อาทิตย์ก่อนมีโอกาสทำเค้กแครอท ... เค้กพื้นฐาน สามัญประจำบ้าน อิอิ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านมีสูตรในดวงใจ กัน ... พบว่าสูตรนี้เป็นสูตรอร่อยสูตรหนึ่งค่ะ .. ส่วนผสมไม่มากมาย จนเกินไป และใช้น้ำมัน ในปริมาณพอดี ๆ ที่สำคัญคือ ใส่แครอทเยอะมาก ๆ สมชื่อเค้กแครอท ฮ่ะฮ่ะ ... คีย์ความอร่อยอีกอย่าง คือเขาใช้สับปะรด สด เป็นส่วนผสม ... ครั้งนี้เราไม่มีลูกเกด ติดบ้าน เลยใช้แครนเบอร์รี่แห้งแทน พบว่าได้รสเปรี้ยวนิด ๆ มาตัดความหวานของเค้กนี้ได้กำลังดีเลยค่ะ ... ครีมฟรอสติ้งก็ใช้น้ำตาลในปริมาณพอดี ๆ
สูตรได้จาก Healthy Cooking ของ The Culinary Institute of America
สูตรจากสถาบันนี้ อร่อยทุกครั้งเลยค่ะ เชื่อถือได้ สมกับเป็นสถาบันสอนทำอาหารจริง ๆ
ส่วนผสม
A. Cake
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/3 ถ้วย*
2. Baking Soda 1 ช้อนชา
3. Baking Powder 1 ช้อนชา
4. ผงซินนาม่อน 1 ช้อนชา
5. น้ำมันพืช ½ ถ้วย
6. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
7. ไข่ทั้งฟอง (large) 2 ฟอง
8. สับปะรดสด หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ¾ ถ้วย
9. แครอท ขูด 4 ถ้วย
10. แครนเบอร์รี่แห้ง หรือ ลูกเกด (อย่างใดอย่างหนึ่ง) สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ 3/4ถ้วย **
11. ไข่ขาว 2 ฟอง
* เพื่อแนวรักษ์สุขภาพ ใช้แป้ง whole wheat ก็ได้นะคะ ต้นสูตรเค้าใช้แป้งโฮลวีทเหมือนกัน เราแนวขออร่อยไว้ก่อน อิอิ
** แครนเบอร์รี่ หรือ ลูกเกด สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ กว่าเรานะคะ ... เราสับหยาบ ๆ พบว่าเวลาตัดเค้ก แล้วตัดยากเลยค่ะ
B. Cream Cheese Frosting
1. Cream Cheese 1 ½ ถ้วย (12 ออนซ์)
2. น้ำตาลไอซิ่ง ¾ ถ้วย
3. Vanilla Extract 2 ช้อนชา *
* พอดีวนิลาเหลือ แค่ 1 ช้อนชา เราใช้ Orange Extract ด้วย 1 ช้อนชา ... ชอบ ออกมาหอมสดชื่นดีค่ะ ใครมีที่บ้าน ถ้ามีโอกาสทำ ลองดูนะคะ
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 350 F หรือ 180 C เตรียมถาดอบปูกระดาษรองอบ หรือ กระดาษไข ไว้ ... ก่อนปูทาเนยให้ทั่วเลยค่ะ (เราใช้ถาดอบคุ้กกี้ขนาด 13 X 17)
2. ผสมแป้ง Baking Soda, Baking Powder และผงซินนาม่อน ให้เข้ากันดี พักไว้
3. ตีน้ำมัน น้ำตาล ไข่ทั้งฟอง ด้วย hand mixer จนเข้ากันดี ทยอยตักส่วนผสมแห้ง (ในข้อ 2) ลงผสม ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี (ช่วงนี้ส่วนผสมจะหนืดหน่อยค่ะ)
4. ใส่สับปะรด และแครนเบอร์รี่ (หรือลูกเกด) ลงผสม ตีพอเข้ากัน ตามด้วยนางเอก คือ แครอทขูด ตีพอให้ส่วนผสมเข้ากันดี (ตอนนี้ส่วนผสมที่ได้ จะเหลว ๆ หน่อยค่ะ เพราะได้น้ำจากสับปะรด และแครอท)
5. ตีไข่ขาว ด้วย hand mixer ให้ได้ยอดกลาง ๆ นำไปแบ่งโฟลด์ผสมกับแบทเทอร์แครอท ครั้งละประมาณ ½ ส่วน (1/2 + 1/2)
6. เทแบทเทอร์ใส่ถาดอบ นำเข้าอบประมาณ 30 นาที ... พอสุก นำออกจากเตา ปล่อยให้เค้กเย็นลงในถาดซักครู่ แล้วค่อยควค่ำเค้กออกจากถาด ...เค้กจะเนื้อนิ่ม และชุ่มมาก ๆ เวลาคว่ำถาด ระวังเค้กหักด้วยค่ะ ... เราใช้วิธีตัดกระดาษคลุมหน้าเค้ก ก่อนคว่ำเค้กใส่ถาดอบอีกถาด
7. ตัดแบ่งเค้กออกเป็น 2 ชิ้นขนาดเท่า ๆ กัน ... ปาดครีมชีสฟรอสติ้ง สอดใส้ระหว่าง 2 ชิ้นเค้ก นำเข้าตู้เย็นให้เซ็ทตัวอีกซัก 2 ชั่วโมง ค่อยนำออกมาตัดเป็นชิ้น จัดเสิร์ฟ ... (เค้กนี้สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 6 วันค่ะ เก็บใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด)
****************************************************
B. Cream Cheese Frosting
เอาส่วนผสมทั้งหมด ใส่ food processor หรือ เครื่องปั่น ... ปั่นจนได้ครีมเนียน แล้วนำไปปาดบนชิ้นเค้ก ... ง่ายดีเนาะ อิอิ
****************************************************
ชั้นครีมชีสเราหนาหน่อยนะคะ ... พอดีเห็นในหนังสือ ดูชั้นครีมเค้าหนา ๆ ... เราเลยทำครีมฟรอสติ้งเพิ่มอีกประมาณ ¼ สูตร .. สรุปทำสูตรเดียวก็พอแล้วค่ะ เป็นเค้กที่ชุ่มและนุ่ม ถึงวันสุดท้ายจริง ๆ ค่ะ ... ปกติเราไม่ถึงกับเป็นแฟนของเค้กนี้เท่าไหร่ ... แต่ครั้งนี้ไม่ยอมแบ่งไปฝากใคร ... อ้วนกันทั้งบ้าน ด้วยความงก
------------------------------------------
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมา มีเวลาดี ๆ กันค่ะ
ขอเจิมและประเดิมโหวตเลยนะครับ
โหวต Food blog ครับพี่