เค้กนี้ทำสำหรับวันเกิดครูสอนดนตรีให้ลูกค่ะ ... พ่อ-ลูกบอกกันแบบ 3 วันล่วงหน้า .. แบบนี้เอาไปก้อนเล็ก ๆ แล้วกัน 55 ... เหตุผลของพวกเธอก็คือไม่อยากให้แม่เพ้อเจ้อ ทำเค้กเยอะสิ่ง .. คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน ไม่เหนื่อยมาก อิอิ
ทีแรกเราทำ Joconde หรือ Almond Sponge เป็นตัวเค้ก แต่พบว่าเนื้อเค้กบางไป มีบางส่วนติดกระดาษอบ ไม่ค่อยสวย เลยเปลี่ยนใจทำ Chiffon สไตล์ญี่ปุ่น แบบที่เราทำโรลส้ม สมัยก่อนแทน ... ง่าย ๆ อร่อยเหมือนกัน 55 ... ตัว Joconde นำมาตัดเป็นฐานเค้ก และปาดแยม ทำวงแหวนรอบเค้กอีกทีค่ะ สูตรนี้เลยจะไม่พูดถึง Joconde นะคะ ... ถ้าสนใจที่จะทำเค้กแบบมีฐานรอบ ก็ทำ Chiffon สูตรข้างล่าง 2 สูตรเอานะคะ ถึงยังไงก็ต้องทำดับเบิ้ลสูตรค่ะ เพราะเค้กต้องมีชิ้นฐานด้วย
A. For the Cake
สูตรจาก เค้กโรลแฟนซี ของจุนโกะ
(ทำดับเบิล 2 สูตรนะคะ อย่างที่ว่าไว้ข้างบน)
1. ไข่แดง 3 ฟอง
2. ไข่ขาว 3 ฟอง
3. น้ำตาลทราย - ป่นละเอียด 65 กรัม (แยกใช้ 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง 35 กรัม ส่วนที่สอง 30 กรัม)
4. น้ำเปล่า 60 มล. (กรัม)
5. น้ำมันพืช 40 มล. (กรัม)
6. Vanilla Extract ½ ช้อนชา
7. แป้งเค้ก 80 กรัม (เราใช้แป้งสาลี แบบ bleached ก็ใช้ได้ดีเหมือนกันค่ะ)
8. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
9. Strawberry Jam 1 ½ - 2 ถ้วย
B. For the Filling
(เนื่องจากเค้กเราก้อนเล็ก ... เราทำแค่ ½ สูตร)
ส่วนผสม
1. วิปปิ้งครีม 2 ½ ถ้วย
2. น้ำตาลไอซิ่ง ½ ถ้วย
3. เจลาตินผง 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
5. นมสด ¾ ถ้วย
6. อัลมอนด์มีล หรืออัลม่อนด์ป่นละเอียด ¾ ถ้วย
7. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
8. Vanilla Extract 1 ช้อนโต๊ะ
9. Almond Extract 1 ช้อนชา (ถ้าชอบ)
10. ราสพ์เบอร์รี่ 1 ½ ถ้วย จะใช้ สตรอเบอร์รี่ ก็แล้วแต่นะคะ เราชอบรสแหลม ๆ ของราสพ์เบอร์รี่ มาตัดครีม
วิธีทำ
A . For the Cake
ภาพประกอบดูที่ Orange Rolls ตามลิงค์ข้างล่างนะคะ ... ไม่อยากลงภาพมาก เดี๋ยวโหลดช้าค่ะ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tastypastry&month=09-2014&date=25&group=19&gblog=36
1. ปูถาดอบด้วยกระดาษไข ครั้งนี้เราใช้ถาดขนาดใหญ่ ขนาด 13 x 17 นิ้ว เพราะต้องการโรลเล็ก ๆ ยาว ๆ หน่อยค่ะ .. เสร็จแล้วอุ่นเตาอบไว้ที่ 350 F หรือ 180 C
2. ตีไข่แดงพอแตกฟอง ใส่น้ำตาลทราย 35 กรัม (ส่วนที่ 1) ลงผสม .. ตีจนไข่สีจาง ขึ้นฟู .. ประมาณนาทีเศษ ๆ ค่ะ
3. เติมน้ำเปล่า น้ำมันพืช และ orange oil ตีผสมพอให้เข้ากันดี ... ถึงตอนนี้จะมีฟองอากาศเยอะหน่อยค่ะ
4. ร่อนแป้งเค้กลงผสม ตีผสมพอให้เข้ากัน ... (ช่วงท้ายใช้ พายยางปาดอ่าง ตะล่อมส่วนผสมอีก สองสามครั้ง ช่วยลดฟองอากาศลงได้ค่ะ)
5. ตีไข่ขาว จนได้ฟองเกือบละเอียด ทยอย เทน้ำตาลส่วนที่สอง 30 กรัม ลงผสม ตีจนไข่ขึ้นเงา เริ่มตั้งยอดอ่อน
6. ใส่แป้งข้าวโพดลงผสม ตีต่อพอให้ส่วนผสมเข้ากัน ตั้งยอดอ่อน (ทดสอบโดยยกโถไข่ คว่ำ แล้วไข่ไม่ไหล ก็ใช้ได้แล้วค่ะ)
7. แบ่งไข่ขาว ครั้งละ 1/3 ส่วน ลงผสมกับส้วนผสมไข่แดง ตะล่อมให้เข้ากันดีในแต่ละครั้ง
8. เทแบทเทอร์เค้กลงด้านบน แล้วเกลี่ย หน้าให้เสมอกัน .. ส่งเข้าเตาอบประมาณ 15-16 นาที ค่ะ
9. เอาเค้กออกจากเตา พักไว้ ซัก 2-3 นาที ก่อนคว่ำเค้กบนกระดาษไข อีกแผ่น ... เสร็จแล้วก็ลอกกระดาษไขรองอบออก พักไว้ให้เย็นต่ออีกซัก 5 นาที ค่ะ
10. พลิกเค้กคว่ำใส่แผ่นพลาสติก ลอกกระดาษไขที่ปูด้านบนออกอีกครั้ง
11. ปาดแยมสตรอเบอร์รี่ บาง ๆ อย่าให้หนามาก (ถ้าปาดหนา เวลาตัดโรล เนื้อแยมอาจเอ่อออกมามาก ไม่สวยได้ค่ะ) เหลือส่วนข้างนิดหน่อย .. ส่วนปลายสุดให้เหลือห่างเยอะหน่อยค่ะ ประมาณ 1 นิ้ว ... เสร็จแล้วโรลเค้กให้แน่น ๆ .. เอากระดาษไข หรือ พลาสติก ห่อโรล ขมวดปลายปิด พักไว้ในตู้เย็น ให้เซ็ทตัว อย่างหน่อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
*** ครั้งนี้เราโรลเค้กจากส่วนด้านยาวนะคะ เพราะอยากได้โรลยาว ๆ ไม่ใหญ่มากอย่างที่บอกข้างต้น .. หากขอบเค้กไม่เรียบ ตัดส่วนริมปลายออก แต่เราพบว่าถ้าโรลทางยาวแบบนี้ โรลเค้กจะไม่แน่นมาก ... ทางที่ดี ตัดเค้กให้เป็น 2 ชิ้น ค่อยปาดแยม แล้วโรลดีกว่าค่ะ มือจะจับโรลได้แน่น ๆ เพราะส่วนกว้างไม่มาก
B. For the Filling
1. บานเจลาตินในน้ำเปล่า ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
2. ตีวิปปิ้งครีม และน้ำตาลไอซิ่ง จนตั้งยอด หรือได้เนื้อครีมข้น (ครีมฝั่งนี้ตีทีไรยากที่จะบอกว่าตั้งยอดค่ะ 55) ... แบ่งครีมประมาณ 1/3 ส่วน นำไปปาดด้านในเค้ก ที่กรุเรียงในอ่างโดม (ภาพอยู่ที่ขั้นตอนการประกอบเค้กนะคะ ขั้นตอนนี้เพื่อป้องกันครีมส่วนที่เหลือรั่วผ่านโรลมาเปื้อนส่วนหน้าเค้ก เวลาเทครีมเต็มโดม)
3. ผสมนม อัลมอนด์มีล และน้ำตาลทรายในหม้อซอส นำไปต้มด้วยไฟกลาง หมั่นคนจนน้ำตาลละลายดี ยกลงจากเตา ใส่เจลาตินที่บาน ลงผสม (เราไม่ละลายเจลาตินก่อนตามสูตรนะคะ) คนให้เจลาตินละลายดี
4. นำหม้อนม-อัลมอนด์ ไปคนให้เย็นลงบนอ่างน้ำแข็ง (หิมะเยอะ ใช้หิมะเลย 55) ขั้นตอนนี้คนด้วยตะกร้อมือเลยค่ะ พอหม้อเย็นลงซักครู่ (ไม่นาน) ก็ยกออกจากอ่างน้ำเย็น... ไม่อย่างนั้นส่วนผสมจะข้น จับกันเป็นก้อนได้ ... (ถ้าพบปัญหานี้ นำหม้อกลับไปตั้งไฟอ่อน ๆ ซักครู่ ให้ส่วนผสมละลาย ... ยกลง นำมาตีบนอ่างน้ำแข็งให้เย็นลงอีกซักครู่ อีกครั้ง)
5. แบ่งครีมที่เหลือลงผสม คนให้เข้ากันดี ด้วยตะกร้อมือ ... ขั้นตอนนี้เราใช้ตะกร้อมือ แทนพายยาง นะคะ เพราะพบว่าครีมค่อนข้างข้น เร็ว ... ถ้าสูตรไหนใช้วิธีคนครีมที่ใส่เจลาตินบนน้ำแข็ง เราชอบเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน 555 แต่ถ้าจับจุดได้ ก็ไม่ยากค่ะ
6. ใส่ราสพ์เบอร์รี่ ลงผสม ใช้พายยาง ตะล่อมให้เข้ากับครีม เบา ๆ ... นำไปเทบนเค้กที่เรียงในอ่างฟอร์ม ในขั้นตอนการประกอบเค้กต่อไป
C. To Assemble
1. พอโรลเซ็ทตัวดี นำออกมาตัดเป็นชิ้นบาง ๆ เราตัดหนาขนาด 1.5 ซม. พบว่ายังหนาไป (สำหรับโดมฟอร์มเล็ก ๆ น่ะนะคะ) หนา 1 ซม. คงกำลังดี (ในส่วนชิ้นเค้กสำหรับปิดเป็นฐาน เราใช้ Joconde Sponge อย่างที่บอกค่ะ)
2. เตรียมอ่างฟอร์มเค้ก (เราใช้อ่างทรงโดมสูง ขนาดฐาน 6 นิ้ว) โดยการทาน้ำมันให้ทั่ว แล้วปูด้วยแผ่นพลาสติกให้เหลือปลายยื่นออกมาซัก 4 นิ้ว (เพื่อความสะดวกเวลาดึงเค้กออกจากอ่างค่ะ) ... เราใช้แผ่นพลาสติก 2 แผ่นปูไขว้กัน
3. นำชิ้นเค้กเรียงใส่อ่าง เริ่มจากก้นกลางของอ่างเลยค่ะ พยายามจัดชิ้นเค้กให้ชิดกันที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าให้มีช่องรูว่าง .. เค้กเนื้อนุ่ม จัดได้ง่ายอยู่ค่ะ ... ถ้าช่วงไหนต้องการชิ้นเค้กเล็ก ๆ ... คลายโรล ออกบางส่วนก็ได้ค่ะ ... เสร็จ นำอ่างเค้กเข้าตู้เย็น รอส่วนของครีมต่อไป
4. เอาวิปครีมประมาณ 1/3 ส่วน จากที่ตี ปาดปิดเค้กให้ทั่ว แล้วนำเข้ารอในตู้เย็น รอเทครีมส่วนที่สองต่อไป
5. เอาครีมที่ผสมราสพ์เบอร์รี่ เทลงจนเต็มอ่าง ... เราเทให้เต็มเลยค่ะ เพราะชิ้นเค้กที่เราจะปิดฐานไม่หนามาก ... เจตนาให้เป็นแบบนี้ เพราะจะแต่งขอบเค้กเป็นเส้นวงแหวนรอบ ๆ ปกปิดความไม่งามอีกที 55 ...
(*** ถ้าจะวางชิ้นฐานเค้กไว้ด้านใน เทครีมอย่าให้เต็มดีค่ะ เสร็จแล้ววางฐานเค้กปิด ... ใช้ที่ตัดพิซซ่า ตัดขอบเค้กให้เรียบเสมอกันกับฐาน อีกที)
6. ปิดฐานเค้ก แล้วรวบพลาสติกส่วนที่ห้อยคลุม นำเค้กเข้าพักในตู้เย็นให้เซ็ทตัวดีก่อนเอาเค้กออกจากอ่างฟอร์ม เราแช่ไว้ข้ามคืนเลยค่ะ
7. นำเค้กส่วนที่เหลือ มาปาดแยมให้ได้หลายเลเยอร์ที่สุดเท่าที่มีชิ้นเค้กเหลือค่ะ
8. คว่ำเค้กออกจากอ่าง ... เสร็จแล้วก็ตัดชิ้นเค้กที่ปาดแยมเป็นแถวเล็ก ๆ
เราตัดขนาด สูง 2 ซม. หนา 1 ซม. ค่ะ ตัดให้เหมาะกับขนาดเค้กที่ทำน่ะ
นะคะ เสร็จแล้วก็นำไปพันรอบ ๆ ฐานเค้ก ... ความเหนียวของแยมช่วย
เชื่อมชิ้นเค้ก โดยไม่ต้องทำอะไรค่ะ
ม้วนเค้กยังไม่แน่นดี แถมชิ้นเค้กหนาหน่อย เวลาอัดเรียงชิ้นเค้กปูดขึ้นมาหนาเชียว
ดูแล้วเหมือนงานอาร์ตเก๋ๆชิ้นนึงเลยจ้ะ
คุณฉวีไอเดียสุดยอดจริงๆ ยกนิ้วให้เลย
แบบนี้ผู้รับต้องปลื้มมากแน่นอน
ไว้มาใหม่จ้ะ