Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
ตุลาคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
11 ตุลาคม 2557
O คนดี .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O คนดี .. O
Pachelbel - Canon in D
(London Symphony Orchestra)
.
.
-1-
O เช้า-ที่คลุมกาล .. ด้วยม่านขาว
ของหมอกหนาว .. ลมโบกโลมโลกฝัน
เม็ดน้ำค้างหยาดเงา .. บนเถาวัลย์
พลิ้วหยาดสั่นหยดร่วง-เช่นดวงใจ-
O วูบ-วาบระทึกดวง .. เมื่อดวงตา-
สบเลศกาละนั้น .. ก็พลันไหว-
สั่นแกว่งตัว .. ปัดป่ายอยู่ภายใน
รุมร้อนหนอกระไร-หัวใจคน
O ไร้ดาว .. ดาดดื่นบนผืนฟ้า
ดาวตรงหน้ากลับช่วง .. ราวห้วงหน-
รู้เหนี่ยวรั้งปลั่งเรื้องจากเบื้องบน
ลงปลาบปนปริศนากอปรท่าที
.
.
-2-
O แทนหมอก-ยามอรุณ, แดดอุ่นร้อน
ดูเถิด-ช้อนตาสบไม่หลบหนี
ชม้ายลอบเหลือบบ้างเป็นบางที
วันเคลื่อน, ฟ้าเปลี่ยนสี-นาทีนั้น
O เช้านั้น-หมายอาจเอื้อม .. หยิบเหลื่อมรุ้ง-
จากขอบคุ้งโค้งฟ้า .. เพื่อ-พาฝัน-
ล่องลอยกับระลอกของหมอกควัน
และพุ่มพรรณโกสุม .. ปีกภุมริน
O แววตาอ่อนโยน .. ก็โชนแสง
สบ-ทิ่มแทงใจอยู่ไม่รู้สิ้น
หมอกขาว, มาลย์, ลมโชย, ภู่โบยบิน
คน-เดือดดิ้นอกใจ .. กับไขว่คว้า
O แววอ่อนโยนแฝงตอน .. รอยซ่อนยิ้ม
เปลือกตาพริ้มหลบล้อม .. ละม่อมหน้า
ล่มแสงวันลับเลย .. เมื่อเงยมา
ปลาบแววตาสองดวง .. นั้นช่วง-เรือง
.
.
-3-
O ในความคิดคำนึง
ย่อมซาบซึ้งโศกสุขไปทุกเบื้อง
ชั่วเงียบงันแฝงแอบ .. จึงแนบเนือง-
การย้อนเรื่องราวสู่ .. ฤดูลม
O พ้นผ่านเวียนนับลำดับคาบ
ยังคงปลาบปลั่งอยู่ .. สุดรู้ข่ม
ด้อยเดียงสาแห่งชาย .. เกินหมายชม
โอ้ .. ตาคมปลาบปลั่ง .. ฤๅยังคอย
O ดาวดื่นฟ้าช่วงระยับ .. เกินนับสุด
แสงพร่างผุดรับช่วง .. กับร่วงผล็อย
แววตาในเช้าชื่น .. นั้นตื่น-ลอย
กับช่วงช้อยรอยชู้ให้รู้เชิง
O ด้วยเดียงสาแห่งชาย .. จะหมายหรือ
ว่านั่นคือรูปรอยให้พลอยเหลิง
เพียงแจ้งการณ์เร้ารุม .. ร้อนขุมเพลิง-
ก็โลดเริงรอบอยู่ให้รู้ทน
O หรือ-รอยยิ้มเยื้อนเผย .. แทนเอ่ยคำ
ที่คอยย้ำยืนยัน .. นับพันหน
ชม้าย, มอง, ขัดเขิน, สะเทิ้นตน
โอ-แจ้งกลเมื่อกาลนั้นผ่านไป
O ราวเรื่องจะช่วงชัด ณ บัดนั้น
แววตาฝันแฝงซ่อนความอ่อนไหว
กิริยาท่าที .. ท่วงทีใคร
ก็แจ้งใจความ-ชัดในบัดดล
O วงแขนคล้องคู่เข่า .. กลางเหงาเงียบ
หนาวเย็นเยียบ .. จำปลีกไปอีกหน
เงาฉายในแววตา .. ไหลบ่า..บน-
แววจำนนอีกดวง .. ของดวงตา
O เช้านี้-ใจอาจเอื้อม .. หยิบเหลื่อมรุ้ง-
ที่ฝ่าคุ้งโค้งโพยมลงโน้มหา
บรรจบนัยแฝงเร้น .. ที่เป็นมา
ให้ตอบรับคุณค่าในท่าที
.
.
-4-
O บนทางเท้าที่ก้าวย่าง
ในเที่ยวทางดิ้นรนของคนที่-
คอยขวนขวายปรารถนาบรรดามี
ล้วนชั่วดีจัดสรร .. คอยบันดาล
O ในความอึกทึกที่รายรอบ
ล้วนความชังความชอบอยู่รอบด้าน
แต่พิศแรกก็เห็นว่าเป็นการ-
อ่อนไหวต่อหอมหวาน .. ที่นานคอย
O มิใช่เช้า-ที่กาล .. มีม่านขาว
ไร้หมอกหนาว .. เพียงโลกอันโศกหงอย-
หากน้ำใจหยาดเม็ด .. ราวเพชรพลอย
แสงพร่างพร้อยเหลี่ยมผกายให้หมายมอง
O คืนวันที่ผันผ่านเนิ่นนานอยู่
จนรับรู้แววระยับ .. หมายจับต้อง
ผ่านรอบวันเดือนปี .. ใจที่ปอง-
ยังจับจ้องจองอยู่ .. ดาวคู่นั้น
O นับคืนนับเดือน .. ให้เคลื่อนเปลี่ยน
เพื่อปีเวียนผ่านให้ .. หัวใจสั่น
ต่อคำนึง .. ด้วยพี่ทุกวี่วัน
นับความหวั่นไหวเห็น .. อย่าเว้นวาย
O ย้อนคาบยามเช้านั่น .. ดวงขวัญเอ๋ย
จะลับเลยล่วงไป .. อย่าได้หมาย
จะนับความอาลัยของใจชาย
อาจเท่าสายรุ้งแพร้วในแววตา
O ที่เผยออกสื่อให้ .. เฝ้าใฝ่ฝัน
ผูกรัดพันดวงใจพลอยใฝ่หา
กี่คาบยามผ่านล่วง .. ยังลวงตา
ด้วยทีท่าเลศสื่อ .. ให้ยื้อครอง
.
.
-5-
O เป็นเช้า-แรกวัน .. อีกวันหนึ่ง
กับคำนึงใฝ่เฝ้าเป็นเจ้าของ
มีมุ่งมั่นพร้อมสรรพ .. ให้จับจอง-
รูปแพงทองเมื่อพบ .. บรรจบเงา
O ครั้งนี้เดียงสาชาย .. ย่อมหมายมุ่ง
หยิบจับรุ้งยอแสง .. ลบแรงเหงา
ดูเถิด ..แววตายิ้มแสนพริ้มเพรา
ยังจำเช้า-วันใหม่-ได้ไหมนะ ..?
Create Date : 11 ตุลาคม 2557
Last Update : 14 เมษายน 2566 11:11:17 น.
6 comments
Counter : 3395 Pageviews.
Share
Tweet
สดายุ..
นี่เขียนใหม่ใช่ไหมเอ่ย...
O สิ้นวาสนา .. O
"อีกครั้ง..และอีกครา-ความอาวรณ์-
ต้องขาดตอนขาดช่วงจนล่วงหาย
อีกครั้งที่อาลัยจากใจชาย-
ต้องวอดวายล่มคา .. รูปปรารมภ์ "
มีใครไม่รักแล้วซิ !
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 ตุลาคม 2557 เวลา:13:26:06 น.
มินตรา ..
ทุกคนรักตัวเอง .. และมีตัวเองเป้นศูนย์กลางจักรวาลทุกคน ..บทนี้เขียนนานแล้ว ตามลิงค์ ..
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=08-06-2011&group=11&gblog=318
บทนี้เอามาจาก "สิ้นดวงวิเชียรฉาย" แต่เพิ่มช่วงต้นเข้าไป .. และ สิ้นดวงวิเชียรฉาย เขียนไว้เมื่อปี 2552
ตอนแรกนึกไม่ออกว่าเขียนเพราะอะไร จนไปอ่าน คคห.16 ที่น้องคนหนึ่งที่มาสนิทมากในช่วงหลัง ตอนนั้นยังเรียกผมว่า "คุณ" อยู่เลย .. คำว่า "สาวกอดแมว" ทำให้นึกได้ว่า "ใคร"
ก็ต้องย้อนไปอ่าน คคห. 10 นั่นแหละ
สาวลูกครึ่งอยู่ที่อังกฤษที่พยายามเขียนกลอนไทย ! เป็น"สาวรูปเดียว-จริงๆ คือตั้งแต่รู้จักกันมีรูปเดียวให้เห็น 555" ที่จำต้องจำพรากกันไปในที่สุด ..
ส่วน คคห.25 .. แขกมาใหม่ 55
ตอนแรกผมเข้าใจว่าสาวน้อยวัย 24 .. แต่ดูการใช้ภาษาลงท้ายก่อนลาทุกครั้งมันน่าจะ สาวน้อยวัย 74 แน่เลย 555
เพียงแต่คนนี้มีน้ำใจ .. ส่ง เฟอรโรโด กล่องใหญ่ราคาน่าจะหลักพันไปให้ถึงบ้าน .. ของชอบนะ - ต้องขอขอบคุณมานะที่นี้อีกครั้ง นะคะน้องวิ
อิๆๆ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 12 ตุลาคม 2557 เวลา:18:39:14 น.
สดายุ..
ขอโทษค่ะ ..
มิได้ตั้งใจ จะไปรื้อฟื้นความรู้สึกเดิมเดิมขึ้นมาอีก...
แกล้งแซวเล่นเท่านั้น มิตั้งใจ
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 ตุลาคม 2557 เวลา:19:23:23 น.
มินตรา ..
ไม่รู้สึกอะไรเลยตอนนี้ .. บางเรื่องพวกนั้นก็มีความทรงจำดีๆ เหลืออยู่เหมือนกัน ..
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ขึ้นกลอนใหม่แทบทุกวัน และตอบคนที่เข้ามาพูดคุยแทบไม่ทัน ..ก่อนจะมี face book มาดึงความสนใจไป
การจากกันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเรา ..
เมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง .. ผมไม่เคยคาดหวังอะไร ..ถึงมินตราก็เหมือนกัน สักวันก็ต้องหายไปจากบล็อคนี้ เพื่อไปสู่วิถีชีวิตใหม่ๆ ..
บางคนพอใจที่จะเดินแบกโลกทั้งใบทูนไปบนหัวไปบนถนนสายเกียติยศที่สองข้างทางมีคนยืนปรบมือต้อนรับ เป็นถนนที่ยาวจนมองไม่เห็นปลายทาง
บางคนพอใจที่จะเดินตัวเปล่าไปบนถนนลูกรังที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และเสียงนกร้อง อย่างเงียบเหงา เดียวดาย และอย่างทรนง
ความเป็นจริงก็คือ .. เส้นทางทั้งสองไม่มีวันบรรจบกันตลอดกาล ..
ความเป็นจริงก็คือ .. คนที่เลือกเดินบนเส้นทางเดียวกันเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสบรรจบกันได้
จริงไหม ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 12 ตุลาคม 2557 เวลา:21:05:50 น.
สดายุ..
"บางคนพอใจที่จะเดินตัวเปล่าไปบนถนนลูกรังที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และเสียงนกร้อง อย่างเงียบเหงา เดียวดาย และอย่างทรนง "
ฟังแล้ว..อึ้ง..ไปเลย...
ถนนลูกรังนั้น ยังมี เส้นทางให้เดินไปได้เรื่อย เรื่อย..
วันหนึ่งก็จะถึงปลายทาง...
แต่บางคนมีภาระหน้าที่ ที่ต้องไปถึงจุดเดียวกันนั้น..
โดยยืนอยู่กลางป่า หามีเส้นทางที่เด่นชัดเดินไปได้...
รู้เพียงว่า ต้องฝ่าพงหญ้า ป่าเขา ไปให้ถึงจุดนั้น..
แถมมิได้เดินเพียงคนเดียวแต่ต้องนำคนเป็นฝูงไปให้ ออกจากพงรกนี้..
ทางเดียวที่เห็นอยู่คือ เดินเลียบสายน้ำไป...
ให้ถึงปลายน้ำ..หาทางออกทะเล...
ที่ปากน้ำ เราคงเจอกัน....ในวันข้างหน้า...
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 13 ตุลาคม 2557 เวลา:1:59:27 น.
มินตรา ..
ผมกำลังชี้ให้เห็นว่า .. เส้นทางทั้งสองไม่มีทางบรรจบกันได้ตลอดกาล ..
.
เพราะเส้นทางทั้งสองนั้นเกิดจาก อัตวิสัย ในตนที่กอปรขึ้นมาเป็นภาพการมองโลกแวดล้อมอย่างให้คุณค่ามากน้อยต่างกัน .. และธรรมชาติแห่งตัวตนทั้ง 2 แบบนี้เหมือนน้ำกับน้ำมัน .. มันไม่สามารถหลอมรวมกันเป็นเนื้อเดียวได้
.
ในแง่ของเงื่อนไขทางด้านเวลานั้น .. ผมมองเห็นเพียงความสูญเปล่าที่จักไม่ได้ผลอะไรอย่างที่คิดหวัง
.
คำว่า โมฆะ สามารถใช้ได้กับประเด็นแบบนี้ ..
โมฆะ .. ว. เปล่า, ว่าง; ไม่มีประโยชน์, ไม่มีผล, เช่น สัญญาเป็นโมฆะ
คนที่จมอยู่กับความว่างเปล่า พระพุทธองค์ท่านเรียก โมฆะบุรุษ ซึ่งมิใช่หมายถึงเพียงผู้ชายเท่านั้น .. แต่หมายรวมทั้ง หญิงและชาย
.
มินตรา .. อาจไปอ่านความเห็นต่างๆในบท สิ้นดวงวิเชียรฉาย มาบ้างแล้ว ..
และนั่นคือ ความว่างเปล่า .. แบบที่ผมหมายถึง
โดย:
สดายุ...
วันที่: 13 ตุลาคม 2557 เวลา:6:06:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
นี่เขียนใหม่ใช่ไหมเอ่ย...
O สิ้นวาสนา .. O
"อีกครั้ง..และอีกครา-ความอาวรณ์-
ต้องขาดตอนขาดช่วงจนล่วงหาย
อีกครั้งที่อาลัยจากใจชาย-
ต้องวอดวายล่มคา .. รูปปรารมภ์ "
มีใครไม่รักแล้วซิ !