Group Blog
All Blog
|
<<< นาทีชีวิต กับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ >>>
นาทีชีวิต กับการใช้ชีวิต
ร่างของเขาล้มฟุบลงทันที แต่ก่อนสติจะดับวูบ เขาก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยโทรศัพท์ พอจับใจความได้ว่า... ตัวเขาคง ไม่รอด!! หมอสามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้ และแม้จะต้องนอนอยู่ในห้องไอซียูนานนับเดือน ต้องทำการผ่าตัดสมองถึง 6 ครั้ง แต่ช่วงนาทีที่เส้นแบ่งระหว่าง ความเป็นและความตายอยู่ใกล้กัน แค่ชั่วพริบตานี่เองที่ทำให้ ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน ตระหนักว่า ชีวิตนี้สั้นนัก และเขาขอใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำความดี เพื่อช่วยเหลือผู้คน ทดแทนคุณแผ่นดิน บริการแก่ผู้ป่วยที่ยากไร้โดย ไม่คิดค่าใช้จ่าย ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) และ บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด ผมก็ได้ยินเสียงคนคุยโทรศัพท์ว่าผมถูกยิง ปลาย สายคงถามว่า ผมเป็นยังไงบ้าง ทางนี้บอกเลยว่า คิดว่าอาจจะไม่เกินครึ่งชั่วโมง แต่หลังจากนั้นผมต้องนอนอยู่ห้องไอซียู 45 วัน เข้ารับการผ่าตัดที่ศีรษะถึง 6 ครั้ง ผมคิดว่ามันคงเป็นเวรกรรม คือมีอยู่วันหนึ่งช่วงที่ผมอยู่ระหว่าง การฟื้นฟู พยาบาลพาเดินออกไปทำกายภาพบำบัด ตอนขาไปผมยกมือไหว้อาม่าเตียงข้างๆ แต่พอกลับเข้ามาปรากฏว่าอาม่าเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้เราเห็นว่า ชีวิตของมนุษย์มันนิดเดียวเอง เราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ..เมื่อไรจะถึงเตียงเรา ก็เลยเริ่มตระหนักว่า เงินไม่สามารถซื้อชีวิตคนได้ ผมเลยคิดว่าหลังจากรอดตาย ชีวิตที่เหลือจะลงไปช่วยพี่น้อง ประชาชนที่ยากไร้ในแผ่นดินนี้ ที่ทำให้เขาตั้งใจอุทิศตน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ ที่มีปัญหาด้านดวงตา ว่า มาจากการทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือตั้งแต่โตมาเราก็เห็นภาพพระองค์ท่าน เสด็จไปช่วยเหลือประชาชนที่ยากไร้ ในชนบทมาตลอด หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ซึ่งท่านพูดเสมอว่า ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน ทุกข์ของแผ่นดินคือทุกข์ของพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์ทรงเหนื่อยยากเพื่อพวกเรามามาก ช่วยเหลือคนที่เขาด้อยโอกาสเท่าที่เราจะทำได้ ซึ่งปณิธานตรงนี้ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมาว่า เราจะต้องเดินให้ได้ ต้องอดทน เพราะมีสิ่งสำคัญรอเราอยู่ และก็มาตกผลึกว่า จะเปิดศูนย์รักษาผู้ป่วยต้อกระจก เพราะบ้านเรามีคนที่เป็นโรคนี้เยอะ กับ นพ.วิทิต อรรณเวชกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้วในขณะนั้น ว่าเขาอยากจะเปิดศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก โดยไม่คิดค่ารักษา ซึ่งคุณหมอวิทิตย้ำว่า จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ที่สั่งสมทั้งชีวิตมาใช้ทำโครงการนี้ ด้วยมองว่า การช่วยให้คนคนหนึ่ง กลับมามอง เห็นได้เป็นปกติอีกครั้งนั้น เป็นสิ่งที่มิอาจประเมินค่าได้ จากต่างประเทศ และสั่งซื้อรถห้องผ่าตัดเคลื่อนที่ หลายสิบล้านบาท และโชคดีที่ได้รับความร่วมมือ จากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกทำการรักษาผู้ป่วย ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากมาย และภายหลังธานินทร์ได้เปิดเป็นศูนย์ ผ่าตัดผู้ป่วยต้อกระจกที่กรุงเทพฯ โดยใช้ชื่อว่าโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิท ซอย 24 ได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย โดยนอกจากจะรักษาฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีที่พัก และอาหารไว้บริการผู้ป่วย ที่มาจากต่างจังหวัด รวมทั้งแจกแว่นตา และเครื่องใช้จำเป็นให้ผู้ป่วย นำติดตัวกลับบ้านอีกด้วย ศูนย์แห่งนี้ยังให้บริการเชิงรุก โดยจัดรถผ่าตัดเคลื่อนที่ออกไปให้บริการ แก่ผู้ป่วยต้อกระจกในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างทั่วถึง เพราะธานินทร์ มองว่า ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนไม่น้อยที่อดมื้อกินมื้อ ไม่มีแม้กระทั่งค่ารถที่จะเดินมารับการรักษา หรือเป็นผู้สูงอายุที่ไม่ใครดูแล ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาผ่าตัด ที่ศูนย์ในกรุงเทพฯได้ จะกินให้ครบ 3 มื้อยังลำบาก หรือบางคนลูกหลานมาทำงานกรุงเทพฯ อยู่กันสองคนตายาย ไม่มีใครพามารักษา เราเลยต้องออกไปหาพวกเขา ก็ไปมาเกือบทั่วประเทศแล้ว ไปถึงเชียงราย ด้านที่ติดกับพม่า ไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปหมด โดยเราจัดรถไปรับผู้ป่วยเข้ามาผ่าตัด ที่ศูนย์ในกรุงเทพฯ มาถึงที่โรงพยาบาล เราก็จัดอาหารการกินให้ มีที่พักให้ฟรีหมด รักษาเสร็จ ตอนเช้าเปิดดวงตา แจกแว่นตา แจกเสื้อ แจกอะไรเสร็จ ให้เขารับประทานอาหาร แล้วก็เอารถกลับไปส่งถึงบ้านเลย พอเขาถอดรองเท้าเข้าบ้านปุ๊บ ถือว่าภารกิจของเราเสร็จ อีกหนึ่งอาทิตย์เรากลับไปตรวจอีกที แล้วอีกหนึ่งเดือนก็กลับไปตรวจซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าดวงตาเขาเป็นปกติจริงๆ ดูว่าจุดนั้นมีผู้ป่วยมากน้อยเพียงใด แล้วก็ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ ให้แจ้งกับชาวบ้านว่า เราจะลงไปรับผู้ป่วยวันไหน ก็ทำในพื้นที่เลย โดยเราจะประสาน กับโรงพยาบาลในพื้นที่ ขอใช้สถานที่ เพื่อทำการผ่าตัด ซึ่งแพทย์ส่วนหนึ่ง ก็จะเป็นทีมของเราที่ไปจากกรุงเทพฯ อีกส่วนก็จะเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลในพื้นที่ หรือในจังหวัดใกล้เคียง แต่เครื่องไม้เครื่องมือเรามีพร้อมอยู่แล้ว การดำเนินรอยตามพระราชดำริ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา จะเห็นว่า พระองค์ไม่ได้รอให้พสกนิกร ที่เดือดร้อนเดินทางมาหาพระองค์นะ แต่พระองค์เสด็จออกไปหาประชาชน พระองค์เป็นถึงพระเจ้าแผ่นดิน แล้วเราเป็นใครล่ะ ธานินทร์เล่าถึงการช่วยเหลือผู้ป่วย ที่ได้ทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่เป็นต้อกระจกแต่ละราย ต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่ต่ำกว่ารายละ 5,000-6,000 บาท ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้มีค่าใช้จ่าย เฉพาะในส่วนของการรักษาสูงถึงปีละ 60 ล้านบาท ทำให้หลายคนสงสัยว่า อะไรที่ทำให้นักธุรกิจหนุ่มอย่างธานินทร์ ทุ่มเทเงินทองมหาศาลเพื่อทำโครงการนี้ เขายังทุ่มเททั้งแรงกายและเวลา ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้อย่างเต็มที่ ชนิดที่เรียกได้ว่า งานที่โรงพยาลบาลบ้านแพ้วเป็นงานหลัก ส่วนการทำธุรกิจส่งออกเป็นงานรอง ทุกคนมักจะถามว่า คุณเอาเงินมาจากไหน ผมอยากบอกว่า เงินที่ผมได้มานั้นไม่ใช่ของผม ไม่ใช่ของใคร แต่เป็นเงินของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เพราะแบงก์ทุกใบ มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน โอโห...ทุกวันนี้ผมดีใจมากที่ได้อยู่ในแผ่นดินนี้ ผมดีใจมากที่ได้กินข้าวจากแผ่นดินนี้ ผมต้องกตัญญูต่อชาวนาที่ปลูกข้าวให้ผมกิน การที่ผมพาทีมแพทย์ออกไป รักษาดวงตา ให้กับประชาชนในชนบทนั้น มันเท่ากับแค่เสี้ยวของบุญคุณที่เขามีต่อผม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเสียเงินเสียทองไปเท่าไร ในการช่วยเหลือคนจนในแผ่นดินนี้ ผมไม่เคยเสียดาย วันนี้ผมพอแล้วกับทรัพย์สินเงินทอง มันปลื้มนะเวลาที่เราสามารถช่วยให้คนที่ดวง ตามืดมัว กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านดีใจมาก ท่านบอกว่ารอมา 6 ปีแล้ว ได้แต่อุ้มหลาน แต่ไม่เคยเห็นหน้า วันนี้ได้เห็นหลานแล้ว... จนไม่สามารถตราลงในเอกสารใดๆได้ ผมไม่ได้ต้องการชื่อเสียงหรือคะแนนนิยมอะไร เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง ผมไม่ได้อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ผมอยู่ในสภาประชาชน ผมเป็นคนที่อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาท ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นทุกวันและทุกวินาที ผมจะทำความดีเพื่อแผ่นดิน ธานินทร์กล่าวด้วยประกายตาแห่งความปลื้มปีติ ที่รักและเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันเป็นอย่างมาก เมื่อก้าวเข้าไปในสำนักงานของเขา จะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของแต่ละพระองค์ เรียงรายอยู่บนฝาผนัง ซึ่งเป็นถนนของเขาเอง จาก ถนนพระพรหมพานิช เป็น ถนนเรารักในหลวง เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย เพราะผมอยากให้ทุกคนตระหนักว่า แผ่นดินนี้เป็นของพระเจ้าแผ่นดิน พระเมตตาของพระองค์ ทำให้คนไทยอยู่ เย็นเป็นสุข จะเห็นว่า ประเทศไทยมีคน หลายเชื้อชาติ หลายศาสนา แต่ในหลวงของเรา ดูแลพสกนิกรของพระองค์ท่าน เท่าเทียมกันหมด ไม่แยกสีไม่มีเหล่า แต่เรามีพระเจ้าองค์เดียวกันคือ พระเจ้าแผ่นดิน เป็นพระเจ้าที่เราเห็นได้ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเป็น พระเจ้า ที่ลงมาช่วยเหลือประชาชน โดยที่เราไม่ต้องอธิษฐานหรืออ้อนวอนร้องขอ สิ่งเดียวที่เราจะตอบแทนพระองค์ได้ก็คือ การช่วยแบ่ง เบาภาระของพระองค์ท่าน ในการช่วยเหลือ คนไทยที่ยังลำบากยากจน และด้อยโอกาส ธานินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น ติดต่อไปยังโรงพยาบาลบ้านแพ้ว หรือบริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด อาคารพระมหากรุณาธิคุณ เลขที่ 98 ซอยสุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110 สอบถามรายระเอียด โทร.0-2262-9454-5,0-2261-8213-7 เวลาทำการจันทร์-วันศุกร์ 08.00-17.00 น.
..........................
มีนาคม 2555 โดย วิบูลย์ สุขใจ) ### เพราะถุงศพไม่มีกระเป๋าใส่เงิน ###
: แต่สิ่งที่เขาทำ มหาเศรษฐีของโลกยังต้องเอาอย่าง Bill Gates และ Warren Buffett ได้รับอิทธิพลจากเขาเช่นเดียวกัน : ชายชราวัย76 ปี เช่าบ้านอาศัยอยู่ ในเมืองซานฟรานซิสโกกับภรรยา เขาไม่เคยสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนม ใช้แว่นตาเก่าๆ ใส่นาฬิกาธรรมดา เขาไม่ชอบทานอาหารหรู ที่เขาชอบที่สุดคือ แซนวิชชีสย่างมะเขือเทศที่ราคาไม่แพง เขาไม่มีรถขับ มักใช้บริการรถโดยสาร กระเป๋าที่เขาใช้ก็เป็นกระเป๋าผ้าถูกๆ ยากจนไม่พอ แต่ยังมัธยัทมาก! เขาจะตรวจสอบบิลอย่างละเอียด หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านของเขา ก่อนที่จะเข้านอน เขาจะเตือนให้คุณปิดไฟอย่างแน่นอน ก่อนเขาอายุ 76 เขาได้ทำอะไรมาบ้าง? ให้มหาวิทยาลัยคอเนล ให้มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ให้มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ต เพื่อปรับปรุงมหาวิทยาลัยอีก 7 แห่ง และอีก 2 แห่งในไอร์แลนด์เหนือ สำหรับเด็กปากแหว่ง ในประเทศที่กำลังพัฒนา และยังมีอีก 4,000,000,000 เหรียญสหรัฐ รอที่จะบริาค เขารักการหาเงิน แต่จะใช้เงินอย่างประหยัดมาก ก่อนปี 2016 เขาจะบริจาคเงินที่เหลือให้หมด เพื่อจะได้ตายตาหลับ ขณะนี้เงินที่เหลืออยู่ ได้กระจายไปทั่วโลกให้พื้นที่จำเป็น ในอัตรา 400,000,000 เหรียญสหรัฐ ต่อปี
"ในขณะที่มีความสุขกับชีวิต ให้แบ่งปันความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วย" ผู้สื่อข่าวจำนวนมากเดินทางมาถึงบ้านของเขา ทุกคนล้วนแปลกใจ และถามว่า "Chuck Feeney มีทรัพย์สินมากมาย ทำไมถึงไม่ไปมีชีวิตที่สวยหรู..." Chuck Feeney ยิ้มและบอกเล่าเรื่องราว: อยากจะเข้าไปในไร่ เพื่อกินองุ่นให้เต็มที่ แต่มันอ้วนเกินไป เลยมุดผ่านรั้วไปไม่ได้ และแล้วตัวมันก็ผอมลง และมุดผ่านรั้วไปได้! กลับออกไม่ได้ ทำอย่างไรก็ไม่ได้ เมื่อไม่มีทางเลือก มันเลยต้องอดน้ำอดอาหาร อีกสามวันสามคืน ก็เหมือนกับตอนที่มันเข้าไป" ทุกคนเกิดมากับความว่างเปล่า ในที่สุดก็ จากไปมือเปล่า ไม่มีใครสามารถนำความมั่งคั่งกลับไปได้ " เขาช่างเป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ สิ่งที่เขาได้มา ได้ส่งคืนกลับไปสู่สังคมทั้งหมด มันทำให้มีความสุขมากกว่า.
Giving While Living //www.atlanticphilanthropies.org/history-and-founder ### พระอาจารย์บัณฑิตสุปัณฑิโต ###
เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธานี เนื่องจากถูกคนร้อยลอบยิงในขณะบิณฑบาตร เมื่อเช้าวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ท่านเป็นผู้ที่ใฝ่ใจในการศึกษาเล่าเรียนมาแต่เล็ก การเล่าเรียนทางโลก ท่านเข้าเรียนมัธยมต้นที่ โรงเรียนสวนกุหลาบ และมัธยมปลายที่ โรงเรียนเตรียมอุดม จากนั้นท่านสอบเข้า คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ จากนั้นท่านได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี มีศรัทธาในองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จึงทำให้ท่านมีโอกาสใกล้ชิดกับหลวงตาท่านมาแต่เด็ก ต่อมาวันหนึ่งบิดาของท่านตั้งใจจะให้ลูกได้บวชเณร อยู่กับองค์พระหลวงตามหาบัว แต่ปรากฏว่าองค์หลวงตาไม่รับพร้อม ทั้งบอกว่าโน้นให้ไปโน้น ไปหาหลวงปู่เกล้า วัดถ้ำเกีย จ.อุดร เมื่อพ่อของท่านพาท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่เกล้า หลวงปู่เกล้าก็ทักท่านว่า อดีตชาติเป็นหลานของหลวงปู่มาก่อน ส่วนแม่ของท่านเคยเป็นลูกสาวขององค์หลวงปู่ และพ่อของท่านก็เคยเป็นลูกเขยมาแต่อดีตชาติ มีโอกาสเข้ากราบหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล แห่งวัดป่าสันติกาวาส จ.อุดรธานี คราวนั้นหลวงปู่บุญจันทร์กล่าวกับท่านว่า "ดูซิพ่อแม่ครูอาจารย์มีแต่ละสังขารลงไปทุกวัน น้อยลงไปทุกที ทางโลกสร้างเท่าไหร่ไม่จบ ให้มาสร้างทางธรรม ตบท้ายที่ว่าให้อาจารย์หมอมาออกบวชมาสร้างทางธรรมซะ" รู้สึกตื้นตันในหัวอกแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจที่จะออกบวช ท่านเล่าให้ผมฟังว่าจิตใจมันเหมือนมีหอกมาปักคาอกไว้ วันที่คิดปลงได้ว่า "เราจะบวช" เหมือนกับว่าหอกเล่มนั้นหลุดจากอก กับองค์หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี หลังจากที่บวชแล้วมีโอกาสเข้าศึกษาธรรม กับหลวงปู่บุญ จันทร์ กมโล, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ, หลวงปู่ลี กุสลธโร , พระอาจารย์อินทร์ถวาย เป็นต้น ในเช้าวันหนึ่งท่านได้เทศนาธรรมให้โยมมารดาของท่านฟัง โยมมารดาของท่านนึกว่าท่านธรรมแตก ถึงกับร้องห่มร้องไห้รีบโทรแจ้งพระอาจารย์อินทร์ถวาย เช้าวันนั้นพระอาจารย์อินทร์ถวายรีบมาโดยยังไม่ได้ฉันเช้า เพราะเป้นห่วงพระอาจารย์บัณฑิตเข้าไปสอบอารมณ์อยู่นาน พอพระอาจารย์อินทร์ถวายสอบอารมณ์เสร็จ ก็บอกกับโยมแม่ของพระอาจารย์ว่า ลูกโยมนะผ่านแล้วมีแต่โยมแหละที่ยังบ้าอยู่ ! มีโอกาสปรนนิบัติรับใช้ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งองค์หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป ท่านเป็นผู้ดูแลการสร้างพระธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ และยังเป็นผู้ดูแลโครงการหอผู้ป่วยวิกฤติ ของโรงพยาบาลอุดรธานีอีกด้วย ท่านได้ประพฤติพรหมจรรย์ได้อย่างเยี่ยมยอด เป็นครูบาอาจารย์ที่ดี เป็นผู้ที่มีเมตตา และให้คติเตือนใจแก่ทุกคนเสมอ ที่พยายามมากว้านซื้อที่ดินรอบบริเวณวัดท่าน เพื่อไปทำประโยชน์ แต่ชาวบ้านไม่ขาย และขอให้พระอาจารย์ท่านเป็นเสาหลัก ที่ไม่ให้นายทุนมารุกรานผืนที่ทำมาหากิน จนนายทุนถึงกับพยายามไม่ให้คนเข้าวัด เริ่มด้วยการโรยตะปูเรือใบ ทำให้รถที่จะเข้าวัดยางแตกมาแล้ว ถึงกับจ้างวานฆ่าเพียงเพื่อผลประโยชน์ที่ดินเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากเทียบกับบาปกรรมที่ต้องเสวยแล้วเทียบกันไม่ได้เลย
### สานฝันสู่วันใส เด็กๆควรอ่านนะจ๊ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ###
..Homeless to Harvard ~ ไม่มีเงินแม้แต่เพนนีเดียวในกระเป๋า แต่ด้วยหัวใจใฝ่ดี เธอสามารถเข้าไปเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ห้แก่วัยรุ่นผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก อาศัยอยู่กับพี่สาวและพ่อแม่ขี้ยา ในอพาร์ตเม้นท์สกปรกในย่านชุมชนแออัด เขตบร็องซ์ รัฐนิวยอร์ก ด้วยการตระเวนขออาหารตามร้านชำ ขณะที่พ่อและแม่เสพโคเคนอยู่กับบ้าน สำหรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ส่วนแม่ตายเพราะติดเชื้อเอดส์ กลางคีบแอบงีบหลับบนม้ายาวในสวนสาธารณะ สถานีรถไฟใต้ดิน หรือโชคดีก็ได้นอนโซฟาบ้านเพื่อน ร่างของแม่ถูกใส่ในโลงกระดานไม้อัด แม้แต่ป้ายหน้าหลุมศพก็เขียนด้วยปากกาเคมี เธอเริ่มครุ่นคิดถึงอนาคตของตัวเอง บางคนอาจใช้เป็นข้ออ้างที่จะเลือกทำชั่ว แต่ลิซ เมอร์เรย์ ใช้ความล้มเหลวของพ่อแม่ เป็นเครื่องเตือนใจ ถ้าเธอใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย อนาคตของเธอคงไม่ต่างจากผู้ให้กำเนิด เธอตั้งปณิธานว่าเธอจะต้องสร้างชีวิตที่ดีกว่าด้วยตัวเอง ซึ่งมองเห็นศักยภาพภายในตัวเธอ เขาใช้อุบายกระตุ้นพลังแห่งการเรียนรู้ ด้วยการมอบสารนุกรมเก่า ๆ ชุดหนึ่งให้เป็นของขวัญ อย่างสนใจทุกครั้งที่มีเวลา อยากรู้ว่า ตัวอักษรที่บรรยายใต้ภาพบอกอะไร มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สิ่งที่ได้พบเห็นสร้างแรงบันดาลใจ ให้ลิซอยากเรียนหนังสือ และตั้งความหวังว่า สักวันหนึ่งเธอจะต้องเข้ามายืน ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ได้ สมัครเข้าเป็นนักเรียนในโปรแกรมพิเศษ สำหรับผู้ด้อยโอกาส และบริหารเวลาอย่างเป็นระบบ เพราะต้องทำงานเลี้ยงชีพ พร้อมกับการลงวิชาเรียน เป็นสองเท่าของเพื่อนร่วมชั้น และอ่านไปด้วยขณะรับจ้างล้างจาน ลิซตระหนักดีว่าการศึกษาเท่านั้น ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิต ลิซสามารถสอบข้ามชั้นแบบก้าวกระโดด จนไล่ทันเพื่อนวัยเดียวกัน และอีกสองปีเธอจะจบไฮสกูลได้สำเร็จ พร้อมจะเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เธอเป็นนักเรียนที่ฉลาด และตั้งใจที่สุดเท่าที่เห็นมา เป็นความสามารถอันน่ามหัศจรรย์ แต่ไม่ใช่บัตรผ่านประตู สู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเงินออมที่เตรียมไว้เพื่อการศึกษา โอกาสที่คณะกรรมการ ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจะคัดเลือกเธอ เข้าเป็นนักศึกษาแทบจะเป็นศูนย์ ทุกแห่งที่ทำได้ หนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ส มีโครงการมอบทุนการศึกษา แก่เด็กยากจนที่เรียนดี จำกัดเพียงหกทุนเท่านั้น โดยส่งไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นความฝันที่สูงมากสำหรับเด็กข้างถนน เป็นโต๊ะเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย การชิงทุนการศึกษา นิวยอร์ก ไทม์ส ยิ่งยากเย็นแสนเข็ญ ต้องใช้ความมุ่งมั่นและกำลังใจแรงกล้า ที่จะฝ่าอุปสรรคของประโยคที่ว่า เรียนไปทำไม ยังไงก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จากเขต เดอะ บรองซ์, สถานีรถไฟ และสวนสาธารณะ แต่เธอไม่ทิ้งการเรียน เธอมองเห็นผู้หญิงถือกระเป๋ากุชชี ชาแนล เดินผ่านวัยรุ่นที่สวมเสื้อผ้าสกปรก เที่ยวขอเศษเหรียญ ความแตกต่างทางชนชั้นถ่างกว้างเหลือเกิน จะมีใครก้มลงมองเด็กจรจัดข้างถนนคนหนึ่ง ในฤดูหนาวสภาพแวดล้อมยิ่งทารุณ เมื่อป่าคอนกรีตปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ไม่ใช่สวรรค์สำหรับคนจรจัดแน่นอน ที่จะประสบความสำเร็จ เข้าฮาร์วาร์ด ได้เงินทุนจาก นิวยอร์ก ไทม์ส สิ่งที่ต้องการคือความศรัทธานิดหน่อย และการลงมือทำ เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องพักของเธอ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่ออายุสิบเก้า เด็กสาวจากกองขยะให้เข้าศึกษาต่อ ทางด้านจิตวิทยาคลินิก ยามนั่งในหอพักนักศึกษาวันนั้นว่า ความเปล่าเปลี่ยวเฆี่ยนตีฉันอย่างหนัก มันไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านที่ง่ายดายเลย เมื่อพ่อตายระหว่างที่เธอเรียนฮาร์วาร์ด ก่อนจากโลกไป พ่อทิ้งโน้ตให้เธอว่า พ่อทิ้งความฝันของพ่อไว้เบื้องหลังนานมาแล้ว แต่พ่อรู้ว่าความฝันเหล่านั้นปลอดภัยในมือลูกแล้ว ไปบรรยายตามแหล่งสลัม เพื่อให้เด็กวัยรุ่นได้เห็นตัวอย่างว่า แม้จะเป็นเด็กจรจัดไร้ที่พักพิง ไม่มีเงิน กินอาหารจากกองขยะ ทุกคนอาจมีชีวิตที่ดีได้ถ้าตั้งใจจริง ความสำเร็จเกิดจากการมีเป้าหมายชีวิตที่แน่นอน เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง บวกกับความอุตสาหะ เพราะเขามีบางอย่างเหนือคุณ มนุษย์ทุกคนมีเท่ากัน เพียงจะใช้สิ่งที่มี ให้เกิดประโยขน์เต็มร้อยหรือไม่ คุณต้องเชื่อว่าอนาคตอยู่ในกำมือของคุณ และคุณเป็นผู้กำหนดเอง เราทุกคนเชื่อมโยงกัน มันเป็นวงจร ผู้คนสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตผู้คน ความฝันที่ปราศจากการเกื้อหนุน ก็เหมือนเครื่องบินไร้ปีก ฉันอยากให้วิสัยทัศน์ของฉัน เป็นตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในโลก ต่อให้ชีวิตทนทุกข์ทรมานเพียงไร จงอย่าสิ้นหวัง สิ่งต่างๆ สามารถที่จะไม่เหมือนเดิมได้ ฉันเริ่มไขว่คว้าคุณค่าของบทเรียน ซึ่งฉันเรียนจากการอาศัยอยู่ตามข้างถนน เหตุผลที่ฉันกำลังยืนที่นี่ ต่อหน้าพวกคุณในวันนี้ ก็เพราะฉันเลือก ทางสายบน ซึ่งเป็นทางสายที่ทุกคนเลือกได้ บางคนสร้างจากชีวิตติดลบ และบางคนไม่ยอมสร้างอะไรเลย จากสิ่งที่มีมากมาย กับทางสายล่างอยู่ที่การมองเห็นคุณค่า ของชีวิตของตัวเองหรือไม่ ง่าย ๆ พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ที่ควรศรัทธาอันดับแรก...อยู่ในตัวคุณเอง ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Homeless to Harvard โดย สรจักร / winbookclub.com โดย วินทร์ เลียววาริณ ขอบคุณที่มา fb.จำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ### คนดีที่ทิ้งไว้แต่ความดีให้คนรุ่นหลังจดจำ ###
ครูขอโทษนะที่สมัยเรียน ครูตีเธอทุกวันเลย หลวงพ่อท่านชรามากจึงเดินช้า ก็ได้เวลาเรียนแล้ว แต่เขายังต้องเก็บข้าวไว้กินตอนเย็น ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรจะกิน ป่านนี้ผมเป็นโจรไปแล้ว ราวกับเป็นเด็กเหลือขอ มิใช่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง สมเพียร เอกสมญา
|
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |