Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มกราคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
22 มกราคม 2559

สารคดีชวนคนรักนก : ไปหาที่รักของเรากันเถอะ



ผมเป็นสมาชิกหนังสือสารคดีมาตั้งแต่สมัยเรียนปี 3 ได้ และนั่นก็นานมากแล้ว
และพยายามที่จะหาซื้อย้อนไปให้ครบจนถึงเล่มที่ 1 แต่ก็หมดความอดทนก่อน
เพราะมันหายากและมีราคาแพง เช่นเล่มการ์ตูนไทยผมซื้อมาตั้ง 500 บาทแน่ะ

เมื่อมีโครงการตามหาคนทางบ้านที่มีหนังสือสารคดีครบตั้งแต่เล่มที่ 1 ถึง 300
ผมถึงกับหัวเราะในใจ ใครจะมีครบได้ ผมเองยังขาดไป 20 กว่าเล่มเลยทีเดียว
ปรากฏว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก แม้จะผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาหมาดๆ
แต่ก็มีหลายคนที่ได้ลงหนังสือพร้อมคำสัมภาษณ์เพราะมีสารคดี 300 เล่มจริงๆ

สารคดีแฟนคลับ โดยนิตยสารสารคดี ร่วมด้วยบริษัทไทยบริดจสโตน
จัดกิจกรรมสารคดี FC ครั้งที่ 3 “Birds Lover” อาสาพาคนรักนกไปหาที่รัก
นำชมโดยคุณรุ่งโรจน์ จุกมงคล นักดูนกชั้นแนวหน้าของเมืองไทย
ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2557 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

กติกาการร่วมสนุก
- สมัครเป็นแฟนคลับสารคดี โดยดาวน์โหลดใบสมัคร ผ่านทาง //www.sarakadee.com
- บอกเหตุผลว่า “ทำไมถึงอยากดูนก” ส่งไปที่อีเมล์ fanclub@sarakadee.com
- การตัดสินโดยคัดเลือกเหตุผลที่โดนใจคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
- ผู้ได้รับการคัดเลือกเท่านั้นที่จะได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

ปรกติผมไม่ใช่คนโชคดีอะไร ซื้อสลากก็ไม่เคยถูก
แต่ถ้ามีการขีดเขียนอะไรบ้าง ก็พอจะได้ลุ้นอยู่
และนั่นคือจุดเริ่มต้นการเดินทางในครั้งนี้



โปรแกรมนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอันใด ตอนเช้ามีรถตู้มารับสองคันที่หน้าธรรมศาสตร์
จากนั้นก็ถึงแก่งกระจานตอนกลางวัน กินข้าว จากนั้นก็ไปดูนกบนที่ทำการ
ตกกลางคืนก็มีการฉายโปรเจคเตอร์โดยวิทยากร ตอนเช้าก็มีการแบ่งกลุ่มเดินตาม trail
เคยไปแก่งกระจาน แต่ไม่เคยไปดูนก ครั้งนี้เลยได้พบนกใหม่ๆ หลายตัว

แต่น่าเสียดายที่สมุดจดนั้นหายไป ก็แหมตั้งสองปีมาแล้วนี่นา
สิ่งเดียวที่จำได้เพราะภาพนั้นอยู่ในหัวใจก็คือภาพชะนีตัวสีขาวขนฟู
โหนโยนตัวเองไปมาบนต้นไม้ใหญ่หน้าหน่วยพิทักษ์ป่า
ปรกติเคยเห็นแต่ชะนีที่อยู่ในกรง เป็นครั้งแรกที่เห็นมันในธรรมชาติ

มันเป็นชะนีที่ร่าเริงและมีความสุขที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย
มันเป็นการจัดทริปโดยทีมงาน ไม่ใช่การไปเที่ยวกันเอง
ดังนั้นการเดินทาง อาหาร ที่พัก การนำชม จึงสมบูรณ์มาก
เหมือนกิจกรรม CSR ที่พาชาวเมืองไปปลูกป่าอะไรประมาณนั้น

แน่นอนว่า เกือบทุกคนที่ไปนั้นเป็นมือใหม่ จึงได้รับการแจกอุปกรณ์
ยกเว้นผมที่จัดของไปเอง ประกอบไปด้วย Bird guide of Thailand
กล้องสองตายี่ห้อ Olympus 8X42 EXWP I ภาพใสกริ๊ก
และกล้องเทเล Minox MD50W พร้อมขาตั้งเก่าๆ 1 ตัว

ซึ่งทั้งหมดนั้นซื้อมานานมาก โดยแทบไม่ได้ออกไปดูนกเลย
ทั้งที่สมาคมดูนกเค้าก็มีทริปง่ายๆ เดินดูนกในสวนรถไฟทุกเดือน
ผลก็คือทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพดี ยกเว้นขาตั้งกล้องป๊อกแป๊ก
ที่พอเอาใช้แล้วหักคามือเลยทีเดียว มันไม่แพงไม่เป็นไรโยนทิ้งไปก็ได้

แต่พอเจ้าเทเล Minox มาส่องปรากฏว่า ทำไมมันมัวๆ จังนะ
ส่องไปส่องมาทั้งวันในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า มันมีฝ้าในเลนส์
แน่นอนว่าตามสเปคพวกนี้จะอัดก๊าซไนโตรเจนไว้ภายใน
และมีการรับประกันไว้ถึง 10 ปี แต่ปัญหาคือหาใบเสร็จไม่เจอ

แย่ไปกว่านั้นจากการเปิดหาข้อมูลเรื่องศูนย์ซ่อมของ Minox
มันน่าสับสนมาก เพราะมีผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ แต่ว่าเค้านำเข้าเป็นระยะ
ดังนั้นเราจึงไม่อาจแน่ใจกล้องที่อยู่ในมือเรานำเข้าผ่านตัวแทนหรือไม่
แต่ก็ต้องเสี่ยงดวงไป DKSH ตั้งอยู่ในอโศกเซนเตอร์ ตรงข้ามตึกแกรมมี่



นั่งรถไฟใต้ดิน เดินข้ามคลองแสนแสบ แลกบัตรเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ต้องการ
มีกริ่งอยู่ด้านหน้าให้กด หลังจากนั้นก็มีหญิงสาวออกมาต้อนรับ เราแจ้งปัญหา
ต่อมาผู้จัดการก็ออกมา หยิบกล้องกลับไปส่องที่ห้อง ไม่พูดอะไร
หญิงสาวคนเดิมบอกว่ารอรับใบส่งซ่อมสักครู่ จากนั้นแจ้งว่าจะติดต่อกลับไป

บอกตามตรงว่า เกรงว่าคำตอบนั้นน่าจะเลวร้าย
เพราะเราไม่มีอะไรสักอย่างที่บอกได้ว่า เป็นสินค้าที่เค้าได้กำไรจากเราไป
แผนคือถ้าสินค้านั้นเคลมไม่ได้ ผมก็ฝากเพื่อนกลับไปส่งบริษัทที่เยอรมัน
หนึ่งเดือนผ่านไป ก็ได้การติดต่อว่าให้ไปรับกล้องตัวใหม่ได้แล้ว

หลังจากเซ็นชื่อรับของในใจคิดว่า แม้อาจจะเคลมมาได้ฟรี แต่คงต้องมีค่าจัดส่ง
ปรากฏว่าเค้าไม่พูดอะไรต่อราวกับหมดภาระแล้ว แปลว่าทั้งหมดนั้น ฟรี
เย้ ๆ การซื้อสินค้าที่มีมาตรฐานช่างเหมาะกับคนที่ชอบทำของพังซะนี่กระไร
การบริการหลังการขายนี่ประทับใจมาก จนแทบจะอยากอุดหนุนสินค้าเพิ่มเลย

แต่ว่า DKSH เค้าขายแต่สินค้าและเครื่องทางการแพทย์
สินค้าที่เราจับต้องได้ก็คงเป็นเป็นกล้อง Leica
ซึ่งคุณคงรู้ราคาว่า แม้จะเป็นรุ่นต่ำสุด ราคาก็เกินหนึ่งแสนบาทอยู่ดี
งั้นรอผมถูกรางวัลที่หนึ่งสิบใบก่อนก็แล้วกัน แล้วจะมาอุดหมุน

ทุกปีจะมีเพื่อนจากเยอรมันมาเยี่ยม ก็พอจะส่งภาษาอังกฤษคุยงูๆ ปลาๆ กันบ้าง
หนึ่งในคำถามที่คุยคือเรื่องผู้อพยพเข้าเมืองชาวซีเรีย คำตอบนั้นก็เป็นอย่างที่คิด
เค้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาล เพราะเยอรมันเองก็ขาดแคลนแรงงานอยู่
เมื่อรับเข้ามาก็จะฝึกภาษาและอาชีพให้ เศรษฐกิจเค้ายังดีพอที่จะรองรับพวกนี้ได้

แต่คำตอบที่น่าสนใจและผมไม่เคยรู้ก็คือ แล้วทำไมพวกเค้าต้องรับผู้อพยพเหล่านี้
ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ แล้วตามข่าวจะเห็นว่าไม่มีประเทศไหนอยากรับผู้อพยพ
คำตอบนั้นทำเอาอึ้งเลยทีเดียวว่า การรับผู้อพยพนั้นเป็นสิ่งที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ
และเป็นสิ่งที่พวกเค้าถือปฏิบัติกับชนชาติต่างๆ ที่เข้ามานับตั้งแต่หลังสงครามโลก

มีคำถามเป็นประจำในห้องหว้ากอว่า คนเยอรมันรู้สึกอย่างไรในสงครามที่ก่อขึ้น
ผมว่านี่เป็นคำตอบที่แสดงให้เห็นว่า พวกเค้าพร้อมที่จะชดใช้ในเรื่องนั้นอย่างไร



Create Date : 22 มกราคม 2559
Last Update : 22 มกราคม 2559 9:26:18 น. 4 comments
Counter : 1357 Pageviews.  

 
ว๊าววววว สุดยอดเลยค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 22 มกราคม 2559 เวลา:12:55:28 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ควายเฒ่า Literature Blog ดู Blog
หนีแม่มาอาร์ซีเอ Beauty Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ลืมโหวตค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 22 มกราคม 2559 เวลา:12:56:13 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนผ่านทางมาเจอ Literature Blog ดู Blog

ALDI Klaibann Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:19:10:16 น.  

 
แต่อเมริกาท่าจะไม่รับ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:12:32:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]