La Vue เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่เพิ่งจะเปิดให้บริการมาไม่นานนี้เอง ณ โรงแรม สยามแอดสยาม และล่าสุดก็ปรับโฉมใหม่โดยได้เชฟชาวฝรั่งเศสที่มากด้วยฝีมืออย่าง มองซิเออร์ จิลล์ พอยทิวิน์ ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านเชฟจากโรงแรมระดับห้าดาวมาหลายแห่ง รวมถึงเคยร่วมงานกับ Joel Robuchon เซฟระดับมิชิลิน สตาร์ ชื่อดังจากปารีสมาแล้ว

ด้วยความเป็นเชฟฝรั่งเศสแท้ ดังนั้นอาหารแต่ละจานของเชฟจิลล์ จึงละเมียดพิถีพิถันสวยงาม พร้อมกับแฝงด้วยเรื่องราวความทรงจำต่าง ๆ และรสชาติที่เน้นต้นตำรับฝรั่งเศสแท้ ๆ ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่ต้องสดใหม่และมาจากแหล่งที่ดีที่สุดจากฝรั่งเศส

นอกจากนี้เชฟจิลล์ยังเน้นกรรมวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมเพื่อรักษารสชาติของวัตถุดิบที่สดอร่อยตามธรรมชาติให้คงไว้มากที่สุด พร้อมทั้งการจัดวางอาหารบนจานที่เน้นความสวยงามพิถีพิถันโดยให้ชื่อว่า Gastronomic Earth Cuisine

เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกเป็น Assortment of two oyster - farm, tsarskaya, cadoret belon.จานนี้เชฟเสิร์ฟหอยนางรมสด ๆ tsarskaya oyster จากฟาร์มหอยอันเลื่องชื่อแถบชายทะเลกองกาลของฝรั่งเศส ที่ไม่ธรรมดาเพราะเป็นเมนูเก่าแก่ซึ่งทำถวายพระเจ้าซาร์นิโคลัส ครั้งเมื่อเสด็จฯมาที่ฝรั่งเศส

tsarskaya oyster เป็นหอยนางรมสดขนาดปานกลางเนื้อแน่นหวานมันเค็มปะแล่มแต่ไม่มีกลิ่นคาวให้ระคายลิ้นเลย เพิ่งเคยลิ้มลองหอยชนิดนี้เป็นครั้งแรกก็ติดใจแล้ว ยอมรับว่าอร่อยจนลืมหอยฟินเดอร์แคร์ที่กินบ่อย ๆ ยิ่งกินกับซอสเนยผสมสมุนไพรที่เชฟปรุงขึ้นมารสชาติหอม ๆ มัน ๆ ช่วยให้รสชาติของหอยนางรมอร่อยยิ่งขึ้น

Steamed Britannia Lobster with Tomatoes ( 990 บาท ) จานนี้ดูไปธรรมดามาก ๆ ใช้ล็อบสเตอร์สดนึ่งในอุณหภูมิพอเหมาะเพื่อรักษารสชาติความหวานของเนื้อกุ้ง เพิ่มสีสันด้วยมะเขือเทศ 5 สี คือแดง เหลือง ส้ม เขียว และดำ เป็นมะเขือพันธุ์พื้นเมืองที่ไม่ได้ตัดแต่งพันธุกรรมจากบริตานี

แต่ละสีก็ให้รสชาติและรสสัมผัสแตกต่างกันไป เสิร์ฟคู่กับซอสเปลือกมะนาวที่ผ่านการดองมานานหนึ่งเดือนปั่นรวมกับหอมแดงที่ดองในเวนิกาไวน์แดงและน้ำผึ้ง นำมาหยดเหมือนหยดน้ำอยู่รอบจาน ทานจานนี้แล้วต้องจินตนาการตามเชฟว่าเหมือนอยู่ในสวนสวยดอกไม้หลากสี

ยังไม่หมดเพราะจานนี้จะอร่อยสมบูรณ์แบบต้องทานคู่กับเกล็ดน้ำแข็งซอร์เบท์สีส้มสดใสทำจากส้มแมนดารินทางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่ผสมด้วยเวนิกาไวน์ขาว ให้รสชาติที่สดชื่นทั้งปาก

เมนคอร์สได้ชิมถึง 2 เมนูทีเดียว จานแรกเป็นเมนูปลามองฟิชเนื้อขาวจั๊วะ ทอดด้วยน้ำมันแบลคโอลีฟเพื่อรักษาเนื้อปลาให้มีรสเป็นธรรมชาติมากที่สุด ราดด้วยสารพัดเห็ดผัดที่ให้กลิ่นหอมหลากหลาย เนื้อปลาชิ้นนี้อร่อยจนกินแล้วต้องกด LIKE ให้กับเชฟที่เลือกเนื้อปลาสดมาก ๆ รวมถึงกรรมวิธีการปรุงที่ไม่มากจนเกินไปจนทำให้รสชาติความอร่อยของเนื้อปลาโดดเด่นเป็นพระเอกของจานนี้

เมนคอร์สอีกจานเป็นเนื้อที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ด้วยความคุ้นเคยกับเนื้อฝรั่งเศสและเชื่อมันว่าอร่อยไม่แพ้เนื้อจากอเมริกาหรืออสเตรเลีย เชฟจิลล์เลือกเนื้อวัวโอบาบีฟสนนราคาสุดแพงเป็นเนื้อที่ไม่มีไขมันและมีกลิ่นเฉพาะตัวที่แรงมาก โดยเลือกใช้ส่วนเทนเดอร์ลอยด์ที่นุ่มที่สุด

ใช้กรรมวิธีการปรุงเนื้อให้สุกตามแบบดั้งเดิมของฝรั่งเศสคือใช้เนยกับความร้อนบนกระทะค่อย ๆ ทอดเนื้อชิ้นนี้ที่ใช้เวลาถึง 30 นาทีจะได้เนื้อแบบมีเดียมแร วิธีนี้จะรักษาทั้งกลิ่นและน้ำเนื้อให้อยู่ภายในตัวเนื้อได้มากที่สุด สังเกตจากเวลาหั่นเนื้อออกมาจะไม่มีน้ำเนื้อไหลออกมาสักหยดเลย ไม่เหมือนเชฟทั่วไปที่ใช้ไฟแรง เพื่อรัดเนื้อส่วนด้านนอก แต่พอเฉือนเนื้อแล้วน้ำเนื้อจะไหลออกมา

ลองชิมเนื้อดูปรากฏว่ากลิ่นหอมมาก ๆ รสสัมผัสนุ่ม ได้ความหอมแรงของความเป็นเนื้อวัวแต่ไม่สาบ สมกับความประณีตของเชฟจริง ๆ

เมนูอาหารสไตล์ Gastronomic Earth Cuisine ของเชฟจิลล์ ยังมีให้เลือกอร่อยอีกมากมายทั้งอาหารคาวและขนมหวาน

นอกจากอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยล้ำแล้ว บรรยากาศของห้องอาหาร La Vue ก็สมชื่อจริง ๆ เพราะอยู่บนตึกสูงที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้ 360 องศาแบบสบายตา

ห้องอาหารลาวู (La Vue) บนชั้นที่ 25 โรงแรม สยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ลฯ เปิดบริการ 26 ที่นั่ง ทุกวัน 18.30-23.00 น. โทร.0 2217 3000

เรื่องโดย : ปราณ ชีวิน
ภาพโดย : วารี น้อยใหญ่

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

คุณปราณ ชีวิน - คุณวารี น้อยใหญ่

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ