Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
เมษายน 2561
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
1 เมษายน 2561
O เช้านี้ .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O เช้านี้ .. O
Secret Garden - When Darkness Falls
O เมื่อแสงเรื่อรองงามแห่งยามรุ่ง
ค่อยค่อยฟุ้งฟายอณูเพรียกตรู่สาง
คลี่ปลายปีกปักษินล้อมถิ่นทาง
โลกเบื้องล่างก็ค่อยฟื้นขึ้นตื่นตัว
O ดอกดวงมวลน้ำค้าง .. หยาด-วางเม็ด
ดั่งพลอยเพชร-พรึบบน .. ความหม่นหลัว
ลมโรยริ้วเรียวใบ, ดอก-ไหวรัว
รับรื่นเย็นเกลือกกลั้วอยู่ทั่วใบ
O ริ้วลมและคมเนตรกอปรเลศนั้น
เหมือนรอรับรองขวัญก่อนสั่นไหว
ที่แวววามวับนั้นเหมือนมั่นใจ-
ว่าสายใยเหนี่ยวกระหวัด .. ต้องรัดรึง
O แทนหมอก-ยามอรุณ, แดดอุ่นร้อน
แววออดอ้อนชม้ายอยู่ .. ก็จู่ถึง
ลอบเหลือบ .. เช่นนิ้วเรียวคอยเหนี่ยวดึง-
เอา-หวานซึ้งประโลมทั่วเนื้อหัวใจ
O พร้อมหมอก-คือรูปหน้า, แววตาวับ
และทุกพรับพริ้มนั่น .. คล้ายสั่นไหว-
หรือเพื่อเร้าเสน่หาแรงอาลัย
โถมเข้าใส่จิตชาย .. ให้ว่าย-วน ?
O แสงเรื่อรองงดงามเคยวามวับ
บัดนี้ลับจากแหล่งทุกแห่งหน
จักขุต้องรูปคราญ .. เหมือนหวานปน-
หอมหลั่งล้นลอบเร้น .. ล้อมเส้นทาง
O วาดหวัง-แววในตาจักว้าวุ่น
เอื้อ-อบอุ่นทุกอณูแห่งตรู่สาง-
เข้าโอบรูปโอบขวัญโอบสรรพางค์
ร่นช่วงห่างด้วยคะนึงจดถึงกัน
O คิดถึงถวิลอยู่ .. อย่ารู้แล้ว
อย่างพลิ้วแผ่วห้วงใจ .. จงไหวสั่น
เพิ่มอาวรณ์ล่วงล้ำ แนบรำพัน
กล่อมทรวงนั้นให้สะทกอยู่วกวน
O ให้ละห้อยคอยเห็นอย่าเว้นว่าง
แม้นข่มวางฝืนขวัญนับพันหน
อย่าผ่อนพัก .. อาลัยที่ใจคน
ให้แต่อลวนอยู่ .. อย่างรู้คอย
O ถึงที่ความถวิลหา .. เผย-ปรากฎ
รำพันพจน์แทรกแล้ว .. จากแผ่วค่อย-
จักลูบใจรึงเร้าให้เฝ้าคอย
เต็มละห้อยห่วงเห็น .. อย่าเว้นวัน
O ที่อาวรณ์เริ่มบท .. ปรากฎค่า
ปรารถนา, อาลัย, ความไหวหวั่น
พึงอุบัติรายล้อม .. ขึ้นพร้อมกัน
เพื่อผูกขวัญผูกสวาดิ - รองชาติภพ !
O ลมเช้าเคย .. ผ่านช่วงโอบทรวงร้าว
ความเหน็บหนาวที่เผชิญ .. ก็เกินหลบ
มาบัดนี้หอมนั้นพร้อมครันครบ-
หวานสมทบ .. เหน็บหนาว ย่อมร้าวราน
O ด้วยหัวใจใฝ่คอยละห้อยห่วง
ความแหนหวงอาลัยก็ไพศาล
ริ้วลมร่ำเริงระลอก .. โอบดอกมาลย์-
ส่งหอมหวานซ่านบ่มอารมณ์ชู้
O ช้อยเรียวกลีบชูช่อ .. ให้รอชม-
สี, กลิ่นฉม .. ลมชาย .. กำจายสู่
อิริยาแฝงเร้นให้เอ็นดู-
ก็ไหวอยู่ด้วยสุมาลย์กลีบบานนั้น
O ละม่อมพักตร์แก้มอิ่ม .. ตาพริ้มหลบ
เมื่อบรรจบด้วยใจ .. ย่อมไหวสั่น
ด้วยความหอมหวานซึ้งที่ดึงดัน-
สร้างรูปฝันลงแฝงในแหล่งทรวง
O คาบหนาวนี้ลมร่ำ .. อยู่ค่ำเช้า
ความเปลี่ยวเปล่าห้วงใจ .. เคยใหญ่หลวง-
ก็ลับเลือนภาพหลังเสียทั้งปวง
จากความห่วงใยล้น .. ใครคนนั้น
O จากตรู่สาง .. เช้าสายจนบ่ายค่ำ
ลมคงร่ำฝ่าหาว, ความหนาวสั่น-
กลับลบเลือนเร้นหายที่ปลายวัน
จากอบอุ่นโอบขวัญ .. อย่างมั่นคง
O แดดแจ่มจ้า .. ฟ้าคราม .. เนตรวามแสง-
ค่อยเร้นแฝงเร้ารุมให้ลุ่มหลง
ดูเถิดแววเนตรดำ .. เหมือนจำนง-
ขอร่วมวงวัฏฏะชู้ .. ด้วยผู้เดียว
.
.
ดูเถิดเนตรหวานล้ำ .. เหมือนจำนง-
ขอเฝ้าบงการอยู่ .. แต่ผู้เดียว !
Create Date : 01 เมษายน 2561
Last Update : 31 พฤษภาคม 2566 7:22:34 น.
25 comments
Counter : 4488 Pageviews.
Share
Tweet
พื้นภพภาพอาบชื้นดูชื่นเช้า
ริ้วลมสายบางเบาชโลมไหว
ก้านกมุท โมก แก้ว กุหลาบ ไซ
กล้วยไม้ไทยเอนออรอแสงวัน
หางนกยูงเวียนว่ายอยู่ตุ่มน้ำ
เจ้าแมวเหมียวตัวดำเหยียบย่ำขัน
แล้วไต่กิ่งแมกไม้หูชูชัน
ทีท่าสงสัยนั้นไม่วางตา
มองปีกงามขยับจับตาอยู่
จนจู่จู่ พรึบหนี ในทีท่า
ตัวเจ้าเหมียวเหลียวมองอย่างสงกา
ว่าปีกบางนั้นหนาไปไหนแล้ว
ลองดูค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.47.98.107 วันที่: 2 เมษายน 2561 เวลา:0:49:32 น.
แส้พระอินทร์ ..
เข้าใจตั้งชื่อ .. 55
แม้จะวางเพียง 3 บท
แต่ก็เขียนได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง
ลองอีกก็ได้ ครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 2 เมษายน 2561 เวลา:10:32:28 น.
พอดีเช้าวันนั้น แส้พระอินทร์ หรือเอื้องมะลิ ออกดอกบานพอดีค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.34.84 วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:7:46:43 น.
อ้อ เป็นชื่อดอกไม้นี่เอง ..
ชื่อแปลกดีครับ ..
เอื้อง นี่คงเป็นพวกกล้วยไม้ประเภทหนึ่ง
ชอบอ่าน หรือ ชอบเขียนกลอนครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:18:58:23 น.
ชอบทั้ง 2 ค่ะ
ไล่ดูกลอนที่คุณเขียน มีสำนวนกลอนบุพเพสันนิวาสด้วย
เพราะค่ะ กลอนยาวอ่านไม่หมด แปลความหมายได้กระท่อนกระแท่นค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.102.136 วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:22:47:38 น.
กลอนยาวเป็นเรื่องราว เขียนแบบนิยายนั่นเอง
เพียงแต่การเขียนเป็นรูปแบบร้อยกรองมันท้าทายกว่า
กลอนบุพเพสันนิวาสนั่น เขียนนานแล้ว
ช่วงที่เขียนเยอะ เขียนเร็ว
เดี๋ยวนี้เขียนน้อยลงแล้วครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 4 เมษายน 2561 เวลา:6:56:06 น.
โห เขียนนิยายด้วยร้อยกรอง
เป็นนิยายสองภพคล้ายละครบุพเพฯที่ออกอากาศตอนนี้มั้ยคะ
เห็นบทกลอนมีฉากเสียกรุงศรีอยุธยา แล้วตัดมาฉากตักบาตร (หากมองภาพผิดไปก็ขออภัยด้วยนะคะ)
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.106.114 วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:20:30:01 น.
ครับ ..
ซ้ายมือ ใต้คำว่า Group Blog เป็นหัวข้อหลัก ..
ในแต่ละหัวข้อหลัก ที่ใต้ปฏิทิน ใต้คำว่า All Blogs
มีหัวข้อย่อย ที่อยู่ในหัวข้อหลักนั้นๆ
ร้อยกรองเรื่องยาว เริ่มตั้งแต่ ..
นิราศลำปาง .. ไล่ลงมาจนถึง ชั่วฟ้าดินสลาย
มีกี่ตอน ก็มาดูที่ All Blogs ครับ ..
เรื่องยาวมีทั้ง .. โคลง กลอน ฉันท์ ที่บอกไว้
หลังชื่อเรื่องครับ
ส่วนใหญ่เขียนย้อน ข้ามภพ ข้ามชาติ
เรื่องประวัติศาสตร์ แทบทุกเรื่องครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 6 เมษายน 2561 เวลา:6:09:22 น.
ขออนุญาตถามนะคะ
กลอนนิยายที่คุณเขียนเคยนำมาสร้างหนัง
หรือบทละครโทรทัศน์บ้างหรือไม่คะ
ประมาณกอบกู้อิสระภาพ / เอกราชน่ะค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.139.181 วันที่: 6 เมษายน 2561 เวลา:11:09:30 น.
ยังไม่มีใครติดต่อมาครับ 55
ผมเขียนเป็นงานอดิเรกครับ ..
หลังจากเขียนบทสั้นๆมาเยอะแล้ว
บางเรื่องก็ได้เค้าโครงจากนิยายที่เคยอ่านครับ
เช่นเรื่อง "สองฝั่งฟ้า" ..
หากเป็นคอนิยาย น่าจะพอเดาได้ไม่ยาก
ส่วน "รัตนโกสินทร์" เป็นเรื่องจริงช่วงต้นกรุงเทพ
แต่เขียนเน้นไปทางฝ่ายสตรีแทนบุรุษครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 6 เมษายน 2561 เวลา:13:27:53 น.
ไม่ได้เป็นคอนิยายหรอกค่ะ กลัวติด
โดยมากดูละคร ถ้าชอบก็จะตามอ่านนิยายต่อ
อย่างเรื่อง บุพเพสันนิวาสขณะนี้ แต่ปางก่อน
ทวิภพ สายโลหิต รัตนโกสินทร์
ส่วน สองฝั่งฟ้า ยังไม่เคยอ่าน เดี๋ยวลองอ่านดูค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.70.181 วันที่: 6 เมษายน 2561 เวลา:19:51:16 น.
ดูๆจะชอบแนวย้อนเวลาหาอดีตนะครับ ..
จากรายชื่อเรื่องละคอนที่ยกมา
ผมดูมาหมด ยกเว้นบุพเพสันนิวาส .. เพราะ
เลิกดูละคอนไทยมาสัก 3-4 ปีแล้วครับ ..
มาดูแบบนี้แทน .. //www.kseries.co/misty/
โดย:
สดายุ...
วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:8:52:37 น.
อ้าว..ไหงเลิกดูละครไทยล่ะคะ
ปีกบางขยับไหวละไมภาพ
ภายใต้ฟ้าครามขาบ สายลมแผ่ว
เหมียวตัวดำเพียงมองจ้องอย่างแมว
ตะกุยแก้วกิ่งก้านก็ลาญโรย
ขออนุญาตเขียนอีกบทค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.47.104.62 วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:12:45:52 น.
ฉันท์ "ภุมรินและพินทุรส"
ตัวอักษรวิ่งทางขวามือ
เพราะมากค่ะ คำศัพท์แปลกตาดี
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.47.104.62 วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:13:27:30 น.
ละคอนไทยยังวนอยู่กับ ..
..เรื่องที่มีพล๊อตเรื่องไม่น่าสนใจ คับแคบอยู่ในบริบท
ภายในครอบครัว ..
..บุคคลิกตัวละคอนที่การแสดงออก over acting .. ที่
ในชีวิตประจำวันไม่มีโอกาสได้เห็น
สังเกตุดูสิ ..
หนังฝรั่ง หนังจีน หนังเกาหลี ตัวละคอนมี แยกเขี้ยว
ยิงฟัน ทำสีหน้าเลศนัย เบ้มุมปาก ให้เห็นน้อยมาก
หรือแทบไม่มีเลย ..
ดูๆ ว่าจะเขียนกลอนถ่ายทอดเรื่องที่ต้องการสื่อ
ได้อย่างชัดเจนนะครับ ..
ฉันท์ มีบางเรื่องที่คนห่างภาษาไทยเขียนได้ยาก เช่น
โมหะ เมาหะ มุหะ .. ความหลง นี้เขียนได้ทั้ง 3
รูปแบบ .. อยู่ที่ตำแหน่งที่จะวางในฉันทลักษณ์นั้นๆ
หากสนใจค่อยคุยต่อ ..
โดย:
สดายุ...
วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:14:30:38 น.
โห..บ่นยาวเลย
หนังไม่ว่าชาติไหนก็มีทั้งดี ไม่ดีปะปนกัน
แล้วแต่มุมมองค่ะ ส่วนที่ไม่ดีก็มองข้ามไป
หยิบเอาส่วนที่ดีมาใช้ มาสอนเด็กๆ
หนังไทยก็เหมือนหนังสือไทย
ถ้าคนไทยไม่เขียน ไม่ดู ไม่อ่าน
แล้วใครจะเขียน ใครจะอ่านให้ใครฟัง
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.140.108 วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:15:15:09 น.
มันไม่ถูกจริตผมเป็นการส่วนตัวครับ ..
ชอบดูดาราทำหน้านิ่งๆ มากกว่า
เพราะคนเราโดยทั่วไปก็เป็นอย่างนั้น
แต่ไม่ได้โทษดาราเพราะเขาต้องทำตามผู้กำกับ
ผู้กำกับ ก้ต้องทำตามผู้อำนวยการสร้าง ..
รสนิยม ที่เขาชอบ กับที่ผมมีอาจไม่เหมือนกัน
จึงไปหาดูแบบที่ชอบดีที่สุด ..
ที่จริงคนรุ่นใหม่ ที่จบนิเทศน์มาน่าจะรวมกลุ่มกัน
ริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆบ้างนะครับ .. ในแวดวงละคอนไทย
โดย:
สดายุ...
วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:17:56:49 น.
ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ
น้องๆเขาอาจจะรวมตัวกันแล้วก็ได้ แต่ยังไม่เข้าตามั้งคะ
สะดุดคำว่า ละคอน กับ ละคร ค่ะ แตกต่างกันอย่างไร
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.66.63 วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:18:43:26 น.
ผมเขียนผิดเองครับ ..
ละคร ถูกแล้ว ..
เคยดูซีรีย์เกาหลีไหมครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:19:36:58 น.
ดูอยู่บ้างค่ะ
ชีวิตนี้เพื่อชาติ รักนี้พื่อเธอ , แดจังกึม
full house
ชอบทุกเรื่องค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.66.63 วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:20:42:57 น.
ละคอน น่าจะมีความหมายป็นนัย
คุณไม่น่าจะเขียนผิดค่ะ
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.46.66.63 วันที่: 8 เมษายน 2561 เวลา:20:50:12 น.
"ละคอน" เป็นคำที่ค่อนข้างจะโบราณอยู่สักหน่อย
ที่ในปัจจุบันใน พจนานุกรมราชบัณฑิต ไม่มีอยู่อีกต่อไป
คนที่ไม่ได้เรียนภาษาไทยมาโดยตรง
บ่อยครั้งก็เขียนผิดเขียนถูกแบบนี้แหละครับ
เห็นผิดตรงไหนช่วยบอกด้วยนะขอรับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 เมษายน 2561 เวลา:8:03:25 น.
ไม่ได้เก่งภาษาค่ะ
คำว่า ละคอน ดูเหมือนคุณตั้งใจเขียน
ให้เห็นความแตกต่างของคำมากกว่า
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.47.200.149 วันที่: 9 เมษายน 2561 เวลา:17:36:20 น.
ดูจากบทกลอน ฉันท์ที่คุณเขียน
โดย: แส้พระอินทร์ IP: 1.47.200.149 วันที่: 9 เมษายน 2561 เวลา:17:39:19 น.
ผมเคยเห็นมีการเขียนแบบนี้ ครับ
แต่จำไม่ได้แล้วว่าเห็นที่ไหน ..
แต่ในพจนานุกรมออนไลน์ ไม่มีแล้วครับ
หายไปหลายวัน ..
เที่ยวสงกรานต์ที่ไหนครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 21 เมษายน 2561 เวลา:18:53:37 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ริ้วลมสายบางเบาชโลมไหว
ก้านกมุท โมก แก้ว กุหลาบ ไซ
กล้วยไม้ไทยเอนออรอแสงวัน
หางนกยูงเวียนว่ายอยู่ตุ่มน้ำ
เจ้าแมวเหมียวตัวดำเหยียบย่ำขัน
แล้วไต่กิ่งแมกไม้หูชูชัน
ทีท่าสงสัยนั้นไม่วางตา
มองปีกงามขยับจับตาอยู่
จนจู่จู่ พรึบหนี ในทีท่า
ตัวเจ้าเหมียวเหลียวมองอย่างสงกา
ว่าปีกบางนั้นหนาไปไหนแล้ว
ลองดูค่ะ