Group Blog
All Blog
♦♦♦ ถึงเวลาลดน้ำหนักกันแล้ว....เอ้า!...เตรียมตัว ♦♦♦





บทความทั้งหลายทั้งมวลที่จะนำเสนอท่านต่อจากนี้ไป
เราก็ได้คัดลอกมาจากข้อเขียนของ นพ.ดร.ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์
 ในหนังสือ ไขมันตับ คุมอาหารลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ผล
  อีกนั่นแหละ
ในวันนี้คุณหมอแนะนำให้ทำความรู้จัก
กับอาหารหลักของร่างกาย
 ซึ่งเราจะสรุปพอหอมปากหอมคอนะ
ไม่ละเอียดเท่าไปหาหนังสือของท่านมาอ่านหรอก
 เพราะเห็นว่า อาหารหลักของร่างกายนั้น
เราทุกคนต้องได้เรียนรู้ในโรงเรียนกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว
 ซึ่งก็ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
แต่คุณหมอท่านก็สรุปเพียง 3 หมู่หลักใหญ่
ที่ทำให้อ้วนแก่เราเท่านั้น
  คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน


ต่อนี้จะคัดลอกข้อเขียนของคุณหมอ
มาให้พวกเราได้รับรู้กันทั้งหมดนะ
  คุณหมอท่านให้หัวข้อไว้ว่า

คาร์โบไฮเดรต....อินสุลิน....น้ำตาลในเลือดสูง....
ความอ้วน....ไขมันตับ....เป็นเพื่อนกัน

เพื่อความเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเราต้องลดคาร์โบไฮเดรต 
 สาเหตุของความอ้วนประการหนึ่งคือ
การทานอาหารปริมาณมากเกินกว่าพลังงานที่ใช้ไป
 ร่วมกับอัตราส่วนของอาหารหลักผิดปกติเรื้อรัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทานคาร์โบไฮเดรตมาก 
 ร่างกายของเรามีความสามารถสูงเมื่อทานผิด
ร่างกายก็ปรับตัวให้รับสภาพนั้นๆได้ 
 นานๆไป ถึงที่สุดก็เกิดโรคอ้วน และโรคอื่นๆตามมา

เมื่อทานอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ข้าวเข้าไป
 เมื่อข้าวถูกย่อยสลายกลายเป็นน้ำตาลขนาดเล็ก
จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิต จากนั้นในเวลาเป็นนาทีถึงชั่วโมง
 ตับอ่อนจะสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่า " อินสุลิน"
หลั่งออกมาสู่กระแสโลหิต ฮอร์โมนนี้มีหน้าที่
ดึงน้ำตาล
โมเลกุลเล็กเหล่านี้ในกระแสโลหิตเข้าสู่เซลล์ส่วนต่างๆของร่างกาย
เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน ถ้ามองอีกแบบคือ เมื่อทานอาหารเข้าไป
 น้ำตาลในกระแสโลหิตจะสูงขึ้น
ระดับฮอร์โมนอินสุลินก็จะสูงขึ้นตามระดับน้ำตาล
 เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในกระแสโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


ตลอดเวลาถ้าเราทานอาหารหวานหรือมีแป้งมากๆ 
 น้ำตาลจะสูงเร็วในช่วงหลังอาหาร
อินสุลินก็หลั่งออกมามาก อะไรที่มากเกินควร
  มากนานๆ มากบ่อยๆ ก็เกิดความชินชา
และเกิดสิ่งที่เรียกว่าภาวะต้านอินสุลิน (insulin resistance)
    คือ อินสุลินสูง
 แต่ดึงน้ำตาลออกไปใช้ไม่ค่อยได้ 
น้ำตาลในเลือดจะสูงค้างอยู่นานกว่าปกติ
   อินสุลินที่สูงขึ้น ยังมีผลกระทบที่ไม่ดีแก่ร่างกายคือ
จะมีการลดลงของการสลายไขมันเอาออกมาใช้ 
 คือ อินสุลินยิ่งสูง ร่างกายยิ่งเก็บไขมันในที่ต่างๆมากขึ้น
ร่างกายจะสร้างเซลล์ไขมัน หรือคลังเก็บไขมัน
   เอาไว้ตามที่ต่างๆของร่างกาย
  เช่น พุง ต้นขา รอบๆอวัยวะภายใน ต้บ
เมื่อหลายๆปีเข้า ก็ตามมาด้วยภาวะน้ำหนักเกิน
และในที่สุดก็โรคอ้วน


อีกประการหนึ่งลองนึกดูเวลาอาหารเที่ยงมื้อหนัก 
 ที่มีคาร์โบไฮเดรตมาก จะมีการกระตุ้นอินสุลินมาก
ถ้าอินสุลินตกค้างอยู่นาน พอตกบ่าย อินสุลินที่ยังสูงค้างอยู่ 
 จะดึงน้ำตาลออกจากเลือดมาก
เซลล์สมองซึ่งอยู่ได้ด้วยพลังงานจากน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่
  เกิดขาดน้ำตาลเลยเกิดอาการเพลีย ง่วงเหงาหาวนอน
เราก็แก้ด้วยการหาขนมหวานทาน เพื่อเพิ่มน้ำตาล 
 เหล่านี้จะเป็นวงจรที่หมุนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดทุกวันทุกเดือน
ผ่านไปเป็นปีและหลายปี ใ
นที่สุดก็จะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน
  ไขมันในตับ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง
หรือทางการแพทย์เรียกว่า "กลุ่มอาการทางเมตาบอลิก"
(Metabolic syndrome)
 โดยเริ่มจากน้ำตาลมากเกิดภาวะต้านอินสุลิน
  แล้วลงเอยด้วยโรคดังที่กล่าวมา
  เลือกเอาว่าจะเอาโรคใดก่อน
แล้วโรคอื่นค่อยตามมาหรือมาพร้อมๆกัน


ได้อ่านบทความของคุณหมอแล้วท่านพร้อมแล้วหรือยัง
ที่จะตั้งอกตั้งใจลดน้ำหนักของตัวเอง
คุณหมอบอกว่าลดน้ำหนักสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ใจ....ก็จริง
 เราลองถามตัวเราเองดูก่อนว่าเราอยากได้โรคเป็นโปรโมชั่นหรือไม่
เพราะโรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากตัวเราเองทั้งสิ้น
 บางท่านก็ระมัดระวังในเรื่องการรับประทานอยู่มากเช่นตัวเราเป็นต้น
แต่ลืมไปว่าเรานั้นไม่มีความรู้ทางด้านแพทย์ศาสตร์เลย
  นอกจากจะคิดเองเออเองแล้ว ยังใจง่ายหลงเชื่อคนอื่นบอกอีก
ตามที่ได้ติดตามอ่านหนังสือของคุณหมอมาหลายเล่ม
 ทำให้เรารู้ว่านอกจากเราจะโง่ซ้ำซากแล้ว
ยังอวดฉลาดอีกด้วย เหอๆๆๆ
ก็ร่างกายของเรานั้นเราก็มองเห็นแต่เพียงภายนอก 
 ตับ ไต ใส้พุงไม่เคยเห็น นอกจากในรูปถ่ายเท่านั้น
แล้วสิ่งเหล่านี้ที่เขาสิงสถิตย์อยู่ในร่างเรานั้น
เราก็ไม่รู้ว่าเขาสนุกสนานกันอย่างไรบ้าง
 รู้แต่เพียงคร่าวๆว่าเธอมีหน้าที่อะไรบ้างก็เท่านั้น
แต่พวกคุณหมอทั้งหลายนั้นเธอได้มุ่งเน้นเรียนรู้ของจริงๆมากัน
 แถมยังสนใจศึกษาเจาะลึกเข้าไปอีกด้วย
เมื่อท่านได้ศึกษาและได้รู้มาอย่างถ่องแท้แน่นอนแล้ว
ท่านก็นำมาเล่าสู่กันฟัง
  เมื่อเราได้ฟังจึงทำให้เราได้รู้และระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น
แต่ก็เกือบจะสายไปแล้วละ เพราะกว่าจะรู้ว่าโรคเหล่านี้เขารักเรามาก
 เราก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดดีนะเนี่ยะที่เราตัดสินใจบอกเลิกกับเธอ
แล้วหันมานัดบอดกับคุณหมอใจดีแทน แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่ยอมแพ้
แต่ที่แน่ๆเรามีกำลังใจดีมาก เพราะคุณหมอแสนดีได้ตัดสินใจอยู่ข้างเรา
และร่วมแรงร่วมใจกันทำลายเธอทิ้งอยู่น่ะ
ไชโย.....ขอให้เราโชคดี ชนะโรคร้ายโดยเด็ดขาด
และกำจัดเธอให้พ้นไปจากชีวิตนี้เร็วพลัน............ฮ่าๆๆๆๆๆ


วันนี้ปลุกปล้ำเขียนได้แค่นี้แหละค่ะ ความแก่ไม่เคยปรานีใคร
 จะสู้เขียนต่อเธอก็ล้าซะแล้ว ขอให้ทุกท่านโชคดีนะคะพรุ่งนี้จะเล่าต่อค่ะ









Create Date : 30 เมษายน 2555
Last Update : 7 สิงหาคม 2557 15:10:36 น.
Counter : 1034 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ