่องราวของโตนีโน่ กับครอบครัวอันประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายและห่านนามอัลฟอนซีน่า ความผูกพันกับต้นเชอร์รี่ที่ถูกปลูกและเติบโตมาพร้อมๆ กับแม่ การจากไปของยาย และการเปลี่ยนแปลงไปของตา 



ความรู้สึกที่ได้อ่าน

ต้องบอกก่อนว่า เป็นอีกเล่มหนึ่งที่อ่านแล้วร้องไห้ด้วยแหละ แต่ไม่ใช่ร้องไห้แบบโฮ สะอึกสะอื้น ดราม่านะคะ แต่เป็นการร้องไห้แบบน้ำตาไหล เป็นความเศร้าอันแผ่วเบาเหมือนระลอกคลื่นบนผิวน้ำน่ะค่ะ


ในเรื่องนี้ มีหลายจุดหลายตอนที่อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันหายไปจากตัวเรา และพอได้อ่านก็หวนคิดถึงและได้รับรู้ว่าตัวเองคิดถึงความรู้สึกแบบนี้มากแค่ไหนน่ะค่ะ ความละเอียดอ่อนของความรักระหว่างคนคู่หนึ่ง ที่แม้ความตายจะทำให้จากกันในด้านกายภาพ แต่อย่างที่หนังสือเล่มนี้โปรยหน้าปกไว้ค่ะ "คนเราจะไม่มีวันตาย ตราบใดที่ใครคนหนึ่งยังรักเรา" มันทำให้ใครอีกคนนั้นไม่เคยตายไปจากใครอีกคนที่ยังคงมีความรัก (และความคิดถึง) ให้อย่างสม่ำเสมอ


ความละเอียดอ่อนที่คนจะมีต่อสัตว์ แต่ขณะเดียวกันแม้ว่าจะรักแต่เมื่อถึงคราวอันจำเป็น ก็ต้องทำสิ่งที่สมควรทำ (และยกเว้นสำหรับตัวที่เป็นที่รักถึงที่สุด) การฆ่าเขาเหล่านั้นด้วยความแมตตาที่ท้ายที่สุดวันหนึ่งไม่สามารถทำได้แล้วก็ต้องปล่อยไปตามครรลอง (ซึ่งสารภาพว่า เราทำไม่ได้แน่ๆ ไม่ว่าจะฆ่าแม้จะจำเป็น หรือการปล่อยไปตามครรลองน่ะนะคะ)





มันเป็นหนังสือเล่มบางๆ ที่กลับมีหลายประเด็นให้ขบคิดมากเหลือเกินค่ะ


ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความแตกต่างระหว่างครอบครัวที่อยู่ในเมือง (พ่อ ปู่ ย่า หมา) และครอบครัวชนบท (ตา ยาย ห่าน) ที่ท้ายที่สุดแล้ว เหมือนสังคมในชนบทต่างหากจะเป็นคำตอบของความสุขในครอบครัว (ซึ่งในฐานะของคนที่เคยอยู่ทั้งในชีวิตชนบทและเมือง ค่อนข้างโอนเอียงไปทางเห็นด้วยนะคะ) ประเด็นการ "เข้าถึง" จิตวิญญาณบางอย่างที่คนในเมืองมองว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อและเป็นได้เพียงในจินตนาการ การถูกครอบด้วยความคิดสมัยใหม่ที่ตัดสินว่าอะไรที่เด็กควรกินหรือไม่ควรกิน ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ที่อะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำ ฯลฯ มันมีมากมายจริงๆ นะคะ อ่านไปก็คิดถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ไป บางเรื่องเรารู้ว่าไม่ควรทำแต่เราก็เข้าใจในสิ่งที่ตัวละครนั้นๆ ต้องตัดสินใจทำน่ะนะ แม้จะต้องทอดถอนใจที่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องจบแบบที่ไม่เหนือจากการคาดการณ์ก็ตาม





สิ่งหนึ่งที่เราชอบในหนังสือเล่มนี้ก็คือ การถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ด้วยสายตาของเด็กที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง มันทำให้อะไรหลายๆ อย่างมันถูกถ่ายทอดด้วยสายตาของความเป็นเด็ก (หรือผู้เขียนพยายามที่จะให้เรามองด้วยสายตาแบบนั้นน่ะนะคะ) ซึ่งทำให้บางเรื่องมันก็รุนแรงมาก (เมื่อมองด้วยสายตาเด็ก) และบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า เกิดอะไรขึ้นแต่ขณะที่ตัวเอกของเรื่องกลับ (ถูกคนเขียนทำให้) ไม่รู้ ซึ่งนั่นทำให้ความรู้สึกสงสารมันเกิดขึ้นกับคนอ่านด้วยน่ะนะคะ


เราชอบการสร้างตัวละครตาและยาย รวมทั้งเจ้าห่านอัลฟอนซีน่ามากๆ เลย คือ...ทั้งหมดแล้วล้วนแต่มีเสน่ห์และน่ารัก ขณะที่ตัวละครอื่นๆ แม้จะดูมีแง่มุมที่ร้ายมากกว่าตัวละครอันเป็นที่รักนี้ แต่ขณะเดียวกัน เราก็เกลียดไม่ลง โอเค แม้ว่าจะไม่ได้มีรายละเอียดหรือเรื่องราวมากมายขนาดทำให้รัก แต่คนเขียนไม่ได้ป้ายสีหรือครอบความเป็นตัวร้าย แต่เผยให้เราเห็นถึงความเป็นมนุษย์ซึ่งมีทั้งดีเลว ถูกผิดในตัวแต่ละคนต่างหาก





เป็นหนังสือที่คิดว่าเหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากยิ่งกว่าเหมาะกับเด็กนะคะ (ไม่ใช่ว่าเด็กอ่านไม่ได้ แต่คิดว่าผู้ใหญ่อ่านแล้วน่าจะคิดอะไรได้มากกว่า...ถ้าคิดที่จะคิดน่ะนะ) ซึ่งนั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ เพราะนอกจากได้เรื่องของความรู้สึกที่งดงามหลายๆ อย่าง (โดยเฉพาะฉากที่ตาหัดให้หลับตาแล้วรู้สึกและได้ยินนั้น มันงามมากในความรู้สึกเรานะคะ) แล้ว ก็ยังทำให้เราคิดอะไรอีกหลายอย่างต่อไปอีกด้วยค่ะ





เป็นหนังสือแนววรรณกรรมเยาวชนอีกเล่ม ที่อ่านง่าย ใช้เวลาไม่มาก แต่ทำให้เราได้คิดและรู้สึกหลังอ่านจบไปได้อีกนานทีเดียวค่ะ







ปฏิทินธรรม





วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์
2560
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

1. 14 กุมภาพันธ์ - “ฟังพระธรรมเทศนา และ เจริญสมาธิภาวนา” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดย พระครูมงคลญาณ (หลวงปู่คำพอง ปญฺญาวุโธ)วัดป่านานาชาติ เมืองอัลดี้ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ณ ห้องทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (9501) ชั้น 5 อาคาร 9 (บุญสม สุวชิรัตน์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(บางเขน)


วันศุกร์และเสาร์ที่ 17 - 18 กุมภาพันธ์ 2560

1. งานมุฑิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 103 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต
ณ สวนทิพย์ ปากเกร็ด นนทบุรี



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+4105582=5579278/12600/1378




 

Create Date : 30 มกราคม 2560
24 comments
Last Update : 30 มกราคม 2560 8:28:50 น.
Counter : 4195 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณkae+aoe, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณกะว่าก๋า, คุณเกศสุริยง, คุณmambymam, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณจารุพิชญ์, คุณThe Kop Civil, คุณปรัซซี่, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณmastana, คุณlovereason, คุณtoor36, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณแม่ไก่, คุณpolyj, คุณกาบริเอล

 

ชื่อเรื่องก็น่าสนใจมากๆ แล้วค่ะ มี้อยากให้ซีอ่านหลังสือแบบไม่มีภาพเร็วๆ จัง จะได้แนะนำเธอบ้าง สำหรับเล่มนี้ ขอบคุณที่แนะนำนะคะ

 

โดย: kae+aoe 30 มกราคม 2560 9:49:53 น.  

 

แค่อ่านชื่อหนังสือก็น่าสนใจแล้วค่ะ เป็นคำพูดที่ดีมาก เราจะไม่มีวันตายถ้ายังมีใครยังรักเรา

ตอบเรื่องค่าอาหารนะคะ หาร 5 คนค่า คนละ 800 หนึ่งว่าถูกเลยล่ะสำหรับคุณภาพแบบนี้ ว่าจะหาโอกาสไปกินกุ้งเค้า เพราะเมื่อวานกินจนถึงวันนี้เลยค่ะ 555

 

โดย: AdrenalineRush 30 มกราคม 2560 9:51:36 น.  

 

น่าสนใจครับ ^_^

ดูจากชื่อหนังสือและคนแต่ง น่าจะมาจากอิตาลีใช่มั้ยครับ
ไม่ค่อยเห็นหนังสือที่แปลจากประเทศนี้เท่าไหร่นะ
(ผมคงไม่เห็นเองแหละครับ แหะ ๆ ^^")
สภาพครอบครัวคนอิตาลีในชนบทน่าจะเป็นครอบครัวใหญ่มั้ง
ซึ่งต่างกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปตะวันตก
แต่คงมีส่วนคล้ายคลึงกับครอบครัวคนไทยพอสมควร
ก็เลยมีการเลือกเล่มนี้มาแปลด้วย นี่ผมทึกทักเอาเองนะครับ ^^"

เท่าที่อ่านจากรีวิวถึงแม้จะมีโมเมนต์ดี ๆ
แต่สัมผัสได้ถึงความเศร้าเล็ก ๆ แฮะ
ทำไมหนังสือที่ตั้งชื่อเป็นอะไรที่เกี่ยวกับ "ต้นไม้"
มักจะมีอะไรที่เกี่ยวกับอะไรเศร้า ๆ กันหนอ T^T
ต้นส้มนี่เศร้าแน่ ๆ ต้นหญ้าก็มีแต่จำชื่อไม่ได้อะ

(เอ่อ...ถ้ามีใครสักคนแต่งหนังสือที่มีชื่อต้นทุเรียน ขอแบบไม่เศร้าแล้วกันนะ ^^")

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 30 มกราคม 2560 10:25:06 น.  

 

โหวต Book Blog ครับ

อ่านรีวิวจนจบ
ผมนึกถึงหนังสือเล่มนึงขึ้นมาทันที

ต้นส้มแสนรัก

และชอบประโยคนี้


"คนเราจะไม่มีวันตาย
ตราบใดที่ใครคนหนึ่งยังรักเรา"


เป็นหนังสือที่น่าสนใจครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 30 มกราคม 2560 10:44:43 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือมาหลายเดือนแระ แต่คุณเต้ยถึงกับร้องไห้กับเล่มนี้ ชักสนใจเนื้อหาคงดีมากๆๆๆ ขอบคุณที่ไปเจิมให้นะคะคุณเต้ย คิดถึงเสมอนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 30 มกราคม 2560 12:14:31 น.  

 

คุณเต้ยอ่านแนวนี้ตั่งแต่ ป.1 เลยนะคะ ดีจัง ซีอ่านเป็นการ์ตูนค่ะ อิอิ

 

โดย: kae+aoe 30 มกราคม 2560 14:56:24 น.  

 

เป็นความเศร้าอันแผ่วเบาเหมือนระลอกคลื่นบนผิวน้ำ

.
.

คุณเต้ยเลือกใช้คำเก่งครับ
ประโยคนี้บอกเล่าความรู้สึกขณะอ่านแบบเห็นภาพมากจริงๆ

 

โดย: กะว่าก๋า 30 มกราคม 2560 15:43:25 น.  

 

ชอบประโยคขยายความชื่อเรื่อง คนเราจะไม่มีวันตาย ตราบใดที่ใครคนหนึ่งยังรักเรา ... จริงด้วยแฮะ

ไม่ว่าเมืองไทยเมืองเทศ ไม่ว่ายุคไหน สังคมชนบทน่าอยู่กว่าสังคมเมือง เนาะ

้ร้าน Cloud47 นั่งดูวิว ไม่เน้นกิน เลยไม่ค่อยอร่อย ... ไม่ใช่ละ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 30 มกราคม 2560 16:13:59 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Mitsubachi Food Blog ดู Blog
moresaw Fanclub Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
พุ่งมาจกของกินเต็มที เจอสันหนังสือเข้าง่ะ พี่เต้ยสบายดีนะคะ งุงิงุงิ

 

โดย: จารุพิชญ์ 30 มกราคม 2560 16:17:38 น.  

 

ต้องไปหามาอ่านบ้างแล้วครับ

 

โดย: The Kop Civil 30 มกราคม 2560 16:21:36 น.  

 

ปั่นจักรยานเสียค่าใช้จ่ายสำหรับเสื้อและเหรียญครับ ถ้าใครไม่รับเสื้อและเหรียญก็ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
งานนี้เหมือนรวมพลนักปั่นจักรยานเลยครับ เกือบหมื่นคนเลย

 

โดย: The Kop Civil 30 มกราคม 2560 17:25:31 น.  

 



 

โดย: กะว่าก๋า 30 มกราคม 2560 19:49:21 น.  

 

เศร้าจังค่ะ พี่เต้ย T T

 

โดย: ปรัซซี่ 30 มกราคม 2560 20:40:35 น.  

 

รีวิวซะอยากอ่านเลยคุณเต้ย

แม่ซองฯก็มีชีวิตตั้แต่เด็กแบบครอบครัวใหญ่

บางทีย้อนกลับไปภาพคุณตาคุณยาย
พี่ป้าน้าอา เต็มบ้าน
อยู่กันแบบกงสี ก็มีความสุขไปอีกแบบ
เศร้าก็เศร้าด้วยกัน พอสุขก็สุขกันพร้อมหน้า

อิอิ คนแก่ชอบเล่าความหลัง

โหวดให้ค่ะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 30 มกราคม 2560 21:15:02 น.  

 

โหวต book blog ค่า อ่านรีวิวแล้วรู้สึกว่าน่าอ่านจัง

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 30 มกราคม 2560 22:32:59 น.  

 

พี่เต้ยถ่ายทอดเรื่องเล่าจากหนังสือตาผมเป็นต้นเชอร์รี่ อย่างรู้สึกที่มีอ่านแล้วจากมนุษย์ที่ไม่เคยหนังสือเล่นนี้

อยากจะไปหาหนังสือเล่มนี้มานั่งอ่านบ้างเลย แม้เรื่องราวจะเป็นดราม่า ปะปนด้วยความเศร้า แต่ก็อยากจะซึบซับอารมณ์ผ่านตัวอักษรในความผูกพันกับต้นเชอร์รี่ที่ถูกปลูกและเติบโตมาเป็นอย่างไร กับเรื่องราวที่เข้ามาในความเป็นเด็กน้อยนั่นด้วยนะคะ

เขียนรีวิวเก่งมากนะคะพี่เต้ย สุดยอดอ่ะฝันดีค่ะ

 

โดย: mastana 30 มกราคม 2560 22:48:05 น.  

 

(จากบล็อกนู้น~~~)


ขืนให้ผมเขียนหนังสือสักเล่มคงใช้เวลา 50 ปีมั้ง
ขนาดบล็อกตัวเองสั้น ๆ ยังดองทีนานหลายเดือนเลย 55

เรื่องการแบ่งหน้าจอเป็น 2 คอลัมน์...
ผมเขียนบล็อก โดยใช้ "โค้ดแบบเก่า" อยู่เลยครับ
การแบ่งหน้าบล็อกเป็น 2 แถวผมก็เลยใช้โค้ดเหมือนกัน
คงแปะตัวอย่างโค้ดที่เป็น text ในนี้ไม่ได้นะครับ
เพราะมันจะกลายเป็นว่าแสดงผลที่นี่แทนที่จะเห็นเป็นโค้ด
งั้นผมขอ capture หน้าจอมาให้ดูแล้วกัน
ไม่รู้ช่วยได้บ้างเปล่านะครับ แหะ ๆ ^^"

1) โค้ดที่เขียนใน word >>> Click here
2) ผลการแสดงหน้าจอ >>> Click here

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 30 มกราคม 2560 23:29:29 น.  

 

สังคมชนบท มันติดตรงที่ไม่สะดวกในการเดินทางครับ ถ้าต่างจังหวัดที่เป็นชนบท แต่เจริญได้แบบญี่ปุ่น คือมีความเจริญระดับหนึ่ง มันจะน่าสนใจกว่าต่างจังหวัดแบบที่ไม่มีอะไรเลย

จะมองว่าการคมนาคมสำคัญที่สุดก็อาจจะใช้ครับ ประเทศเราการคมนาคมห่วยแตก ขนาดระบบขนส่งสาธารณะยังแพงกว่าประเทศอื่นๆ เลย เมื่อเทียบกัยค่าครองชีพ (นี่แกอ่านรีวิวหนังสือแน่เหรอ)

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 31 มกราคม 2560 0:22:32 น.  

 

สวัสดีค่า ^^
วันนี้มาทันอ่านรีวิววรรณกรรมเยาวชนด้วย
เคยเห็นเล่มนี้อยู่ค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อ
มีหลายประเด็นน่าสนใจจริงๆด้วยค่ะ
แต่นุ่นไม่ค่อยไ้ดอ่านงานวรรณกรรมเยาวชนเลย อ่านน้อยมาก อ่านแต่นิยายรัก อิอิ
อ๋อ โครงการเพื่อนรักนักรีวิวนี่เอง ดีว่าได้อ่านที่อยากอ่านนะคะ
ของนุ่นปีนี้ก็คิดว่าจะอ่านมาากขึ้น แต่เอาแน่ไม่ได้อีก
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า
สวัสดีปีใหม่ สุขสันต์วันตรุษจีนย้อนหลังค่า

 

โดย: lovereason 31 มกราคม 2560 1:09:55 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณเต้ย
แต่ไม่เป็นไรค่ะ คงไม่รบกวน เกรงใจ
ถ้าหลายคนฝากซื้อคุณเต้ยคงต้องเดินหาขาลากแน่ๆเลย
และไม่รู้จะไปเมืองไทยตอนไหนด้วยค่ะ

เล่มนี้ออกแนวเศร้าเนาะ
ไม่มว่าสมัยไหนความแตกต่างในเมืองกับชนบทก็ยังมีอยู่นะคะ

สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 31 มกราคม 2560 2:12:08 น.  

 

น่าอ่านจังค่ะ น่าจะเป็นแนวที่ใช่สำหรับตัวเอง
จดลงลิสต์ไว้ก่อน

 

โดย: แม่ไก่ 31 มกราคม 2560 12:15:56 น.  

 

น่าสนใจมากค่ะ ลงลิสท์ไว้ล่างานหนังสือ

 

โดย: Froggie 31 มกราคม 2560 14:00:05 น.  

 

ง่าา ...
เพิ่งมาเห็นหนังสือ เมื่อเช้าเข้าไปดูอาหารอิตาเลี่ยนมาก่อน
อยากอ่านเรื่องนี้จัง เห็นคำโปรยถึงเรื่องความรักในเล่มนี้
พาลนึกไปถึงหนังสืออีกเล่มที่ยกคำกล่าวของ เอชรา พาวด์ แนบไว้ค่ะว่า "สิ่งที่คุณรักจะยังคงอยู่ สิ่งอื่นๆเป็นเพียงของไร้ค่า ...สิ่งที่คุณรัก ไม่มีใครเอาไปจากคุณได้ เพราะมันคือ มรดกของคุณเอง"

สงสัยถ้าได้เล่มนี้มา คงต้องไปหามุมอ่านเงียบๆ แน่นอน

 

โดย: กาบริเอล 1 กุมภาพันธ์ 2560 16:00:21 น.  

 

มาแว้วๆๆๆๆ

 

โดย: กาบริเอล 2 กุมภาพันธ์ 2560 9:25:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.