มาหาทรัพย์แท้
ทางโลกเขาก็พัฒนากันไปไกล
ทุกอย่างสะดวกไปหมดเลย
แต่ความทุกข์ภายในใจ มันไม่ได้หดหายไป
ตามความเจริญของทางโลกกัน
แต่กลับมีความทุกข์มากขึ้นไป
เพราะว่าต้องไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ มากขึ้น
แทนที่จะยึดน้อยลงติดน้อยลง กลับติดมากขึ้น
พอไปติดกับสิ่งที่มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มากขึ้น
มันก็เลยเกิดทุกขังมากขึ้นไป
ถ้าอยู่แบบเรียบง่ายอยู่แบบสมถะมักน้อยสันโดษ
มันก็จะไม่ต้องทุกข์มากนัก เช่นอยู่แบบพระ
มีแค่อัฐบริขาร มีเพียงปัจจัย ๔ ความทุกข์ก็จะมีไม่มาก
เหมือนกับคนที่มีเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย
อำนวยความสุขอำนวยความสะดวก
เพราะว่ามันเป็นเหรียญสองด้าน
มันให้ความสะดวกให้ความสุขกับเรา
มันก็ให้ความทุกข์ให้ภาระกับเรา
เพราะเราก็ต้องดูแลรักษา เราก็ต้องดิ้นรน
หาเงินหาทองมาดูแลมันมาจ่ายมัน
ของส่วนใหญ่เราก็ซื้อแบบเงินผ่อนกัน
ยิ่งซื้อมากก็ยิ่งต้องผ่อนมาก ก็ต้องหาเงินกันมาก
หาเงินกันตัวเป็นเกลียว
เงินเดือนยังไม่ทันออกเลยหมดแล้ว เป็นหนี้ใหม่แล้ว
นี่แหละคือความทุกข์ที่มันมาในคราบของความสุข
ในคราบที่ว่าโอ๊ยได้เครื่องใช้ใหม่ๆ รุ่นใหม่ออกมา
มีอะไรออกมาซื้อมันแหลกเลย
แต่เวลามาผ่อนนี้มันไม่แหลกกับมัน
เราแหลกมันไม่แหลก เราทุกข์เราเหนื่อยเราลำบาก
ดังนั้นหัดอยู่แบบเรียบง่ายดีกว่า
จะสุขจะสบายกว่า จะได้ไม่ต้องดิ้นรน
หาเงินหาทองจนตัวเป็นเกลียว
จะได้มีเวลามาหาทรัพย์แท้ถ้าเราไม่มีทรัพย์ภายนอก
ถ้าเราไม่มีเงินที่จะมาทำทาน
ก็ตัดมันไปได้เลยผ่านมันไปเลย
ถือว่าเราผ่านข้อสอบข้อนี้ไปแล้ว
คือเราไม่มีทำเราก็ไม่ต้องทำ
เราก็มารักษาศีลมาบวชได้เลย
เมื่อไม่มีทรัพย์แล้ว
ก็ไม่มีอะไรต้องหวงต้องห่วงแล้ว.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
....................................
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ