Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
กุมภาพันธ์ 2561
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
3 กุมภาพันธ์ 2561
O มธุรสลีลา .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O มธุรสลีลา .. O
Ernesto Cortazar - Foolish Heart (Concerto)
O ลมรุ่งเช้าเฉื่อยโชย .. ค่อยโรยผ่าน
เกสรมาลย์ก็หวนหอมเข้าล้อมหา
เริ่มคาบพันแสงช่วง, อีกดวงตา-
ก็ลอบเหลือบชม้ายมา .. เบื้องหน้านั้น ?
O ลมยังผ่านริ้วอยู่โลมตรู่สาง
เม็ดน้ำวางหยาดไว้ .. ต้อง-ไหวสั่น
แววในตาเหลือบชม้ายก็คล้ายทัณฑ์
ค่อยผูกพันล่ามจิตให้ติดตรึง
O พร้อมโอภาสดวงศศินเลือนสิ้นบท
รูปนามชดช้อยอยู่ก็จู่ถึง
จากนั้นค่อยรุกล้ำให้คำนึง-
กอปรหวานซึ้งวนอยู่ไม่รู้คลาย
O เยี่ยงเงื่อนบ่วงห่วงรัดกระหวัดรอบ
ที่ขีดขอบรุมเร้าจนเข้าสาย
ยิ่งกว่ามาลย์รื่นฉมเมื่อลมชาย
เพียงเนตรฉายแววอุทธัจรำบัดมา
O ใช่ยาวนานเมื่อศศินเลือนสิ้นรูป
แค่ชั่ววูบที่เนตรปรอยชม้อยหา
ก็รู้ที่เหมาะส่วน .. ที่ควรลา
เหมาะควรกว่าคือรูป .. ชั่ววูบนั้น
O รูป-จักขุวิญญาณ .. บันดาลภพ
หลังกระทบกระแทกใส่จนไหวสั่น-
พาโลกเงียบงามสงบ .. ตระหลบพลัน-
ที่แรงนันทิช่วงกลางห้วงใจ
O แล้ว-มโนวิญญาณ .. จึงสานต่อ
แต่รูปพักตร์พิมพ์ลออเหมือนรอให้-
เสพรูปเนื้อนวลเนียน .. ที่เปลี่ยนไป
เปลี่ยนด้วยสีแต้มใส่ แก้ม-นัยน์ตา
O ลมยามสายโชยเฉื่อยอย่างเหนื่อยอ่อน
เมื่อพันแสงโรยร้อนออดอ้อนหา
แก้มเรื่อเนตรพริ้มพรับครั้นลับลา
เวทนาก็โตนตอบอยู่รอบใจ
O เยี่ยงไรอย่างลอบเร้น-อยากเห็นหน้า
อยากรู้ว่าแก้มเนื้อยังเรื่อไหม
หรือแววตาหวั่นสะทก, หรืออกใคร-
อาจครืนครั่นสั่นไหวจนได้ยิน ?
O หลัง .. เนตรเหลือบชายชม้อยแล้วคอยหลบ
ปรารมภ์ให้สืบภพไม่จบสิ้น
อุปาทานแห่งโลกเริ่มโบกบิน
เข้าห้อมห่มถ้วนถิ่นในจินตนา
.
O อีกเช้าที่มาลย์หอมแวดล้อมที่
แถวพระลีลาศเยื้องอยู่เบื้องหน้า
รูปที่แนบติดพันในสัญญา
ก็เหมือนว่า-รออยู่แต่ตรู่เช้า
O สิ้นโอภาสแรกช่วงแห่งดวงสูรย์
หยาดน้ำเคยจำรูญก็สูญเปล่า
ความจดจ่อทุกวูบ .. ล้วนรูปเงา-
ที่เหมือนคอยยั่วเย้าให้เฝ้าคะนึง
O พร้อมธรรมพระรำบาย, แดดฉายส่อง
และกลีบกรองช้อยชูเรียกภู่ผึ้ง
หอมกว่าหอมกุสุมาก็ตราตรึง
หวานยิ่งกว่าหวานซึ้งก็ตรึงใจ
O จึงแม้นฟังธรรมพระจนจะแจ้ง
เนตรอันแฝงเลศลับ .. ยังวับไหว
เหมือนเชิญชวน .. แปลตามทุกความนัย
และเหมือนคอยช่วยไข .. ด้วยนัยน์ตา
O สวยปีกผีเสื้อบินกลางกลิ่นหอม
รูปละม่อมก็เฝ้าคอยชม้อยหา
ทั้งหวานหอมรูปนามก็ล่ามคา-
ปรารถนาแห่งชายผู้หมายเชย
O บทบาทธรรมอำไพ .. ครรไลล่วง
ลำดับช่วงเร้นคอยจึงค่อยเผย-
นัยสอดรับพร้องพร่ำแทนรำเพย-
ความเอื้อนเอ่ยให้สดับให้รับรอง
O หอม-ข้าวหอม, ดอกไม้ยามไหว้พระ
พร้อม-ผัสสะ, พริ้มพรับ, การจับจ้อง
แววเนตรเหมือนตอบรับการจับจอง
วนรอบล่องลอยอยู่เช้าตรู่นั้น
O หอม-อารมณ์เสน่หาในภาวะ-
ที่ฉันทะอนุสัยเริ่มไหวสั่น
ที่จริตรูปนามเริ่มล่ามพัน
เพรียกให้หลอมรวมฝันเป็นฝันเดียว
O แถวผู้ขอพ้นผ่านไปนานเนิ่น
เนตรขัดเขินก็แต่คอยชม้อยเหลียว
สบ-แล้วดั่งแอบออด้วยขอเคียว
ที่รอเหนี่ยวรั้งสิ้นทั้งวิญญาณ
O หรือนี่คือ .. หลุมขวากที่ยากข้าม
เฝ้าคุกคามเหนี่ยวรั้งสู่สังสาร
แต่เผยรูปเผยองค์ขึ้นบงการ
ถ้วนธรรมะก็ล่มลาญไม่เหลือรอย
.
O พอลอบยิ้มป่ายแต้มบนแก้มเรื่อ
คือเนียนเนื้อชี้นำแทนคำถ้อย
เหมือนบอกความสื่อสู่ให้รู้คอย
เพื่อร่วมร้อยรัดขวัญจวบวันตาย !
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 26 เมษายน 2566 12:41:30 น.
2 comments
Counter : 4197 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะคุณสดายุ
เริ่มไม่กี่บทก็ได้กลิ่นแห่งความหอมหวานแล้วค่ะ
เมื่อเช้าทิพย์ยังยุ่งๆอยู่กับงาน ยังไม่ทันได้มาเม้น
แต่ดูเหมือนกลอนจะไม่ได้ชื่อนี้หรือเปล่าค่ะ
นางแบบสวยสดใส น่ารักสมวัยค่ะ
รออ่านต่อนะคะ
โดย: ทิพย์ IP: 49.48.241.230 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:20:33:16 น.
สวัสดีครับคุณทิพย์ ..
เพศหญิง เป็นความน่ารักโดยเฉพาะในวัยที่เริ่ม
"จริต-จะก้าน" ในสายตาผม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองผ่านชนชาติที่ไม่ตีกรอบ
ความเป็น ญ มากมายนักอย่างพวกฝรั่งผิวขาว
ธรรมชาติแห่งเพศตามวัยจึงมองเห็นได้ชัดเจนมากกว่า
อาการซ่อนเร้น ปิดบัง แบบทางทางเอเชีย
นารีปราโมช จึงเขียนได้มาตั้งแต่ยุคสมัยอยุธยา
จนบัดนี้นาทีนี้ อย่างไม่มีวันจบสิ้น
อาจมีการเปลี่ยนบทบาท รูปแบบกิริยาไปบ้างตาม
ยุคสมัย ..
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:10:47:51 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เริ่มไม่กี่บทก็ได้กลิ่นแห่งความหอมหวานแล้วค่ะ
เมื่อเช้าทิพย์ยังยุ่งๆอยู่กับงาน ยังไม่ทันได้มาเม้น
แต่ดูเหมือนกลอนจะไม่ได้ชื่อนี้หรือเปล่าค่ะ
นางแบบสวยสดใส น่ารักสมวัยค่ะ
รออ่านต่อนะคะ