O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
Giovanni Marradi - The Colours of Music
O ค่อยค่อยก่อรูปวาง .. ก่อนสางหม่น- จะเคลื่อนพ้นผ่านล่วง .. เมื่อดวงสูรย์- ลอยเลื่อนขึ้นโชนช่วงเป็นดวงกูณฑ์ ผ่านจำรูญจำรัสโลมปัถวี O เงียบงันทั้งเหน็บหนาว .. ที่พราวหยาด พร้อมโอภาสดวงศศินใกล้สิ้นสี จบสิ้นแล้วรมยาแห่งราตรี จักเลือนลี้มืดดำ .. เคยรำบาย O วารีหยดหยาดรอ .. จะล้อแสง เพื่อแต้มแต่งงามระยับก่อนลับหาย อย่างยินยอมแสงพลอดตราบวอดวาย ก่อนเวียนว่ายหยาดซ้ำ .. อีกค่ำคืน O เพียงเพื่อจะระเหิดระเหยร่าง อยู่ท่ามกลางเรื่อแดงของแสงคลื่น ให้แผดเผาผ่าวร้อนได้ย้อนกลืน กลบหยาดรื่นเลือนเร้น .. เปลี่ยนเป็นไอ O กลั่นหยาดพิลาสร่วงเป็นดวงประดับ เรียงหยดรอแสงระยับ .. มาขับไข กระทบโลมเม็ดน้ำ .. อยู่ร่ำไร ก่อนมอดไหม้ระเหยช่วง .. จนล่วงรอย O ที่บรรจบแห่งศิวาและราตรี หยดวารีหยาดแล้ว .. จากแผ่วค่อย- ตราบเติมงามเต็มพื้น-ด้วยผืนพลอย เพื่อจักลอยระยับยวง .. ล้อดวงวัน O เผาเถิดให้ระเหิดระเหยแห้ง ทอดทอแสงงามระยับ .. ลงรับขวัญ จะยอมรูปแหลกร่าง .. เป็นรางวัล การกีดกั้นแววระยับ .. ที่ลับเลือน O จะหยาดให้เผาอยู่ทุกตรู่สาง พลอยผืนจะแผ่วางทั่วทางเถื่อน และจะรอร้อนเกรียมทุกเยี่ยมเยือน เถอะ .. อย่าเคลื่อนผ่านพ้น .. ให้ทนรอ O ที่-สิ้นรูปแหลกร่าง .. อยู่กลางแสง นั้น-ฝากแฝงอุ่นไว้ .. ที่ใดหนอ หรือจะเช่นรูปเงาพะเน้าพะนอ ฝากอุ่นออแอบร่างอยู่กลางทรวง ?
-2- O เมื่อ-อกหนึ่ง .. อาจเอื้อมจะโอบเจ้า อุ่นนิ่มเนื้อรูปเยาว์ .. ผู้เฝ้าหวง- หวังกุมกอดนวลละมุน .. แอบอุ่นดวง- ฤดีผู้ห่วงละห้อย .. เถิด-คอยรอ O ครั้นสังคีตผ่านเสียง .. แต่เพียงแว่ว จะยินแผ่วเสียงย้ำ .. นั้นพร่ำขอ- ถนอมเนื้อรูปเยาว์พะเน้าพะนอ สองแขนออโอบงาม .. เกินห้ามใจ O ใช่ไหมว่า .. มีคนนั้นรออยู่ รอรอบชู้ออดอ้อน .. ด้วยอ่อนไหว แก้มอิ่มเนียนแนบทรวง .. รับห่วงใย โอบกอดไว้ตราบสนิทในนิทรา O จนทอดตัวสองแขน .. เอาแทนหมอน เพื่อหนุนนอนเบียดกาย .. กอดก่ายหา หน้าผากแก้มคิ้วคาง .. จักร้างลา- ปรารถนาแห่งใจ .. เยี่ยงไรพ้น O โอม-รูปเยาว์โสมนัส .. รำบัดย้อม- เยี่ยมละม่อมรูปหน้าอีกคราหน กอปรความหมายด้านในคอยไหววน จากหัวใจดิ้นรน .. เกินด้นดึง O ครรลองโลกหมองหม่น..พึงป่น-ปลิด- สิ้นทั้งปวงด้วยฤทธิ์แรงคิดถึง ละห้อยเห็น .. ปฏิพัทธ์จงรัดรึง แรงซาบซึ้งให้ตรึงอยู่ไม่รู้ลบ O ทั้งสิ้นและ .. ทั้งปวงความห่วงหา พึงโหมฝ่าทรวงขวัญเข้าบรรจบ อำนวยจิตพิสวาททุกชาติภพ สุดเกลี่ยกลบอาวรณ์ให้ผ่อนคลาย O คะเนนึกคะนึงอยู่อย่ารู้สิ้น แรงถวิลถวัลย์อยู่อย่ารู้หาย ให้อกเจ้าตราตรึงเพียงหนึ่งชาย คอยเถิดสายสวาดิเรียมเจ้าเตรียมใจ O ฝากลำลมเรื่อยรี้ .. ได้วีวาด ผ่านโอภาสให้ระยับแรงขับไข อันหวานหอมสุมาลี ณ ที่ใด จะเช่นใครยามนี้ .. ไม่มีเลย O หอมนั้นหอมจากหวาน .. เจ้าผ่านหา จนคุณค่าในอก .. นั้นผกเผย ผ่านรูปรอยนิรมิต .. เข้าชิดเชย หยอก-ยั่วเย้ยปรารถนาแรงอาลัย O ละม่อมพักตร์อิริยาและท่าที- เมื่อเข้าชี้นำการณ์ .. ฤๅต้านไหว รอบละมุนอุ่นเอื้อแห่งเยื่อใย คล้ายรอให้คล้องเกี่ยวด้วยเรียวมือ O เมื่อ-อก, แขน, ใจ-โลภ .. จะโอบเจ้า เนื้อรูปเยาว์ .. จะรอดได้อย่างไรหรือ ความวาดหวังเพียบเพ็ญ .. จักเป็น-คือ- เรียวแขนยื้อยุดไว้ .. โดยไม่คลาย !
Create Date : 19 สิงหาคม 2556 |
|
7 comments |
Last Update : 5 เมษายน 2566 13:53:56 น. |
Counter : 3638 Pageviews. |
|
|
|
ดายุ...
"O ใช่ไหมว่า .. มีคนนั้นรออยู่
รอรอบชู้ออดอ้อน .. ด้วยอ่อนไหว
แก้มอิ่มเนียนแนบทรวง .. รับห่วงใย
โอบกอดไว้ตราบสนิทในนิทรา
O จนทอดตัวสองแขน .. เอาแทนหมอน
เพื่อหนุนนอนเบียดกาย .. กอดก่ายหา
หน้าผากแก้มคิ้วคาง .. จักร้างลา-
ปรารถนาแห่งใจ .. เยี่ยงไรพ้น"
มินตรา ก็ชอบใช้"สองแขน .. เอาแทนหมอน"น้า..
(เลยชอบ มธุรสวาจา ตรงนี้ เป็นพิเศษ ...)