Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
พฤศจิกายน 2558
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
26 พฤศจิกายน 2558
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
Ernesto Cortazar - Y Volvere - El Triste -
La Nave del Olvido - Orfeo Negro ·
O ลำดวนเอ๋ย .. เมื่อพรากไปจากถิ่น
แม้นที่หอมรวยรินอาจสิ้นบท
หากที่ยังหอมอยู่ไม่รู้ลด
จะข่มกดเยี่ยงไรก็ไม่เลือน-
O -คือหอมหวานนัยชู้เมื่อรู้แจ้ง
เจ้ารูปแพงรำบายลงป่ายเปื้อน
อกใครเล่าอาจคิดให้บิดเบือน-
ไปจากเงื่อนนัยคำเจ้านำวาง
O เมื่อรสหวานรอบชู้ .. ผ่านสู่ใจ
แรงสั่นไหวรอบสวาดิหรืออาจขวาง
ความเงียบงันเปล่าเปลี่ยวในเที่ยวทาง-
ย่อมเลือนร้างห่างรอย .. จาก .. ถ้อยคำ
O แต่รอบความอ่อนหวาน .. เผยผ่านสู่
ก็รับรู้อกนวลที่ครวญคร่ำ
เวียนรอบความหอมกรุ่นเจ้าหนุนนำ-
หอมยิ่งล้ำลำดวนเมื่อจวนลม
O เมื่อความหมายแฝงเร้นเผยเห็นรอย
การรอคอย, มุ่งหวัง .. ก็สั่งสม
เงื่อนงำปรารถนาในอารมณ์
ฤๅ-อาจข่มขับล้างให้จางรอย ?
O จึงทุกการเรียงร้อยเป็นถ้อยคำ
เพื่อตอกย้ำกำสรดให้ถดถอย
ทั้งเพื่อความกำสรวลทุกส่วน .. พลอย-
ได้เคลื่อนคล้อยบทบาท .. เคยพาดคา
O หมายว่าเรียวขนยูง .. งาม, สูงส่ง
จะรำแพนคลี่วงอยู่ตรงหน้า
ให้เสพรูปงามสี .. ด้วยลีลา-
ของผู้ท้าทายงามให้คร้ามเกรง
O โอ ผุดผ่องผิวเนื้อ .. ผู้เหลืองาม-
เผยรูปนามเร้ารุมเข้ากุมเหง
จบวงรอบหม่นมัว .. ด้วยตัวเอง
ก่อนรุดเร่งเร้ารัวอีกหัวใจ
O ผ่านรูปบทงดงาม .. เข้าล่ามจิต-
โดยลิขิตขีดชี้ .. เกินลี้ไหว
เคลื่อนรูปเข้าล่ามคา ความอาลัย-
กำหนดให้สั่นรัว .. ด้วยตัวเอง
O โอ รอบความปรารถนา .. รูปอ่าองค์-
ยังล้อมวงเคี่ยวกรำอย่างคร่ำเคร่ง-
ฉวยฉุดความคลอนแคลน .. ให้แกลนเกรง-
โดยการเพ่งพิศแล้ว .. ทุกแววตา
O ปรุงเปรียบถ้วนความคำแล้วนำร้อย
เพื่อรูปแพงเสพถ้อย .. แล้วคอยว่า-
ความอ่อนโยนอ่อนหวานที่ผ่านมา-
จักเผยแววเสน่หา .. แสนอาลัย
O หวังเพียงคอยถวิลอยู่ .. ไม่รู้แล้ว
ถ้วนทุกแววตานั้น .. คอยสั่นไหว-
เพื่ออบอุ่นอ่อนหวาน .. โลมผ่านใจ-
โอบกล่อมให้ละห้อยเห็นอยู่เช่นนั้น
O หมายว่าความผูกพัน .. ตราบวันนี้
คงยาก-คลี่คลายรัด .. หรือตัดบั่น
เหลือแต่ต้องยินยอม-การล้อมกัน-
ด้วยสายใยรัดพัน .. ตราบวันวาย
O หมายว่าความผูกพันแห่งวันวาน
จักแทรกผ่านอารมณ์ เกินข่มหาย
อารมณ์ชู้ดื่มด่ำ .. ค่อยรำบาย-
อกใจสายสวาดิน้อย .. ทุกรอยใจ
O ให้ถ้วนความคำนึง .. มีถึงอยู่
คล้อยผ่านสู่-แทรกขวัญ .. คอยสั่นไหว-
จนอาวรณ์วาบหวามด้วยความนัย-
เฝ้าล่องไหลผ่านระลอกยั่วหยอกกัน
O รูปแพงเอย .. ลำดับความรับรู้-
ล้วนนัยชู้โอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
รู้เถิดว่า .. แต่นี้ยากมีวัน-
จะหยุดใจไหวสั่น .. แม้-วันเดียว
O แพงเจ้าเอย .. ครันครบ-แล้วภพชาติ
รอคอยโหมรอบสวาดิ .. ขึ้น-กราดเกรี้ยว-
แววตาเฝ้าหวงแหน, สองแขนเรียว-
เจ้าจงเหนี่ยวโอบไว้ .. อย่าได้คลาย !
O แล้วอ้อมแขนอกอุ่น .. จะหมุนหา-
พร้อมแววตาอ่อนโยนที่โชนฉาย
สองแขนเอื้อมเหนี่ยวร่างที่ข้างกาย
โอบกอดความเอียงอาย .. ไม่คลายเลย !
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 19 พฤษภาคม 2566 5:41:32 น.
2 comments
Counter : 4687 Pageviews.
Share
Tweet
พี่ค่ะแปลนิราศนรินทร์บทที่๘๖ให้หนูหน่อยค่ะ จำเป็นมากคะ ขอบคุณล่วงหน้าล่ะกันนะคะ
นางนวลจับแมกไม้............นางนวล
นวลนุชแนบเรียบควร...........คู่แคล้ว
เบญจวรรณจับวัลย์พวน.......พันโอบ ไม้แม่
แลว่าวัลย์ทรแก้ว.................กอดอ้อมเอววัลย์ฯ
ขอบคุณคะ^^
โดย: michell IP: 1.46.41.162 วันที่: 14 ธันวาคม 2558 เวลา:20:37:16 น.
๘๖. นางนวลจับแมกไม้.....นางนวล
นวลนุชแนบเรียมควร........คู่แคล้ว
เบญจวรรณจับวัลย์พวน......พันโอบ ไม้แม่
แลว่าวัลย์กรแก้ว..............กอดอ้อมเอววัลย์
บาท ๑...จะเห็นว่าคำ นวล มีความหมายถึง ๓ อย่าง นกนางนวล ต้นนางนวล และ นวล (นาง)
บาท ๒...นางควรจะมาแนบข้างเป็นคู่เดินทาง
บาท ๓ ๔...นกเบญจวรรณจับเถาวัลย์ที่พันอยู่รอบๆ ต้นไม้ ก็ให้นึกถึงมือของนางที่กอดเอวของพี่ คำว่า วัลย์ (เถาไม้เลื้อย) ในบาท ๓-๔ นั้น มีความหมายถึง ๓ อย่าง คือ
วัลย์...หมายโดยตรงถึงเถาไม้เลื้อย
วัลย์กร...หมายถึง มือ (โดยการเปรียบกับเถาวัลย์)
เอววัลย์...หมายถึง เอว (โดยการเปรียบกับเถาวัลย์)
ศัพท์...
- พวน...........เชือก (ในที่นี้เป็นความหมายเชิงเทียบเคียงว่า เถาวัลย์นั้นเหมือนเชือก)
โดย:
สดายุ...
วันที่: 14 ธันวาคม 2558 เวลา:21:01:58 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
นางนวลจับแมกไม้............นางนวล
นวลนุชแนบเรียบควร...........คู่แคล้ว
เบญจวรรณจับวัลย์พวน.......พันโอบ ไม้แม่
แลว่าวัลย์ทรแก้ว.................กอดอ้อมเอววัลย์ฯ
ขอบคุณคะ^^