"ความสุขทดแทน"
หาความสุขทางร่างกายกันไปจนแก่เจ็บตาย
ตายแล้วก็ไปฝันต่อ เวลาตายก็เหมือนนอน
นอนหลับยาว เวลาที่มีร่างกายก็นอนสั้นๆ
นอนแค่แปดชั่วโมง ฝันดีบ้างฝันร้ายบ้าง
แล้วแต่บุญแล้วแต่บาปที่ทำไว้
เป็นเหมือนหนังตัวอย่าง
ถ้าเราฝันดีแสดงว่าเราทำบุญไว้
ถ้าฝันร้ายแสดงว่าเราทำบาปไว้
ถ้าเรายังมีร่างกายอันเดิม
นอนแล้วตื่นขึ้นมาก็เหมือนกับไปดูหนังตัวอย่าง
หนังจริงที่เราจะไปดูตอนที่เราตายจริงๆ
ตอนที่ร่างกายนี้ตายจริงๆ ก็จะไปดูหนังจริง
ถ้าเป็นบาปก็จะฝันร้ายไป
ฝันยาวไปเลยไม่ใช่ไปแค่ 8 ชั่วโมง ฝันเป็นปีๆ
บุญก็เหมือนกัน ถ้าเป็นบุญพาให้ฝันไป
ก็จะเป็นร้อยปีเป็นพันปี
จนกว่าบุญจะหมดกำลังไป
ก็กลับมาเกิดใหม่ มาตื่น
เวลาตายก็เหมือนกับหลับไป
หลับแล้วก็ฝัน ฝันดีฝันร้าย
ตามอำนาจของบุญของบาป
พอหมดกำลังก็กลับมาใหม่ เกิดใหม่
กลับมาตื่นขึ้นมา เวลาคลอดออกมา
ก็เหมือนตื่นขึ้นมา ตอนตื่นขึ้นมาใหม่ๆ
ก็ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ รู้แต่หิวอย่างเดียว
รู้แต่อยากจะกิน หิวน้ำก็ร้อง หิวนมก็ร้อง
หิวอาหารก็ร้อง อยากจะขับถ่ายก็ร้อง
พ่อแม่ก็ต้องจัดการตอบสนองความอยากของเรา
พอเราโตขึ้นมาได้หากินเองได้ หาความสุขเองได้
ก็ออกไปหากินกัน หาความสุขกันไป
หาเงินหาทองเพื่อที่จะได้เอาเงินทองมาซื้อข้าวของ
ซื้ออาหาร กับข้าวกับปลาอาหาร ซื้อความสุขต่างๆ
ที่เราอยากจะได้ เห็นอะไรชอบแล้วอยากได้
ซื้อมาแล้วมีความสุขก็ซื้อมา ก็หาอย่างนี้ไป
ระหว่างหาเงินหาทองหาความสุข
ก็แล้วแต่ว่าจะหาแบบไหน
ถ้ามีพ่อแม่คอยสั่งคอยสอน คอยห้าม
ก็อาจจะไม่หาโดยวิธีทำบาป
ถ้าเราเกิดในยุคที่มีพระพุทธศาสนา
ศาสนาก็สอนว่าอย่าทำบาป
จะหาเงินหาทองหาความสุขอะไรต่างๆ
ก็ ให้หาโดยที่ไม่ต้องทำบาป
เช่นอย่าไปฆ่าผู้อื่น อย่าไปลักทรัพย์ของผู้อื่น
อย่าไปประพฤติผิดประเวณี
อย่าไปยุ่งอย่าไปมีอะไรกับสามีภรรยาของผู้อื่น
อย่าไปโกหกหลอกลวง อย่าไปดื่มสุรายาเมา
เพราะมันเป็นการทำบาป มันจะทำให้เราฝันร้าย
เวลานอนหลับ เวลาเราตายเราก็จะฝันยาว
ฝันร้ายไปยาว ไปทำบุญ ทำบุญแล้วจะนอนหลับฝันดี
ทำบุญทำทานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ใครเดือดร้อนใครลำบากพอมีอะไรจะแบ่งกันได้
ช่วยกันได้ก็แบ่งกันไปช่วยกันไป
แล้วถ้าไม่อยากจะกลับมาเกิดซ้ำๆ
อย่างที่เราเคยมาเกิดกัน
พระพุทธเจ้าก็รู้จักวิธีหยุดการมาเกิดได้
รู้จักวิธีที่จะทำให้เราไม่ต้องมาเกิด
ให้เราไปอยู่บ้านที่ไม่ต้องมีการเกิดกัน
ไม่ต้องมีการแก่การเจ็บการตายกัน
คือพระนิพพานที่ไม่ต้องมาเกิดมาแก่มาเจ็บ
คือใจที่ไม่มีความอยาก
หาความสุขต่างๆ ผ่านทางร่างกาย
ก็ด้วยการมาหยุดความอยากต่างๆ
อยากจะหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายก็หยุดมัน
วิธีจะหยุดมันก็ต้องสร้างความสุขขึ้นมาทดแทน
ความสุขที่เราต้องสร้างขึ้นมาทดแทนก็คือความสงบ
ถ้านั่งสมาธิใจสงบแล้ว เราก็จะมีความสุข
มีความสุขแทนความสุขที่ได้จากการไปดูหนังฟังเพลง
จากการไปกินไปดื่มอะไร จากการไปนอนหลับกับแฟน
คนที่นั่งสมาธิได้นี้อยู่คนเดียวได้ อยู่ในป่าในเขาได้
ไม่ต้องไปอยู่ตามที่แหล่งบันเทิงต่างๆ
แหล่งช็อปปิ้งต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
เพราะมีความสุขทดแทน มีความสุขที่ดีกว่า
ความสุขที่เกิดจากความสงบนี่เอง.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
..................................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ