พระพุทธสิงหิงค์ : พระพุทธสัมปทานนิโรคาพาธ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ เราไปถ่ายตึกที่ รพ. สงฆ์ เลยมีโอกาสได้ไปชมพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง โดยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า มีความงามไม่ต่างจากไม่จากพระพุทธรูป กลุ่มพระพุทธสิหิงค์องค์อื่นๆ พระพักตร์ลักษณะศิลปะสุโขทัย เส้นจีวรตรงพระชงค์ดูไม่ชัดนัก แต่ฐานเป็นบัวหงาย ที่เป็นลักษณะของพระสุโขทัย ในขณะที่พระล้านนามักจะทำเป็นฐานเขียงเรียบๆ พระพุทธรูปองค์นี้ มีประวัติว่า เดิมเป็นสมบัติส่วนพระองค์ของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจ ทรงประทานเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วันที่ 21 ธ.ค. 2475 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ ได้มีการเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วิหารทิศ วัดเบญจมบพิตร พ.ศ. 2477 มีการทำรัฐธรรมนูญจำลอง ตั้งอยู่บนพาน แจกไปตามจังหวัดต่างๆ โดยทำพิธีมอบเบื้องหน้า พระพุทธสิหิงค์ วังหน้า และมีการหล่อพระพุทธสิหิงค์ วังหน้าจำลอง ส่งไปประดิษฐานที่ จ. ภูเก็ต
พ.ศ. 2479 สร้างอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการรำลึกถึง การปราบกฎบวรเดช ณ ทุ่งดอนเมือง ที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2476 พ.ศ. 2482 หล่อพระพุทธสิหิงค์ วังหน้าจำลอง ส่งไปประดิษฐานที่ จ. ยะลา

พ.ศ. 2483 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เวนคืนที่ ใกล้กับอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างวัดประชาธิปไตย 24 มิ.ย. 2484 วัดประชาธิปไตยสำเร็จลงทันกับวันชาติในเวลานั้น 6 ก.ค.2484 อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ วังหน้า มาเป็นพระประธาน ในอุโบสถ ในคราวที่อุปสมบท พระยาพหลพลพยุหเสนา
หลังจากนั้นจะมีตำรวจ 1 นาย คอยเฝ้าอุโบสถไว้ทุกวัน แต่ 10 ก.ย. 2487 พบว่า พระรัศมีและพระอุณาโลมถูกโจรกรรมไป
พ.ศ. 2491 หลังการปฏิวัติ 2490 มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ วังหน้า ไปสมโภชที่พระบรมมหาราชวัง แล้วอัญเชิญกลับไปพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ แล้วหล่อพระพุทธชินราชจำลอง เป็นพระประธานที่วัดประชาธิปไตย พ.ศ. 2495 มีการหล่อพระรัศมีของพระพุทธสิหิงค์ วังหน้า เพื่อทดแทนของเดิมที่สูญหายไป
ในตอนที่สร้างวัดประชาธิปไตยนั้น จะมีการสร้างโรงพยาบาล เพื่อรักษาพระสงฆ์ไว้ด้วย แต่ล้มเลิกไป เพราะเข้าสู่ช่วงสงครามโลก
พ.ศ. 2492 จอมพล ป. พิบูลสงคราม กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี มีการรื้อฟื้นการสร้าง รพ. สงฆ์ โดยครั้งนี้จะใช้พื้นที่แถวพญาไท อันเป็นสถานที่ตั้งของ ร.พ. สงฆ์ ในปัจจุบัน แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2493 พ.ศ. 2496 มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ องค์ที่คณะราษฎร เคยอัญเชิญไปวัดเบญจมบพิตร ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 มาประดิษฐานที่วิหาร ร.พ.สงฆ์ ตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่าพระพุทธสัมปทานนิโรคาพาธ ดูเหมือนว่าพระพุทธสิหิงค์ วังหน้า จะมีความผูกพันเกี่ยวข้องกับคณะราษฎร แต่กลุ่มคนที่มีโอกาสไปศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าก้าวหน้ามากในสมัยนั้น จะมีความเชื่อเรื่องอย่าง การเมืองในพระพุทธรูป เหมือนในสมัยก่อนหรือเปล่า ก็คงเป็นเรื่องที่คนรุ่นหลังอย่างเรา ได้แต่คาดเดากันไป แต่ถ้าลองสังเกต พระพุทธสัมปทานนิโรคาพาธ จะพบว่า เป็นพระพุทธสิหิงค์ ปางสมาธิ ที่เราเองก็ยังนึกไม่ออกว่า นอกจากพระพุทธสิหิงค์ วังหน้า จะมีพระพุทธสิหิงค์องค์ใด ในประเทศไทย ที่เป็นปางสมาธิแบบนี้อีกบ้าง นี่เองอาจจะเป็นเหตุผลว่า พระเชียงแสนที่มีอยู่หลายองค์ในพิพิธภัณฑ์ คณะราษฎรจึงเลือกที่จะนำพระพุทธรูปองค์นี้ออกมาไว้ที่วัดเบญจมบพิตร และได้หลงลืมพระพุทธรูปองค์นี้ไปอย่างยาวนาน จนกระทั่ง จอมพล ป. ได้นำกลับมาประดิษฐานไว้ที่วิหาร ร.พ.สงฆ์ ให้เราไปกราบไหว้ได้อีกครั้ง
Create Date : 03 กรกฎาคม 2568 |
|
1 comments |
Last Update : 3 กรกฎาคม 2568 16:33:42 น. |
Counter : 74 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: หอมกร 3 กรกฎาคม 2568 14:47:47 น. |
|
|
|
| |