Group Blog
All Blog
|
### ลาก่อนไวรัสตับอักเสบบี เธอพ่ายแพ้ฉันซะแล้ว ###
ฉันเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ บี มานานเป็นสิบปี เริ่มแรกเมื่อฉันตรวจพบโรคนี้ก็ตอนที่ ฉันได้ลูกคนที่ 3 แล้ว ก็ประมาณ 30 ปีเศษแล้วละ คุณหมอแนะนำให้ตรวจไวรัสตับอักเสบบี เพราะตอนคลอดลูกคนที่ 3 นี้ได้คุยกับคุณหมอ เรื่องการฉีดวัคซีนต้านไวรัสตับอักเสบ บี ของลูกคนเล็ก และเลยเล่าเรื่องว่าแม่เราเป็นมะเร็งตับ เท่านั้นแหละ คุณหมอแนะนำให้เจาะเลือดตรวจทันที และผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจว่าในตัวเราเจ้าไวรัส ตับอับเสบ บี เขาได้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกับเราเมื่อไรไม่รู้ เมื่อรู้ผลว่าเราเป็นไวรัสตับอักเสบ บี แล้ว คุณหมอจึงจัดการนำทุกคนในบ้าน ตรวจไวรัสตับอักเสบ บีทุกคน ผลปรากฎว่า พ่อเด็กไม่มีไวรัสและมีภูมิคุ้มกัน ลูกคนโตมีไวรัสตับอักเสบ บี เหมือนแม่ ลูกคนที่สองไม่มีแต่ไม่มีภูมิต้านทาน จึงฉีดยาต้านไวรัส ส่วนลูกคนเล็กเขาเพิ่งเกิดหมอได้ฉีดยาให้แล้ว ผลการตรวจของเราคุณหมอได้บอกว่า เราติดไวรัสบีตามสายเลือดแม่ แต่ไม่ได้ติดต่อคนอื่น นอกจากสายเลือดของเราเองก็คือลูก แต่ไม่ต้องตกใจเพราะเจ้าไวรัสนั้น เขาก็อยู่ของเขาไป เราต้องพักผ่อนมากๆ ไม่งั้นเขางอนเขาก็จะเล่นงานเรา เมื่อได้ฟังดังนั้นเราก็นอนใจ ไม่ได้ใส่ใจเจ้าไวรัสนั้นอีกเลย จนกระทั่งเขาอยู่ร่วมกับเรามาอีกยี่สิบปี เขาจึงเริ่มอาละวาดเรา เพราะเรามัวแต่มุ่งทำงานไม่สนใจเขา เราพักผ่อนน้อยมาก หลังๆทำงานด้านกิจกรรมกับเด็ก จนเพลินสนุกไปไม่คำนึงถึงอายุที่มากขึ้นแล้ว ในที่สุดเขาก็จัดการเราจนอยู่หมัด ขณะที่เรากำลัง นำเด็กๆเดินจงกลมริมเขื่อนในค่ายทหาร ติดแม่น้ำบางประกงต้องเข้าใจว่า การเดินจงกลมไม่ได้เดินเร็วแทบจะช้าไปด้วยซ้ำ แต่เราก็เริ่มเหนื่อยมากจนกระทั่งเป็นลมหน้ามืด และในที่สุดเราก็ต้องยุติบทบาททุกอย่างของเราลง เมื่อได้ไปหาอาจารย์หมอปิยะวัฒน์ โดยเพื่อนที่เป็น พยาบาลอยู่โรงพยาบาลจุฬาเป็นผู้นัดหมายให้ อาจารย์หมอใด้เจาะเลือดตรวจ เรียกกันว่าอาการตอนนั้น เราเริ่มหนักมากแล้ว ทั้งไขมันเกาะตับมากมาย เรียกว่าคุณมะ(เร็ง)เธอจะเล่นงานเราแน่แล้ว คุณหมอไม่ได้ให้ทานยาอะไรนอกจากวิตามิน E แล้วก็เจาะเลือดตรวจไวรัส นับไวรัส อัลตร้าซาวน์ตับ ยุ่งไปหมด แรกๆก็นัดทุกสัปดาห์ต่อมาก็เดือนละครั้ง รักษากันจนถึงสามเดือนครั้ง หกเดือนครั้ง ก็ว่ากันไป คุณหมอเพียงแนะนำให้ระวังเรื่องการรับประทานอาหาร อย่าให้มัน และอย่าให้ตัวเราอ้วนมาก เพราะตอนนั้น เรามีเพียบพร้อมเชียวละ ทั้งอ้วนท้วนสมบูรณ์ แบบเถ้าแก่เนี้ยซะขนานนั้น เรื่องอาหารการกิน ก็ไม่ค่อยระมัดระวังเท่าไรชอบอะไรก็กินกันไป จนในที่สุดคุณหมอได้พูดคำเดียวว่าอยากหายไหม เพราะไวรัสนั้นหายขาดได้นะ เราจึงหูผึ่งและสนใจ ในทันที เราเริ่มดูแลตัวเองอย่างจริงจังเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยเรายุติบทบาทการงานที่ทำทั้งหมด เรียกว่าลาออกทีเดียวละ จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้านเกิดที่ศรีราชา เพราะบ้านเราอยู่ในทะเล เรื่องอากาศไม่ต้องเป็นห่วง อากาศในทะเลนั้นดีแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อได้ที่พักที่ดีแล้ว ต่อไปก็คือจัดการเรื่องอาหารการกิน เรียกได้ว่าไม่ซื้อกับข้าวสำเร็จกินแน่นอน อาหารหวานก็งดก่อน โดยเฉพาะน้ำอัดลม และน้ำสารพัดที่หวานๆ เลิกดื่ม เราตำน้ำพริกสารพัดน้ำพริกกินเอง ซึ่งเป็นที่มาของ การทำอาหารส่งเข้า blog นี้ไง เปิดดูได้นะจ๊ะ เราดูแลตัวเอง ไปเดินออกกำลังกาย ที่สวนสาธารณะเกาะลอยทุกเช้าเย็น จึงเป็นที่มาของรูปสวยๆที่ถ่ายมาให้ดูกันนี่แหละ อ้อ!!!ลืมบอกไปว่ากับข้าวเราจะไม่เน้นมันนะ ผักน้ำพริก ส่วนมากก็จะลวก หรือ กินสดๆ สำหรับการทอดโดยเฉพาะ พวกมะเขือยาว และชะอมทอดนั้นทอดให้คนในบ้านกิน แต่เราไม่กิน เราระมัดระวังเรื่องอาหาร เรื่องออกกำลังกาย และที่แน่ๆ เราจะไม่ยอมกินยาแผนปัจจุบันใดๆเลย เพราะกลัวว่ายานั้นไปทำลายตับเพิ่มขึ้น สมุนไพรบางอย่างก็ต้องเลิกกิน เช่นมะรุม ขี้เหล็ก ของชอบ เลิกเด็ดขาดเพราะเขาจะ ทำร้ายตับเรา ลองคลิ๊กอ่านดูนะจ๊ะว่ามีอะไรบ้าง เอาเป็นว่าเราดูแลและระมัดระวังตัวเองอย่างดีมา 7 ปีกว่า เรียกว่าดูแลจริงๆนะไม่ใช่ทำวันเว้นห้าวันหรอก และ ในที่สุดเมื่อเราได้ไปตรวจครั้งสุดท้ายเมื่อ วันที่ 20 มกราคม 2558 นี้ คุณหมอก็บอกข่าวดีว่า เราหายขาดจากไวรัสตับอักเสบ บีแล้ว และร่างกาย ได้สร้างภูมิคุ้มกันมาให้ 25% แล้ว เราจึงนำข่าวดีนี้ มาบอกกับทุกท่านที่เป็นโรคนี้ว่าอย่าท้ออย่าตกใจ โรคนี้หายขาดได้แต่เราต้องไม่ตามใจตัวเราเองเท่านั้น เราจะหลีกเลี่ยงการกินยาแผนปัจจุบันถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะยานั้นมีทั้งคุณและโทษ เราจะใช้สมุนไพรที่ทำกินเอง รักษาไปเรื่อยเปื่อยก็ได้ผลดี เช่นคนเราเมื่อแก่แล้ว มักจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง เราก็สังเกตุตัวเราเอง ว่าเหนื่อยบ่อยไม๊ เพราะความเหนื่อยเลือดสูบฉีดแรง ก็อาจจะเป็นความดันได้ เราก็ศึกษาค้นคว้าจนรู้ว่า นำใบมะกรูดมาต้มน้ำกินก็พอบรรเทาอาการของโรค ความดันโลหิตสูงลงได้ ทุกวันนี้เราก็ต้มดื่ม และก็ได้ส่ง วิธีทำเข้ามาให้ดูด้วย ลองคลิ๊กอ่านดูก็แล้วกันนะจ๊ะ เราทำสารพัดน้ำสมุนไพรและจะทะยอยลงให้อ่านกัน ที่แน่ๆน้ำนั้นจะต้องไม่หวาน ยกเว้นบางอย่าง ที่ต้องเติมน้ำตาลช่วยบ้าง เช่น น้ำมะขาม และ น้ำกระเจี๊ยบ เพราะถ้าไม่เติมน้ำตาลช่วย เธอก็เปรี้ยวได้ใจเชียวละ เราไม่อยากเขียนมากแล้วเพราะกลัวคนอ่านจะเบื่อ เอาแค่นี้แหละ และขอเป็นกำลังใจให้คนที่เป็น โรคไวรัสตับอักเสบบี นี้หายเร็วๆนะจ๊ะ
สุดท้ายอีกสักนิด เมื่อเราได้ไปตรวจครั้งสุดท้ายนี้ อาจารย์หมอท่านไม่คิดค่าตรวจเรามารู้ก็ตอนเสียเงิน ยังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย แต่ท่านก็ได้มอบหนังสือ เรื่องไวรัสตับอักเสบเล่มล่าสุดมาให้หนึ่งเล่ม เราจะทะยอยพิมพ์ลงให้อ่านกันนะ แต่ถ้าใจร้อน ก็ไปหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วไปนะจ๊ะ
### การดูแลตัวเองให้หายขาดจากไวรัสบี ###
ไชโย ฉันหายจากไวรัสบีแล้ว ดร.ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์ แห่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฉันเป็นไวรัสบี และมีอาการมากจนกระทั่งต้องหยุดทำงาน และเข้ารับการรักษาตัวกับอาจารย์หมอ เป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว อาการต่างๆที่เป็นฉันก็ได้เขียนให้ทุกท่านได้อ่านกันไปบ้างแล้ว ฉันเริ่มตรวจกับอาจารย์หมอตั้งแต่ไปทุกอาทิตย์ จนนัดห่างเรื่อยๆ จนสุดท้ายอาจารย์หมอได้นัดตรวจ 6 เดือนครั้ง และทุกครั้งที่ตรวจฉันต้องเจาะเลือดตรวจ เรียกว่าอาจารย์เคยตรวจขนาดนับตัวไวรัสกันเลยเชียวละ และยังต้องอัลตร้าซาวร์แทบทุกครั้งเพราะผจญไขมันเกาะตับอีก คุณหมอรักษาให้โดยไม่เคยกินยาเลย นอกจากวิตามิน E เท่านั้นเวลาพบว่าไขมันเกาะตับฉัน ฉันมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณหมอทุกครั้งที่เข้าตรวจ ขอคำแนะนำในการดูแลตัวเอง หากคุณหมอมีการจัดสัมมนา เกี่ยวกับโรคตับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฉันก็ไปฟัง ฉันซื้อหนังสือเกี่ยวกับโรคตับที่คุณหมอและเพื่อนๆหมอได้เขียน แทบทุกเล่ม และยังได้นำมาเสนอให้ทุกท่านได้อ่านเพื่อรู้กันด้วย ตลอดเวลาการรักษาตัวของฉัน ก่อนอื่นฉันได้เปลี่ยนนิสัย ในการกินอาหารก่อน โดยอาหารทุกชนิดที่จะกินเข้าไปในร่างกายฉัน ฉันจะค้นหาในอินเตอร์เนทว่า ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ต่างๆนั้น แต่ละชนิดมีคุณค่าและมีประโยชน์ และ โทษอย่างไรกับร่างกายเราบ้าง บอกตรงๆฉันโชคดีที่เป็นคนแก่ที่เกษียณแล้ว เลยมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น ฉันไม่ต้องการให้คนใกล้ชิด ต้องเดือดร้อนกับอาการเจ็บป่วยของฉัน ฉันจึงต้องทำทุกอย่าง เพื่อช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจากโรคนี้ให้ได้ และสิ่งสำคัญอีกอย่าง ที่คุณหมอแนะนำก็คือ การออกกำลังกาย ฉันก็ออกกำลังกายตามอายุนั่นแหละไม่ได้หักโหมอะไรมากมายนัก แต่ต้องพยายามทำจิตใจให้สดชื่น รื่นเริง เข้าไว้ ฉันไม่ยึดติด กับอะไรมากนัก แม้แต่การฟังเพลงเพื่อให้รู้สึกดีและมีความสุข ฉันก็ฟังเพลงทุกประเภทที่ฉันฟังได้ไม่ว่าจะเป็นเพลงเก่า สมัยรุ่นฉันยังวัยรุ่นหรือเป็นเพลงวัยรุ่นสมัยนี้ ฉันไม่เลือก ถ้าเขาร้องเพราะถูกใจฉันก็ฟังและร้องตามหมด นี่มันคือการให้ความสุขกับหัวใจฉันไม่ให้เครียด แม้แต่ละครฉันก็จะเลือกดูเฉพาะละครที่สนุก ไม่เครียด ไม่ต้องคิดมาก ฉันพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองมีแต่ความสุข สนุกสนานไปเรื่อยๆ ระหว่างรักษาตัว ฉันยอมรับว่าบางครั้ง ก็รู้สึกเหมือนกันว่าเราจะตายไม๊นะ แต่ฉันก็ไม่เก็บไปเครียด แต่กลับเก็บไปสร้างเป็นความฝันอันแสนสุขอีก คิดเรื่อยเฉื่อยไปว่าถ้าตายไปเราจะได้ไปอยู่ที่ไหนนะ ก่อนอื่นเราต้องทำกับข้าวเก่งๆ เผื่อจะได้โดนคัดเลือกไปเป็นแม่ครัว ให้ยมฑูตได้ชิมฝีมือก็ได้ นี่แหละคือความคิดของฉันสร้างสรรมัน ให้เกิดความสุข ไม่กลัวความตาย เพราะทุกคนต้องตาย แต่เตรียมตัวก่อนตายเพราะเราไม่รู้ว่าเราจะไปพบอะไร หลังการตายบ้างก็เท่านั้น ฉันรักษาตัวกับคุณหมอมาตลอด อาการหนักบ้างเบาบ้างก็ว่ากันไป ฉันมาได้คิดว่าอาการป่วยของเรา เราต้องช่วยตัวเองก่อนเป็นหลักใหญ่คุณหมอเป็นเพียงผู้แนะนำ และให้การเยียวยารักษาเท่านั้น ถ้าเราไม่ร่วมมือด้วย เราก็ไม่มีโอกาสหายแน่นอน ฉันช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง จัดระเบียบอาหารการกิน การออกกำลังกาย การทำให้จิตใจผ่องใสไม่เครียด ฉันทำคนเดียวไม่ต้องมีตัวช่วย ไม่มีใครสั่งเพราะฉันไม่ชอบอยู่ใต้อาณัติของใคร ฉันจึงสั่งตัวเอง ตลอดเวลาที่รักษาโรคไวรัสบีมานี้ ฉันมีอุปสรรคอย่างหนึ่งคือฉันต้องระมัดระวัง ไม่ให้มะเร็งกินตับฉันได้เด็ดขาด ดังนั้นฉันจึงต้องแยกแยะทุกอย่าง ที่ต้องผ่านตับ ไม่ว่ายาอะไรก็ตามเพราะยานี่แหละตัวดีนัก ฉันจึงต้องค้นหาพืชสมุนไพรมากินแทนยาตลอดเวลา แต่บางครั้งฉันก็ยังมีโรคที่ผ่านมาและแวะเยี่ยมเยียนฉันในบางโอกาส เช่น โรคกรวยไตอักเสบ ถึงกับต้องเข้านอนในโรงพยาบาลทีเดียวแหละ ซึ่งฉันก็ได้เขียนอาการไว้ให้อ่านกันแล้วในหัวข้อโรคภัยไข้เจ็บ ย้อนไปอ่านกันได้ ชีวิตฉันเป็นปรปักษ์กับยาปฏิชีวนะที่สุด ฉันเป็นคนไม่ชอบกินยาฝรั่ง แต่บางครั้งฉันก็ต้องกิน เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ก็แค่นั้นเพราะเมื่อฉันหายแล้ว อย่าหวังเลยว่าฉันจะกิน เพราะไม่ว่าฉันจะปวดหัว ตัวร้อนฉันก็กินสมุนไพร ยกตัวอย่างเช่นฟ้าทลายโจรเป็นต้น ฉันรักตับของฉันเท่าชีวิต ฉันจะไม่ยอมให้อะไรมาทำลายตับฉันหรอก แค่ไวรัสบีที่มันบังอาจ สิงสถิตย์ในเลือดฉันฉันก็ระอากับมันเต็มทนแล้ว ด้วยการดูแลตัวเอง การใส่ใจในโรคภัยไข้เจ็บของตัวเอง การจัดชีวิตตัวเองเรื่องการกินอยู่ใหม่ นี่แหละทำให้ฉันชนะเจ้าไวรัสบีได้ ฉันไปตรวจก่อนหน้านี้ คุณหมอยังงงว่าไวรัสมันหายไปไหนหมด คุณหมอไม่เชื่อบอกว่ามันคงหลบซ่อนตัวเองอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพื่อรอโอกาสที่จะออกมาต่อสู้กับฉันอีก คุณหมอจึงได้สั่ง ให้เจาะเลือดอีกครั้งและการเจาะครั้งนี้ฉันไม่รู้ว่าคุณหมอตรวจอะไร เพราะคุณหมอสั่งให้ไปเจาะที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เพราะมีเครื่องตรวจเลือดตัวนี้ อ้อ.ลืมบอกไปว่า ฉันเจาะเลือดที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ.ศรีราชา และนำผลไปให้หมอตรวจ มาได้สองปีแล้ว เพราะใกล้บ้านสะดวกกว่า ฉันได้ไปเจาะเลือดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลจุฬาก่อนถึงกำหนดนัดตรวจ และได้อัลตร้าซาวร์ที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ.ศรีราชาไปด้วย อ้อ. ฉันต้องขอขอบคุณคุณหมอที่อัลตร้าซาวร์ให้ฉันด้วย เพราะครั้งนี้คุณหมอทำเกินกว่าที่อาจารย์หมอสั่งโดยทำการ อัลตร้าซาวร์ท้องฉันทั้งหมดจนถึงมดลูก แถมยังรายงานผลตรวจ ไปให้คุณหมออีกด้วย ขอบพระคุณจริงๆ คุณหมอหัวเราะและ บอกว่าหมอซาวน์เกินสั่ง ฉันจึงถามคุณหมอว่าแล้วส่วนเกินที่ซาวน์น่ะ มันดีหรือร้ายกันล่ะ คุณหมอยิ้มและบอกว่าดีทั้งหมด ฉันดีใจจริงๆ และขอขอบคุณคุณหมอที่ทำการซาวน์ ที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชาด้วยนะคะ ขอให้คุณหมอประสบแต่โชคดี มีหน้าที่การงานที่เจริญ ยิ่งๆขึ้นไปด้วยเถิด เฮ้อ...มีจิตใจที่เมตตาจริงๆ ขอบคุณนะคะ ครั้งนี้ที่ไปตรวจ คุณหมอแปลกใจว่าทำไมฉันหายจากไวรัสบีเร็ว เพียงแต่ตอนนี้คอยให้ไวรัสบีมันกลับมาเป็นภูมิคุ้มกันเท่านั้น อาจายย์หมอได้แสดงความยินดี แต่ท่านก็ไม่ทิ้งคนไข้ไร้สติคนนี้หรอก ท่านยังนัดไปตรวจอีกเช่นเดิม เพราะท่านก็ไม่ไว้วางใจเจ้าไวรัสบีนี้นัก แต่มันก็ทำให้ฉันดีใจและมีความสุขขึ้นอีกตั้งมากมายเชียวละ ตรวจครั้งนี้คุณหมอใจดีมากยกค่าตรวจให้กับฉันเป็นของขวัญด้วย คราวหน้าว่าจะไปขอบคุณซะหน่อย ใจดีและห่วงใจคนไข้จริงๆ ขอบคุณนะคะคุณชายหมอสุดหล่อ ♦♦♦ เป็นไวรัสตับอักเสบบีแบบเฉียบพลัน.....จะตายไม๊เนี่ยะ ♦♦♦
เพียงแต่อ่านข้อเขียนของคุณหมอ วันนี้เราจึงนำเสนอ เรื่อง ของ อาจารย์ นพ.ดร.ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์ เพราะเราไม่ใช่แพทย์เรารู้ไม่จริง แต่เราได้ขออนุญาตจากท่านไว้แล้วว่าขอนำความรู้จากท่านนี้ ซึ่งท่านก็อนุญาต ใจดีจริงๆ ท่านเป็นผู้ให้โดยจิตวิญญานจริงๆ ขอบคุณค่ะอาจารย์ ข้อเขียนบทความของท่านมีดังนี้......... ความจำ ความคิด ข่าวลือเกี่ยวกับโรคตับทั้งหลายแหล่ประดังเข้าสู่สมอง ลองคิดไตร่ตรองดูดีๆ สำหรับข้อมูลในบทนี้ อยากจะบอกว่า มักจะติดกันมาตั้งแต่เด็กแต่เล็กขณะผ่านช่องคลอดมานั้น ถ้าไม่ได้รับการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน ก็จะติดเชื้อตรงนั้นเอง เชื้อจะไปอยู่ในตับจะอยู่แบบเรื้อรังต่อๆไปอีกนานหลายๆปี หรือตลอดชีวิต กลายเป็นโรคแบบเรื้อรัง ถามว่า หายเองสักกี่เปอร์เซ็นต์ คำตอบคือ 99 เปอร์เซ็นต์ เก้าสิบเก้าคนหายเองและหายสนิท ผ่านไปอีกหลายอาทิตย์จะเริ่มเกิดตับอักเสบ อาการของการอักเสบส่วนใหญ่คือไม่มีอาการ สำหรับคนที่มีอาการก็อาจจะรู้สึกเพลีย จุกๆท้อง ถ้าไม่ทราบว่าตัวเองมีตับอักเสบก็จะไม่ทราบว่า คือค่าการทำงานตับกลับมาปกติ บางท่านอาจจะรู้สึกเพลียเหนื่อยง่าย มีขาบวม ท้องโตขึ้น ตรวจเลือดพบว่า พบมีค่าโปรตีนแอลบูมิน (Albumin) ลดลงเร็ว ตามความเหมาะสมของระยะโรค ความรุนแรงของโรค เรียกว่าเกิดภาวะตับวาย ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ไม่ได้หมายความว่าภาวะนี้พบบ่อย แม้จะทราบว่ามีไวรัสบีอยู่แล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร นอกจากนี้ประวัติการดื่มสุรา ปริมาณการดื่มต่อสัปดาห์ ส่วนมากแล้วแพทย์จะตรวจแอนตี้เอชบีคอร์ (AntiHBc) ก็หมายความว่าการอักเสบครั้งนี้เกิดจากไวรัสบีแน่ ก็ยังมีโอกาสเป็นตับอักเสบจากไวรัสบีแบบเฉียบพลันได้ แล้วครั้งนี้มาด้วยการอักเสบแบบเฉียบพลันแทรกซ้อน ตับอักเสบแบบเฉียบพลันจากไวรัสบีพอจะแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม 1. ตับอักเสบเฉียบพลันจากไวรัสบีชนิดที่เป็นใหม่ พอผ่านไปหกเดือนถึงหนึ่งปีไวรัสก็หาย ถามความจริงในประเทศว่าพบบ่อยแค่ไหน 2. ตับอักเสบเฉียบพลันในผู้ที่มีไวรัสแบบบีเรื้อรังมาก่อน ชนิดนี้เกิดจากการสู้รบระหว่างไวรัสบี วันดีคืนดีร่างกายก็เกิดอารมณ์ พอมีการอักเสบแบบรุนแรง ตับก็จะพังเร็วขึ้น ไม่มีพังผืดแทรกอยู่ในตับมาก่อน ตับดีเหลืออยู่เยอะ ตับงอกใหม่ก็เร็ว จึงเกิดตับวายยาก แพยทย์ที่ช่วยดูแลเราก็จะต้องพยายามใช้ความสามารถ ตับนี้จะทนภาวะการอักเสบครั้งนี้ไปได้ถึงไหน การรักษาตับอักเสบเฉียบพลันจากไวรัสบีโดยทั่วไป ก็เพราะถึงไม่ทำอะไร โรคก็หายเองดีขึ้นเอง ถ้ามีไข้ การทานยาพาราเซตามอลก็ยังทานได้ ยาแก้ปวดลดไข้ชนิดอื่น เช่น บรูเฟน หรือ แอสไพริน นั้น ควรพยายามรับประทานอาหารให้ได้เพียงพอ ถ้าทานไม่ได้เอาจริงแพทย์ก็อาจจะให้น้ำเกลือ เพื่อช่วยระวังเรื่องการขาดน้ำตาลขณะที่โรครุนแรง ขณะที่ยังไม่ได้ใช้ ตับก็จะเก็บน้ำตาลในรูปไกลโคเจน แล้วส่งออกไปสู่อวัยวะต่างๆเพื่อไปใช้เป็นพลังงาน ตับวาย ตับแข็งระยะท้ายๆ โรงเก็บน้ำตาลไม่พอ แต่ตับอักเสบธรรมดา ตับอักเสบเรื้อรัง ประเด็นนี้ยังมีข้อถกเถียงพอควร ในตับอักเสบเฉียบพลันแบบแฟลร์อัพ (Flair up) ฉะนั้น การจะเริ่มยาขณะที่มีการอักเสบก็มีเหตุผลสมควร การให้ยาในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ###################### หากถ้าท่านสนใจอยากทราบเรื่องไวรัสบี มากกว่านี้ ชื่อเรื่อง จับเข่าคุยกันเรื่อง ไวรัสตับอักเสบบี ขอบอกว่ามีประโยชน์จริงๆ แต่ยังไม่มากนัก เลยต้องขอพักผ่อนก่อน ♦♦♦ ต้องอ่านกันนะจ๊ะ อย่าประมาทอาจถึงตาย ♦♦♦
คุณหมอได้นำข้อเขียนของเธอมาไว้ในหนังสือของคุณหมอเรื่อง เราจึงขอคัดมาให้ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจ และ "ชีวิตต้องสู้ของพี่รหัสไวรัสบี" ตั้งแต่ 2530 ปีที่เขียนอยู่นี้ ก็นับได้ 18 ปีแล้ว พี่เขาผ่านมาทีละยุค เคยฉีดอินเตอร์เฟียรอน มาแล้ว เพราะเธอเป็นคนไข้ที่น่าดูเป็นแบบอย่าง และเล่าเรื่องราวต่างๆให้ครูฟังอย่างสดใส ร่าเริง คุณๆดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าอายุเธอขึ้นด้วยเลข 6 แล้ว บางคนกลัวตับแข็ง กลัวนั่นกลัวนี่ พี่เป็นมาตั้งนาน พี่ตับแข็งมานานขนาดนี้ มียาดีๆ ใหม่ๆ มาเรื่อย และสอง เธอมีหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็ง ซึ่งหากคนไข้ทุกคนมองโลกและมองโรคได้อย่างพี่เปี๊ยกเขา เป็นโรคที่มีบทบาทน้อยจะตาย เจ็บก็ไม่มี ปวดก็ไม่มี ครูงงเหมือนกันนะ เพราะครูคิดว่าคนเป็นตับแข็งน่าจะเป็นมาก รูปร่างหน้าตาท่าทางไม่เหมือนคนป่วยเลย ทุกอย่างรักษาได้ ทุกอย่างแก้ไขได้ ม้นก็ไม่มีอะไร เธอดูไม่เหมือนผู้ป่วยจริงๆนะ พี่เปี๊ยกเธอรอตับใหม่มาได้ปีหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ตับที่ถูกใจ เอ๊ยที่ใช้ได้ตอนนี้เธอเป็นคิวแรก การจะนำตับใครมาใช้มันต้องมีกรุ๊ปเลือดที่ตรงกันด้วย เธอบอกว่า เธอไม่เห็นจะกลัวอะไร ไม่มีอะไรให้เธอกลัว ตาบอด ขาขาดจากอุบัติเหตุ คนเป็นไวรัสบีไม่ได้พิการ ในช่วงที่มีอาการอักเสบมาก เช่นอาการอ่อนเพลีย เท่าที่ครูดูก็เห็นว่าเธอดูปกติจริงๆด้วยแหละ แถมพาไปดูคนไข้อาการหนักๆแบบที่ต้องถือถุงปัสสะวะ ตรวจดูผลเลือด มีตับอักเสบเล็กน้อย ร่างกายมันจะหลั่งสารออกมาตอบสนอง คนไข้จะรู้สึกเจ็บจริงๆ หากใจคิดว่าหนัก กายก็หนัก ใจรู้ว่าไม่เป็นอะไร เราก็ไม่เป็นอะไร อย่ามัวแต่คิดมากเดี๋ยวเจ็บตับนะเอ้า แต่ถ้าท่านเจ็บตับ แต่ส่วนใหญ่จะเจ็บตับจากความเครียดมากกว่า แพทย์ก็เจาะตัวอย่างชิ้นเนื้อตับ หรือที่เรียกสั้นๆว่า "เจาะตับ" และครูรู้ว่าพี่เขาจะยังอยู่อีกนาน การรักษาก็เป็นการเยียวยากันไป" อาจารย์ก็แนะนำให้ฉีดอินเตอร์เฟียรอนอีกคอร์ส ยากินไม่มีผลข้างเคียง แล้วก็ช่วยควบคุมอาการให้ดีขึ้นตามลำดับ แต่คนไข้ตับแข็งต้องเข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง คือ มีพลังร้อยเปอร์เซนต์เหมือนคนอื่นเขา พี่เขาก็ทำใจได้ แม้พี่เขาต้องหยุดอินเตอร์เฟียรอนคอร์สที่สองกลางคัน ยากินสมัยใหม่นี้ดีกว่าอินเตอร์เฟียรอน พอเริ่มดื้อยาอาจารย์ก็ให้เธอเปลี่ยนยาตัวใหม่เป็นอเดโฟเวีย ยากินนี้ทำหน้าที่กดจำนวนไวรัส ไปตัดวงจร พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆคือ "ทำหมันไวรัส" พอมันถูกทำหมัน และตัวไวรัสเองมันก็มีอายุขัยของมัน มันก็จะตายไป นี่คือหน้าที่ของยากิน อย่าลืมว่าไวรัสมันไม่หมดไป พี่เปี๊ยกได้นับจำนวนไวรัสก่อนและหลังกินยา แกบอกว่า ยาใหม่ทำให้แกอยู่อย่างสบายๆ กล่าวคือ มีท้องมานบ้างในบางโอกาส พอเป็นแล้วก็หายไป เพราะหมอเขามียาให้กินลดอาการ แกบอกว่าตอนที่มีอาการนั่้นมันไม่สนุก ไม่ตลก อาการทางสมองเกิดจากการที่ตับขับของเสียออกไม่ได้ "สับสนยังไงหรือพี่ หลงทาง หรือว่าบวกลบเลขไม่ได้" ครูถาม "มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะซิ มันสับสนและน่ารำคาญ แต่ก็กดไม่ถูก กดผิดกดถูก ไปติดบ้านคนอื่นบ้าง บ่อยไป อยากคุยกับคนนั้นคนนี้ แต่สับสนไปหมด พี่จะฉี่ พี่เห็นว่าโถมันอยู่ข้างหน้า แต่ไม่รู้จะฉี่ยังไง ! ทั้งๆที่ใส่นาฬิกาอยู่ต้องแกล้งบอกคนอื่นว่าตาไม่ดี แต่เวลาที่พี่เป็น พี่ไม่รู้จริงๆว่ามันกี่โมง พี่ก็โมโหที่ทำไมคนรอบข้างไม่เข้าใจเขาเล่าว่าพี่บอกว่า พอคนในบ้านไม่เข้าใจพี่ก็หงุดหงิดเมื่อก่อนสามีพี่เขาไม่เข้าใจ เขาน่าจะเข้าใจนะว่าพี่ไม่รู้เรื่องจริงๆ พี่สับสนและเครียดมาก พี่ถอดมันไม่ออกเพราะพี่ไม่เข้าใจว่าจะถอดอย่างไร คนในบ้านก็ถามว่าพี่จะทำอะไร พี่บอกว่าพี่จะถอด เสื้อตัวไหนมันต้องใส่กับกางเกงตัวไหน พี่ก็บอกว่าไม่ใช่กางเกงของพี่ ทั้งๆที่มันเป็นกางเกงของพี่ เขาก็ไม่อยากรบกวน คิดว่าพี่คงต้องการพักผ่อน ทีนี้พี่จะบอกคนที่บ้านว่าพี่หิว พี่ก็พูดคำว่าหิวไม่ถูก คนที่บ้านก็ถามว่าจะเอาอะไร พี่ก็พูดไม่ถูก พี่จะโมโหร้ายควบคุมตัวเองไม่ได้ การที่เราเคยทำอะไรได้แล้วอยู่ๆมันทำไม่ได้ มันสับสน คุณอ่านมาลองนึกดูซิ ว่าถ้าคุณมีอาการอย่างพี่เขา ทุกข์ทรมานของผู้ป่วยมากๆ อย่าไปดุหรือตวาดผู้ป่วยเลย ทำให้ท่านรำคาญใจหรือโมโหบ้าง แต่นั่นคืออาการป่วยของเขา เมื่อของเสียที่คั่งค้างในสม่องหมดไป อย่าไปตะคอกเขากลับเพราะ แต่เป็นอาการทางสมองของผู้ป่วยตับแข็ง และที่เป็นห่วงก็คือ เกิดคิดว่าเป็นโรคจิต จะทำให้หลงทางในการรักษา อาการทางสมองเกิดจากอะไร ตับแข็งคืออะไร ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เดี๋ยวอาจารย์จะค่อยๆอธิบายเป็นคำๆไป ######################### ต้องหาหมอตรวจเลือดเช็คไวรัสซะ อย่าทิ้งไว้จนเป็นมากสุดจะเยียวยานะ นึกว่าเมตตา อโหสิกันไปก็แล้วกันนะจ๊ะ รักษาสุขภาพกันถ้วนหน้านะจ๊ะ ♦♦♦ คุณแน่ใจหรือว่า........คุณไม่ได้ซุกซ่อนน้องไวรัสไว้ในตับคุณ.?????? ♦♦♦
ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อีกเช่นเคย คุณหมอมีคำตอบให้แล้ว ของคุณหมอมาอ่านซะนะ มีขายตามร้านหน้งสือ มันแอบอยู่ในตับ ! แอบซ่อนตัวจนผู้ที่ถูกสิงสู่แทบไม่รู้ตัว หรือมาแบบนิ่มนวล มันกัดมันกร่อนคล้ายสนิม ชีวิตจริงของผู้ที่ไม่หมั่นตรวจเช็คร่างกาย ในบทนี้จะสรุปรวมให้เห็นถึงแผนที่ชีวิตของการสู้รบ จะมีความเป็นไปอย่างไร มีชีวิตอยู่อย่างราบรื่น กรุณาอ่านบทนี้เพื่อเป็นพื้นความรู้เบื้องต้น เธอทำอย่างไรจึงยื้อชีวิตต่อมาได้ถึง 17 ปี เธอเหลือเพียงสองทาง ทางที่ไม่มีวันกลับ คนไทยส่วนใหญ่ได้รับเชื้อไวรัสมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ถ้าเราติดเชื้อไวรัสบีตั้งแต่วัยเด็ก ถ้าได้รับเชื้อมาหนึ่งร้อยคน ขอให้ลองทำความเข้าใจกับกราฟชีวิต คนที่ได้เชื้อมาใหม่ๆจะเกิดการอักเสบแบบเฉียบพลัน ไวรัสบีที่อยู่แบบเรื้อรังมีวงจรชีวิตผันแปร มีทั้งแบบอยู่กับร่างกายแบบไม่มีปัญหา ระยะแบบอีบวก ถ้าร่างกายสู้รบสำเร็จ แต่ถ้าไวรัสยังอยู่รอดและฟื้นตัวขึ้นใหม่จากระยะ ระยะนี้เกิดปัญหากับตับมาก รักษาก็ยาก ขอเริ่มที่ผู้ป่วยซึ่งมีไวรัสซ่อนอยู่แล้ว จะเกิดการอักเสบข้างในเนื้อตับ อาจจะมีหรือไม่มีค่าของ ดูจากแท่งกราฟในช่วงที่สอง อักเสบมากบ้างน้อยบ้างเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา มองโลกในแง่ดี จะเห็นว่า 40 ถึง 50 คนใน 100 คน มีชีวิตยาวเหมือนคนทั่วๆไป แต่ปัญหาคือ เมื่อผ่านเข้าช่วงที่สาม เริ่มแรกจะเป็นตับแข็งระยะต้น การเกิดแผลเป็นในเนื้อตับกระจายไปทุกส่วนของตับ คือผ่านไป 5 - 10 ปี มักจะไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้่น หรือหลายกรณีจะเห็นว่าค่า AST และ ALT ก็บอกไม่ได้ว่ามีตับแข็ง ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เห็นได้จากกราฟแท่งที่สี่ ผู้ป่วยจะค่อยๆทยอยเป็นไป ตับแข็งระยะท้าย ที่ว่าเป็นไป เป็นมากขึ้นๆ ตับแข็งที่เป็นมากขึ้น จะมีแผลเป็นหรือพังผืดกระจาย เลือดออกได้เป็นลิตรๆถ้ามาโรงพยาบาลทันก็ช่วยทัน เนื้อตับดีที่เหลือน้อยลงไปทำงานไม่พอ มีตั้งแต่น้อยจนมากถึงกับแน่นหายใจไม่ออก เนื้อตับดีที่เหลือน้อยลง เลือดก็ไหลย้อนกลับไปที่ม้าม ม้ามมีหน้าที่จับกินเชื้อโรคและจับกินเม็ดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกล็ดเลือดที่ต่ำลง เลือดกำเดาออกง่ายเลือดซึงออกตามไรฟัน เนื้อตับดีที่เหลือน้อยลง หรือของเสียที่เกิดจากยาหรือสมุนไพร ยาบำรุง อุจจาระในลำใส้ใหญ่ เช่น แอมโมเนีย ยิ่งมีท้องผูก จากนั้นจะเกิดทางลัดผ่านขึ้นสมอง ผู้ป่วยจะเริ่มด้วยอาการอารมณ์ผิดปกติสังเกตยากในระยะต้น คิดคำนวนเลขคณิตง่ายๆไม่ได้ อารมณ์เปลี่ยนแปลง ฉุนเฉียว ในที่สุดจะซึมมากจนหมดสติ แน่นิ่งไม่ขยับตัว ไม่สามารถกล่าวได้หมด ขอให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ คนเป็นไวรัสบีแบบเรื้อรังและตับแข็งมีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูง ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสบีแบบเรื้อรังมีโอกาสเกิดมะเร็งตับแบบปฐมภูมิ ผู้ที่อยู่ในระยะพาหะแบบเชื้อน้อย ผู้ที่มีตับอักเสบเรื้อรังร่วมกับมีไวรัสจำนวนมาก เห็นได้จากกราฟรูปวงกลมในส่วนบนของภาพ เมื่อเข้าสู่ระยะตับแข็งแล้ว ถ้าติดตามผู้ป่วยไปสิบปี ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็งตับ ########################## อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างวันนี้รู้สึกว่ายิ้มไม่ออก ทางที่ดีเราควรจะไปตรวจเลือดหาไวรัสกันซะแต่เนิ่นๆนะ แต่ที่แน่ๆ เราน่ะโดนเต็มเปาเข้าไปแล้ว ได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานว่าขอให้คุณหมอชนะขาดลอยด้วยเทอญ จะได้อยู่ยงคงกระพันในโลกศิวิไลนี้ต่อไปอีกหน่อย..... แต่ถ้าได้ก็ดีไม่ขัดข้องหรอกนะจ๊ะ ชิ้วๆๆ ไปซะนะเจ้าไวรัสตัวแสบ |
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |