"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 
12 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 

มาดามตวง เขียน ปลากุเลาเค็ม .. ราชาแห่งปลาเค็ม

ที่มา : คอลัมน์ มาดามตวง Food Word มติชนรายวัน


ตากปลากุเลากับป้านิด


ปลาเค็มหนึ่งชิ้นก็อิ่มกันได้ยกครัว!!......อาจเรียกได้ว่าปลาเค็มเป็นอาหารที่นิยมของคนไทยเมนูหนึ่ง ทุกครอบครัวสมัยก่อนจะต้องมีติดครัวไว้ทุกบ้าน เอาไว้ยามฉุกเฉินไม่มีปลาสด ก็เอาปลาเค็มมาปรุงอาหาร อร่อยกันได้หลายมื้อ ไม่ว่าจะเป็น ทอดแล้วยำ ใส่หอมแดงซอย พริกขี้หนู บีบมะนาวลงไป ทานกับข้าวต้มร้อนๆ ซดกันได้เป็นชามๆ

บ้างก็เอามาผัดข้าว ผัดกับผักคะน้า หมูสับนึ่งปลาเค็ม หรือนำมาหลน ทานคู่กับผักสด และหากท่านใดเป็นแม่ครัวจะทราบดีว่าถ้าทำขนมจีนน้ำยาจะต้องเอาปลาเค็มไปต้มและแกะเนื้อตำใส่ในน้ำกะทิลงไปเพิ่มนอกจากเนื้อปลาที่ใส่ปกติ กลิ่นหอมของปลาเค็มจะทำให้ขนมจีนน้ำยาหม้อนั้นมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

ปลาเค็มที่เราเห็นกันบ่อยๆ จะมี 2 ประเภทหลักๆ คือ ปลากุเลา ปลาอินทรี ซึ่งกลิ่น รสชาติ ลักษณะเนื้อก็แตกต่างกัน ล่าสุดมาดามตวงได้ไปถ่ายทำรายการมาดามตวง Food Work โดยเฉพาะวิธีการทำปลาเค็ม ก็เลยเดินทางไปถึงแหล่งที่ทำปลาเค็มคือ ที่อำเภอบ้านแหลม อ่าวบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี

หากกางแผนที่ดูจะเห็นว่าเป็นอำเภอที่ด้านตะวันออกติดอ่าวไทยตั้งแต่ตอนบนสุดของอำเภอบ้านแหลมจนถึงแหลมเหลวเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงโดยเฉพาะ แถวปากอ่าวบางตะบูน ตำบลบางตะบูน

วันนั้นป้านิดแห่งบางตะบูน มือเซียนทำปลาเค็มมากว่า 30 ปี ได้ให้ความรู้พร้อมกับทำปลาเค็มให้ดู ป้านิดเล่าว่า จะเริ่มจากการเลือกปลากุเลา หากเป็นปลาแช่แข็งมาหรือยังสดอยู่ เมื่อเอามาทำปลาเค็มจะได้เนื้อค่อนข้างแข็งความหอมน้อย

แต่ถ้าอยากได้ปลาเค็มที่หอมและเนื้อฟูละเอียดไม่แข็ง ต้องเลือกปลาที่ไม่สดแล้ว สังเกตดูตรงตาจะเห็นตาแดงๆ ตัวนิ่มๆ ออกจะย้วยๆ หน่อยนะคะ ป้านิดบอกว่าแบบนี้ล่ะเด็ด เพราะจะได้เนื้อปลาฟู กลิ่นหอม หรือที่เรียกว่าปลากุเลาหอม

วิธีทำก็คือ

หลังจากได้ปลามาล้างปลาให้สะอาด ควักเหงือก ไส้พุงออกให้เกลี้ยง (มาดามตวงแอบเห็นส่วนนี้กองอยู่ในถังใหญ่ ป้านิดบอกว่าจะเอาไว้เลี้ยงเป็ดคะ เพิ่งรู้คะว่าเป็ดชอบกิน) จากนั้นเตรียมลังพลาสติกเปล่ามา เทเกลือทะเลเม็ดใหญ่ๆ ลงไปเกลี่ยให้ทั่วพื้นถัง จากนั้นก็เรียงปลากุเลาลงไปโดยอย่าให้ตัวปลาเกยกัน เพราะจะทำให้หนังปลาติดกัน เดี๋ยวปลาจะหนังหาย

ป้านิดบอกเคล็ดลับแถมอีก จากนั้นก็ เทเกลือทะเลลงใส่ทับบนตัวปลาจนมิด แล้วก็เรียงปลาลงไปอีกชั้น ใส่เกลือทะเลลงเกลี่ยให้เสมอกัน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเต็มถัง พอถึงด้านบนสุดก็โรยเกลือปิดทับปลาจนมิด และป้านิดเล่าว่าจะทิ้งไว้แบบนี้ไม่ได้เพราะ แมลงวันจะมาวางไข่ตรงเกลือแห้งๆ แล้ว เดี๋ยวหนอนจะขึ้น

วิธีที่จะป้องกันหนอนคือ ต้องราดทับด้วยน้ำเกลืออีกจนท่วม โดยน้ำเกลือนี้ ทำจากน้ำผสมกับเกลืออีก ในอัตราส่วน 1:10 เกลือ:น้ำ แบบนี้ไม่เป็นหนอนเพราะแมลงวันไม่ไข่ลงในน้ำจะเลือกวางไข่ลงบนที่แห้งๆ เท่านั้น

หลังจากนั้นก็จะปล่อยทิ้งไว้ ระยะเวลาในการหมักนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของปลาปลาตัวเล็ก น้ำหนักไม่ถึงกิโล ก็ทิ้งไว้ 5-6 ชั่วโมง ส่วนปลาตัวใหญ่ 1 กิโลกรัมขึ้นไปก็ หมักทิ้งไว้ 1 วัน 1 คืน สมัยก่อนอาจหมักปลาทิ้งไว้นานกว่านี้ เนื่องจากต้องการให้ปลาดค็มเก็บได้นานโดยไม่ต้องเข้าตู้เย็น แต่คนสมัยนี้มักไม่ชอบปลาที่เค็มจัด เลือกที่จะเก็บปลาเค็มในตู้เย็นช่องแข็งแทน

หลังจากหมักได้ที่แล้ว ก่อนนำไปตากต้องนำปลาออกจากเกลือ แล้วแช่ในน้ำเปล่าทิ่งไว้ก่อนสัก 3 ชั่วโมง เพื่อให้ปลาคายความเค็มออกมาก่อน แล้วค่อยเอาไปตากแดดจัดๆ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง โดยพลิกกลับด้านหลังจากแห้งแล้ว ตอนที่เอาปลาวางลงบนตะแกรงเพื่อตาก ป้านิดบอกว่าต้องเปิดกระพุ้งแก้มปลาขึ้นเพื่อให้โดนแดดจะได้แห้งสนิท

วันที่มาดามตวงไปนั้น ลูกค้าประจำของป้านิดเข้ามาจองกันตอนเช้าเพื่อมาขอรับของตอนบ่ายกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าป้านิดไม่เคยต้องเก็บสต๊อกปลาเค็มเลยละคะ เก็บแต่ตังค์อย่างเดียวเลยแบบนี้

 

ขอบคุณ มติชนออนไลน์ - มติชนรายวัน

มาดามตวง

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ




 

Create Date : 12 มีนาคม 2557
0 comments
Last Update : 12 มีนาคม 2557 9:11:38 น.
Counter : 2372 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.