Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
กุมภาพันธ์ 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
17 กุมภาพันธ์ 2557
O แก้วเอย .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O แก้วเอย .. O
Orchester Anthony Ventura - Love Story
O กรอบกาลเลื่อนเพ็ญจันทร์ขึ้นชั้นฟ้า
เมื่อดวงภาณุมาศลับ .. รำงับแสง
ที่โค้งฟ้าจรดน้ำ .. สี-ก่ำแดง-
ทอดลงแต่งระลอกคลื่น .. โลมพื้นน้ำ
O ปลายปีกนกฉีกกางลอยร่างร่อน-
โผขึ้นกลางอัมพรแล้วย้อนต่ำ
แว่วสรรพเสียงผ่านลมที่พรมพรำ-
พาหม่นมัวมืดดำ .. เข้าอำพราง
O จะลืมฤๅได้สิ้นนะกลิ่นเจ้า
เมื่อคอยเฝ้าถวิลอยู่แต่ตรู่สาง
ในค่ำดึกหม่นมืด, .. หากจืดจาง-
ก็แต่ความหมองหมาง .. ที่ร้างลา
O ด้วยอาวรณ์ถวิลอยู่ .. ความรู้สึก-
ในส่วนลึกเฝ้าแต่คอยละห้อยหา
กอปรความหมายอบอุ่นเจ้าหนุนมา
ก่อคุณค่าขึ้นขจ่างที่กลางใจ
O สื่ออาลัยใจคน .. ฝ่าหนหาว
ฝากแสงเดือนหมู่ดาว .. วับวาว-ให้-
เชื่อมส่งผ่านเสน่หาจากฟ้าไกล
สู่จิตใครร่วมสดับ .. ตอบ-รับรอง
O สืบส่งความมุ่งหมายรำบายบอก
รอนระลอกวิปโยคแห่งโลกผอง
หวานหอมอบอุ่นนำ .. ท่วงทำนอง-
ร่วมพร่ำพร้อง .. พิสมัยเป็นนัยเดียว
O รอบอบอุ่นแทรกซ้ำอยู่ค่ำเช้า
พาใฝ่เฝ้าคอยแต่ชะแง้เหลียว
กลางเหน็บหนาวรอบฤดูลมกรูเกรียว
ก็โน้มเหนี่ยวอาวรณ์แนบนอนทรวง
O พร้อมความหมายผ่านบอก หอมดอกไม้-
ก็หอมให้เสพรับ .. ลำดับช่วง
พร้อมหัวใจหอมล้ำ .. ถ้อยคำ-ปวง-
ก็ย้อนช่วงความหวัง .. อีกครั้งคราว
O วานนั้นลมร่ำไหล .. หัวใจตื่น
อ้อยอิ่งอย่างแช่มชื่น .. กับคลื่นหนาว
โคมบนสรวงช่วงระยับ ..แสงวับวาว
เมื่อเรื่องราวบางตอน .. กลับย้อน-เยือน
O จากหนาวเป็นรุมร้อน .. สุดผ่อนผัน
พร้อมรำพันเชิงชู้ .. ที่ดูเหมือน-
แฝงความนัยซ่อนวาง .. อยู่รางเลือน-
เพื่อจะเกลื่อนกลบหมายให้คลายลง
O เช่นมาลย์หอม .. ผึ้งภู่ .. ก็รู้เคล้า
คำกรองเย้ายั่วอยู่ .. ก็รู้สง-
สัยคารมคมคำ .. และจำนง
จึงเลยหลงสนเท่ห์ .. ตอบเล่ห์การณ์
O เอ็นดูมากนักแล้ว .. นะแก้วเจ้า
แต่คอยเฝ้ารายล้อมด้วย .. หอมหวาน
มธุรสเว้าวอน .. ออดอ้อนปาน-
ทอถักสานเป็นบ่วงคล้องดวงใจ
O จนค่อยเผยความหมาย .. รำบายบอก
ผ่านท่วงทียั่วหยอก .. ล่อหลอกให้-
ผู้ลอบเร้นอ่านอยู่ .. พึงรู้นัย-
แฝงความไว้ .. รับขวัญ .. ด้วยพรรณนา
O ใครหนอ .. แก้มเนื้ออิ่ม .. ซ่อนยิ้มอยู่
รอเชิงชู้คำชาย .. รำบายหา
หมายเสกสั่งใจคน .. ด้วยมนตรา
เต็มอยู่ด้วยเสน่หา .. ทุกท่าที
O สุมาลย์สอดกลีบสวย .. อำนวยให้-
ภู่ผึ้งไหวว่อนถิ่น .. เคล้า-กลิ่น, สี
ตฤปร่ำรสหอมหวานสุมาลย์มี
เมื่อใจนี้ร่ำขอ .. แต่รอคอย
O วิหคเหินถลาลม .. เสียงขรมอยู่
แว่วรับรู้ .. ว่าพิโยค .. เคยโศกสร้อย-
ได้ล่มลาญจากทรวง .. จนล่วงรอย
เหลืองดงามพร่างพร้อย .. ขึ้นคอยเคียง
O ปีกบางภู่ภมร .. ไหวว่อนถิ่น
เมื่อถวิลอาลัย .. เริ่มให้เสียง
สดับเถิดความถ้อย .. ที่ร้อยเรียง
ก็เพื่อเพียงผ่านอุโฆษ .. ถึงโสตใคร
O เพื่อใคร .. ต่อแต่นี้ .. หากลี้หน้า
จงท่วมทัณฑ์ทรมา .. จนกว่าได้-
มอบอาวรณ์ยินยอม .. อย่างพร้อมใจ
วางลงไว้กลางมือ .. ให้ถือครอง
O ถ้วนองค์ทั้งอกฟ้า - - แลดิน
นบเทพทังสาวสินธุ์ - - สื่อรู้
พระเอยสะโรชริน - - มนต์ร่าย ร่วมฤๅ
ร่วมพากย์แจ้งใจชู้ - - ชื่นด้วยชายเดียว ฯ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 15 เมษายน 2566 12:09:06 น.
10 comments
Counter : 3595 Pageviews.
Share
Tweet
ชายเดียว...
"O จะลืมฤๅได้สิ้นนะกลิ่นเจ้า"ทำให้นึกถึง งานของเจ้าพระยาพระคลัง(หน):
"รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้ เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี
ในสถานพิมานสิมพลี กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย
นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย
ฤๅว่าใครแนบน้องประคองกาย กลิ่นสายสวาทซาบอุรามาฯ"(กากี)
นึกขอบคุณคุณครูที่บังคับให้ท่องจำกลอนอันไพเราะได้...
สดายุ ลูกของพญาครุฑ นี่ คงจะอยู่ ฉิมพลี ด้วยซินะ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 192.99.14.34 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:11:28 น.
สาวเยอรมัน
เปล่าเลยมินตรา .. ไม่ได้อยู่ฉิมพลี ตอนนี้อยู่บ้านเช่าคนเดียว ..
กะว่าจะหาที่สักแปลงแล้วลง container house แบบกระทัดรัด ราคาไม่เกิน 3 แสน สักหลังแบบใน link .. คลิกไปชมได้เลย วิมาน container มือสอง 55
Modern Style .. 2 containers house - สุดยอดแนวคิด !
เชื่อไหมว่า container มือสองขนาด 40 ฟุต ราคาประมาณ 5 หมื่น สองตู้ก็แสนเดียว เอาไปพ่นทรายแล้วลงสีกันสนิมแล้วค่อยขนมาก่อสร้าง แล้วลงสีภายนอก ประมาณ เหลืองสด เขียวสด แดงสด เป็นส่วนๆไป
เบ็ดเสร็จราคาไม่เกิน 3 แสน - แจ่ม
บ้านนอกที่ดินราคาไม่แพงมาก ยิ่งหากใช้เงินยูโรมาซื้อแล้วนี่ถูกมาก ตารางวาละหมื่นต้นๆ ก็ประมาณ 350 ยูโรเท่านั้นเอง
กลอนเจ้าพระยาพระคลังที่ยกมา .. ไม่ค่อยไพเราะนักในแง่วรรณศิลป์ แต่ก็นะ ท่านไม่ได้เป็นกวีใหญ่อย่างสุนทรภู่
วันก่อนที่กรุงเทพไปเห็น หนังสือ "เจ้าจอมจากตระกูลบุนนาค" กับ "ราชวงศ์บ้านพลูหลวง" ใน B2S กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะซื้อเล่มไหนดี
โดย:
สดายุ...
วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:23:54 น.
สดายุ.
.container houseนี่หากปลูกที่แถบสแกนดิเนเวีย น่าจะได้..เพราะนิยมที่อยู่อาศัยเช่นนี้..โปร่งโปร่ง เรียบง่าย..
แต่ในเยอรมัน รัฐบาลอนุญาตให้พวกช่างพวกวิศวะใช้ใน บริเวณที่กำลังก่อสร้าง อยู่ชั่วคราวได้..แต่อยู่ถาวรมิได้ ..ตามกฎหมาย
เจ้าพระยาพระคลัง (หน)บุตร เจ้าพระยาบดินทร์สุรินทร์ฦๅชัย (บุญมี)เจ้าเมืองเพชรบุรีและท่านผู้หญิงเจริญนั้นท่านเป็นผู้คุมการค้าสำเภาหลวง.ไปจีน.
จะแต่งจะเขียนอะไร ไม่มี"ความเจ้าชู้"อยู่ในตัว..
ภาษาจึงไม่หวานอย่าง สดายุ !
แต่ท่านจะชำนาญเรื่องของพวกมอญ..เช่น ราชาธิราช ตามเชื้อสาย..หรืออย่าง สามก๊ก เพราะท่านเป็นจุดรวมของพ่อค้าชาวจีนที่มาค้าขายในไทย.
เรื่อง หนังสือ "เจ้าจอมจากตระกูลบุนนาค"น่าจะมีแต่เรื่องของครอบครัวเดียวของตระกูลบุนนาค ที่ถ่ายภาพเป็น นวดเก่งช่างเอาอกเอาใจ แล้วทอดปลาทูหน้างอคอหักได้เก่งที่สุดในสยาม..
จนร5 ต้องขอมาทดลองทำน้ำพริกและทอดปลาทูด้วย..555
ความจริงน่ะตั้งแต่สมัยพระเอกาทศรถมา.ตระกูลนี้ผลิต เจ้าจอมหม่อมห้ามจนเป็นพระราชินีกัน..มิใช่มีแต่ก๊กอ. ก๊กเดียว..
พระคู่หมั้นในร5เจ้าจอมแพ ก็เป็นบุนนาค
สาวตระกูลนี้ไม่สวยหรอก แต่เก่งทุกคน ตรงที่ช่างสะสมความรู้ความสามารถไว้เป็นคุณสมบัติส่วนตัว
อ้อ เจ้าพระยาพระคลัง(หน)น่ะ ท่านมาจากสายย่อยของตระกูลบุนนาค..สังเกตุได้จากเดินเรือเก่ง ขยันทำมาหากิน มัธยัสถ์ ใฝ่ความรู้และสนใจเทคโนโลยี่..
พูดไปแล้วเดี๋ยวจะมีเสียงทักท้วงมาอีกว่า.."หากพวกบุนนาคบันทึกว่าทำอะไรไว้เยี่ยงนี้ ราชวงศ์จักรีก็ไม่มีความสามารถเลยน่ะซิ..!"
ที่พูดเพื่อจะบอกว่า แผ่นดินนี้ มีผู้ที่ร่วมก่อร่างสร้างตนกันมา โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยแสดงความเก่งก็ได้..
อย่ามัวแต่ต่างคนต่างเก่งกันจนแผ่นดินแยกแตกระแหงเช่นวันนี้..อยู่เลย..
โดย: บุษบามินตรา IP: 192.99.14.34 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:2:11:00 น.
มินตรา ..
นั่น .. มีลูกเหน็บด้วย ..
เอ .. พวกบุนนาค นี่ปากคอเอาเรื่องเหมือนกันนะนี่
55
แล้วทำไมลูกๆของเจ้าจอมมารดาเปี่ยมถึงขึ้นชั้นราชินีทั้ง 3 ใบเถา พอรู้ไหม .. เพราะดูในรูปถ่ายแล้วก็ไม่เห็นความสวยแบบโดดเด่นอันใด
ส่วนเรื่องบุนนาคก็แค่ผ่านตา ไม่เคยเจาะลึก จำได้แต่ว่าเชคอาหมัด ต้นตระกูลมาจากเปอร์เชียสมัยพระนารายณ์ แล้วถูกพระนารายณ์กล่อมให้หันมานับถือพุทธแทนอิสลาม ..
แต่สมัยพระเอกาทศรถนั้น ก่อนหน้าพระนารายณ์มากอยู่ ..
พระเอกาทศรถ
พระเจ้าทรงธรรม
พระเชษฐา
พระเจ้าปราสาททอง
แล้วมีคั่นอีกคนหนึ่งสั้นๆ
พระนารายณ์
หรือผมจำผิด ?
ที่จริงแล้วหากดูกันจริงๆ สาวอิหร่าน นี่สวยกว่าสาวอาหรับนะ .. แขกขาวที่สวยที่สุดก็คือเปอร์เซีย รวมทั้งแคชเมียร์ของอินเดีย (แต่ก่อนเรียก กัษมีระ) นี่เอง เชคอาหมัด มาได้สาวไทยเป็นภรรยาแล้วน่าจะออกมาเป็นลูกครึ่งแบบ แคทลียา แมคอินทอช สิ .. ทำไมหน้าตาถึงออกมาแบบนายมารุต บุนนาค ไปได้นะ ..
หรือว่าสายเลือดชิดกัน (เพราะหวงอำนาจและทรัพย์สิน) ทำให้ขี้เหร่ไปได้ ?
หากเป็นสมัยอยุธยา พวกบุนนาคที่มีอำนาจมากแบบสมเด็จเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) อาจล้มราชวงศ์เดิมแล้วตั้งราชวงศ์ใหม่แน่นอน เหมือน เจ้าพระยากลาโหมยุคพระเจ้าทรงธรรม ตั้งราชวงศ์ปราสาททอง ตามที่เขียนในนิราศเรื่องยาว ..
O โคลงนิราศเพรงกาล .. O
เมื่อหนึ่งหญิงผู้น้องขึ้นครองเมือง
ความรุ่งเรืองไพบูลย์จะสูญหาย
ริษยาโหมไหม้หัวใจชาย
และสองหญิงขวนขวายทำลายล้าง !
เมื่อหนึ่งหญิงอ่อนแอใกล้แพ้พ่าย
ความเขินอายแห่งถ่อยจะถอยห่าง
ยอมเปิดหน้าเผยตัวอยู่ทั่วทาง
ความตายจะว่อนวางทุกย่างเดิน !
โดย:
สดายุ...
วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:49:37 น.
สดายุ.
".แล้วทำไมลูกๆของเจ้าจอมมารดาเปี่ยมถึงขึ้นชั้นราชินีทั้ง 3 ใบเถา พอรู้ไหม ."
คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีเจ้าฟ้าก่อน และเป็นการถ่วงดุลย์กับขุนนางบุนนาค กระมังคะ
แหม..พระคู่หมั้นที่ต้องยกขบวนแห่ขันหมากให้พระราชบิดาไปขอ มีอยู่คนเดียว..
พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี..
"ราชเทวี" ตรงจุดตัดระหว่างถนนพญาไทกับถนนเพชรบุรี ที่กบฎเทือกไปตั้งหลักอยู่ ก็บุนนาค
แล้วทรงเป็น "เมีย" คนแรกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์โคลงพระราชทานให้ว่า
"สุขุมาลโดยชาติเชื้อ เผ่าพันธุ์
กายกอปรวรลักษณ์อัน ละเอียดพร้อม
ไตรทวารประพฤติสรรพ์ สิ่งชอบ ควรแฮ
ละเอียดครบควรนบน้อม ท่านผู้ สุขุมาล"
แค่นี้ก็มากมายแล้ว จะโลภมากยากเรื่องให้เดือดร้อนไปทำไม..อยู่สงบสงบไม่ต้องไปแย่งอะไรกับใคร
บุญวาสนาก็มาเอง มิดีกว่ารึ.
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์(ดิศ บุนนาค)
เมื่อยังเป็นเจ้าพระยาพระคลังถือตราบัวแก้ว
แล้วยัง ถือตราพระคชสีห์ ประจำตำแหน่ง สมุหพระกลาโหมด้วย
น้องท่านสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ(ทัต บุนนาค)ถือตรา ตราพระราชสีห์ประจำตำแหน่ง
สมุหนายก
ตราสามดวงสูงสุดในแผ่นดิน..
ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ศาลรัฐธรรมนูญเถอะ..
อัครมหาเสนาบดี ศักดินา 10,000 ไร่มีสิทธิสั่งตัดหัวคน แต่ไม่เคยสั่งเลย..
จะแพ้ก็แต่กบฎสุเทพผู้มีที่ดิน100,000ไร่ แถมยังสไนเปอร์ ยิงหัวคนเป็นร้อยคนได้อีก..
บุนนาค รึจะ บังอาจมาเทียบ เทือกสุบรรณได้!
โดย: บุษบามินตรา IP: 192.99.14.34 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:6:19:48 น.
มินตรา..
ตัวตนของคนสุราษฎร์คนนี้หาได้มีอะไรคู่ควรต่อการใส่ใจไม่ !
เป็นเพียงเบี้ยในกระดานหมากรุกในยามที่กฎอนิจจังกำลังทำงานอย่างไม่เกียจคร้าน
เมื่อเกมหมากรุกกระดานเก่ากำลังใกล้จบลง และต้องตั้งหมากเริ่มต้นใหม่ เป็นที่รู้กันว่า "ขุน" เป็นสิ่งที่ต้องปกป้องจนถึงที่สุด หากฝ่ายตรงข้ามรุกคืบกิน"ขุน"ได้ก็แปลว่า มันจบแล้วครับนาย
เรือ .. นั้นกอปรด้วยแสนยานุภาพวิ่งเร็วและเล่นไกลได้ แต่เรือลำนี้เก่าคร่ำคร่ามากแล้ว คงทนคลื่นลมไปได้อีกไม่นาน
ม้า ..
โคน ..
แสนยานุภาพรองลงมา
เบี้ย .. ทหารเลวที่มักถูกกินก่อนเสมอ
ถาม : ทำไมถึงกลัวการเปลี่ยนขุนกันนักหนา ?
ตอบ : เพราะขุนที่กำหนดไว้แล้วอำนาจเดิม "ควบคุมไม่ได้" แต่เป็นมิตรกับอำนาจใหม่
และอำนาจใหม่นี้"น่าจะ"ติดตามทวงคืนทุกอย่างที่เสียไป
ล้างบาง .. ตุลาการ
ล้างบาง .. แมวตะวันออก
ล้างบาง .. องค์กรอิสระ
ล้างบาง .. ระบบอุปถัมภ์
จัดระเบียบ .. เทวดาและพวก
โดย:
สดายุ...
วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:36:26 น.
ชายเดียว..
"อยากให้จบเร็วเร็วน่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องมีใครมาตายอีก"
(คำพูดของภรรยา ดาบตำรวจ เพียรชัย ภารวัตร ผู้เสียชีวิตจากการปราบม๊อบกบฎในวันนี้)
โดย: บุษบามินตรา IP: 192.99.14.34 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:03:59 น.
มินตรา
หากต้องการการเปลี่ยนแปลง มันต้องมีการสูญเสีย
เพราะไม่มีใครยอมวางอำนาจที่ตนมีโดยง่าย
น่าจะเลี่ยงสงครามกลางเมืองยากนะงานนี้
เพราะไม่ว่าใครชนะ จะเป็นเพียงภาวะชั่วคราวแล้วรอ"การเอาคืน" เพราะงานนี้คนที่ควรเป็นคนกลางลงมาเล่นเอง .. ที่ผ่านมาเขาแค่ให้เกียรติ แต่ไม่ได้พิสวาดิอะไรนักหนา และไม่ได้กลัวด้วย
พลวัตของ สิ่งที่ดำรงอยู่อย่างฝืนโลกคือ รอการล่มสลาย เท่านั้น .. ไม่มีอย่างอื่น
โดย:
สดายุ...
วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:6:41:24 น.
ชายเดียว..
รายงานภูมิอากาศประจำวันนี้..
ศาลแพ่งมีวินิจฉัยมิให้ปราบกบฎ...
นปช.เชิญธงรบขึ้นเสา..
ประชาชนคึกคักกันตามหน้าเวป...
แกล้วเอย...
โดย: บุษบามินตรา IP: 192.99.14.36 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:31:08 น.
หญิงเอย ..
ทั้งยุทธเหล่ ใจเล็ก
ทั้งแกล้วกล้า เก่งแต่รบกับศัตรูมือเปล่า
ทั้งไอ้เทพ
ทั้งไอ้โล้นเหลือง
มันปลายแถว
เมื่อ"พี่ชาย" กับ "น้องสาวทั้งสอง" ยังคุยกันคนละคีย์
ก็ต้องนับศพไพร่เลวไปเรื่อยๆก่อน
ตอนนี้ไอ้ตัวข้างบนทั้งหมด มันกลัวแทงหวยผิดตัว นอนไม่หลับกระสับกระส่ายอยู่ทุกคืนจนตาเหล่ไปข้างหนึ่งแล้ว 555
เมื่อไรที่เพศแห่งอารมณ์ฝักใฝ่อำนาจและเข้ามาวุ่นวายผ่านชายผู้อ่อนแอ .. แผ่นดินนั้นความฉิบหายจะมาเยือน ..
ศรีสุดาจันทน์ ครั้งพระไชยราชา เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
O แผ่นดินที่กฎหมายไม่ตายตัว
การตีความดีชั่ว ย่อมมั่วได้
การสุมหัวตีความ ย่อมทรามไป-
เพื่อรับใช้ชนชั้นผู้บัญชา
โดย: ชายเดียว IP: 171.100.148.210 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:01:12 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ชายเดียว...
"O จะลืมฤๅได้สิ้นนะกลิ่นเจ้า"ทำให้นึกถึง งานของเจ้าพระยาพระคลัง(หน):
"รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้ เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี
ในสถานพิมานสิมพลี กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย
นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย
ฤๅว่าใครแนบน้องประคองกาย กลิ่นสายสวาทซาบอุรามาฯ"(กากี)
นึกขอบคุณคุณครูที่บังคับให้ท่องจำกลอนอันไพเราะได้...
สดายุ ลูกของพญาครุฑ นี่ คงจะอยู่ ฉิมพลี ด้วยซินะ..