"สภาพของจิต"
ถาม : กราบพระอาจารย์
ช่วยกรุณาอธิบายเพิ่มเติม
ทำไมทำบาปด้วยความกลัว
แล้วชาติหน้าจะเกิดเป็นอสุรกายครับ
พระอาจารย์ : ก็ มันก็เป็นผล
เหมือนกับปลูกมะม่วง
และปลูกมะม่วงแล้วมันจะได้อะไร
มันจะได้กล้วยหรือเปล่า
ปลูกมะม่วงก็ได้มะม่วงนะสิ
ทำบาปมันก็ไปเป็นดวงวิญญาณที่ขี้กลัวไง
ดวงวิญญาณที่ขี้กลัวเขาก็เรียกว่า
เป็นชื่ออสุรกายนั่นเอง
ดวงวิญญาณที่ขี้โลภ ก็เรียกว่าเปรต
อย่างพวกที่ทำบาปด้วยความโลภ
มันก็ติดนิสัยโลภไป
กินเท่าไหร่ได้มาเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มไม่พอ
เขาถึงเปรียบเทียบเปรต
เหมือนกับตัวใหญ่ท้องใหญ่เท่าตุ่ม
แต่ปากเท่ารูเข็ม ก็เป็นเพราะมันกินน้อย
มันกินเท่าไหร่มันก็ไม่เต็มเสียที
แต่ความจริงมันกินเยอะแยะ
ได้มาเยอะแยะแต่ท้องมันใหญ่
เติมเข้าไปเท่าไหร่มันก็ไม่อิ่มเสียที
นี่ก็ลักษณะของใจที่เป็นเปรต
คือได้มาเท่าไหร่ก็ไม่มีวันอิ่ม ไม่มีวันพอ
เพราะโลภยังอยากได้อยู่เรื่อยๆ
กระเป๋าถึงเต็มบ้านรองเท้าถึงเต็มบ้าน
แต่ถ้าหามาโดยไม่ได้ทำบาปก็ไม่เป็นเปรต
เป็นมนุษย์ แต่ถ้าไปขโมยเงินเขาไปซื้อ
นี่มันจะเป็นเปรต เพราะมันจะติดนิสัย
เห็นกระเป๋าอยากได้ ก็ไปขโมยเงินมาซื้ออีก
อันนี้ก็ทำให้เป็นเปรต
ฉะนั้นคำว่าอสุรกาย มันเป็นเพียงแต่ชื่อ
ที่แสดงบ่งถึงสภาพจิตของจิตดวงนั้นว่า
เป็นจิตที่ทำบาปด้วยความกลัว กลัวไปหมด
เห็นอะไรก็กลัวไปหมด กลัวโน่นกลัวนี่
กลัวมดกลัวแมลง กลัวอะไร กลัวไปหมด
เพราะว่าจิตนั้นไม่มีความสุข
ไอ้โลภก็เหมือนกัน โลภอยู่ตลอดเวลา
มันก็ไม่มีความสุข แล้วไอ้โกรธเกลียดตลอดเวลา
มันก็ไม่มีความสุข นี่เราโกรธใครเกลียดใคร
เคียดแค้นอาฆาตพยาบาท จองเวรจองกรรมนี่
ใจมันร้อนนะ นั่นแหละนรก
เขาถึงเรียกว่านรก คำชื่อเหล่านี้
มันเพียงแต่เป็นชื่อที่เราปะไว้จะได้พูดถึงว่า
สภาพจิตแบบนี้ชื่ออะไร เรียกว่ายังไง
สภาพจิตที่ร้อนด้วยความโลภโกรธเกลียดหลงนี้
เรียกว่าเป็นนรก สภาพจิตที่ร้อนหรือทุกข์
ด้วยความกลัวเรียกว่าอสุรกาย
สภาพจิตที่ทุกข์ด้วยความหิว
ด้วยความโลภก็เรียกว่าเปรต
สภาพจิตที่ร้อนเพราะความหลง
ก็เรียกว่าเดรัจฉาน นี่เท่านั้นแหละ.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
..........................
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb.. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ