Group Blog
All Blog
|
<<< "ธุดงค์ที่แท้จริง" >>>
และการที่พระเดินกันเป็นหมู่คณะ เกิดประโยชน์อย่างไรเพราะสมัยก่อน พ่อแม่ครูอาจารย์ก็เดินกันไม่กี่องค์และเดินในป่า นี่เราต้องเข้าใจความหมายก่อนว่าไม่ได้อยู่ที่เดิน เดินเป็นหมู่คณะหรืออะไร คำว่า ธุดงค์ คือ ข้อปฏิบัติพิเศษที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พระใช้ ถ้าต้องการที่จะเร่งการปฏิบัติ ให้ก้าวหน้ามากขึ้น มี ๑๓ ข้อ ธุดงควัตร ธุดงควัตรที่เกี่ยวกับการไปอยู่ป่า เดินธุดงค์ในป่าก็คือถ้าอยู่วัดแล้วมันมีภาระหน้าที่ มีคนเกี่ยวข้องอยู่เยอะ เวลาที่จะปฏิบัติมันน้อย ถ้าพระต้องการมีเวลาปฏิบัติ ท่านก็บอก เอ้า ไปอยู่ในป่า ไปปลีกวิเวกอยู่ในป่าคนเดียวหรือสองสามคน แต่ไปแล้วก็ให้ไปแยกกันอยู่ ไม่ให้ไปอยู่ที่เดียวกัน แต่เวลาไปอาจจะจิตยังไม่แข็ง อาจจะให้มีเพื่อนติดไปด้วยเป็นเพื่อนกัน แต่พอไปถึงในป่าแล้วไปถึงที่อยู่ที่เราจะปักหลักปฏิบัติ ก็ให้แยกอยู่กันคนละมุม อย่าอยู่ใกล้กัน อย่าเห็นหน้ากัน อันนี้คือหลักของธุดงค์ คือการอยู่ป่า เป็นธุดงควัตรข้อหนึ่งอยู่ป่าอยู่ตามโคนไม้ แต่วิธีจะไปนั้นจะไปแบบไหนก็แล้วแต่ จะเดินกันเป็นขบวนไป ประกาศให้มีการถ่ายทอดสด มีการถ่ายรูปถ่ายภาพส่งมาทางสื่อต่างๆ อันนั้นก็ไม่ใช่เป็นธุดงค์แล้ว อันนั้นเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์แล้ว เป็นการโฆษณา ท่านไปปลีกวิเวก ท่านไม่ต้องการให้คนรู้ เพราะคนรู้แล้วเดี๋ยวมันจะตามไปกัน เข้าใจไหม ยิ่งพระครูบาอาจารย์นี่ไปไหน ท่านจะไปปลีกวิเวกนี้ต้องหนีไป ไม่ใช่ประกาศให้ลูกศิษย์ลูกหารู้ว่า หลวงพ่อจะไปอยู่ที่นั่นที่นี่นะ อย่างหลวงปู่มั่นนี่ ท่านหนีไปอยู่คนเดียว ช่วงอายุ ๗๐ แล้ว ๖๐ แล้วนี่ ๖๐ ถึงอายุ ๗๐ นี่ ท่านต้องไปปลีกวิเวกอยู่ในป่าที่เชียงใหม่ แล้วท่านต้องคอยเปลี่ยนที่เพราะอยู่แล้ว เดี๋ยวพอคนรู้ตามมาหาท่าน ท่านก็ต้องเปลี่ยนที่ เดี๋ยวมีพระรู้ ญาติโยมรู้ก็ตามมา ตามมารบกวน ท่านก็ต้องเปลี่ยนที่ย้ายที่ไปเรื่อยๆ ไม่ให้ใครรู้ นี่คือการธุดงค์ที่แท้จริง เป้าหมายของการธุดงค์ก็คือต้องการไปปลีกวิเวก ไปอยู่ตามลำพังไม่ให้มีใครมารบกวนการปฏิบัติของตน. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต ..............................
สนทนาธรรมบนเขา <<< "กรวดน้ำด้วยปากลงดิน" >>>
คนที่เราอุทิศบุญให้จะได้เท่ากันไหมคะ ต้องออกมาจากใจต้องอุทิศด้วยใจ ต้องระลึกภายในใจว่า ข้าพเจ้าขออุทิศบุญส่วนนี้ ให้กับบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้าท่านกำลังรอรับส่วนบุญนี้อยู่ ก็ขอให้ท่านมารับไปเถิด ให้คิดในใจ เพราะบุญมันอยู่ในใจไม่ได้อยู่ในน้ำ ไม่ได้อยู่ที่ปาก ดังนั้นต้องให้ออกมาจากใจ เวลาเราทำบุญแล้ว ใจเรามีความสุข ตอนนั้นเราควรที่จะอุทิศความสุขนั้น ให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว ความสุขความอิ่มใจ คือสิ่งที่เขาต้องการ เพราะตอนนี้ใจเขาหิวใจเขาโหย ไม่มีความสุข พอเราแบ่งความสุขใจอิ่มใจให้กับเขา ความหิวโหยของใจเขาก็หายไป. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต ..................................
ธรรมะบนเขา <<< "หยุดโกรธได้ถ้าไม่อยาก" >>>
พยายามต่อสู้กับความโกรธ ต่อสู้กับตัวเอง เห็นอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม พยายามหาเหตุผลที่จะคุยกับจิตตัวเอง แต่ก็เอาไม่อยู่ ไม่ดับเจ้าค่ะ ท่านพระอาจารย์มีวิธีไหนบ้างคะ ใช้พุทโธ อย่าไปคิดถึงเรื่องที่ทำให้เราโกรธ พุทโธๆไป หรือสวดมนต์ไป หรือหลบมุมไปอยู่มุมไหนอยู่ห่างไกลจากเหตุการณ์ อย่าไปอยู่อย่าไปเห็นสิ่งที่ทำให้เราโกรธ คนที่เราโกรธ ถ้าไปแล้วยังโกรธอยู่ ก็ต้องใช้พุทโธๆ ท่องไปอย่าให้ไปคิดถึงคนที่เราโกรธเรื่องที่เราโกรธ เดี๋ยวสักพักเราก็ลืม แล้วความโกรธก็จะหายไป อันนี้วิธีหนึ่ง ก็คือดึงใจดึงกายออกจากเหตุการณ์นั้น ดึงกายก็ย้ายสถานที่ ดึงใจก็ให้อยู่กับพุทโธ อย่าให้ไปอยู่กับเรื่องที่ทำให้เราโกรธ อันนี้ก็จะแก้ได้ชั่วคราว พอเรากลับไปคิดถึงใหม่ก็โกรธขึ้นมาอีก อะไรทำให้เราโกรธ เราโกรธเขาเพราะอะไร เพราะเราอยากให้เขาทำอะไรให้เราใช่ไหม บอกให้เขาไปช่วยเอาอันนั้นให้หน่อย พอเขาไม่ไปเอาให้เรา เราก็โกรธ เราก็อย่าไปอยากสิ เราก็อย่าไปใช้เขาสิ ต่อไปก็อย่าไปอยากได้อะไรจากเขา แล้วเราก็จะไม่โกรธเขา เขาจะทำอะไรเราก็จะไม่โกรธ เห็นไหมคนที่เราไม่รู้จัก เราไปโกรธเขาไหม เพราะเราไม่ได้ไปอยากได้อะไรจากเขา แต่คนที่ใกล้ตัวเรานี้ เรามักจะโกรธเขาเรื่อย นี่อะไรที่อยู่ใกล้ตัวเรามักจะโดนเรื่อย เพราะเรามักอยากจะให้เขาทำโน่นทำนี่ให้กับเรา พอเขาไม่ทำให้เรา เราก็โกรธเขา ก็อย่าไปอยาก ปัญหาของความโกรธก็เกิดจากความอยาก ความอยากก็เกิดจากการไม่มีความสุขในตัวเอง ก็ต้องกลับมาทำสมาธิ ทำใจให้สงบ พอใจมีความสงบ มีความสุขแล้ว ก็จะไม่ไปอยากให้ใครเขาทำอะไรให้เรา. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต ............................
สนทนาธรรมบนเขา <<< " ไม่สร้างกรรมต่อ" >>>
มีใครมาทำร้ายให้หลีกหนีห่าง ไม่ตอบโต้ เพราะจะไปสร้างกรรมต่อ แต่ถ้ายังตามมาทำร้ายอีก ไม่หยุด จนได้รับผลเสียหาย อย่างนี้ผู้ถูกกระทำ อาจเจ็บทั้งกายและใจ แล้วอย่างนี้จะแก้ไขอย่างไรครับ แต่เจ็บทางใจนี้แก้ได้ ถ้ายอมให้เขาทำมันก็จะไม่เจ็บทางใจ ถ้าเราคิดว่าเป็นการใช้หนี้ เป็นกรรมเก่า ที่เราไปทำเอาไว้ แล้วกรรมมันตอบสนองมา ก็ยอมรับกรรมไป มันก็จะเจ็บทางกาย แต่ทางใจจะไม่เจ็บ เพราะมันดีใจว่า เออ กรรมจะได้หมดซะที กลับโล่งอกเสียอีก พอยอมรับโทษแล้วมันโล่งอก ใครลองทำอะไรผิดแล้วพอยอมรับผิดดูซิ ใจเบาขึ้นมาเลย เอาวะ ยอมติดคุกก็ยอมวะ ยอมโดนด่าก็ยอมวะ พอยอมปั๊บนี่มันก็เย็นเลย ยอม หยุด เย็น นะ ผลกรรมของเรา จะทำกรรมอันใดไว้ ดีหรือชั่ว จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ถ้าพยายามหนีมัน ก็ยิ่งทุกข์ใหญ่ อย่างพระโมคคัลลานะนี้ท่านเป็นถึงพระอรหันต์ มีคุณวิเศษมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ ท่านบอกว่าถึงแม้จะใช้สิ่งเหล่านี้มาช่วยให้หนีกรรม มันก็หนีไม่พ้น หนีได้วันนี้ พรุ่งนี้มันก็ตามเราใหม่ ท่านก็เลยยอมตาย ท่านก็เลยถูกเขาฆ่าตายเลย ตามประวัติ แต่ใจท่านไม่หวั่นไหวแล้ว เพราะใจท่านหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงแล้ว แต่ร่างกายนี้มันยังต้องใช้กรรมของมันอยู่ ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ พระพุทธเจ้าก็ต้องใช้กรรม มีเทวทัตมาพยายามฆ่าถึง ๓ ครั้ง แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่ตอบโต้ หลบได้ก็หลบ หลีกได้ก็หลีก หลบไม่ได้หลีกไม่ได้ ก็เผชิญกับมันไป. พระอาจารย์สุขาติ อภิชาโต .............................
สนทนาธรรมบนเขา <<< " จิตไม่นิ่ง " >>>
จุกจิกกับทุกเรื่อง ทุกคนรอบข้าง ฟังเทศน์แล้วจิตไม่นิ่ง วุ่นวายไม่สงบ ไม่พุทโธเลยครับ รับสภาพความเป็นจริงได้ยาก ฟังเทศน์พระอาจารย์ตั้งแต่ตื่นนอน จนก่อนนอนกลางคืน บ่ายสองออนแอร์ นอกนั้นฟังข่าวทางโทรทัศน์ จิตจึงไม่สงบ เรื่องทางโลกมันกวนจิตกวนใจ พยายามระงับ อย่าไปหาเรื่องทางโลกมาสร้างความวุ่นวายใจ ถ้าไม่ได้ฟังธรรม ก็หัดพุทโธไปก็ได้ สวดมนต์ไปก็ได้ สติเรายังมีกำลังน้อยอยู่ มันก็เลยยังไม่สามารถควบคุมความรำคาญใจได้ ดังนั้น จึงต้องหมั่นฝึกสติพุทโธๆให้มากขึ้น หยุดความคิดหยุดความอยากให้น้อยลงไป แล้วเดี๋ยวมันก็จะมีความสงบมากขึ้นเอง. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
........................
ธรรมะบนเขา |
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |