ความประมาทของลูกศิษย์
ความจริงการไปมีอาจารย์
ก็เพื่อจะได้ไปศึกษาคำสอนของท่าน
ท่านก็สอนให้เราปฏิบัติ
สอนให้เราสร้างที่พึ่งให้กับตัวเราเอง
เพราะอาจารย์เดี๋ยวก็ต้องแก่เจ็บตาย
ตั้งแต่องค์แรก คือ พระพุทธเจ้าท่านก็ต้องแก่เจ็บตาย
ท่านก็สอนให้เราปฏิบัติ สร้างที่พึ่ง
สร้างมรรคขึ้นมา สร้างสติสร้างปัญญา
ถ้าเรามีที่พึ่งมีสติมีปัญญา ใจเราจะไม่ต้องพึ่งผู้อื่น
เมื่อไม่ต้องพึ่งผู้อื่นเวลาผู้อื่นเขาเป็นอะไรไป
เราก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าเรายังพึ่งตัวเราไม่ได้
เรามัวแต่ไปพึ่งผู้อื่นที่เขาจะต้องมีวันจากเราไป
พอเขาจากเราไปเราก็หวั่นไหว เพราะเราจะไม่มีที่พึ่ง
เราหวั่นไหวเพราะเรากลัวว่า
ต่อไปท่านไปแล้วเราจะไม่มีที่พึ่ง
นี่คือความประมาทของลูกศิษย์ลูกหา
ที่เข้าหาครูบาอาจารย์ แต่ไม่ได้เข้าหาเพื่อปฏิบัติ
เข้าหาเพื่อเกาะท่าน ได้ยินได้ฟังธรรมของท่าน
ตอนนั้นก็เหมือนกับมีธรรม
ฟังธรรมแล้วใจก็มีความสุข รู้สึกว่ามีปัญญา
แต่มันเป็นปัญญาแบบชั่วคราว
เวลาฟังก็เข้าใจ พอหยุดฟังก็หายไปลืมไป
พอมีเหตุการณ์อะไรมากระทบใจก็หวั่นไหวขึ้น
เพราะว่าปัญญาที่เกิดจากการฟังธรรมนี้
มันเสื่อมได้ ฟังแล้วเดี๋ยวก็ลืม
ฉะนั้น ต้องเอาปัญญาที่เราฟังนี้มาพิจารณาอยู่เรื่อยๆ
คิดอยู่เรื่อยๆ ว่าอนิจจาไม่เที่ยง
ของต่างๆ ในโลกนี้ไม่เที่ยง
ครูบาอาจารย์ที่เราพึ่งพาอาศัยท่านก็ไม่เที่ยง
เดี๋ยวท่านก็ต้องจากเราไป ร่างกายของเราก็ไม่เที่ยง
เดี๋ยวเราก็ต้องจากโลกนี้ไป
เราต้องมาสร้างธรรมที่เที่ยง ถ้ามีธรรมแล้ว
เราจะอาศัยธรรมนี้เป็นที่พึ่ง
ปกป้องรักษาใจของเราได้
ธรรมที่เราต้องมีก็คือ สมาธิกับปัญญา ที่เราไม่มีกัน
ถ้าเรามีสมาธิมีปัญญาแล้วใจของเราจะไม่หวั่นไหว
กับเหตุการณ์ต่างๆ อะไรจะเกิดอะไรจะดับนี้
ใจเราไม่เดือดร้อน
เพราะใจเรามีที่พึ่งมีความสุขในตัวเอง
ไม่ต้องหาความสุขจากผู้อื่น
ไม่ต้องหาความสุขจากการไปฟังเทศน์ฟังธรรม
กับครูบาอาจารย์ ไม่ต้องหาความสุข
จากการไปทำบุญกับครูบาอาจารย์
เราสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเราเอง
ด้วยธรรมของเรา.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
.........................................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๑
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ