"ภาระกิจที่เป็นประโยชน์กับตน"
อย่างคนที่ไม่เคยฟังเทศน์ฟังธรรม
ไม่สนใจที่จะศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
จะไม่รู้เลยว่า ภารกิจของตนที่เป็นประโยชน์
กับตนอย่างแท้จริงนั้นเป็นอะไร
ก็จะหลงคิดว่าสิ่งที่ควรจะหากันในโลกก็คือ
ลาภยศสรรเสริญ หาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายกัน
อย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้
คนส่วนใหญ่นี้จะทุ่มเทชีวิตจิตใจ
ให้กับการหาสภยศสรรเสริญ
หาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย
โดยไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องสูญเสียสิ่งต่างๆ
ที่หามาได้นี้ไปหมด เมื่อเวลาที่ร่างกายนี้ตายไปแล้ว
เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นร่างกาย
เขาเป็นใจ เขาคิดว่าเขาเป็นร่างกาย
พอร่างกายนี้ตายแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็หมด
ตัวเขาเองก็หมดไปกับร่างกาย
จึงทำให้เขาต้องทุ่มเทชีวิตจิตใจ
ให้กับการหาลาภยศสรรเสริญ
หาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย
เพราะเป็นความสุขทางเดียว
ที่เขาสามารถจับต้องได้เห็นได้
เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสจับต้อง
กับความสุขทางใจนั่นเอง
แต่สำหรับผู้ที่มีอดีตที่ดีที่ผ่านมา
คือในอดีตชาติต่างๆ ได้มีโอกาสทำบุญ ทำทาน
ได้มีโอกาสรักษาศีล ได้มีโอกาสภาวนา
ได้มีโอกาสได้สัมผัสกับความสุขทางใจ
พวกนี้ก็ถือว่าเป็นพวกที่มีบุญ
อย่างที่ในมงคลสูตรที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า
การได้ทำบุญมาในอดีตนี้เป็นมงคลอย่างยิ่ง
เพราะจะทำให้เรานี้ได้สัมผัสกับความสุขอีกแบบหนึ่ง
ความสุขทางใจแล้วก็จะเป็นเหตุ ที่จะทำให้เรา
ได้มาสร้างความสุขทางใจต่อไป
ถ้าเราไม่เคยได้สัมผัสรับรู้กับความสุขทางใจ
ไม่รู้ว่าการทำบุญให้ทานนี้ให้ความสุขกับเรา
ไม่รู้ว่าการรักษาศีลให้ความสุขกับเรา
ไม่รู้ว่าการภาวนาให้ความสุขกับเรา
เราก็จะทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับการแสวงหา
ลาภยศสรรเสริญ
แสวงหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย
โดยที่ไม่ใช้ปัญญาพินิจพิจารณาเลยว่า
เป็นความสุขอย่างไร ถ้าใช้ปัญญาพินิจพิจารณา
ก็จะเห็นเลยว่ามันเป็นความสุขของเสพติดดีๆ นี่เอง.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
...................................
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ