Ping's (ปิงส์) ภัตตาคารอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วที่ตั้งอยู่ในโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ติดกับห้างมาบุญครอง ที่แม้จะเพิ่งเปิดบริการมาได้เพียงไม่กี่เดือน แต่ก็สร้างความอิ่มอร่อยและเรียกแฟนคลับได้มากมาย ที่ติดอกติดใจรสชาติของหลากหลายเมนูจนต้องยกให้ปิงส์เป็นร้านโปรดในดวงใจ

โดยความอร่อยเหล่านี้ได้รับการการันตีจากฝีมือของเชฟปิง ผู้เป็นตำนานความอร่อยของร้าง ปิงหูฉลาม ที่แยกอโศก ซึ่งให้บริการควาอร่อยมานานหลายสิบปีแล้ว ก่อนจะขยับขยายมาเปิดสาขาใหม่ที่แยกปทุมวันนี้ โดยที่คอนเซ็ปต์ความอร่อยยังคงเดิม และเพิ่มการเอาใจสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าไปด้วยการแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น พร้อมบริการเมนูอาหารที่หลากหลายขึ้น

ร้านนี้ให้บริการอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว ซึ่งส่วนใหญ่จะหนักในเรื่องอาหารทะเล เน้นการใช้ซอสน้อย ไม่ปรุงรสมาก แต่อร่อยด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ คุณภาพดี และเคล็ดลับของทางร้านซึ่งจะใช้น้ำซุปแสนอร่อย ที่ได้จากการตุ๋นไก่นานเป็นวันเพื่อให้ออกมาเป็นซุปใสรสหวานกลมกล่อม ซึ่งจะทำสดใหม่ทุกวัน และนำไปใช้ในขั้นตอนการปรุงแทบทุกเมนู ตั้งแต่น้ำซุปในหูฉลามไปจนถึงผสมในน้ำราดหน้า

สิ่งสำคัญอีกอย่างของปิงส์สาขานี้ คือ จะแบ่งร้านออกเป็น 2 โซน คือ ส่วนของภัตตาคารแบบโต๊ะจีน ซึ่งมีกว่า 100 ที่นั่ง ที่กลางร้านมี Kitchen Theatre ครัวกระจกแบบเปิดโล่งให้เห็นการทำงานในทุกขั้นตอนของเชฟ ซึ่งไม่ค่อยจะพบเจอในร้านอาหารจีน นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัว 5 ห้อง ที่ตกแต่งอย่างงดงามด้วยภาพวาดเพนต์มือดอกไม้มงคลของจีน 5 ชนิดที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละห้อง

อีกโซนคือ บริการ Hot Pot ซึ่งก็รองรับได้ว่า 100 ที่นั่ง พร้อมห้องส่วนตัวอีก 4 ห้อง ขนาดยาวติดริมระเบียงมองเห็นวิวภายนอก โดยแนวคิดในการเปิด Hot Pot เกิดมาจากแนวคิดที่ว่าแม้ว่าร้านอาหารจีนในเมืองไทยจะมีเยอะ แต่มักมีแต่ร้านแบบภัตตาคารโต๊ะจีน หรือไม่ก็เป็นพวกก๋วยเตี๋ยว ติ๋มซำ โจ๊ก ไม่ค่อยมีเมนูแบบลวกจิ้ม Hot Pot เท่าไร โดยร้าน Hot Pot ส่วนใหญ่จะมีแต่สไตล์ญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่เมนู Hot Pot ของอาหารจีนก็อร่อยไม่น้อยหน้ากัน ร้านนี้จึงเสริมส่วนที่ขาดหายไปนี้เข้ามาบริการความอร่อย

โดยจุดเด่นของ Hot Pot ที่นี่จะแตกต่างจากร้านทั่วไป คือ ในขณะที่ร้านอื่นจะเน้นที่ตัวเครื่องและเนื้อสัตว์ แต่ที่นี่ให้ความสำคัญกับน้ำซุปแบบไม่น้อยหน้ากัน เพราะเขาใช้ซุปมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ปรุงเมนูต่างๆ ในส่วนของภัตตาคาร มาเป็นพื้นฐานของซุป ทำให้รสชาติน้ำซุปของที่นี่แสนกลมกล่อมและสามารถซดได้โดยไม่ต้องกลัวแพ้ผงชูรส น้ำซุปมีให้เลือก 4 แบบ

 คือ ซุปสูตรพิเศษของทางร้านที่เป็นน้ำตุ๋นซุปไก่ ซุปสมุนไพรจีน ซุปแบบมองโกเลียที่มีทั้งสมุนไพรซึ่งเน้นความเผ็ดร้อนตามสไตล์เมืองหนาว และซุปต้มยำ ตามรสชาติถูกปากคนไทย และน้ำจิ้มก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งซอส XO, ชิลลี่ซอส, ซอสพริกตำแบบซีฟู้ดของไทย ฯลฯ มาทานกับเนื้อซึ่งจัดไว้เป็นเซ็ต มีทั้งเนื้อ หมู ไก่ ซีฟู้ด และผักสารพัดอย่าง

พูดถึงความอร่อยเมนู Hot Pot ที่มีครบสรรพแล้ว ทางเมนูของฝั่งภัตตาคารก็มีให้อร่อยไม่น้อยหน้ากัน โดยสามารถเลือกสั่งมาทานทั้งแบบชุดเมนูโต๊ะจีน หรือจะสั่งแบบ A-la-carte จานง่ายๆ แบบอาหารจานเดียวมื้อกลางวัน ก็อร่อยไม่แพ้กัน โดยทุกเมนูยังคงคอนเซ็ปต์เพื่อสุขภาพ อร่อยโดยไม่พึ่งผงชูรส ซึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดก็มีหลากหลาย

อย่างหูฉลามน้ำแดง นี่น้ำซุปก็เด็ดสมคำล่ำลือ ปิงทะเลเจี๋ยนผัก ก็เต็มไปด้วยปิงชิ้นโตและผักต้นอวบๆ ผัดน้ำมันหอย ขาห่านอบบะหมี่ก็มาในหม้อดินที่ขาโตๆ แต่อบแบบให้พอเปื่อยกำลังดี ทานกับบะหมี่เส้นโตเหนียวนุ่ม ส่วนกระเพาะปลาผัดแห้งกุ้งลายเสือ ก็แตกต่างจากกระเพาะปลาผัดแห้งที่เราคุ้นชินกัน โดยจะเป็นผัดแบบแห้งจริงๆ และไม่ใส่เครื่องอะไรมากมาย มีเพียงกระเพาะปลาชั้นดี กุ้งตัวโต กับต้นหอมอีกเล็กน้อย แต่ก็อร่อยเด็ดแบบไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติม

ส่วนจานเด็ดสุดต้องยกให้กุ้งแม่น้ำผัดพริกแบบสิงคโปร์ ที่ทำเหมือนChili Crab ของสิงคโปร์ แต่ของที่ร้านนี้ปรับมาใช้เป็นกุ้งแม่น้ำตัวโตแทน เนื้อกุ้งสดเด้งนำมาผัดกับซอสรสเข้มข้น ยิ่งนำมาเข้าคู่กับหมั่นโถวทอด ที่แป้งหมั่นโถวรสหวานนิดๆ ทอดกำลังกรอบนอกนุ่มใน เวลาจิ้มทานกับซอสข้นๆ นี่แสนจะเข้ากันแบบสุดๆ

ส่วนของหวานก็ต้องเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้อย่าง โอ๊วนีแปะก๊วย ซึ่งของร้านนี้ก็ไม่เหมือนที่อื่นอีกเช่นกัน ด้วยเขาใช้เป็นเนื้อเผือกเต็มๆ จานไม่มีรองด้วยข้าวเหนียว เนื้อเผือกผ่านการกวนมาอย่างดี ไม่หวานเลี่ยนเกินไป และมีแปะก๊วยเม็ดโตประดับด้านหน้าพร้อมซอสฟักทองสีเหลืองส้มสุดสวย เป็นของหวานปิดท้ายมื้อได้อย่างลงตัว

ส่วนถ้าใครไม่มีเวลามานั่งทานแบบครบเต็มคอร์สแบบนี้ จะลองสั่งอาหารจานเดียวมาทานก็อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ราดหน้า ข้าวผัดปูปลาเค็ม โกยซีหมี่ บะหมี่ผัดแบบต่างๆ ข้าวหน้าต่างๆ ที่มีน้ำราดสไตล์เกรวี่รสกลอมกล่อมออกมาคล้ายริซอตโต้ของเมนูอิตาเลียน

ใครจะแวะเวียนไปที่ร้านตอนนี้ลองแวะเข้าไปเช็คดูรายละเอียดกันได้ที่ //www.pingsrestaurantgroup.com หรือที่ //www.facebook.com/pingsrestaurant หรือที่โทรศัพท์ 0 - 2611 - 4755 เพื่ออัพเดทเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆ ที่เขาจะมีส่วนลดและเมนูพิเศษแตกต่างกันออกไปในแต่ละเดือน :: Text by FLASH

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ - FLASH

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ