Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
กันยายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
30 กันยายน 2557
O ปีกนก และ อกคน .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O ปีกนก และ อกคน .. O
Sergey Grischuk - Rain... Rain...
O ปักษีเสาวเลขล้วน .. เสียงครวญคร่ำ
กลางลมร่ำเย็นรื่นโลมผืนสินธุ์
ปลายปีกกางเย้ยโลกขึ้นโบกบิน
เมื่อกรุ่นกลิ่นกุสุมาลย์หอมซ่านมา
O อบอุ่นด้วยรูปแพงเจ้าแฝงเลศ-
โดยแววเนตรปริบปรอย .. เฝ้าคอยท่า
เผยรูป-พฤติ .. งดงามลงล่ามคา-
จิตวิญญาณปรารถนา .. ให้อาลัย
O ลมพลิ้วจบริ้วขน .. ที่บนฟ้า
พร้อมแววตาจบรูป .. แล้ววูบไหว
ล่องลอยช่วงชีวาผ่านฟ้าไกล
ต่าง-ฤๅ .. การล่องไหลของใจคน
O รับรู้ความอาวรณ์แสนอ่อนโยน
คอยถ่ายโอนมอบกันหมื่นพันหน
เยี่ยงไรหนอแรงถวิล .. จึงดิ้นรน-
เฝ้าแต่ขวนขวายชู้ .. ไม่รู้พอ ?
O ปีกนกโบกเบียดฟ้า .. แววตานั้น-
ก็ไหวสั่นรูปรอย .. ขึ้นคอยล่อ-
หลอก-หัวใจ .. ยั่วเย้าพะเน้าพะนอ
อยู่แอบออกล่อมขวัญ .. ค่ำยันเช้า
O ชั่ว-ผ่านหวานแต้มเติมลงเพิ่มพูน
ความผ่องแผ้วดวงกูณฑ์ก็สูญเปล่า
ชั่ว-แววตาทอดทับอยู่กับเงา
พรายแสงเพรางายผอง ฤๅ-ต้องการ ?
O ถ้วนสิ้นความผ่องแผ้ว .. ในแววตา
ก็คล้ายว่ารายล้อมด้วยหอมหวาน
ทั้งเนียนแก้มเอิบอิ่ม .. รอยยิ้มพาน-
เหมือนกลีบมาลย์ช้อยรอ .. ภู่ออรส
O หลบได้หรือแววชม้อยชม้ายยั่ว
เมื่อเผยความสั่นรัว .. อยู่ทั่วบท
เนตรวาวน้ำวามอยู่ .. ไม่รู้ลด-
ทอน-หวานอด-ออมแววให้แล้วเลือน
O หลบได้หรือรูปลออ .. เมื่อคลอเคล้า-
แววตาเร้ารุมหมายลงป่ายเปื้อน
อิริยารูปจริตเมื่อติดเตือน-
จะแล่นเลื่อนล่วงไปอย่างไรพ้น
O ชั่วเพียงตาจบจูบด้วยรูปเงา-
ความว่างเปล่าในทรวงก็ร่วงป่น
รอบอาวรณ์อาลัย .. จึงไหววน-
เวียน-อยู่บนคาบยาม .. งดงามนั้น
O อยู่ในรอบวงวัฏฏ์ของสัตว์โลก
ผ่านสุขโศก .. ขวาง-ขวาก .. ต้องบากบั่น
ย่อมเพื่อรอบันลือความดื้อรั้น
ก่อรูปฝันแฝงเร้นให้เป็นจริง
O ปีกนกยังโบกบินกลางถิ่นสรวง
แววนัยน์ตาแหนหวงก็ช่วงยิ่ง
ดูเถิดความอาวรณ์ .. ราวอ้อน-อิง-
แอบแววกลิ้งเกลือกชู้ .. ให้รู้การ
O โล้ลมล่องลอยร่างอยู่กลางหาว
เนตรวับวาวออดอ้อน, ความอ่อนหวาน-
ก็เผยแววหยอกเอินอยู่เนิ่นนาน
โลมความซ่านซึ้งทั่วทั้งหัวใจ
O ปลายปีกบางคว้างลิ่ว .. ล้อริ้วลม
เมื่อสุดข่มอาวรณ์ .. ออดอ้อนไหว
จำต้องยอมให้งามรุกลามนัย
เข้าโลมไล้ถ้วนสิ้นจิตวิญญาณ
O เจ้าเอยรู้ไหมว่าใครอาวรณ์ ?
กับท่วงทีออดอ้อนแสนอ่อนหวาน
รู้หรือไม่ .. รูปลออเจ้า-ทรมาน-
อกชายชาญรุมร้อนยากผ่อนลง
O แต่เมื่อวางชาติภพ .. บรรจบช่วง
เหมือนเงื่อนบ่วงทอด-วาง .. ให้ย่างหลง-
เพื่อรัดรึงผูกพันจนมั่นคง
สองปลายลงเงื่อนตาย .. ยากคลายคลอน
O แต่เมื่อวางภพชาติลงพาดช่วง
ความแหนหวงนัยชู้ .. เกินรู้ซ่อน
เสน่หาทั้งปวง .. ทุกช่วงตอน-
ก็สุมซ้อนทอดทับให้รับรอง
O โอนงดงามนามรูป .. เข้าสูบสิ้น-
ทั้งเจตจินต์ทุกข์โศกแห่งโลกผอง
จึงเหลือความหวานล้ำ .. เร่งทำนอง-
ร่วมพร่ำพร้องเสน่หา .. แรงอาลัย
O ปีกบอบบางกางว่อนช่วงตอนฟ้า
แววนัยน์ตารื่นชู้ก็รู้ไหว-
วาบผกายดื่มด่ำ .. แห่งน้ำใจ
กระเพื่อมไหลล่องแววไม่แล้วลา
O เพียงถ้อยคำรำบาย .. เข้ารายล้อม
หมายหล่อหลอมอบอุ่นก่อคุณค่า-
ตรึงติดแนบดวงขวัญ .. คอยบัญชา-
เสน่หาให้ช่วง .. กลางห้วงใจ
O เพียงรำพันรำบายลงป่ายเปื้อน
เพื่อแล่นเลื่อนนัยชู้จนรู้ได้-
ว่ามีเพียงแต่เจ้า .. รูปเยาว์วัย
พี่อาลัยเกินจิตจักบิดเบือน
O ปักษีเสาวเลขหวน .. เสียงครวญคร่ำ
ลมยังร่ำรินสาย .. จนคล้ายเหมือน-
ว่ารอกล่อมรื่นเย็น .. จนเห็นเดือน-
ดาว-ลอยเลื่อนทอแสงแต้มแต่งฟ้า
O พร้อมเกสรกุสุมาลย์หอมซ่านกลิ่น
รอบถวิลหอมหวานยิ่งซ่านกว่า
หมายจดรูปแหนหวงในดวงตา-
ก่อนเอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง !
Create Date : 30 กันยายน 2557
Last Update : 22 เมษายน 2566 8:14:35 น.
11 comments
Counter : 3382 Pageviews.
Share
Tweet
สดายุ..
"O พร้อมเกสรกุสุมาลย์หอมซ่านกลิ่น
รอบถวิลหอมหวานยิ่งซ่านกว่า
หมายจดรูปแหนหวงในดวงตา-
ก่อนเอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง ! "
ไปดู "งามรูปกาย" ก่อน สักพัก..
จะได้มี "เอวคอด" ให้ใคร..
มา"..เอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง ! " บ้าง
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:13:52:18 น.
มินตรา
ต้องรูปนี้ อกเป็นอก เอวเป็นเอว
ในทรวดทรงองค์เอว Perfect Body 170
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2014&date=26&group=137&gblog=1074
งามมาก ..
เดี๋ยวเย็นนี้ว่าจะไป Apple Store ดูสักหน่อย ..
ไปดูว่า Mc รุ่นไหนน่าลิ้มลอง 55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:14:02:38 น.
ดายุ...
จำได้ว่าสมัยเด็กเด็ก เคยถามแม่ว่า ..
"เอว"น่ะคือส่วนไหนของร่างกาย
แม่ตอบว่า หากแนบแขนกับตัว ตรงปลายข้อศอกน่ะ คือเอว...
ทฤษฏีนี้ มินตรายังใช้หา"เอว" ตัวเองได้อยู่ค่ะ..555
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:17:37:38 น.
มินตรา ..
แม่ .. อีกแล้ว !
นี่ผมกำลังพูดกับเด็กติดแม่แน่เลย .. โตป่านนี้แล้วยังเรียกแม่ทุกเรื่อง - 55
ญ ที่ไม่มีเอว ลำตัวตรงๆ สำนวนโก้วเล้งว่า "เอวหนาหยาบใหญ่" มักไม่ดึงดูดสายตาชาย .. แต่เข้าใจว่าจะเป็นเรื่องของพันธุกรรมมาจากพ่อแม่นะ มิใช่เรื่องจะมาบริหารกันได้ ..
คนที่มีรูปทรงองค์เอว 36-23-36 ทรงขวดแชมเปญ จึงเป็นเรื่องธรรมชาติล้วนๆ ถือว่าโชคดีไป
ซึ่งส่วนมากจะเห็นในสาวละตินอเมริกา เวเนซูเอลา จึงมีนางงามจักรวาลมากสุด ดังนี้แล
โดย:
สดายุ...
วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:6:12:25 น.
สดายุ...
คน"มีแม่มีครู "แม้จะไม่มีความรู้ทางศาสนา
ก็ยังมีปัญญาจะตอบได้ว่า พระภิกษุรุ่นแรกของพุทธคือ ปัญจวัคคีย์
และภิกษุไทยองค์แรกไทยคือ พระปุณณเถระ
มีใช่ฝนตกน้ำไหลหน่อไผ่จึงโผล่มา !
พันธุกรรม" เอวหนาหยาบใหญ่" ไซด์ 38-26-38 น่ะ
เพราะความเจริญวัยไปลง..สมอง...
ในแดนเยอรมันที่ อ้วนเตี้ย ไม่ต้องหัดเต้นแซมบ้า
ก็คว้าบอลโลกมาด้วย "ระบบและระเบียบ"
ในภาษาเยอรมัน ใช้คำว่า Flasche (ขวด)
เรียกคนที่.. สมองกลวง ขาดความสามารถ..
ฉะนั้น อ้วนเตี้ยพอประมาณ แต่ฉาดฉานทางวิชา..
จึงน่าอภิรมย์ !
พันธุกรรมที่เกิดมา และเวลาที่ใช้ในเยอรมัน...
จึงเป็นโชคมหาศาล เกินจะประมาณได้..
หากผู้ใดฝักใฝ่ในความรู้..ความสามารถ..
ไม่ต้องไปประกวดแข่งขันกับใครให้เสียเวลา
เพราะคุณค่ามีอยู่ในตนเพรียบพร้อม..
ปีกนก และ อกคน .. !
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:8:00:39 น.
มินตรา
เห็นด้วยกับความโชคดีที่ได้ไปอยู่เยอรมัน แทนเมืองสยามที่ยังตามอวยเจว็ดกันไม่เสร็จ
เห็นด้วยกับความภูมิใจในรากเหง้าตนเอง
เห็นด้วยกับเรื่องสมอง ที่เรามักมอบคุณค่าให้เหนือความงามรูปกายตลอดมา เราจึงควรบังคับให้ถ่ายทอดงานประกาศรางวัลโนเบิล มากกว่างานประกวดนางงามจักรวาล
ช่วยกันหาสปอนเซอรดีไหม ?
โดย: สดายุ IP: 49.230.116.189 วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:12:30:55 น.
สดายุ...
ชายไทยอย่างสดายุ นี่แหละ ที่เป็นบ่อเกิดของ ...
มิสไทยแลนด์ และการตบตีในละครช่อง ๓..๗..๕..
แล้วจะมาโวยวายว่า คนไทยโง่เขลาเต่าตุ่นได้อย่างไร..
ในเมื่อ ยังไม่ละเมียดละมัยพอที่จะมองเห็น ..
คุณค่า ของ คุณค่า....
เคยถามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีผลงานด้านวิวัฒนาการมากมายว่า ทำไมจึงไม่ติดอันดับโลกซักที !
ฝ่ายต่างประเทศของมหาวิทยาลัยตอบว่า เราได้รับแบบฟอร์มที่ให้กรอกทุกปี เพื่อเป็นมหาวิทยาลัยดีเด่น..
แต่เราไม่เคยสนใจว่า เราจะเป็นอันดับที่เท่าไหร่ ในเมื่อเรามีหน้าที่ผลิตนิสิตที่มีคุณภาพออกมาทำงานให้ประเทศ
จึงมิกรอกแบบฟอร์มส่งไป...
ความคิดนี้เป็นเช่นเดียวกับหลายมหาวิทยาลัยในยุโรป..
ฉะนั้น จะเห็นว่ามหาวิทยาลัยเยอรมันที่ติดอันดับจะเป็น มหาวิทยาลัย ระดับ มหาวิทยาลัยครูราชภัฎ มหาวิทยาลัยเทคนิคราชมงคล
ในไทยก็จะมีมหาวิทยาลัยใหม่ใหม่เช่นมหิดล สงขลานครินทร์ ที่ติดอันดับ..
ในวงวิชาการระดับโลก เคยหวั่นไหวเรื่อง การจัดระดับการศึกษาของ พีซ่า...
จนเยอรมันตั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ออกมาศึกษาวิธี คัดเลือกของพีซ่า..
จึงเห็น จุดอ่อนจุดแข็งของการจัดอันดับ...
พีซ่าจึงเงียบเงียบไป..
ฉะนั้น รางวัลโนเบล อาจจะมีเงินน้อยกว่า การรับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ...
เงิน หรือรางวัล มิใช่ มาตร ในการวัด สติปัญญาความสามารถและ คุณธรรมของมนุษย์
หากเข้าใจในเรื่องนี้ การ "เปลี่ยนแปลงในไทย"จึงจะเกิดขึ้นมาได้..
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:17:02:38 น.
มินตรา ..
นี่คือผลประกอบการณ์ของช่อง 3 BEC
ROE คือ Return on Equity .. ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
วอเรนต์ บัฟเฟต กล่าวไว้ว่า บริษัทใดมี %ROE เกิน 20% ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี .. นั่นคือสิ่งบ่งชี้ว่าธุรกิจนั้นมีสถานภาพการเงินแข็งแกร่ง .. ควรแก่ VI จะลงทุน !
ทำไมช่อง 3 ถึงมีผลประกอบการณ์ดีเลิศ ?
ผลกำไรของธุรกิจมาจากไหน ?
ตอบว่า ธุรกิจทีวี มีรายได้หลักจากค่าโฆษณา .. และเหตุที่โฆษณาเข้ามาจาก rating รายการสูง คือคนดูเยอะ ..
ทำไมคนดูเยอะ ?
เพราะรายการที่มีมันเป็นที่บันเทิงใจของคนที่ ไร้ความหวังในชีวิต สื่อทีวีฟรี จึงเป็นความบันเทิงราคาถูก และละคอนน้ำเน่ามันเป็นสิ่งสร้างจินตนาการลมๆแล้งๆ แบบเดียวกับหวยรัฐบาล .. คือเสพความหวังลมๆแล้งๆไปวันๆ
มันไม่ใช่ สดายุ หรอก !
ที่จะทำให้คนหันมาดูช่อง 3 จนเจ้าของรวยสะดือปลิ้น
หรือทำให้รากหญ้าอันมากปริมาณชอบละคอนตบตีแย่งผู้ชายกัน !
แต่มันเพราะ สองผัวเมียรายได้ไม่เกิน 1 พันบาทต่อวันดันอยากมีลูกขึ้นมาให้เป็นภาระต่อสังคม นั่นต่างหาก ..และสองผัวเมียที่ว่ามีจำนวนมากมายเกินครึ่งประเทศ
เวลาทุ่มถึงสองทุ่ม ของทุกวันนั้นหากเอาเวลามาทำรายการแก้ปัญหาสังคมแบบบังคับดู บังคับฟัง เพื่อแก้ความโง่เขลาที่คิดไม่ได้ของ สิบล้านคู่ผัวเมียแทน มันน่าจะได้ประโยชน์มากกว่านักหนา
ไม่ใช่เพราะสดายุหรอก 555
สังคมที่ผู้คนอ่านหนังสือไม่เกินสิบบรรทัดแล้วรีบร้อนออกความเห็น มันเป็นสังคมอุดมปัญญาไปไม่ได้หรอก ..
เชื่อหัวไอ้เรือง
55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:19:47:39 น.
ดายุ...
มินตราขอโทษ...
ก็อยากมาว่ามินตราก่อนว่า ไม่สวย..
เลยท้าดวลเลย...555
ค่ะ ...ไม่ใช่สดายุ คนเดียว...
ผู้หญิงน่ะนะ หากรักใครก็ตามใจตะพึดตะพือ ..
ต้องการเอาใจคนที่ตนรัก...
สตรีไทยจึงตามใจจนชายไทยนิสัยเสีย...
แต่ มินตรา จะเลือกคนที่ เข้าใจกัน มีมันสมอง มีความสามารถ ก็ไม่ต้องมานั่งตามใจกันอีกแล้ว..
นอกจากจะอยู่เพื่อกันและกัน อ่อนโยนอ่อนหวานต่อกัน...
ขอโทษนะ ....ที่ตั้งใจจะพูดให้เจ็บ..
นิสัยไม่ดีอย่างนี้แหละ เลยไม่มีใครรัก.. 555
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:21:13:24 น.
มินตรา ..
ผู้หญิงที่มีความรู้มากพอที่ผมจะคุยด้วยได้มีไม่มากนัก .. แต่มินตราเป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น หรืออย่างน้อยก็ไปค้นหาข้อมูลจาก กูเกิล มาคุยด้วยได้
ส่วนเรื่องสวยไม่สวย สำหรับมุมมองที่มีต่อ "นักวิชาการ" มันเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไร ..
ที่ผมพุดถึงส่วนใหญ่คือวัยประกวดนางงามหรือวัยเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง มิได้หมายถึงวัยของ "ครูบาอาจารย์" ที่เลยวัยแห่งความสวยงามไปนานหนักหนาแล้ว 55
การสนใจเรื่องราวใหญ่ไม่กี่เรื่องจะทำให้คนเรา "รู้รอบด้าน" ได้ในความเห็นผมมีอยู่ 3 เรื่อง
.. ศาสนา หรือ ปรัชญา อันนี้เข้าใจจิตวิญญาณของคน
.. การเมือง สังคม อันนี้ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ของคน
.. ฟิสิกซ์ อันนี้ทำให้ความเข้าใจเรื่องศาสนามั่นคง ไม่กวัดแกว่ง และเข้าใจภาพรวมระดับมหาภาคของสรรพสิ่งและสามารถทุบทำลายความคลุมเครือเรื่อง ผู้สร้าง ผู้ทำลาย อะไรนั่นเสียโดยสิ้นเชิง
เรียนมาทาง นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ จะได้เรื่องการเมือง
เรียนมาทางวิศวกรรมจะได้เรื่อง ฟิสิกซ์
เรียนมาทาง มานุษยวิทยา จิตวิทยา จะได้ทาง สังคม ศาสนา
เรื่องพวกนี้มันจะประมวลเป็นองค์รู้ในตนทำให้มองโลกสภาพได้อย่างมีเหตุผล
ผมมองว่ามินตราพอจะเข้าใจโลกมากกว่า ญ ไทยส่วนใหญ่เพราะไปอยู่ในสังคมที่อุดมปัญญานะ ..
เยอรมัน คือ ประเทศที่ผมชอบมากที่สุดในยุโรป
และอารยันของฮิตเลอร์ก็เป็นชนชาติที่ผมเชื่อว่าเหนือกว่าเผ่าพันธุ์อืนใด ..
มินตราโชคดีแล้ว ..
โดย:
สดายุ...
วันที่: 3 ตุลาคม 2557 เวลา:6:25:50 น.
สดายุ..
"O ลมพลิ้วจบริ้วขน .. ที่บนฟ้า
พร้อมแววตาจบรูป .. แล้ววูบไหว
ล่องลอยช่วงชีวาผ่านฟ้าไกล
ต่าง-ฤๅ .. การล่องไหลของใจคน"
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 ตุลาคม 2557 เวลา:10:19:54 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
"O พร้อมเกสรกุสุมาลย์หอมซ่านกลิ่น
รอบถวิลหอมหวานยิ่งซ่านกว่า
หมายจดรูปแหนหวงในดวงตา-
ก่อนเอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง ! "
ไปดู "งามรูปกาย" ก่อน สักพัก..
จะได้มี "เอวคอด" ให้ใคร..
มา"..เอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง ! " บ้าง