|
ช่องเย็น : นกกินแมลงอกเหลือง
ตื่นเช้ามากินข้าวต้มที่ไกด์เตรียมไว้ให้ แถมด้วยกาแฟจากร้าน ก็มานั่งรอตรงช่องเขา อันเป็นที่มาของคำว่าช่องเย็น จากหกโมงเช้าถึงเจ็ดโมง ก็ไร้เงาของ นกเงือกคอแดงจบข่าว เราไม่ได้นกอันเป็นสัญลักษณ์ของช่องเย็นในทริปนี้ ไกด์พาเราเดินลงไปยังถนนข้างล่างที่เราผ่านมาเมื่อวานอีกครั้ง เพื่อเก็บนกรอบเช้า ก่อนเก็บของเดินทางกลับบ้านในวันนี้ เดินไปเรื่อยๆ ก็เจขอเวฟนก มีนกหลายชนิด แต่ต่างก็มุด ทำให้ถ่ายรูปได้ยาก ก็แงะมาเฉพาะที่ได้รูปมาก็แล้วกัน นกกินแมลงอกเหลือง มีลำตัวสีเหลืองและน้ำตาลขนาดเล็ก มีลายขีดสีดำบาง ๆ ทั่วท้อง หน้าผากและปีกสีน้ำตาลแดง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Pin-striped tit-babblerbabbler หมายถึงนกที่ชอบส่งเสียงจ๊อกแจ๊กที่ฟังไม่ได้ได้ศัพท์จำแนกจากตัวอย่างที่ได้จากเกาะสุมาตรา โดย Thomas Horsfieldนักธรรมชาติวิทยาชาวอเมริกัน ที่เข้ามาทำงานให้กับบริษัทดัตช์อีสอินเดีย ในปี 1822 มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Timalia gularis
ในช่วงศตวรรษที่ 19 มันถูกย้ายไปอยู่ในสกุล Macronus จนกระทั่งในปี 2019 จากการศึกษาพันธุกรรม ทำให้มันถูกย้ายไปสกุลใหม่ชื่อว่า Mixornis gularis ซึ่งชื่อสกุล Mixornis ถูกตั้งชื่อไว้โดย Edward Blyth ในปี 1842 สำหรับนกจับแมลงที่พบในอินเดีย ซึ่งต่อมาพบว่า นกชนิดนี้เป็นชนิดย่อยของนกจับแมลงอกเหลือง(M. g. rubicapillus) Mixornis จึงกลายเป็นชื่อสกุลรอง จนกระทั่งเมื่อนกกินแมลงอกเหลืองถูกแยกออกมา กลุ่มนก Tit-babbler ในสกุล Macronus จึงเหลือนกอยู่เพียงสองชนิด โดยพบทางภาคใต้ประเทศไทยได้หนึ่งชนิดคือ นกกินแมลงหลังฟู (Fluffy-backed tit-babbler) หลังการย้ายสกุล นกกินแมลงอกเหลือง จึงนิยมเรียกตรงตัวเลยวว่า yellow-breasted blabbler แบ่งออกได้เป็น 9 ชนิดย่อย กระจายตัวตั้งแต่ เนปาล ภูฎาน อินเดีย บังคลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ไทย อินโดไชนา มาเลเซีย สุมาตรา และหมู่เกาะปาลาวัน
| Create Date : 15 ธันวาคม 2568 |
|
3 comments |
| Last Update : 19 ธันวาคม 2568 15:33:26 น. |
| Counter : 162 Pageviews. |
 |
|
|
| | |
โดย: หอมกร 19 ธันวาคม 2568 12:13:10 น. |
|
|
|
| |