Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
กรกฏาคม 2559
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 กรกฏาคม 2559
O จันทร์ .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O จันทร์ .. O
Secret Garden - Passacaglia
O และแล้วความเยียบเย็นก็เร้นหาย
หลังอุ่นอายทิวากาลได้ผ่าน .. เผย
ความมืดหม่นทั้งปวง .. ย่อมล่วงเลย
ให้ชิดเชยระยับช่วง .. แสงดวงวัน
O ถึงรอบนกโบกบิน .. ยามสิ้นฝน
พามืดหม่นเลือนลับรองรับฝัน
ริ้วลมล่อง, ช้อยชูแห่งหมู่พรรณ-
ระ .. แล้วสั่นดอกใบ .. อยู่ในที
O ระริกสายลมไหวโลมไม้ช่อ
เยี่ยงรูปต่อสายตาอวดราศี
สั่นพลิ้วกิ่งก้านใบ, การไหววี-
ของหัวใจใยดี .. ย่อมมีมา
O เป็นอีกเช้าแรกวันของวันใหม่
ที่ลมไหว, แดดอุ่น พร้อมคุณค่า-
ได้ตั้งรูปท้าทายต่อสายตา-
มรคาอภิรมย์ ฤา-ข่มลง ?
O จึง-อีกเช้าแรกวันของวันนี้
คือแรกที่รอบอุทธัจระบัดบ่ง
เป็นรอบที่หวานล้ำตั้งดำรง
ด้วยจำนงละห้อยเห็นไม่เว้นวาง
O จนริ้วลมอบอุ่นละมุนล้อม
แววในตารูปละม่อมก็ล้อมขวาง
มี - เส หลบ กลบเกลื่อนอยู่เลือนลาง
บดบังทุกเส้นทางจะย่างเดิน
O ผมหล่นล้อมรูปหน้า .. เมื่อตาชม้อย
การเฝ้าคอยมองสบ, การหลบเขิน-
กลางลมเช้าผ่านระลอกเข้าหยอกเอิน
ก็ดำเนินบทกรรมอยู่ตำตา
O เรียวนิ้วปาดปอยผมเมื่อก้มหลบ
เลือดก็จบจับแต้มทั้งแก้มหน้า
เหมือนจับวางรูปนามไว้ล่ามคา-
ในแววตา .. ให้คะนึงทุกกึ่งยาม
O อิริยารูปเยาว์เหมือนเร้าเร่ง
ให้พิศเพ่งปรารมภ์สุดข่มข้าม
แรกวันแววตอบรับจึงวับวาม-
เข้าคุกคามโลกธรรมให้จำนน
O ด้วยรูปนามลามรุกไปทุกเบื้อง
ก่อรูปเรื่องเร้ารุกไปทุกหน
เฉกเช่นช่อเถาวัลย์ที่พันวน
คือใจคนวนอยู่ถึงผู้เดียว
O ใช่เริ่มที่-ทางคั่นด้วยอรรณพ
แต่เป็น-สบต้องงามเมื่อยามเหลียว
อิริยาท่าทางของร่างเพรียว
ที่รั้งเหนี่ยวอกใจอยู่ในวัน
O คล้ายว่าความอบอุ่น .. เริ่มหนุนเนื่อง
จากชำเลืองเหลือบพร้อมรอกล่อมขวัญ
ริ้วลมอ่อน, ระริกใบของไม้พรรณ
ราวไหวสั่นทั่วแล้ว-เช่นแววตา
O ลมหยุดร่ำ, ปฏิพัทธ์เริ่มปัดป่าย
ที่คอยลอบเหลือบชม้ายกลับคล้ายว่า
แฝงรอยยิ้มหวานซึ้งให้ตรึงตรา
ซ่อนเร้นมาเมื่ออรุณเริ่มอุ่นร้อน !
O ลมเอย .. เริ่มพลิ้วสู่ให้รู้สึก
โลมทั้งพฤกษ์ทั้งตรูอย่ารู้ผ่อน
นฤมิตความคำ .. พึงกำจร-
แรงอาวรณ์สำทับให้รับรู้
O ว่า-อิริยารูปละม่อม .. คอยล้อมกัก
จะฝ่าหักขวางขวาก .. เห็นยากอยู่
เกิดแต่เมื่อรูปเห็น .. และเอ็นดู
สบเพียงครู่ .. หอมหวานก็ผ่านคอย
O ในท่ามกลางลมหนาว .. ใจผ่าวร้อน
แรงอาวรณ์รุมแล้ว .. แม้นแผ่วค่อย
จากแววหวานคลุมเคลือบ ทุกเหลือบปรอย
เพรียกละห้อยห่วงเห็นไม่เว้นวาย
O เหน็บหนาวเปล่าเปลี่ยวยังต้องพังโค่น
เมื่อแววตาอ่อนโยนเริ่มโชนฉาย-
แววอ่อนหวานคลุมครอบอยู่รอบกาย
คือรูปหมายให้ละเมียดละไมทรวง
.
.
O รัตติกาล .. ปรารมภ์กลางลมรื่น
กับแววตื่นตอบเต้นไม่เว้นช่วง
เอ็นดูความอ่อนไหวที่ในดวง-
ตาคู่ห่วงละห้อยเห็นแฝงเร้นนั้น
O แต่สบนิ่งแน่วอยู่ก็รู้ถึง
ความหวานซึ้งซ้อนนัยที่ไหวสั่น
สายใยเส้นผูกขาดเริ่มพาดพัน
พาดผูกรวมสองฝันเป็นฝันเดียว
O บนฟ้าแสงดาวพร้อย-จันทร์ลอยดวง
ใช่ยามช่วงแสงเพ็ญ .. หากเป็นเสี้ยว
บนพื้นโลกลมพลิ้ว .. เมื่อนิ้วเรียว-
ค่อยรั้งเหนี่ยวอกใจฝันใฝ่-คะนึง !
O จันทร์เจ้าเอย ..
แต่เมื่อเผยรูปนาม .. คุกคามถึง-
ที่แววตา .. จนระยับแล้วจับตรึง
คือทางซึ่งอาจหลบ .. ถูกลบแล้ว !
O ลมเอย ..
ช่วยรำเพยโลมเยาว์อย่างเบาแผ่ว
แทนอ้อมแขนโอบเนื้อ ก็เพื่อแวว-
ตาผ่องแผ้ว .. หลับพริ้มซ่อนยิ้มรอ !
Create Date : 08 กรกฎาคม 2559
Last Update : 21 เมษายน 2566 18:19:18 น.
10 comments
Counter : 3791 Pageviews.
Share
Tweet
Kendall Jenner
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:10:00:50 น.
สดายุ
" O จันทร์เจ้าเอย ..
แต่เมื่อเผยรูปนาม .. คุกคามถึง-
ที่แววตา .. จนระยับแล้วจับตรึง
คือทางซึ่งอาจหลบ .. ถูกลบแล้ว ! "
เลยนึกถึง "จันทร์" ที่"เมื่อเผยรูปนาม" ออกมาแล้ว
หายไปไหนคะ น้องเล็ก เพิ่งสังเกตุว่าหายไปนานแล้ว
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:06:14 น.
มินตรา ..
พอดีอ่านข่าวการลอบยิงตำรวจผิวขาวในสหรัฐมา ..
ประเด็นการลอบสังหารคนจำนวนมาก ด้วยคนเพียงคนเดียวที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้า .. น่าคิดต่อมาก
.. ผู้ต้องการเปลี่ยนแปลงความบัดซบทั้งปวง เป็น nobody เหมือนอยู่ในที่มืด
.. ผู้ที่ครองอำนาจได้เปรียบและเป็นฝ่ายกระทำอยู่ เป็น somebody เหมือนอยู่ในที่แจ้ง เสมอไป
ปืนความเร็วสูง ..
ในมือที่จิตใจมั่นคง ..
และยอมตายเพื่อความถูกต้อง .. ศรัทธา .. อุดมการณ์ทางการเมือง ..
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:33:31 น.
สดายุ
ราคาของ"หนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง" และ "คุณภาพของสังคม"
ความเจริญ ทางด้านวัตถุ ที่มิใช่ อารยธรรม ( กาย วาจา ใจ )
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:46:42 น.
ดายุ
เห็นเส้นบางบางระหว่าง "นักรบประชาธิปไตย" กับ "ความคลั่งไคล้ไร้สติ" ไหม
ประชาธิปไตย เป็นเรื่องของ "ขบวนการ" (Procedure)ที่ต้องเดินไปทีละก้าวในการ"ดำเนินการ "(Process)
ความแตกต่างระหว่าง Process และ Procedure
ศัพท์เทคนิคทางช่าง (engineer) ที่พวก นักขาย(business) ชอบนำมาใช้เพื่อความน่าเชื่อถือ จน รวนเรไปเพราะมิใช่ ช่าง
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:16:04:10 น.
มินตรา ..
การเมืองเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของมนุษย์
ระบบการเมืองใดเล่าที่สามารถ"รีด"เอาศักยภาพของความเป็นมนุษย์ออกมาได้อย่างมีพลังและสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดมากที่สุด ..
ในความคิดผม ..
มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่น่าศึกษาตามลำดับการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ในโลกที่ถือว่ายิ่งใหญ่ น่าศึกษาเรียนรู้วิเคราะห์วิจารณ์ รวมทั้งน่าจดจำตามลำดับคือ
1.การปฏิวัติฝรั่งเศส
2.การปฏิวัติรัสเซีย
3.การปฏิวัติจีน
4.การปฏิวัติอิหร่าน
5.การประกาศอิสระภาพของสหรัฐต่ออังกฤษ
ผมมองที่"การตกผลึกทางความคิดต่อรูปแบบที่ต้องการ -output" ที่ชัดเจนเพียงพอก่อนเท่านั้น .. จึงสามารถกำหนด"ยุทธศาสตร์-strategy การดำเนินการไปสู่เป้าหมาย" อันเป็นกรอบใหญ่ได้ ..
ขณะที่รายละเอียดที่ย่อยลงมาคือ "ยุทธวิธี - artifice" เพื่อจัดการเรื่องราวเป็นประเด็นๆไป (เป็นต้นว่า .. เอ็งมาข้ามุด .. เอ็งหยุดข้าแหย่ .. เอ็งแย่ข้าตี .. เอ็งหนีข้าตาม .. ในช่วงสงครามอุดมการณ์ ระหว่าง ทปท กับทหารรัฐ)
ทีนี้ก่อน "รูปแบบที่ต้องการ" จะมีความชัดเจนได้ ..
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง"วิเคราะห์" สภาวะทางสังคมอย่างทั่วด้านก่อน
พฤติกรรมผู้คน วิถีคิดวิธีปฏิบัติ ส่วนที่เป็น core อย่างแท้จริง .. ในภาพรวม แบบ bird eye view ของสังคมหนึ่งๆ ย่อมไม่อาจใช้ภวะวิสัยของอีกสังคมมาเป็นจุดอ้างอิงได้ ..
ตรงนี้ พคท. พลาดมาแล้วที่วิเคราะห์สังคมไทยว่าเป็น "เมืองขึ้นกึ่งศักดินา" .. ทำให้การปฏิวัติล้มเหลว
อีกทั้ง"การนำ"ของตัวบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของทั้งขบวนการอย่างเป็นเอกฉันท์ อย่างเป็นเอกภาพ สำคัญมากในสังคมเอเชีย ..
จีน มี เหมาเจ๋อตุง โจวเอินไหล เติ้งเสี่ยวผิง
เวียดนาม มี โฮจิมินต์
เขมร มี พอลพต
อินเดีย มี คานธี
พม่า มี ซูจี
อิหร่าน มี โคไมนี
แม้ฝรั่ง รัสเซีย ยังมี เลนิน ทรอสกี้
มีแต่ฝรั่งเศสเท่านั้นที่ไม่มีการเชิดชู Hero และรูปแบบที่เป็นเป้าหมายที่ชัดเจน จนต้องวนกลับมาพบกับจักรพรรดิ นโปเลียน อีกรอบ ..
ผมยังมองไม่เห็นตัวบุคคลนะในกรณีของไทย
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:19:17:59 น.
สดายุ..
"ระบบการเมืองใดเล่า...."
แนวคิดโลกตะวันตก:
ในเรื่อง ทฤษฎีรัฐธรรมนูญ (Theorie der Verfassungen) อริสโทเทเลส( Aristoteles 384 ก่อนคริสตกาล - 322 ก่อนคริสตกาล) ได้ตั้งคำถามสองข้อคือ
ใครคือผู้ปกครอง ?
ปกครองเพื่อประโยชน์อันใด?
คำตอบ มี 3 รูปแบบ ได้แก่ การปกครองโดย
1.บุคคลเพียงคนเดียว (สมบูรณาญาสิทธิราช Monarchie /ทรราช Tyrannis)
2.การปกครองโดยคณะบุคคลส่วนน้อย (อภิชนาธิปไตย Aristokratie/คณาธิปไตย Oligarchie)
3.การปกครองโดยคนส่วนใหญ่ (โพลิตี Politie /ประชาธิปไตย Demokratie)
สิ่งที่ ดีสุดคือการผสมกันของรัฐธรรมนูญ( Mischverfassung)ในสองระบบ ที่ประกอบด้วย ประชาธิปไตย Demokratie และ คณาธิปไตย Oligarchie เพราะ ความเสมอภาค( Gleichheit )และความร่ำรวย (Reichtum) จะกระจายทั่วกันหากมีการแบ่งอำนาจร่วมกันปกครอง ซึ่งมีผลให้เกิด"ความมั่นคง"( Stabilität )และ ป้องกัน "ความวุ่นวายทางสังคม"( sozialen Unruhen ) ส่วน "ความมั่นคงอันยั่งยืน" ในการปกครอง จะเกิดขึ้นมากหาก ชนชั้นกลาง (Mittelstand ) มีเศรษฐกิจระดับครอบครัว หรือ ขนาดเล็กขนาดกลาง (Small and medium-sized enterprises)
แนวคิดโลกตะวันออก:
1.ขงจื๊อ ( Confucius 551 - 479 ปีก่อน ค.ศ.)
แนวคิดของ ขงจื๊อ 8 คำ คือ จิน จิน เฉิน เฉิน ฟู่ ฟู่ จื่อ จื่อ หมายความว่า
กษัตริย์(จิน) ทำหน้าที่อย่างกษัตริย์
ขุนนาง(เฉิน) ทำหน้าที่อย่างขุนนาง
พ่อ(ฟู่) ทำหน้าที่อย่างพ่อ
บุตร(จื่อ) ทำหน้าที่อย่างบุตร
ทุกสิ่งก็จะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย
2.เม่งจื่อ( Meng Tzu : 372 - 289 ก่อนคริสตกาล - 303/302 ก่อนคริสตกาล)
สอนเรื่องหลักการปกครองว่ามีหลักอยู่ 4ประการคือ เหยิน(มนุษยธรรม) อี้(ความซื่อสัตย์) หลี่(จารีตประเพณี) และจื๊อ(ปัญญา)
เม่งจื๊อสนับสนุนให้มีชนชั้น คือ ผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง เม่งจื๊อกล่าวว่า "ทั้ง 2 ชนชั้น มีหน้าที่ที่จะต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าขาดผู้หนึ่งผู้ใดไป สังคมก็จะไม่สมบูรณ์"
ไทย: ทศพิธราชธรรม คือ จริยวัตร 10 ประการที่เป็นคุณธรรมประจำตนของผู้ปกครองบ้านเมือง ให้มีความเป็นไปโดยธรรมและยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่ประชาชน
แนวความคิดตะวันออก ไม่ได้เสนอ "ทางออก"ไว้ ว่า หาก"ผู้ถูกปกครอง" ไม่ยอมให้"ผู้ปกครอง" ปกครอง จะต้องทำอย่างไร
จึงขอเสนอ ข้อสอบมศ.5 ของเยอรมัน ( Abitur) ที่ตอบให้ คือ
ทฤษฎีปฎิวัติ (Revolution Theory ) ของ เจมส์ เชานิ่ง เดวีส์ (James Chowning Davies 1918 2012) โพรเฟสเซอร์ชาวอเมริกัน เรียกว่า "J curve" อธิบายว่า หากเศรษฐกิจที่ดีมายาวนาน เกิดการถดถอย
(Rezession) จะปลุกให้คน"รู้สึกตัว" (Bewusstsein)ขึ้นมา พบชีวิตจริง( Realität ) แล้วความคาดหวัง ในทางดี(optimistische Erwartungen ) ก็จะลดลงทำให้เกิด ความ"ไม่พอใจ"(Unzufriedenheit) อันจะเป็น "ต้นเหตุ แห่งการปฎิวัติโดยธรรมชาติ" ( natürliche Ursachen.)
นี่คือ"วิธีปฎิวัติในศตวรรษที่ 21"แนวทางอียู ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 10 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:19:34 น.
มินตรา ..
"ความไม่พอใจ" ในบางกลุ่มมีมายาวนานตั้งแต่ปีที่ 0
ระยะเวลาแห่ง"การรับรู้ด้านเดียว"ที่มีมายาวนานนั้นได้แยกคนฟังออกเป็นระดับเช่นเดียวกับบัว 3 น้ำ
คนที่ต่อต้านได้ทั้งสิ้นทั้งปวง ด้วยเหตุผลที่หนักแน่นมั่นคง ไม่เพ้อเจ้อ
คนที่อาจต่อต้านได้บ้าง เป็นบางเรื่อง บางกรณี แต่ส่วนใหญ่ไม่อาจต่อต้านได้ เหตุผลยังน้อยกว่าอารมณ์ความรู้สึก อาจใช้เหตุผลได้เป็นบางเวลา
คนที่ไม่สามารถต่อต้านได้เลยโดยสิ้นเชิง กลุ่มนี้หลักเหตุผลอ่อนยวบ เขาใช้ศรัทธานำทางชีวิต มีลักษณาการพึ่งพาพึ่งพิงสูง ติดตังกับโลกแวดล้อม มีจินตนาการที่หลุดลอยไปจากความเป็นจริงเป็นนิจ
คนทั้ง 3 กลุ่มมีธรรมชาติของจิตที่สอดรับกับหลักตรรกะ มากน้อยแตกต่างกันไป ..
หลักการตะวันออกของ ขงจื๊อ เม่งจื๊อ นั้นไม่ practical ในโลกปัจจุบัน จนแม้แต่ชาติจีนเองทั้งหมดไม่ว่าจะจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง ไม่มีชาติใดนำมาใช้
การมานั่งลำดับชนชั้นในโลกยุคที่ทฤษฎีฟิสิกซ์ก้าวหน้าไปลิบลิ่วแล้วนี้ มันเปรียบเหมือนการเรียกหาช้าง ม้า เรือพาย เพื่อการเดินทาง .. มันอาจเหมาะสมกับโลกเมื่อ คนคิดมีชีวิตอยู่คือ 2 พันปีที่แล้ว
ชนชั้นวรรณะ ทำให้ชนชาติเก่าแก่ มีอารยธรรมสูงมาตั้งแต่ยุคก่อนไทยตั้งชาติ ยังคงมีสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนน่าเอน็จอนาถ จนทุกวันนี้ อย่างไม่รู้จบ คืออินเดีย
ขณะที่จีน ล้มล้างมันออกไปจนดีขึ้นในปัจจุบัน
โดยทำทั้งการปฏิวัติทางการเมืองการปกครอง
ทั้งการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
รูปแบบดั้งเดิมมันมาถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ .. ไม่ว่าจะพยายามกันสักเพียงไหน ..
ขณะที่ผมมองว่าระบอบเดิมที่เสื่อมทรามเป็นเหตุแห่ง"ความไม่พอใจ" จากหลากหลายกรณีเป็นภาวะทางธรรมชาติทั้งหมด ไม่ว่าที่ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน อิหร่าน
โดยมี"บัวน้ำบน"เป็นตัวปฏิกิริยาเร่งเร้าภาวะเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นเร็วเข้า ..
ระบอบที่ ..
.. ด้อยประสิทธิภาพ
.. ไม่ยุติธรรม
.. เลือกปฏิบัติ
.. ไม่เสมอภาคกัน ..
มีที่มาจากระบบอุปถัมภ์เป็นปฐมเหตุ
"ระบบอุปถัมภ์" จึงเป็นเหตุแห่ง"ความไม่พอใจ" แรกสุด
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 กรกฎาคม 2559 เวลา:16:12:20 น.
O แว่วเสียง ก็ เพียง-นิยมะศัพท์
เพราะ-สดับก็จับใจ
เสพสมภิรมยะ, ไฉน-
อุปไมยจะเปรียบเหมือน
O ต้อง'ความ' ฤ ห้ามสุขะ ณ ใจ
ขณะไหน บ อาจเลือน
ต้อง'คำ'เพราะคัมภิระสะเทื้อน
ฤ เขยื้อนขยับพ้น
O โสตนั้นเพราะนันทะสดุดี
ภวะปรีดิ์ก็ปรุงปรน
สัมผัสกระหวัดนยะกระวน
จิตะคน ฤ อาจขืน
O ปวงผู้เหมาะชูวิสัยะทัศน์
ก็ขจัด บ อาจยืน-
หยัดเงา-เพราะเงานิละทะมื่น-
แสยะยืนและขืนไว้
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 กรกฎาคม 2559 เวลา:20:21:07 น.
O สามารถเหมาะชาติจะอภิวัฒน์
อัตคัด บ เห็นใคร
เจตจินต์ถวิล-ก-ละจะไร้-
บทะให้กระจ่างเห็น
O สามารถเหมาะชาติจะวัฒนา
พิศะหา ก็ ยากเย็น
ปวงผู้เหมาะรู้ .. ประพิณะเพ็ญ
ดุจะเร้นจะเลือนสูญ
O ขลาดเขลาและเมาหะพฤติกรรม
อุปถัมภะเพิ่มพูน
ภาพสร้างและร่างทิฐิวิทูร-
ก็พิบูลยะทั่วหน
O พลุ่งฤทธิ์อวิชชะคุกระเหิม
ทุขะเติมก็เตรียบตน
โพลง-พิษะริษยะระคน
จิตะฉล ก็ โฉ่ฉาว
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 กรกฎาคม 2559 เวลา:20:26:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
Kendall Jenner