Group Blog
All Blog
<<< “ สงบนิดหน่อย” >>>










“ สงบนิดหน่อย”

ถาม : นั่งสมาธิได้สักพัก รู้สึกจิตนิ่ง

 แต่เคยเรียนถามท่านแล้ว ท่านบอกว่าจิตที่นิ่งสงบ

อาจจะเป็นเพราะเราหลับ แต่ครั้งนี้พยายามรู้ตัว

 และสำรวจว่าความนิ่งและสงบนี้เป็นความง่วงหรือเปล่า

 จิตก็ยังนิ่งสงบดังเดิม อย่างนี้เรียกว่าจิตรวมแล้ว

ใช่ไหมเจ้าคะเพราะไม่ได้ง่วงรู้ตัวตลอดเวลา

พระอาจารย์ : ก็อาจจะรวมนิดหน่อย

 ถ้ารวมมากๆนี้ มันจะมหัศจรรย์ใจ

 มันเหมือนกับได้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง

 มันจะมีความรู้สึกที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลย

 ถึงจะเรียกว่ารวมจริงๆ

 ถ้าอย่างนี้มันเพียงแต่สงบนิดๆหน่อยๆ

 เพียงแต่เข้าไปนิดหนึ่ง ยังเข้าไปไม่เต็มร้อย

ถ้าเข้าไปเต็มร้อยแล้วมันจะมหัศจรรย์ใจ

มันจะตื่นตาตื่นใจ มันจะร้อง โอ๋ เป็นอย่างนี้นี่เหรอ

 ความสงบเป็นอย่างนี้เหรอ

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

..........................

สนทนาธรรม

วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 29 กันยายน 2560
Last Update : 29 กันยายน 2560 11:17:15 น.
Counter : 425 Pageviews.

0 comment
<<< “หยุดโกรธได้ถ้าไม่อยาก” >>>










“หยุดโกรธได้ถ้าไม่อยาก”

ถาม : ถ้ามีความโกรธเกิดขึ้น เห็นอยู่ว่ามันอยู่ในจิต

 พยายามต่อสู้กับความโกรธ ต่อสู้กับตัวเอง

 เห็นอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม พยามหาเหตุผล

ที่จะคุยกับจิตตัวเอง แต่ก็เอาไม่อยู่ ไม่ดับเจ้าค่ะ

 ท่านพระอาจารย์มีวิธีไหนบ้างคะ

พระอาจารย์ : ก็มีสองวิธี วิธีที่ง่ายก็คือใช้สติ ใช้พุทโธ

อย่าไปคิดถึงเรื่องที่ทำให้เราโกรธ

พุทโธ พุทโธไปหรือสวดมนต์ไป

หรือหลบมุมไปอยู่มุมไหนอยู่ห่างไกลจากเหตุการณ์

อย่าไปอยู่อย่าไปเห็นสิ่งที่ทำให้เราโกรธคนที่เราโกรธ

ถ้าไปแล้วยังโกรธอยู่ ก็ต้องใช้พุทโธพุทโธ

 ท่องไปอย่าให้ไปคิดถึงคนที่เราโกรธเรื่องที่เราโกรธ

 เดี๋ยวสักพักเราก็ลืม แล้วความโกรธก็จะหายไป

 อันนี้วิธีหนึ่งก็คือดึงใจดึงกายออกจากเหตุการณ์นั้น

 ดึงกายก็ย้ายสถานที่ ดึงใจก็ให้อยู่กับพุทโธ

 อย่าให้ไปอยู่กับเรื่องที่ทำให้เราโกรธ

อันนี้ก็จะแก้ได้ชั่วคราว

พอเรากลับไปคิดถึงใหม่ก็โกรธขึ้นมาอีก

วิธีที่จะแก้อย่างถาวรก็ไปแก้ที่ต้นเหตุของความโกรธ

 อะไรทำให้เราโกรธ เราโกรธเขาเพราะอะไร

 เพราะเราอยากให้เขาทำอะไรให้เราใช่ไหม

 บอกให้เขาไปช่วยเอาอันนั้นให้หน่อย

พอเขาไม่ไปเอาให้เรา เราก็โกรธ

เราก็อย่าไปอยากสิ เราก็อย่าไปใช้เขาสิ

ต่อไปก็อย่าไปอยากได้อะไรจากเขา

แล้วเราก็จะไม่โกรธเขา เขาจะทำอะไรเราก็จะไม่โกรธ

 เห็นไหมคนที่เราไม่รู้จัก เราไปโกรธเขาไหม

 เพราะเราไม่ได้ไปอยากได้อะไรจากเขา

 แต่คนที่ใกล้ตัวเรานี้ เรามักจะโกรธเขาเรื่อย

นี่อะไรที่อยู่ใกล้ตัวเรามักจะโดนเรื่อย

 เพราะเรามักอยากจะให้เขาทำโน่นทำนี่ให้กับเรา

 พอเขาไม่ทำให้เรา เราก็โกรธเขา ก็อย่าไปอยาก

 ปัญหาของความโกรธก็เกิดจากความอยาก

ความอยากก็เกิดจากการไม่มีความสุขในตัวเอง

 ก็ต้องกลับมาทำสมาธิ ทำใจให้สงบ

พอใจมีความสงบ มีความสุขแล้ว

ก็จะไม่ไปอยากให้ใครเขาทำอะไรให้เรา.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.............................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 29 กันยายน 2560
Last Update : 29 กันยายน 2560 11:03:05 น.
Counter : 452 Pageviews.

0 comment
<<< “สอนให้เห็นความจริง” >>>










“สอนให้เห็นความจริง”

ถาม : นิพพานไม่เกิดไม่ดับอยู่แล้ว

 ไม่ใช่ธรรมชนิดไหน ไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา

นิพพานมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเปล่าครับ

พระอาจารย์ : นิพพานก็คือใจที่บริสุทธิ์เนี่ย

 ใจที่สกปรกหลังจากที่เราชำระด้วยศีลสมาธิปัญญา

มันก็เป็นใจที่สะอาด มันก็เรียกว่านิพพาน

 เหมือนเสื้อผ้าที่สกปรกเราเอาไปซัก

เราก็เรียกว่าสกปรก เสื้อผ้าที่สกปรกพอเราซักเสร็จแล้ว

มันสะอาดแล้ว เราก็เรียกว่าผ้าสะอาด

 เท่านั้นเองมันก็เป็นผ้าผืนเดียวกันเนี่ยแหละ

 นิพพานก็ใจอันเดียวกันแหละ

ใจที่สกปรกด้วยความโลภโกรธหลง

 พอชำระด้วยศีลสมาธิปัญญามันก็สะอาด

 เราก็เรียกว่านิพพานเท่านั้นเอง

ไม่ใช่เป็นของลึกลับอะไรเลย ของตรงไปตรงมา

ถาม : และตัวของตัวปฏิบัติอนัตตาธรรม เพื่ออะไรครับ

พระอาจารย์ : เพื่อจะได้ปล่อยวางของที่เราไปยึดไง

 ของที่เราไปยึดนี่เราไปคิดว่าเป็นของเรา

 แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นของเรา

 ไม่มีอะไรเป็นของเรา

 มันเป็นของดินน้ำลมไฟทั้งนั้นแหละ

 ของทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้

เจ้าของที่แท้จริงก็คือดินน้ำลมไฟ

 เรายืมเขามา เวลากินข้าวเราก็ยืมดินเข้ามา

 ดื่มน้ำก็ยืมน้ำเข้ามา ลมก็หายใจเข้ามาก็ยืมลมเข้ามา

 พอดินน้ำลมมาผสมกัน

มันก็เกิดเป็นไฟขึ้นมา ความร้อนขึ้นมา

แล้วก็เกิดเป็นอาการ ๓๒ ขึ้นมาเท่านั้นเอง

 แล้วเดี๋ยวพอมันหยุดทำงานหยุดหายใจ

ลมก็ไม่เข้าน้ำก็ไม่เข้า ทีนี้มันมีแต่จะออกล่ะ

เดี๋ยวน้ำก็จะออกลมก็ออกไฟก็ออกไป

เดี๋ยวทิ้งไว้ร่างกายก็เหลือเป็นดินไป

 เนี่ยทุกอย่างเป็นดินน้ำลมไฟ

 ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา

ที่ให้สอนจะได้เห็นความจริง

 ความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่ใช่ของเรา

แล้วก็ไม่เที่ยง มันเกิดแล้วก็ดับ

 มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 ร่างกายเราานี้เปลี่ยนแปลงทุกวินาที.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.............................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๐






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 29 กันยายน 2560
Last Update : 29 กันยายน 2560 10:39:01 น.
Counter : 537 Pageviews.

0 comment
<<< ธรรมะโอสถ >>>











“ธรรมะโอสถ”

ถาม : เมื่อเจ็บป่วยเราควรจะรักษาด้วยหมอ

หรือธรรมะโอสถดีครับ

พระอาจารย์ : ถ้าเราปฏิบัติ

เราก็ต้องเอาธรรมะโอสถก่อน

 เพราะว่าร่างกายนี้รักษายังไงถึงแม้มันจะหาย

มันก็ต้องมาเจ็บอยู่ดี แล้วเราก็จะไม่สามารถรักษาใจได้

 ฉะนั้นถ้าเราเป็นนักปฏิบัติเราต้องรักษาใจก่อน

เช่นเวลาเราเจ็บไข้ได้ป่วย บางทีเราปล่อยให้มันเจ็บไป

 แล้วเรามาวัดใจเรา มาทดสอบใจเรา

ว่าเราปล่อยมันได้หรือเปล่า มันเป็นข้อสอบ

ถ้าเราอยากจะทำข้อสอบก็ต้องให้มันป่วยมันถึงจะทำได้

 ตอนที่มันไม่ป่วยมันก็เป็นการทำการบ้าน

คิดว่าเดี๋ยวร่างกายเราต้องเจ็บ มันก็คิดได้

แต่มันจะทุกข์หรือไม่ทุกข์นี้มันยังไม่รู้

 มันจะมารู้ตอนที่มันเจ็บจริงๆ ป่วยจริงๆ

 แล้วปล่อยมันได้หรือเปล่า ไม่รักษามันได้หรือเปล่า

 ปล่อยให้มันตายได้หรือเปล่า ถ้าปล่อยได้

ใจหายป่วยล่ะ พอใจหายป่วยถ้าเกิดหาย

เกิดร่างกายยังไม่ตาย ต่อไปก็รักษามันก็ได้

ไม่รักษามันก็ได้ไม่สำคัญ เพราะร่างกายนี้

รักษายังไงสักวันหนึ่งมันก็รักษาไม่ได้อยู่ดี

ฉะนั้นถ้าเราเป็นนักปฏิบัติเราต้องเอาธรรมะโอสถก่อน

เพราะมันเป็นรางวัลหรือเป็นข้อสอบของเรา

ที่เราต้องทำให้ได้ เพราะถ้าเราทำได้แล้ว

ต่อไปเราจะไม่ทุกข์กับความเจ็บไข้ได้ป่วยของร่างกาย.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...........................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่  ๒๒  กันยายน  ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา  fb.  พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 23 กันยายน 2560
Last Update : 23 กันยายน 2560 10:02:28 น.
Counter : 778 Pageviews.

0 comment
<<< "ทุกข์เพราะกิเลส" >>>










"ทุกข์เพราะกิเลส"

ถาม : คนที่รู้สึกมีความทุกข์ใจบ่อยๆ

ทั้งที่ไม่ขัดสนเงินทอง

คือคนมีบุญเก่าพอควรปานกลางใช่ไหมครับ

พระอาจารย์ : คนที่มีเงินทองก็อาจจะเป็นเพราะ

อดีตเขาได้เคยทำบุญมา

 แต่คนที่มีความทุกข์นั้น ทุกข์เพราะกิเลส

ทุกข์เพราะความอยาก

จะมีเงินทองมากน้อยไม่สำคัญ

 คนที่ไม่มีเงินทองไม่ทุกข์เลยก็มี

เช่นพระอรหันต์พระพุทธเจ้านี้ท่านไม่มีเงินทอง

 แต่ท่านไม่ทุกข์เลย เพราะท่านไม่มีกิเลส

 ท่านไม่มีความโลภความอยากได้อะไร

คนที่มีความโลภความอยาก

ต่อให้มีเงินกองเท่าภูเขาก็ยังต้องทุกข์อยู่.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 19 กันยายน 2560
Last Update : 19 กันยายน 2560 9:22:04 น.
Counter : 882 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ