ถนนสายนี้มีตะพาบ 164 : สูตรลับ
ถนนสายนี้มีตะพาบ164 สูตรลับ โจทย์โดย : คุณเป็ดสวรรค์
ของมีค่ากับของมีราคามันต่างกัน... ปิ่นน่าจะเข้าใจ สิรภพพูดกับฉันเมื่อวันที่จากกันครั้งล่าสุดตอนที่ฉันระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงอีกคน ฉันตอบตัวเองได้เลยว่าไม่เข้าใจ จนเพิ่งมารู้ซึ้งถึงคำพูดประโยคนี้เมื่อดั้นด้นมาจนถึงเกาะนี้ ฉันมาเพียงเพื่อต้องการให้เขาดีใจหวังเหลือเกินว่าจะได้ใช้วันหยุดให้คุ้มค่ากับเขาแต่สิ่งที่คิดไว้กลับสลายหายไปในพริบตา มันเจ็บ จุก ปวดหัวใจ ทรมานแทบทนไม่ไหวเมื่อมาเห็นกับตาตัวเองว่าสิรภพนอกใจ เขาคงลืมคิดไปว่าฉันก็มีชีวิตจิตใจถึงได้ทำร้ายความรู้สึกฉันด้วยคำพูดรุนแรง เพียงเพราะว่าฉันต่อยผู้หญิงคนใหม่ของเขาจนเลือดกบปากเขาไม่ใส่ใจความรู้สึกของฉัน แถมยังเอ่ยปากไล่ ฉันกลายเป็นแค่ของมีราคาที่เขาเอาไว้ประดับประดาเวลาอยากพาออกงานอวดใครต่อใคร... แต่ฉันไม่ยอมเจ็บใจคนเดียวฟรีๆเพราะนอกจากยายแมวขโมยจะปากแตกแล้ว สิรภพก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่อย่างน้อยก็คงได้หยอดน้ำข้าวต้มให้หล่อนดูแลอยู่หลายวัน น่าจะสาสมกับความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ ฉันว่าจะไม่ร้องไห้แล้วเชียว แต่ทำไมน้ำตากลับไหลเป็นทาง
ฉันชื่อ ปิ่นมณีหรือที่ใครต่อใครเรียกสั้นๆ ว่า ปิ่น เป็นครูโรงเรียนเอกชนบนฝั่งส่วนสิรภพคนรักของฉัน หรือเรียกให้ถูกก็ต้องบอกว่าเป็น อดีต ไปแล้วในเวลานี้ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่บนเกาะ ดูสมกันดีใช่ไหมฉันเองก็เคยคิดแบบนั้น สิรภพก็คงคิดเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ฉันคบหากับเขามาสิบปี เรามาจากครอบครัวข้าราชการที่สมฐานะกันแถมยังเป็นทางฝ่ายฉันที่พ่อมียศศักดิ์ใหญ่กว่าพ่อของเขาหลายขั้นแต่เพราะความตงฉินของพ่อ ฐานะทางบ้านเราจึงแค่พอมีพอกินเทียบไม่ได้เลยกับพ่อของสิรภพที่มีฐานะดีกว่าเพราะมรดกเก่าดั้งเดิม เพียงแต่เกียรติยศด้อยกว่าทางฝั่งฉันเท่านั้น ฉันเป็นคนที่เขาพาออกงานเชิดหน้าชูตาเหมือนเป็นสัญญาว่าจะยกตำแหน่งภรรยาในอนาคตให้ นึกแล้วน่าสมเพชตัวเอง ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นได้แค่ของมีราคาที่มีค่าเพียงให้เขาและครอบครัวประดับบารมี ไม่ได้มีค่าในความจริงสำหรับหัวใจ ฉันมองแหวนเพชรสองกะรัตที่สวมติดนิ้วนางข้างซ้ายตลอดหกปีที่ผ่านมาด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกฉันควรจะทำยังไงกับแหวนวงนี้ น่าจะถอดมันปาใส่หน้าเขาแต่ฉันก็ไม่ได้ทำเพราะยายแมวขโมยทำให้ฉันหมั่นไส้จากสายตาที่ดูกระเหี้ยนกระหือรืออยากได้แหวนวงนี้เหลือประมาณ ตอนนี้มันก็กลายเป็นของไร้ค่าที่ฉันอยากโยนทิ้งไปเรียบร้อยแล้วฉันก็คิดได้เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของเด็กชายสองคนเนื้อตัวเปียกปอนใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเล็กสีสดตัดกับผิวสีเกรียมแดด พวกเขาแข่งกันตะโกนอยู่ในน้ำร้องบอกเรือนำเที่ยวจากศรีราชาที่กำลังแล่นเข้ามาเทียบฝั่งไม่ไกลจากที่ฉันยืนอยู่ พี่ๆลองโยนเหรียญลงน้ำสิครับ พวกเราจะดำลงไปเก็บให้ ฉันตั้งใจฟังอยู่ถึงกับงงทำไมต้องทำอะไรแบบนั้น หรือว่าเป็นโชว์พิเศษ เพราะพอนักท่องเที่ยวโยนเหรียญลงไปเด็กทั้งสองก็ดำน้ำหายไปชั่วอึดใจก็ขึ้นมาพร้อมชูเหรียญในมือ ว่ายเข้าไปใกล้เรือยื่นเหรียญคืนนักท่องเที่ยวแล้วก็ได้เงินตอบแทนเล็กน้อย เห็นรอยยิ้มของพวกเขาแล้วฉันตัดสินใจถอดแหวน เงื้อมือสุดแรงตั้งใจจะโยนมันทิ้งทะเลถ้าบังเอิญที่เด็กทั้งสองโชคดีเก็บได้ มันคงจะไม่สูญเปล่า แต่ถ้าไม่มันก็จะได้จมลงใต้ทะเลลึกไปให้เหมือนความรักของฉันในเวลานี้ แต่ฉันก็ไม่ทันได้ทำตามใจคิดเมื่อเสียงใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา กาลครั้งหนึ่งนานมา ยังมีพ่อไก่ตัวหนึ่งมันคุ้ยเขี่ยพื้นดินจิกหาอาหารอยู่กับฝูงแม่ไก่ในบริเวณใกล้ๆ ทุ่งนาวันหนึ่งมันคุ้ยเจอพลอย ก็รู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่ส่องแสงระยิบระยับบนพื้นข้างหน้านั้นคืออะไร ฉันชำเลืองมองเจ้าของเสียงไม่ได้คิดเลยว่าเขาพูดด้วย เพราะใครจะบ้ามาเล่านิทานให้คนแปลกหน้าฟังฉันขยับตัวออกห่างเมื่อมองรอบข้างไม่เห็นใครนอกจากฉันกับผู้ชายคนนี้ ขอโทษนะคะ คุณพูดกับฉันหรือคะ ฉันอดใจไม่ไหวรีบถามแทรกก่อนที่เขาจะเล่าต่อ ไม่มีเหตุผลที่จะฟังใครก็ไม่รู้พล่ามเขาไม่ได้หันมามองด้วยซ้ำ ทั้งที่ฉันจ้องดวงหน้าด้านข้างของเขาจนตาแทบถลนเขากำลังถ่ายรูปเด็กทั้งสองด้วยกล้องแบบมืออาชีพและทำเหมือนไมได้ยินเสียงฉันทักท้วงเลย แถมยังเล่าต่อหน้าตาเฉย มันเอียงคอมองดูก่อนจะส่ายหัวและพูดขึ้นว่า ถ้าหากพ่อค้าพลอยมาเห็นเข้าก็คงจะรู้สึกปิติยินดีแน่ แต่สำหรับข้าแล้ว ถึงแม้เจ้าจะดูสวยงามสักเพียงใดก็ตามเจ้ากลับไม่มีคุณค่าเลยสักนิดเดียว ข้าอยากได้ข้าวเม็ดงาม อร่อยๆมากกว่าเพชรพลอยเม็ดใดในโลกนี้มากนัก! ฉันคิดตามเรื่องที่เขาเล่ากำแหวนวงโตแน่นจนรู้สึกเจ็บมองไปยังเด็กชายทั้งสองที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาพร้อมชูเศษเหรียญที่นักท่องเที่ยวโยนให้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มฉันบอกความรู้สึกไม่ถูก เพียงแค่เงินไม่กี่บาทก็ทำให้ใครบางคนมีความสุขได้ฉันตัดสินใจเดินหนีจากภาพที่เห็น แต่เขาก้าวมายืนขวางทางฉันไว้ คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่ คุณรู้ไหมว่านิทานเรื่องนี้สอนว่าอะไร เขาถามเสียงไร้อารมณ์มากดวงตาของเขาบ่งบอกว่าสมเพชเวทนาฉันเสียเต็มประดา ฉันนึกโมโหอารมณ์คุกรุ่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้จ้องหน้าเขาตอบแต่ยังรักษากิริยาไม่ให้ก้าวร้าวกับคนไม่รู้จักนอกจากคำพูดที่บังคับให้รักษาน้ำเสียงไม่ให้ห้วนไม่ได้ ฉันไม่ได้อยากรู้ เรื่องนี้สอนว่า... เขาหยุดคำพูดครู่หนึ่งเหมือนรู้ว่าที่ฉันยืนนิ่งเพราะรอฟัง คนฉลาดย่อมรู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์ต่อตัวเองแล้วนำสิ่งนั้นมาใช้ประโยชน์ได้ แต่คนโง่นอกจากจะทิ้งไปแล้วกลับยังใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นไม่ได้เลย ฉันฟังจบรู้สึกหน้าชาเหมือนถูกหลอกด่าแบบเนียนๆจ้องหน้าเขาตอบ มันเรื่องของฉัน จะโง่หรือฉลาดก็ไม่เกี่ยวกับคุณแล้วอีกอย่างนี่มันก็ของฉัน จะทำยังไงกับมันก็ได้ ฉันตะคอกใส่เขาชูแหวนเพชรเม็ดโตไปตรงหน้า ยิ่งเห็นเขาทำหน้ายิ้มเยาะใส่ด้วยแล้วยิ่งโมโหที่ใครก็ไม่รู้มาสั่งสอน งั้นผมสงเคราะห์ให้ เขาพูดจบก็คว้าแหวนไปจากมือแล้วขว้างออกไปสุดแรงฉันมองตามแล้วใจหายวาบ ประกายของแสงวิบวับสะท้อนกับดวงอาทิตย์แล้วตกลงไปในน้ำหายวับไปกับตา ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถลาเข้าไปทั้งทุบทั้งถองผู้ชายตรงหน้าตอนไหนรู้แต่ว่าน้ำตากำลังท่วมตาจนมองแทบไม่เห็น ฉันโมโหตัวเองที่อ่อนแอทั้งใจหายที่ของสำคัญหายวับไปกับตา คนบ้า! เอาของฉันคืนมานะมันตกทะเลไปแล้วจะเอาคืนได้ยังไง ไอ้บ้า! ก็คุณไม่ต้องการมันแล้วนี่ จะเอาคืนทำไม เขาเบี่ยงตัวหลบกำปั้นฉันแล้วยังปกป้องกล้องถ่ายรูปที่คล้องคอตัวเองไว้ฉันยั้งมือได้เมื่อนึกว่าทำไปก็เปล่าประโยชน์ถ้าเกิดของเขาพังมีหวังได้ชดใช้อีกหลายเงินฉันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแข้งขาอ่อนจนทรุดนั่งกับพื้นตอนนั้นไม่ได้สนใจแล้วว่าใครจะอะไรยังไง แล้วฉันก็รู้สึกถึงสัมผัสเบาๆ ที่ข้างแก้มถึงกับสะดุ้งหันมอง ครูปิ่นร้องไห้ทำไมคะ เด็กหญิงตัวน้อยถามเสียงแจ๋วแล้วหันไปอีกทางคุณพ่อแกล้งอะไรครูปิ่นคะ บอกน้ำหอมมาเดี๋ยวนี้นะคะ ฉันมองผู้ชายที่เพิ่งทำร้ายจิตใจฉันเมื่อครู่แล้วมองเด็กหญิงผมยาวผูกเปียสูงเป็นสองแฉกสลับไปมา เด็กน้อยทำท่าทีกระเง้ากระงอดในขณะที่ผู้ชายใจร้ายทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ดูหงอจนน่าหมั่นไส้ พ่อไม่ได้ทำอะไรนะคะเขาตอบแล้วมองมาที่ฉัน พ่อก็แค่เล่านิทานให้ผู้หญิงขี้แยฟังค่ะ คุณพ่อเคยบอกจะไม่เล่านิทานให้ใครฟังนอกจากน้ำหอมงั้นกลับไปต้องเล่านิทานให้ฟังด้วยนะคะ เด็กน้อยทำหน้าง้ำใส่พ่อแล้วโผมากอดฉัน ครูปิ่นขา... ทำใจดีๆ อย่างอแงเลยนะคะ เอ่อ... ครูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ครูยังน้ำตาไหลอยู่เลย เด็กน้อยก้มหน้ามาใกล้พ๊วง! หายแล้วนะคะครู นี่มันอะไรกันคะน้ำหอม ฉันถามเพราะสงสัยการกระทำของน้ำหอม เด็กหญิงพองแก้มอมภูมิก่อนจะเหลือบมองคุณพ่อตัวดี สูตรลับของคุณพ่อค่ะ เวลาน้ำหอมร้องไห้คุณพ่อก็จะจูบที่นี่ เด็กหญิงชี้ที่เปลือกตาตัวเอง แล้วก็เป่าพ๊วง น้ำหอมก็จะหยุดร้องไห้ทันทีค่ะ ฉันได้แต่ยิ้มแหย พยายามลุกตามแรงดึงน้อยนิดของน้ำหอมกว่าจะลุกขึ้นยืนได้ก็แทบเซถลาเพราะนั่งนานจนเหน็บกิน พ่อของน้ำหอมยื่นมือมาให้แต่ไม่ช่วยดึงคงคิดว่าฉันจะเกาะแขน ฝันไปเถอะ คนอย่างปิ่นมณีไม่มีวันพึ่งผู้ชายแปลกหน้าฉันปัดมือของเขาออกจากตัวแล้วหันไปหาเด็กน้อย น้ำหอมมาเที่ยวหรือคะ แล้วคุณแม่มาด้วยรึเปล่าจ้ะ น้ำหอมมาหาแม่ค่ะ เด็กน้อยตอบเสียงแจ๋วจับมือพ่อมายืนเคียงข้างแม่ของน้ำหอมอยู่ในทะเลโน่นค่ะ อยู่ในทะเล หมายความว่ายังไง แม่น้ำหอมไปเที่ยวที่เกาะฝั่งโน้นหรือคะ ฉันสงสัยได้แต่มองตามสายตาสองพ่อลูกไปพ่อของน้ำหอมดูเศร้าสร้อยผิดกับตอนแกล้งฉันเมื่อครู่ลิบลับ พ่อเล่าให้ฟังว่า แม่ทำแหวนแต่งงานหล่นลงไปในทะเล ก็เลยกระโดดลงไปหาแบบพี่สองคนด้านโน้นแต่น่าเสียดายที่แม่ดำน้ำไม่เก่งเหมือนพวกพี่ๆ เพราะแม่ไม่เคยกลับขึ้นมาอีกเลยค่ะ ฉันฟังจบรู้สึกขนลุกหันไปมองพ่อของน้ำหอมโดยไม่รู้ตัว เห็นความเศร้าแฝงอยู่ในแววตาสีดำสนิทคู่นั้นฉันพูดไม่ออก ทำตัวไม่ถูก รู้แต่ว่ารู้สึกสงสารพวกเขาจากใจจริง ดีที่ระฆังช่วยชีวิตเมื่อหนึ่งในเด็กชายที่โชว์บริการพิเศษมายืนตัวเปียกปอนต่อหน้าแล้วยื่นของมีราคาวงนั้นวางบนฝ่ามือฉัน นี่ของพี่ใช่ไหมครับ ของแพงแบบนี้ทิ้งไปก็เสียดายแย่เลยนะครับ เด็กชายผมเปียกลู่บอกพร้อมยิ้มฟันขาว ฉันหยิบแหวนบนฝ่ามือซีดมากำแน่น อย่างน้อยก็เคยสวมติดนิ้วมานานร่วมหกปีถึงไม่อยากได้แต่ก็เหมือนยังผูกพัน ฉันหยิบกระเป๋าสตางค์จะมอบเงินเป็นสินน้ำใจแต่เด็กชายชูธนบัตรสีเขียวใบหนึ่งให้ดูแล้วพยักเพยิดไปทางพ่อของน้ำหอม พี่ผู้ชายใจดีให้เงินผมแค่นี้ก็พอแล้วครับ แต่! แต่ว่ามันน้อยไปถ้าเทียบกับราคาแหวนนะ ฉันพยายามท้วงแต่เด็กชายกระโดดน้ำลงไปตูมใหญ่ ราคาแพงหรือจะสู้น้ำใจล่ะคุณ เขาส่ายหน้าเหมือนปลงมองฉันด้วยสายตาเอือม ครูหยุดร้องไห้แล้วด้วยนะคะ น้ำหอมจ้องหน้าฉันเขม็งสูตรลับของคุณพ่อได้ผลจริงๆ แบบนี้คุณพ่อต้องสอนครูปิ่นด้วยนะคะ ฉันฟังแล้วรู้สึกหน้าร้อนผ่าว พอหันกลับมาก็เห็นสายตาของพ่อน้ำหอมมองมาแล้วเขาก็ลงนั่งชันเข่า หันไปพูดกับลูกสาวตัวน้อยว่า เป็นไงคะ สูตรลับของพ่อใช้ได้ไหม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านจบคงสงสัยว่าแล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับ สูตรลับ ตรงไหนใช่ไหมคะ ก็มีคำว่าสูตรลับนิดหนึ่งก็ยังดีแต่ว่าจริงๆ แล้วเป็นการบ้านบทหนึ่งของคลาสเรียนเขียนนิยายเขียนโดยใช้มุมมองบุรุษที่ 1 (ฉัน,ผม) เขียนมาสามครั้งแล้วแต่ยังไม่ได้อย่างใจสักทีที่เอามาลงนี่คือร่างแรก ใช้ไม่ได้ก็เลยเสียดายไม่อยากทิ้งเอามาลงไว้ในตะพาบดีกว่าเพราะตั้งใจอยากให้เป็นบทเปิดของนิยายเรื่องใหม่ จะว่าไปความคิดของคนเรานี่สามารถต่อยอดได้กว้างไกลจริงๆนะคะจากจุดเล็กๆ ก็อยากขยายให้กว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น มีเส้นเรื่อง เพื่อนๆคงจำได้เรื่องของ คุณพ่อนักเล่านิทาน กับ ลูกสาวตัวยุ่ง ที่เอามาเป็นตัวละครรับเชิญในตะพาบหลายครั้งแล้ว คราวนี้อยากให้คุณพ่อนักเล่าของเรามีนางเอกกับเขาบ้างค่ะแต่ลูกสาวจะยอมรึเปล่า หลังจากคุณพ่อมี สูตรลับหลอกเด็กไปแล้ว งานนี้สงสัยคุณครูนางเอกคงต้องหา สูตรลับจับผู้ใหญ่อีกแรงค่ะ
พูดถึง สูตรลับ ของการเขียนนิยาย จากการที่ลงเรียนคลาสเขียนนิยายออนไลน์กับครูสองท่านทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมมากมาย จากที่ไม่เคยรู้หลักการเขียน ก็ได้รู้ได้เรียนการเขียนที่ถูกต้อง วิธีเขียนให้สนุก พล็อตแน่น ได้รู้ว่าการจะเขียนนิยายให้ได้ดีนั้นจริงๆแล้วไม่ได้มีหลักสูตรเร่งรัดหรือสูตรลัด สูตรลับ อะไรหรอกค่ะ การที่จะเขียนดีและขายได้อยู่รอดตลอดไปในสภาวะแบบนี้เป็นเรื่องสาหัสมาก เห็นมาจากการที่นิตยสารดีๆ หลายหัวทยอยปิดตัวลงตามสภาพเศรษฐกิจและความเปลี่ยนไปของผู้บริโภคและนักเขียนที่มีชื่อเสียงหลายท่านหันมาทำนิยายทำมือ หรือทำอีบุ๊คมากขึ้น เราในฐานะนักหัดเขียนคงไม่มีอะไรที่จะทำได้ดีไปกว่าต้องฝึกฝนการเขียนไปเรื่อยๆ หมั่นอ่าน ศึกษาหาความรู้หาแนวทางของตัวเอง เขียนอย่างมีความสุขและสนุกกับการเขียน ก็คงเป็นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในสภาพการณ์แบบนี้จริงๆเพราะฉะนั้น อยากเขียนก็เขียน อย่าลังเล อย่าทิ้งกลางทาง มาเขียนไปให้สุดฝันกันดีกว่า...
โจทย์สูตรลับ ฉบับคุณเป็ด ยากมากเพราะไม่ถนัดเกี่ยวกับสูตรเด็ดเคล็ดลับอาหารแบบเพื่อนๆ ก็เลยคิดจะเขียนเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง เดอะ รีดเดอร์ (อีกแล้ว) แต่เอาไว้ไปลงบล็อกหนังสือเล่มนี้ของพี่ดียังไงที่ยืดเวลาไปถึงกลางเดือนดีกว่า จะเขียนเรื่องคุณพ่อนักเล่านิทานเพียวๆ ก็ค้างคาเพราะไม่ตรงโจทย์เท่าไหร่ สรุปว่าเขียนๆลบๆ จนมาลงเอยที่ สูตรลับนักหัดเขียน นี่แหละค่ะ
ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆจากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ ขอบคุณเพลงเพราะๆจากอินเตอร์เน็ต ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ เดี๋ยวตามไปบล็อกเพื่อนๆนะคะ ^___^
Create Date : 03 ตุลาคม 2559 |
Last Update : 11 ตุลาคม 2559 19:48:30 น. |
|
42 comments
|
Counter : 1140 Pageviews. |
|
|
โหวตงานเขียนให้สูตรลับค่ะน้องนุ่น
lovereason Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น