"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 
16 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
ปลากริมไข่เต่า แม่ซ่อนกลิ่น ท่าน้ำนนท์

คอลัมน์ เดินดินกินข้าวแกง โดย วิษณุ เครืองาม



 



สํานวนที่ว่า "กินของหวานล้างปาก" หรือ "กินของหวานล้างคาว" นั้นส่อความจริงอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าชาติไหนๆ เมื่อบริโภคของคาวแล้ว บางทีกลิ่นเนื้อสัตว์ แม้กระทั่งกลิ่นกุ้งหอยปูปลา หรือกลิ่นเครื่องเทศที่เข้ากระเทียม อบเชย เมล็ดผักชี ยี่หร่า เครื่องกะหรี่ยังคงกรุ่นติดปาก แม้บ้วนปากแล้วก็ตาม

แต่ความรู้สึกว่าได้กินสิ่งเหล่านี้ก็ยังติดอยู่นั่นเอง จึงนิยมกินของหวานตามหลังจะได้ใช้ความหวาน "ตัดกลิ่นตัดรส" หรือ "กลบกลิ่นกลบรส" ที่เป็นของคาว

การตัดกลิ่นตัดรสเป็นเคล็ดอย่างหนึ่ง นิยมทำตั้งแต่เริ่มปรุงหรือตั้งสำรับคับค้อนจนกลายมาเป็นของแนม กับแกล้ม หรือเครื่องเคียง เคยสงสัยไหมว่าทำไมถ้ากินแกงเผ็ดต้องมีไข่เค็ม เนื้อเค็ม ปลาสลิดทอดเป็นเครื่องเคียง กินแกงส้ม แกงเหลืองรสจัดๆ ร้อนซู่ซ่าต้องมีหมูหวาน กุ้งหวานเป็นเครื่องเคียงหอยนางรมสดๆ

ทำไมถ้ามีหัวหอมเจียว ยอดกระถิน มะนาวแล้วดับกลิ่นคาวดีนัก ทำไมกินไส้กรอกไทยต้องมีปลาแนม ใบทองหลางหรือใบชะพลูเป็นของแนม กินน้ำพริกทำไมผักต้มต้องราดหัวกะทิตั้งไฟ ถ้าเป็นผักสดจะไม่ราด

ทำไมกินน้ำพริกรสเผ็ดและกลิ่นกะปิแรง ต้องกินกับผักรสและกลิ่นฉุนเช่นสะตอ ลูกเนียง ยอดหมุย ยอดสะเดา กระถิน อาหารฝรั่งเขาก็ยังมีสลัด ซุป และคั่นกลางด้วยเชอร์เบ็ตรสเปรี้ยวไว้ล้างปาก จบคอร์สแล้ว ยังตามด้วยของหวาน ผลไม้ น้ำชากาแฟล้างปากอีกที

การกินของหวานตามหลังอาจไม่ได้เป็นเพราะต้องการตัดกลิ่นตัดรสเท่านั้น แต่อาจเพราะต้องการกินอาหารให้ครบหมู่ หรือเพื่อเพิ่มความโอชารสยิ่งขึ้นด้วยก็ได้ ของพวกนี้จะกินก่อนก็ไม่ดี น้ำย่อยจะหมดเสียก่อนจนกินข้าวตามไม่ลง แต่เคยเห็นบางคนที่กินก่อนเหมือนกัน

ญาติผู้ใหญ่ของผมคนหนึ่งต้องกินไอศกรีม ผลไม้ และขนมหวานก่อน แล้วจึงกินข้าวปลาอาหาร ท่านบอกว่าเจริญอาหารเพิ่มรสชาติดี เหมือนที่คนสมัยก่อนกินข้าวสวยเปล่าๆ กับผลไม้ คนรุ่นใหม่อาจเห็นเป็นของแปลก แต่ผมทันเห็นยายกินข้าวกับทุเรียน ข้าวกับแตงโม ข้าวกับขนุน สับปะรด มะละกอ ละมุด

เด็กที่บ้านผมคนหนึ่งเป็นไทยใหญ่ กินข้าวเปล่าโรยผงชูรส ผมไปเห็นเข้าตกใจเกือบตาย อธิบายเท่าไรก็ไม่ฟังว่าเป็นอันตราย ลงท้ายมีคนไปชักชวนจนได้ผล เด็กคนนั้นเลิกกินข้าวกับผงชูรสแล้วแต่หันมาบริโภคข้าวสวยราดกล้วยบวดชีหรือราดถั่วเขียวต้มน้ำตาล!

ของกินบางอย่างเข้ากันดีนักสำหรับคนบางชาติ จะว่าเป็นวัฒนธรรมการบริโภคหรือความเคยชินก็ได้ ไม่มีข้อห้ามตายตัว คนภาคกลางจึงกินขนมจีนราดแกง แต่คนอีสานกินขนมจีนกับส้มตำ คนเวียดนามกินเส้นขนมจีนกับหมูย่าง เคยเห็นพม่าหรือมอญไม่รู้ แถวหงสาวดีกินขนมจีนขยำกับปลาเค็ม เพื่อนผมคนหนึ่งกินแตงโมทีไร ต้องจิ้มซีอิ๊วขาว กินสับปะรดทีไรต้องจิ้มน้ำอัดลมชนิดน้ำดำ!

พระที่เคร่งครัดเวลารับบาตรมาได้ ท่านจะคลุกทุกอย่างในบาตรรวมกันไม่ว่าคาวหรือหวานเรียกว่า"ฉันสมรม" คนที่จะใส่บาตร จึงพึงระวังแทนท่าน อะไรแยกใส่ถุงใส่ห่อได้ก็ควรแยกเสีย อะไรควรใส่ย่ามหรือมอบให้เด็กวัดที่เดินตามก็แยกไป

ไม่งั้นท่านจะคลุกข้าวสวยร้อนๆ ในบาตรขยำกับผัดเผ็ดไก่ ปลาต้มเค็ม ขนมชั้น คั่วกลิ้ง ขนมถั่วแปบ แกงเขียวหวาน แกงจืดวุ้นเส้น น้ำพริกแมงดา น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม ไข่เค็ม เผลอๆ มีโรตี ลูกชุบ เสี่ยวหลงเปา ขนมถ้วยปนมาด้วย

ที่หลวงพระบางมีธรรมเนียมให้ใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวอย่างเดียว ส่วนกับข้าวให้แยกนำไปถวายที่วัดต่างหาก อย่างนี้สะดวกทั้งพระทั้งโยม

กลับมาพูดเรื่องกินของหวานล้างปาก ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาหลังอาหารยุคนี้คือผลไม้ และไอศกรีม เพราะซื้อหาง่ายดี ความจริงเมื่อไหนๆ จะซื้อแล้วอาจเลือกซื้อได้หลายอย่าง พูดถึงไอศกรีมอยากแนะว่าถ้าไม่อยากซื้อยี่ห้อแพงๆ แบรนด์ดังๆ ไอศกรีมทิพรส เจ้าเก่าคู่บ้านคู่เมืองที่ตลาดเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ ตัดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 (ไอศกรีมนะครับไม่ใช้น้ำปลา) เขาโด่งดังมาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ

มีหลายรส เช่น กะทิ นมสด เผือก วานิลลา กาแฟ สตรอเบอรี่ ทุเรียน ซื้อใส่กล่องไปแช่ตู้เย็นเวลาจะกินตักใส่ถ้วยเป็นคราวๆ ได้หลายมื้อ ราคาไม่แพง สมัยก่อนไอศกรีมเจ้านี้เป็นของดีหายาก แต่สมัยนี้ถูกไอศกรีมนอกทำแพคเกจจิ้งดีกว่า ราคาแพงกว่าตีตลาดไปแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังขายอยู่

ขนมไทยที่เข้ากะทิทำเลี้ยงเที่ยงๆ ก็ดีเหมือนกัน แต่ไม่ควรเลี้ยงหรือกินมื้อค่ำ ท้องจะอืด ย่อยยาก เช่นกล้วยบวดชี ฟักทองแกงบวด ขนมบัวลอยไข่หวาน สาคูเปียก ข้าวเหนียวถั่วดำ ขนมครองแครง ขนมดอกอัญชัน ข้าวฟ่างกวนราดน้ำกะทิ

อยากแนะขนมโบราณชื่อ ปลากริมไข่เต่า เจ้าอร่อย กะทิมันย่องรสหวานกำลังดีได้รสโบราณแท้เป็นของคู่บ้านคู่เมืองนนทบุรี เป็นรถเข็นขายอยู่ที่หอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรีทุกเช้า ชื่อ ปลากริมไข่เต่า แม่ซ่อนกลิ่น ถ้าจะซื้อต้องแวะไปเช้าๆ ราว 7 โมง เพราะสายกว่านี้ก็หมดหม้อแล้ว

รถรับจ้างแม่ค้าแม่ขายรู้จักกันทั้งตลาดท่าน้ำ จะโทร.ไปสั่งทำทีละเยอะๆ ก็ได้หมายเลข 0-2526-7664 (บ้าน) / 08-7694-3529 (ลูกสาว) มีคนบอกผมว่า ปลากริมไข่เต่าเจ้านี้อร่อยที่สุดในประเทศไทย ผมยังไม่ได้ตระเวนกินทุกจังหวัด เอาว่าเป็นขนมไทยหากินยากก็แล้วกัน

ปลากริมกับไข่เต่าเป็นขนมคนละอย่างกันวางขายคนละหม้อดิน อย่างหนึ่งสีนวลรสเค็ม อีกอย่างสีขาวรสหวาน เวลากินต้องตักทั้งสองอย่างผสมกัน บางคนเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงกิน บางคนตักก้นถ้วย (ปลากริม) กินคำหนึ่ง ตักไข่เต่าที่ลอยหน้ากินอีกคำหนึ่งสลับกัน

ปลากริมแป้งจะรีๆ ยาวๆ เหมือนตัวปลา ไข่เต่าแป้งจะสั้นๆ ป้อมๆ บางคนบอกว่าถ้าผสมกันเรียกว่าขนมแชงมา แต่ผู้ใหญ่บางท่านแย้งว่าแชงมาเป็นชื่อขนมอีกชนิด สมัยโบราณมีบทกล่อมเด็กว่า

"โอละเห่ โอละหึก ลุกขึ้นกลางดึกทำขนมแชงมา ผัวก็ตี เมียก็ด่า ขนมแชงมา หกคาหม้อแกง" บางคนก็ว่าคำพังเพยที่ว่า น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย นั้นมาจากการปั้นแป้งขนมปลากริมและไข่เต่า ปั้นแล้วต้องลวกน้ำร้อนน้ำเย็นไม่งั้นแป้งจะเสียรูป

อะไรก็ช่างเถอะ เอาว่าแม่ซ่อนกลิ่น โอท็อปเมืองนนท์ที่หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์นี้เขาทำอร่อยจริงๆ ก็แล้วกัน

หน้า 14 มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557

 

ขอบคุณ มติชนออนไลน์ - มติชนรายวัน

คอลัมน์ เดินดินกินข้าวแกง

ดร.วิษณุ เครืองาม

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    

 




Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2557 9:53:43 น. 0 comments
Counter : 3599 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.