มาต่อเรื่องน้ำจิ้มลูกชิ้นนะคะ .... พอดีถ่ายรูปไว้ละเอียดหน่อยค่ะ เลยแยกมาอยู่อีกบล็อก อันว่าน้ำจิ้มลูกชิ้น เราก็ไม่เคยทำเองหรอกค่ะ พอถึงเวลาจะทำ ก็เลยลองศึกษาสูตรจากที่หลาย ๆ ท่านลงไว้นะคะ ขอบคุณอากู๋ สำหรับโอกาสทางการศึกษาไร้พรมแดน อิอิ ว่าไปนะคะ







สรุปสูตรน้ำจิ้มวันนี้ เราได้แนวคิดมาจากเว็บ อาชีพอิสระ และแนวคิดเรื่องการใส่ แบะแซ เพื่อความใสและข้นของน้ำจิ้มจากเว็บ in-kitchen ค่ะ ลองเขียน ๆ ส่วนผสม ตามที่ใจคิดว่าจะอร่อย แล้วลงมือทำ ผลออกมาถูกใจ ดีค่ะ ... ทำมาสองครั้งแล้ว ที่ทำสองครั้ง เพราะนึกถึงคำพูดของคุณพู่ - jewnid ที่ว่าเวลาลงสูตร พยายามให้ส่วนผสมที่หาง่ายหน่อยได้มั้ย ฮ่ะฮ่ะ ก็จริงนะคะ ส่วนผสมในน้ำจิ้มของเราวันนี้ เราไม่ได้ใช้แบะแซ หรอกนะคะ เพราะไม่มีขายเหมือนที่เมืองไทย เราเอา corn syrup มาประยุกต์ใช้ เอา ... มาถึงตอนนี้ แล้วถ้าใครที่ไม่มี corn syrup ล่ะ จะทำได้เหรอ อิอิ ... ได้ค่ะได้ เราทำ 2 ครั้งก็เพื่อทดลองข้อนี้ค่ะ ...

แต่จะทำยังไง ไปพูดในช่วงท้ายของวิธีทำนะคะ พูดไปตอนนี้จะงงเปล่า ๆ แหะแหะ ...

ส่วนผสม


1. น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 150 กรัม (1/2 ถ้วย)
(เราใช้แบบกระป๋อง คั้นสำเร็จรูปแบบเข้มข้นค่ะ)

2. น้ำเปล่า 300 กรัม (1 ¼ ถ้วย)
3. พริกสดแดง 7 เม็ด
4. กระเทียมดอง 2 หัว
5. กระเทียมสด 8 กลีบใหญ่
6. น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลปึก 100 กรัม (ประมาณ 7 ช้อนโต๊ะ)
8. น้ำตาลทราย 150 กรัม (3/4 ถ้วย)
9. คอร์น ไซรัป (light corn syrup) 3 ช้อนโต๊ะ
10. แป้งข้าวโพด (corn starch) 1 ช้อนโต๊ะ
(ไม่มีใช้แป้งมันแทนได้ค่ะ)

11. น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
11. พริกขี้หนูคั่วป่น ตามชอบ *
12. เกลือ 1 ช้อนชา **

* พริกขี้หนูป่น เราใช้แค่ 1 ช้อนชาค่ะ เพราะได้ความเผ็ด
จากพริกสดแล้ว ลองชิมดู ถ้าชอบเผ็ดก็เพิ่มเอานะคะ

** เกลือควรใส่แต่น้อย น้ำจิ้มลูกชิ้นเขาบอกว่าควรปรุง
ให้ได้รส หวาน เปรี้ยว นำ รสเค็ม ให้ห่าง ๆ ไว้ค่ะ

*** ใส่ถั่วลิสงป่นลงไปในตอนท้ายได้ หากชอบน้ำจิ้มแบบมัน ๆ ค่ะ

ให้ดูความเข้มข้นของน้ำมะขามเปียกจากกระป๋องของเราค่ะ ใครที่คั้นน้ำมะขามเองก็เอาให้ข้น ๆ หน่อยนะคะ ตอนแรกว่าจะลงทุนทดลองคั้นเองด้วย แค่ความขยันไม่พอค่ะ แหะ






อันนี้เป็น corn syrup ใส่เพื่อให้น้ำจิ้มใส และข้น เราใส่ไปแค่ 3 ช้อนโต๊ะ
เพราะ corn syrup ทานมากก็ไม่ดีเนาะ เวลาซื้อ เลือกเอาแบบไม่มีไฮ
ฟรุ้คโตส หรือ 0 g - high fructose corn syrup ก็ดีค่ะ เพื่อสุขภาพ -
เสร็จแล้วก็ใช้ แป้งข้าวโพด มาช่วยทำให้น้ำจิ้มข้นขึ้นอีกที ... ถ้าไม่มี
เจ้าตัวนี้ ก็ใช้แป้งข้าวโพด corn starch หรือแป้งมันธรรมดาของบ้าน
เรา อย่างเดียวก็ได้ค่ะ ปริมาณอาจใส่เพิ่มนิดหน่อย (ดูหมายเหตุ
ช่วงท้ายของวิธีทำนะคะ)



วิธีทำ





1. โขลกหรือปั่นพริกสด กระเทียมดอง และกระเทียมสด ให้ละเอียด พอดี ๆ พักไว้ ค่ะ






2. เอาน้ำมะขามเปียก น้ำเปล่า น้ำตาลปึก น้ำตาลทราย และน้ำกระเทียมดอง ใส่หม้อซอสขนาดกลาง นำไปต้มด้วยไฟกลางไปหาสูง นิด ๆ ....





ต้มเคี่ยว ไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายดี






พอน้ำตาลละลายดี ก็ยังเคี่ยว ต่อ ๆ ไป เพื่อให้น้ำซอสข้นขึ้น หมั่นคนเป็นระยะ ไม่จำเป็นต้องคนตลอดเวลาค่ะ






บางช่วง น้ำซอสอาจมีเดือดพล่าน ก็ปรับไฟอ่อนลงนิดนึงนะคะ .. เคี่ยวต่อไปอีกซักครู่ใหญ่ ... (เราลองจับเวลาที่เราเคี่ยว ตั้งแต่วิธีทำข้อ 2 มา ประมาณ 20 นาที ค่ะ พูดถึงเวลาทำแล้วไม่อยากบอกเป๊ะ ๆ เลยค่ะ เพราะไฟแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บางบ้านอาจแค่ประมาณ 15 นาที.. อีกอย่างถ้าใช้น้ำตาลแตกต่างกัน แบบก้อน ไม่ก้อน เวลาเคี่ยวก็อาจต่างกันด้วย เอาเป็นว่า กะ ๆ เอานะคะ) ... น้ำซอสจะข้นขึ้นนิดนึง แต่ก็ไม่มากค่ะ(ไม่เป็นไร เพราะเราจะใช้คอร์นไซรัป กับแป้งข้าวโพดช่วยให้น้ำซอสข้น เราเคี่ยวน้ำตาลนาน ๆ เพื่อเอารสชาติเป็นจุดประสงค์หลักค่ะ)






3. เอาพริกสดที่โขลกหรือปั่นกับกระเทียมสด+ดอง ในข้อ 1 ลง






ช่วงนี้เร่งไฟให้แรงขึ้น คุณกิ๊ฟ - in-kitchen บอกว่าวิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นเหม็นเขียวของพริกสด หายไป เราเคี่ยวต่อไปไปประมาณ 3 นาที คือกะให้กระเทียมสุก กลิ่นหายไปด้วยน่ะนะคะ ...





ช่วงนี้เราคนตลอดเวลาค่ะ






4. ลดไฟเป็นกลาง ๆ ใส่คอร์นไซรัป ลงไป คนผสมตลอดเวลา น้ำซอสจะเริ่มเหนียว ๆ แล้วค่ะ คนไปซัก 2 นาที ...






5. ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป เพื่อเสริมความข้นอีกแรง คนต่อไปอีกซีก 2 นาที ...






6. ใส่เกลือลงปรุงไป คนผสมให้เข้ากันค่ะ แนะนำใส่ไปแค่ 1 ช้อนชาก่อนนะคะ สำหรับสูตรนี้ (ส่วนตัวเราว่า 1 ช้อนชาที่ให้ในสูตรนี้ พอดีแล้วค่ะ)






7. ลดไฟเป็นอ่อน ๆ ใส่พริกป่นลงไป ค่ะ ชิมให้ได้รสเผ็ดตามชอบค่ะ เราใส่ไปแค่ 1 ช้อนชา เพราะสมาชิกไม่ทานเผ็ดหลายคน อีกอย่าง น้ำจิ้มได้ความเผ็ดจากพริกสดที่ใส่ลงไปก่อนหน้าพอสมควรแล้วค่ะ ชิมรสน้ำจิ้มโดย รวม ให้ได้รสที่ถูกใจอีกทีค่ะ ขาดเปรี้ยวเพิ่มน้ำมะขาม ขาดหวานเพิ่มน้ำตาล ขาดเค็ม ใส่เกลือไปอีกซักหยิบมือเล็ก แล้วก็ปิดไฟ เสร็จ ... อย่าลืม น้ำจิ้มลูกชิ้นต้องหวานและเปรี้ยวนำ ให้ความเค็มตามหลังนิด ๆ ค่ะ เห็นหลาย ๆ ท่านว่ากัน

ใครที่ชอบน้ำจิ้มแบบมีถั่วลิสงบดด้วย จะแบ่งน้ำจิ้มไปใส่ถั่วบดด้วยในตอนท้ายนี้ก็ได้นะคะ


หมายเหตุ - ใครที่ไม่มีวิธี corn syrup ก็ข้ามวิธีทำในข้อ 4 นะคะ เราทดลองครั้งที่ 2 ลองข้ามวิธีในข้อ 4 มาใส่ แป้งข้าวโพด เลย ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ ... รสอาจเปปรี้ยวกว่าหน่อย ๆ ก็เติมน้ำตาลเอา ... เรามีความรู้สึกไม่ต่างกันเลย อิอิ เอ๊ะยังไง ลองชิมดูก่อน ... แล้วความเหนียว ต่างกันมั้ย ไม่มากเลยค่ะ หากใครชอบข้นขึ้นอีก ก็อาจเติมแป้งข้าวโพดไปอีกซัก ½ ช้อนโต๊ะ + น้ำอีก 1 ช้อนโต๊ะค่ะ







ทิ้งให้น้ำจิ้มเย็นลงซักครู่ ก็เทใส่ขวดโหล ค่ะ น้ำจิ้มจะข้นขึ้นอีกเล็กน้อย เมื่อเย็น แนะนำทิ้งไว้นอกตู้เย็น ช่วงวันแรกที่จัดเสิร์ฟค่ะ ... โดยตัวน้ำจิ้มเอง ก็ไม่ได้ใสโปร่งหรอกนะคะ เพราะเราใส่แป้งข้าวโพดด้วย แต่จะเห็นเงาใสชัด เวลาจุ่มลูกชิ้น ... เวลาที่น้ำจิ้มเคลือบลูกชิ้นน่ะค่ะ


สูตรหนึ่งได้เยอะ เราทานคนเดียวไม่ทัน สังเกตพอเก็บไว้เป็นอาทิตย์ น้ำจิ้มจะข้นขึ้น แต่เราทดลองเอามาทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง น้ำจิ้มก็คลายความข้นลง เหมือนเดิม ค่ะ ...













จุ่มจิ้ม แบบสมัยเด็ก ๆ เอาเข้าปาก ... แล้วเอาลงจุ่มอีก


อร่อยอยู่ค่ะ เธอช่างกล้าพูด :)) ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมานะคะ มีเวลาดีทุกท่านค่ะ



สูตรทำลูกชิ้น คลิ้กที่นี่นะคะ

Create Date : 07 ตุลาคม 2554
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 7:21:47 น.		81 comments
Counter : 107429 Pageviews.
Share Tweet