Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2566
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 ธันวาคม 2566
 
All Blogs
 
เดินเล่นกาดกองต้า วันธรรมดา

จากวัดพระธาตุลำปางหลวง ขับกลับมาถึงที่พัก 4 โมง สั่งลาเต้เย็นกับสโคนมากิน (70+69=139 บาท) หลังจากมื้อเช้าก็มื้อนี้ล่ะค่ะ นั่งชาร์จแบตไปด้วยจนเต็ม เดี๋ยวไปเดินตลาดเย็นแถวสถานีรถไฟ จากที่พักเดินไป 700 เมตร



ประมาณ 6 โมงเย็นออกมาเดินเล่น หาอะไรกินมื้อเย็นด้วย



น้ำพุชามตราไก่ ไม่รู้เปิดตอนไหน เราไปไม่เจอ



สถานีรถไฟลำปาง



สถานีรถไฟลำปาง
เป็นสถานีรถไฟรุ่นแรก ๆ ที่สร้างขึ้นในประเทศไทยและยังคงเหลืออยู่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ออกแบบโดยวิศวกรชาวเยอรมัน ซึ่งได้รับมอบหมายให้สร้างทางรถไฟสายเหนือ นับว่าการสร้างสถานีรถไฟแห่งนี้ได้นำความก้าวหน้ามาสู่นครลำปางก่อนเชียงใหม่หลายปี เนื่องจากการเจาะอุโมงค์ที่ถ้ำขุนตานยังไม่แล้วเสร็จ

โดยสถานีลำปางเปิดใช้งาน 1 เมษายน 2459 รองรับ ขบวน รถรวม พิษณุโลก - ลำปาง และ อุตรดิตถ์ - ลำปาง ก่อนมีรถด่วนสายเหนือตรงจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาทำขบวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465



ในพ.ศ. 2506 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดส่งหัวรถจักรไอน้ำมาแสดงไว้ที่สถานีรถไฟลำปาง และกำหนดให้ สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีประวัติศาสตร์ และทำการอนุรักษ์ไว้



รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปางเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียล มีการใช้โค้ง (arch) และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น



พ.ศ. 2536 ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการอนุรักษ์ สถาปัตยกรรมแห่งสมาคมสถาปนิกสยามฯ ให้เป็น อาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประเภทอาคารสถาบันและสาธารณะ

พื้นที่ของสถานีรถไฟนครลำปาง มีประมาณ 161 ไร่ มีตัวอาคารสถานี  คลังสินค้า  พื้นที่เก็บหัวรถจักรและตัวรถไฟ รวมถึงพื้นที่บ้านพักพนักงาน  อาคารสถานีดังที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการต่อเติมมาเป็นบางส่วน โดยเฉพาะช่วงก่อนปีพ.ศ. 2520 มีการต่อเติมส่วนควบคุมบริเวณปีกทางทิศใต้ ส่วนพักคอยด้านติดรางรถไฟ และ ซุ้มด้านหน้าที่จอดรถ จากนั้นมีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา กระเบื้องพื้น และปรับปรุงพื้นชั้นล่างทั้งหมดในปี พ.ศ. 2538



มีร้านรวง 2 ล็อค แต่ก็มีครบทุกอย่างที่ควรมี





สรุปได้มื้อเย็นแบบกินอร่อยแน่นอน ไม่ว่ากินที่ไหน 



18.21 น. เดินกลับที่พัก น้ำพุชามตราไก่ก็ยังไม่เปิดน้ำพุ 







ส้มตำปูปลาร้า 40 บาท ไก่ทอด ชิ้นละ 20 บาท 3 ชิ้น ซื้อกลับมากินที่พักค่ะ ขากลับแวะซื้อน้ำเต้าฮวยด้วย ต่อด้วยโยเกิร์ตที่ซื้อมาตอนเช้าอีกถ้วย เป็นอันจบมื้อเย็น 😋 



เช้าวันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2566 กินมื้อเช้าของที่พักแล้ว ตั้งใจจะไปหอนาฬิกา (ชอบหอนาฬิกาค่ะ ไปจังหวัดไหนถ้ามีโอกาสเก็บภาพกลับมาตลอด) น้องที่พักบอกว่าเดินไกลนะคะ รถมอเตอร์ไซด์ที่เช่าเมื่อวานยังใช้ได้ (เราเช่าเมื่อวานประมาณ 10 โมง ใช้ได้ถึง 10 โมงเช้าวันนี้) อ้าว เหรอ ดีจัง เค้าคิด 24 ชม. เป๊ะเนาะ แต่พี่อยากเดินมากกว่า 😆 เดินไปถ่ายรูปไปงี้ กดแมพดู ประมาณ 3 กิโล เดินเรื่อย ๆ สบาย ๆ ค่ะ



ประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ อาคารบ้านเรือน ร้านค้า ยังไม่ค่อยเปิดกัน













เซรามิคตกแต่งหน้าบ้าน น่ารักดีค่ะ











08.08 น.















มีป้ายเตือน ระวังรถม้าด้วย



ทางเท้าดีอยู่ค่ะ



ไม่ได้ใช้บริการรถสองแถวเลยค่ะ





มองเข้าไปเห็นอาคารเรียน...สวย "อาคารยกส่าย"


 
อาคารเรียนยกส่าย หรือโรงเรียนยกส่าย ปัจจุบันชื่อว่าโรงเรียนมัธยมวิทยา เป็นโรงเรียนจีนแห่งแรกของจังหวัดลำปาง สร้างในปี พ.ศ. 2465

อาคารยกส่าย ลักษณะอาคาร เป็นอาคารเรียน ค.ส.ล. 2 ชั้น หลังคารูปทรงจั่วปั้นหยาและปั้นหยา มีมุขหลังคายื่นมาด้านหน้า

ชั้นล่าง ประกอบด้วย มุขหน้าเฉลียงโล่งมีส่วนพื้นระเบียงคลุมด้านบน ราวระเบียงแต่เดิมเป็นไม้ ปัจจุบันปรับปรุงใหม่เป็นลูกกรงเซรามิก ด้านหน้าเป็นโถงทางเดินตลอดแนว แต่เดิมพื้นที่อาคารด้านล่างใช้เป็นห้องเรียนและห้องผู้บริหาร ปัจจุบันใช้เป็นห้องธุรการและการเงินของโรงเรียน มีประตูบานเฟี้ยมไม้ทึบเปิดเข้าด้านหน้าเหนือประตูมีช่องระบายอากาศไม้ซี่ระแนงเว้นร่อง มีทางเดินและประตูออกไปสู่ด้านหลังอาคารได้ หน้าอาคารมีประตูบานทึบไม้เข้าห้องจำนวน 2 ชุด หน้าต่างเป็นบานไม้ทึบ 2 บานมีช่องระบายอากาศไม้ด้านบน เหนือขึ้นไปติดคิ้วปูนปั้นกันสาดกันน้ำไหลเข้าหน้าต่าง มีบันไดไม้ราวลูกกรงไม้กลึงขึ้นไปชั้นยังชั้น 2 ทั้ง 2 ด้าน ด้านหน้ามีแผงกันแดดและกันฝนสาด ทำด้วยไม้ฉลุลายโดยรอบโถงทางเดิน หน้าอาคารจะมีป้ายชื่อว่า อาคารยกส่าย เปิด พ.ศ. 2466 บูรณะ พ.ศ. 2529

ชั้น 2 อาคารทำด้วยโครงสร้างพื้นไม้ ตงไม้ หลังคาโครงสร้างไม้มุงด้วยกระเบื้องหางว่าว หน้าบันและฝ้าชายคาเป็นไม้ ด้านหน้ามีโถงระเบียงนั่งพักผ่อน เป็นพื้น ค.ส.ล.ผิวพิ้นหินขัด มีหลังคาดลุม ผนังปูนก่ออิฐฉาบเรียบ ฝ้าเพดานไม้ ประตูและหน้าต่างเหมือนชั้นล่าง ปัจจุบันรื้อถอนประตูไม้บานเฟี้ยมตรงกลางเดิมออก ตกแต่งเป็นซุ้มประตูและประตูใหม่ แต่เดิมชั้นบนจะเป็นห้องเรียนจำนวน 2 ห้อง ปัจจุบันเป็นห้องรับรองและพิพิธภัณฑ์ของโรงเรียน มีแผงกันแดดและกันฝนสาดด้านหน้าทำด้วยไม้ฉลุลายโดยรอบโถงทางเดินและระเบียง หลังคาจั่วปั้นหยาด้านหน้า มุขจั่วประดับไม้สะระไนแบบมีมงกุฎ สลักฉลุลวดลายพรรณพฤกษา สวยงามมาก

ที่มา : https://www.facebook.com/manaspee999/posts/1694285590641883/




ตามป้าย ห้าแยกหอนาฬิกา อีก 1.5 กิโล



นี่ก็สวยค่ะ...ถ้าขับมอเตอร์ไซค์มา คงไม่ได้โฟกัสกับอาคารบ้านเรือนมากนัก ดีนะที่ตัดสินใจเดินมา 



พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย สาขาลำปาง


 
พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย สาขาลำปาง ที่เคยเป็นที่ตั้งของบริษัทแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด (ธนาคารไทยพาณิชย์ ในปัจจุบัน) สาขาลำปาง ก่อตั้งใน พ.ศ. 2473 สมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องจากนครลำปางมีความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจด้านการค้าและป่าไม้ แต่ยังขาดแคลนเงินบาทและเงินเหรียญไทย ประชาชนต้องใช้เงินรูปีของพม่า ทำให้เกิดการเสียดุลธนาคารมีบทบาททำให้ประชาชนหันมาใช้เงินของไทย โดยนับเป็นธนาคารแห่งแรกในจังหวัดลำปาง และเป็นบริษัทแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด สาขาที่ 3 ต่อจากสาขาทุ่งสง และสาขาเชียงใหม่

ตัวอาคารเป็นตึกก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น สถาปัตยกรรมโคโลเนียล ลักษณะเด่น คือมีมุขยื่นด้านหน้ารับด้วยเสาลอยและซุ้มโค้ง พื้นที่ชั้นล่างเคยเป็นที่ทำการของธนาคาร ส่วนชั้นบนเป็นที่พักของผู้จัดการสาขา ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยเป็นผู้จัดการสาขาลำปางด้วย

ในปี พ.ศ. 2540 ธนาคารได้ก่อสร้างที่ทำการใหม่ในบริเวณด้านข้างของอาคาร ส่วนอาคารนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย สาขาลำปาง จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของธนาคาร เครื่องมือเครื่องใช้ ภาพถ่าย และเอกสารต่าง ๆ พร้อมทั้งยังคงรักษารูปแบบการให้บริการและการทำงานของพนักงานในอดีตไว้ด้วย และอาคารแห่งนี้ยังได้รับรางวัล “อาคารอนุรักษ์ดีเด่น” จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย

ที่มา : https://www.facebook.com/scb.thailand/photos/a.181067218544/10156300713288545/?type=3



เสียดายเปิด 9.00 น. ไม่งั้นคงได้แวะ







อาคารเก่า สวยงาม ของโรงเรียนประชาวิทย์




 
พิพิธภัณฑ์หอปูมละกอน เป็นพิพิธภัณฑ์เมืองที่จัดแสดงเล่าเรื่องเมืองลำปางโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เน้นเล่าเรื่องภูมิหลัง (ปูม) ของเมืองลำปาง ที่เดิมชื่อว่าเมืองเวียงละกอน โดยปรับปรุงพื้นที่ส่วนหน้าของอาคารสำนักงานเทศบาลนครลำปาง ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานหลังแรก (อาคาร1) ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม โบราณวัตถุ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
 


08.39 น. ถึงแล้วค่ะ ห้าแยกหอฬิกาลำปาง



หอนาฬิกาเมืองลำปาง
ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2497-2498 ช่วงจอมพล ป. เป็นนายกรัฐมนตรี ออกแบบโดยนายทองจูน สิงหกุล หัวหน้ากรมโยธากรุงเทพฯ งบประมาณการก่อสร้าง 120,000 บาท ความสูง 11 เมตร ทว่าหากก่อสร้างให้ตรงตามแบบจริง ๆ จะต้องใช้เงินสูงถึง 180,000 บาท

สรุปจึงต้องลดความสูงลงเหลือ 10 เมตร เพื่อให้อยู่ในวงเงินจำกัด
หอนาฬิกาลำปางมีการหุ้มทองจังโกใหม่บนเรือนยอดซุ้มด้านหน้าทั้ง 4 ทิศ ที่สำคัญ มีการเปลี่ยนนาฬิกามาเป็นยี่ห้อ BODET จากประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย

ที่มา : https://www.facebook.com/unseenlampang/posts/2275043072792963/



08.40 น. ตามเวลา วันที่ 4 กรกฎาคม 2566





สวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา









ถึงหอนาฬิกา เห็นป้ายบอกทางไปกาดกองต้าอีกนิดเดียว (นึกออกละ วันแรกนั่ง grab ไปกาดกองต้าก็ผ่านตรงนี้) เลยเดินไปต่อที่กาดกองต้าค่ะ ได้ถ่ายอาคารสวย ๆ ถนนคนเดินกาดกองต้าสมใจละ



ทั้งคนทั้งม้า จอดพักกินข้าวค่ะ







เราเคยมาพักที่นี่ เลือกเพราะใกล้ถนนคนเดินกาดกองต้า













ระหว่างทางไปกาดกองต้า ก็ยังเดินไปถ่ายรูปไปค่ะ 









กล้องโทรศัพท์ ถึงจะเก็บหมด 











มาวันธรรมดา ไม่ได้ขายของ เดินสบายเลยค่ะ







อาคารหม่องโง่ยซิ่น































หอศิลป์ลำปาง





เดินมาถึงอาคารฟองหลี เจอคุณแนท น้องเป็นเจ้าของอาคารนี้ล่ะค่ะ กำลังมาดูงานรีโนเวทอาคารพอดี น้องเล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาปล่อยเช่า แต่ตอนนี้น้องเข้ามาดูแลเอง จะทำเป็นที่พัก น่าจะทันปลายปี ช่วงหน้าหนาวพอดี (ขณะทำบล็อกนี้ เดือนธันวาคม 2566 ไม่แน่ใจว่า อาคารฟองหลีเปิดเป็นที่พักหรือยัง)



ยืนคุยกันไปมา เราขอตัว ว่าจะเรียก grab กลับ กลัวไม่ทัน check out ต้องอาบน้ำอีก เหงื่อท่วมเลย 😅 น้องเลยอาสามาส่งที่สถานีรถไฟ
นั่งกันมาในรถ น้องเล่าความเป็นมาของอาคารฟองหลีให้ฟัง (เราอัดเสียงไว้ 9 นาทีกว่า ยังไม่ได้ถอดเสียงเลยค่ะ) ทำไปทำมาน้องเลยมาส่งถึงที่พักเลย

ขอบคุณ คุณแนทมากค่ะ โอกาสหน้าพี่มาลำปางอีกจะแวะไปหาคุณแนทแน่นอนค่ะ






 



Create Date : 14 ธันวาคม 2566
Last Update : 14 ธันวาคม 2566 18:49:32 น. 0 comments
Counter : 700 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnamfaseefoon, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเนินน้ำ, คุณปรศุราม, คุณtoor36, คุณปัญญา Dh, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณJohnV, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณpeaceplay, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณThe Kop Civil, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณทนายอ้วน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณร่มไม้เย็น, คุณกะว่าก๋า, คุณดอยสะเก็ด, คุณtuk-tuk@korat, คุณeternalyrs


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.