พอดีซื้อเนื้อมา เพื่อจะทำ Beef Jerky หรือเนื้อแห้งแบบฝรั่ง เห็นสูตรคร่าว ๆ มีเคี่ยวกาแฟและน้ำโค้ก สำหรับหมักด้วย น่าสนใจดีน่ะค่ะ แต่พอมาอ่านส่วนผสมอย่างละเอียด เขาให้ใส่ซอสถั่วเหลือง เป็น 2 ถ้วย แถมน้ำปลาอีก ½ ถ้วย อ่านแล้วชักยังไง ๆ จะเค็มไปมั้ย เกิดเสียดายเนื้อ อิอิ ก็เลยกลับมาทำเนื้อแดดเดียวแบบไทย ๆ ดีกว่า ...
ง่าย ๆ แต่อร่อยไม่มีเบื่อนะคะ .....







วันนี้เราต้องขออภัยเพื่อนที่เป็นมังสวิรัติ นะคะ .... ได้เห็นภาพเนื้อสด ๆ ด้วย


ส่วนผสม

1. เนื้อวัวสันใน 1,000 กรัม *
(เราชั่งน้ำหนัก หลังจากหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วค่ะ)

2. เม็ดพริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
3. ลูกผักชี 1+ 1/2 ช้อนโต๊ะ
4. กระเทียมปอกเปลือก 1 หัวใหญ๋
5. เกลือ 1 ช้อนชา
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ **
10. เหล้า Sherry หรือเหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ



* สมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือ เนื้อวัว เอามาทำเนื้อแดดเดียวได้ทั้งนั้นเนาะ .... ปกติ เราชอบเนื้อหมู ค่ะ เวลาเอาไปทอด สีเนื้อไม่คล้ำมากเหมือนเนื้อวัว อีกอย่าง เนื้อวัวที่นี่แพงด้วยค่ะ อิอิ ...


** เราใส่น้ำตาลมากหน่อย เพราะอยากให้กลมกล่อม ออกหวานนิด ๆ น่ะค่ะ แต่พอทอดแล้วก็ไม่หวานแบบเนื้อสวรรค์ นะคะ ไม่มีรสหวานออกมาชัด ๆ ด้วยซ้ำ คงเพราะความเค็มของสัดส่วนน้ำซอส ไปพยุงกันน่ะค่ะ ... งงกับเรามั้ยคะ :))


















วิธีทำ





1. นำเนื้อมาเลาะส่วนไขมัน หรือหนังพังผืดออก แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตามลายทางเนื้อ ... เวลาเคี้ยว จะได้ยุ่ยออกง่าย ... หั่นความหนาประมาณ ¼ นิ้วค่ะ .... ฟังดูเหมือนหนา แต่ไม่เลยค่ะ ... นำใส่อ่างผสม แล้วเอาเข้าตู้เย็น ระว่างรอทำน้ำหมักค่ะ







2. โขลกเม็ดพริกไทย ลูกผักชี และกระเทียม ให้เข้ากัน ... เราชอบแบบละเอียดหน่อยค่ะ แล้วตักใส่ถ้วยขนาดใหญ่หน่อย ใส่เคื่องปรุงรสที่เหลือ คือ เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทรายและเหล้า sherry หรือเหล้าจีน คนผสมให้เข้ากันและน้ำตาลละลาย ... เราใช้ตะกร้อมือเล็ก ๆ เลยค่ะ สะดวกดี













3. นำเนื้อที่หั่นไว้ออกจากตู้เย็น มาคลุกเคล้ากับซอสหมักจนเข้ากัน ....







พอคลุกเสร็จ เราชอบทดสอบรสโดยการนำชิ้นเนื้อเล็ก ๆ ใส่จาน ไปอบในไมโครเวฟจนสุก แล้วเอาออกมาชิมรส ... หากไม่พอใจก็จะได้แก้ไขได้น่ะค่ะ ....


นำพลาสติกคลุมถาดเนื้อหมัก ... เราหมักไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง .... เอาเข้าตู้เย็นไปซัก 2 ชั่วโมง ก็เอาถาดออกมา กลับด้านเนื้อคลุกกับซอสอีกครั้งหนึ่ง เพื่อซอสจะได้ซึมซับเข้าเนื้อเสมอกัน ... ถ้าไม่มีเวลา จะหมักข้ามคืนเลยก็ได้ค่ะ หมักนาน เนื้อก็นัวมากขึ้นหน่อย :))







4. เมื่อหมักเนื้อได้ที่แล้ว ก็นำเนื้อออกมาแผ่ตากในถาดขนาดใหญ่ .... จะมีน้ำหมักเหลือ ก็ทิ้งไปนะคะ ไม่ต้องเอามาราดบนเนื้ออีก :))


ใครสะดวกแดด ก็ตากด้วยแดด ... เราสะดวกด้วยเครื่องตากแห้ง food dehydrator แบบในรูป ค่ะ ใครที่ใช้เครื่องตากแบบนี้ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง พอค่ะ ... เราตาก 5 ชั่วโมง แห้งไปนิด แต่พอทอดก็ยัง ok ค่ะ ก็แล้วแต่ความชอบด้วยเนาะ บางคนก็ชอบเนื้อแห้งแบบกรอบ บางคนก็ชอบแบบนุ่ม ๆ หน่อย .... ชอบนุ่มก็อย่าตากนานค่ะ คอยดูเอา .... ถ้าเป็นแดดก็วันนึงนะคะ สมกับชื่อ “เนื้อแดดเดียว” ... แต่สมัยเด็ก บางทีเราเห็นแม่ตากสองวัน สามวันไปโน่นค่ะ















พอเนื้อแห้งได้ที่แล้ว ก็เอาไปทอด .... ถ้าใครใช้เครื่องตาก ไม่ต้องทอดนานนะคะ เพราะเนื้อแห้งที่ได้ เกือบสุกแล้ว ทอดพอเนื้อเปลี่ยนสี ก็ตักขึ้น ทิ้งไว้นานเดี๋ยวจะกรอบเกินไป .... วันต่อมา เราทดลองทำเนื้อไก่แดดเดียวด้วย ค่ะ ใช้เนื้อส่วนอกทำ แต่เราไม่ชอบเท่าไหร่ คิดว่าแห้งไป หรือว่าเราทอดนานไปหน่อยรึเปล่าไม่ทราบนะคะ .... เราว่า เนื้อวัว เนื้อหมู อร่อยกว่าเยอะ ค่ะ







มื้อนี้ทานกับข้าวเหนียว และตำถั่วค่ะ .... ถั่วเขียวฝักสั้น หรือ green been ของคนที่นี่ ... ตำถั่วของเราหน้าตาไม่สดชื่นเท่าไหร่ค่ะวันนี้ ฮ่ะฮ่ะ ตำเสร็จเพื่อนก็มาเยี่ยมพอดี รีบถ่ายรูป แล้วก็ยกให้เป็นอาหารกลางวันไปเลย
แค่นี้ก็แซ่บกันแล้วค่ะ สำหรับคนไกลบ้าน :))










ภาพสุดท้ายข้างล่างไม่ได้สวยหรือชอบเป็นพิเศษหรอกค่ะ แต่ใส่เข้ามา เพราะขำคุณ QC ของเรา คุณผึ้งตัวสีเหลือง ๆ ด้านซ้ายมือ เธอชอบก่อกวนเวลาเราถ่ายภาพอาหาร แบบต้องขอมีส่วนร่วม :))


-------------------------------------------------

เริ่มอาทิตย์ใหม่ด้วยความสดใสกันค่ะ

Create Date : 28 กันยายน 2553
Last Update : 28 กันยายน 2553 10:14:53 น.		65 comments
Counter : 15485 Pageviews.
Share Tweet