Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
26 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O








Franck Pourcel - Morir de Amor



1 ..
O ลมอบอุ่นผ่านล่อง, สูรย์ผ่องแผ้ว
เสียงหวีดแว่วเสียดรวง..ค่อยล่วงหาย
ดอกมาลย์ช้อยกลีบเชื้อ, ผีเสื้อลาย-
ก็บินบ่ายเข้าล้อม..กรุ่นหอมนั้น
O แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น
ต้องลมรินโลมไล้..ก็ไหวสั่น
เกสรรูปหวานหอม..ก็พร้อมปัน-
หวานหอมนั้นพร่างพรม..กลางลมโรย
O อ่อยเอื่อยสายลมไล้ลูบใบหญ้า
ดั่งแววตาสบแล้ว-ใจแผ่ว..โหย
หอมรูปนาม, ละห้อยหา..ก็ปร่าโปรย-
อยู่ในสายลมโชย..แห่งรุ่งเช้า
O อบอุ่นกลางลมอุสุม, ที่รุมอยู่-
คือแววชู้ทอดทับความอับเฉา
พาคำนึงโลมลูบแต่รูปเงา-
ของวัยเยาว์ซ่อนยิ้ม..ผูก-พิมพ์ใจ
O เอิบอิ่มแก้มเนียนเนื้อ..ช่างเหลือรู้-
แฝงเร้นความเอ็นดู..ซ่อนอยู่ไหว
เกรงร่องรอยปรารถนาแรงอาลัย-
จะขับไขเผยค่าเต็มตาแล้ว
O คลื่นลมอุ่นอ้อนฟ้า..ผ่านป่าฝน
ริ้วลมวนเวียนโชย..แม้นโผยแผ่ว-
หาก-เรียวหญ้ายังค้อมยอดพร้อม-แวว-
วาบสั่นแสนผ่องแผ้ว..ทั้งแววตา !
O คลื่นอาวรณ์พลันช่วง..ในห้วงคะนึง
ด้วยงามซึ้งหวานพร้อม..ละม่อมหน้า
ฟ้าบนมีดวงวัน, ในสัญญา-
ก็เพียบพร้อมคุณค่าให้ปรารมภ์
O งดงามกลางดอกดวงลดามาศ
เมื่อโอภาสปลาบปลั่งค่อยสั่งสม
คุณค่าเฝ้าเปรียบเปรยรอเชยชม-
ก็แฝงริ้วสายลมห้อมห่มใจ
O จึง-ฤดูลมล่อง..นกท่องฟ้า
มีแววตาคู่นั้น..คอยสั่นไหว-
แฝงฝากความออดอ้อน..แอบซ่อนนัย-
ความอาลัยยามชม้าย..ที่คล้ายเมิน
O แม้-ลมอุ่นอบอ้าว..ในคราวนี้
แววตาที่บอกชัด.จะขัดเขิน
หากเมื่อลมผ่านระลอกคอยหยอกเอิน
ใครนั่นย่อมสั่นสะเทิ้นทั้งแววตา
O อบร่ำริ้วลมร้อน..กำจรผ่าน
ถ้วนปวงความอ่อนหวานก็ปานว่า-
โหมรอบลงล้อมขวัญ..แล้วบัญชา-
เร่งเร้าอาวรณ์ชู้..ให้อยู่เคียง
O แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น
เมื่อถวิลอาลัย..นั้นให้เสียง
ว่า-ถ้วนปวงความถ้อยร่ำร้อย, เพียง-
เผยความเรียงตอกย้ำ..ด้วยคำเดิม

2 ..
O มีเจ้า..ยอดเยาวพา
ราวฝั่งฟ้าเบิกบุญลงหนุนเสริม
ทิพรูปในภวังค์แต่ดั้งเดิม-
ราวแต่งเติมแรงถวิลแนบวิญญาณ
O พารื่นรมย์ลุกลามไปสามโลก
ทอนสร้อยโศกเงียบเหงาเคยเผาผลาญ
ถ้วนปวงมธุรสทั้งพจมาน
ก็บรรสารสุมสั่งไม่รั้งรอ
O จะจำหลักลงทรวง-ความห่วงหา
เพื่อคุณค่างามเลิศ..เมื่อเกิดก่อ-
จักผูกชาติหวงแหน-จนแน่นพอ-
ตราบโลกย่อเที่ยวทาง..ให้ย่างเท้า
O เพียงเจ้า..เท่านั้นเจ้าขวัญน้อย
ที่ดวงใจนี้ละห้อย..และคอย-เฝ้า
ทิพรูปเจ้าเอย..แต่เผยเงา
ก็รุมเร้าใจอยู่..เกินรู้ล้าง
O ฤๅ-พรแถนแมนสรวง..ทุกช่วงชั้น
พาร่ำรสรำพัน..ไม่กั้นขวาง
เพรงบุญในกาลอดีต..ฤๅขีดทาง
พาชดช้อยก้าวย่างลงกลางใจ
O ทิพรูปในภวังค์ก็หยั่งร่าง-
ในช่วงกลางอาวรณ์และอ่อนไหว
เดือนดาวที่กลางสรวง..ฤๅดวงใด-
อาจบรรเจิดแจ่มได้..เท่านัยน์ตา ?
O แต่นี้-เวียนเกิดดับกี่กัปกัลป์
ขอยกขวัญยอบุญเทียบคุณค่า
สบรูปเมื่อใดนั้น..จงบัญชา-
ให้จมห้วงเสน่หา..จนกว่าวาย !
O แต่นี้-เวียนเกิดดับกี่กัปกัลป์
ขอผูกพันเพียงเจ้า..เป็นเป้าหมาย
ยึดครองเถิด, อย่างไรทั้งใจกาย-
นี้-คงสายเกินการณ์..จะต้านแล้ว !



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 เมษายน 2566 10:47:15 น. 11 comments
Counter : 7624 Pageviews.

 

ภาพสาวของสดายุ มีความเป็นกุลสตรีมากขึ้นเรื่อยเรื่อยนะคะ
ในดวงตาฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง ยิ้มนิ่มนวล
เก็บมือเก็บไม้ได้งดงาม..สาวรัฐศาสตร์ จุฬา ซิคะนี่..

"O เพียงเจ้า..เท่านั้นเจ้าขวัญน้อย
ที่ดวงใจนี้ละห้อย..และคอย-เฝ้า
ทิพรูปเจ้าเอย..แต่เผยเงา
ก็รุมเร้าใจอยู่..เกินรู้ล้าง"


โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.148.249 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:19:14 น.  

 


มินตรา...
สาวน้อยคนนี้เป็นหนึ่งในสี่คนของทางจุฬาฯ ในงานบอลประเพณีครั้งที่ 68


คนไหน..ลองทายดู


ส่วนภาพนี้เป็นของทางธรรมศาสตร์...งานเดียวกัน



ให้ดูในชุดนักศึกษา..เสื้อขาวกระโปรงดำ..ที่ผมมองว่าบรรดาสาวน้อยจะดูสวยงามที่สุดในเครื่องแบบนักศึกษา...

กระโปรงดำเสื้อขาว..ค่อยก้าวย่าง
แก้มคิ้วคางเนตรคม..งามสมหน้า
มีจิตใจมุ่งมั่นคอยบัญชา
เร่งศึกษาเรียนรู้...ไม่ดูดาย



โดย: สดายุ... วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:14:36 น.  

 

ดายุ...

เหมือนตาจะลำเอียงนะคะ..มินตรามองว่าสาวจุฬา ดูจะ"มีมาด"กว่าสาวธรรมศาสตร์ นะ
หรือคนเลือกรูปจะหยิบภาพที่ต่างกันมาเน้นล่ะ
เช่นสาวจุฬาคือผู้อัญเชิญพระเกี้ยว แล้วสาวธรรมศาสตร์คือ ดรัมเมเยอร์ อะไรทำนองนี้ ซึ่งบุคคลิกต้องต่างกันอยู่..

มีคำที่มินตราแปลกหูนะ ดูจะเป็นคำเก่าเก่า.."จำหลัก"..
"ผูกชาติ" นี่ จะเข้าใจไม่ชัดเจน..ไม่ลึกพอ..
"O จะจำหลักลงทรวง-ความห่วงหา
เพื่อคุณค่างามเลิศ..เมื่อเกิดก่อ-
จักผูกชาติหวงแหน-จนแน่นพอ-
ตราบโลกย่อเที่ยวทาง..ให้ย่างเท้า"

หากโลกจะต้อง"ย่อเที่ยวทาง..ให้ย่างเท้า"นี่ ..
ก็มีระยะทางขวางกั้นระหว่างลำปาง..กับที่ไหนนะ..
เชียงราย..หรือฝั่งโขง..หรือระดับ"ขอบฟ้า" ต่างทวีปไปเลย..
นี่คืออุปสรรค รึ?..หรือเพียงภาระหน้าที่..
มิได้"โยนหินถามทาง"นะ ถามตรงตรงเลยค่ะ 555



โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.152.50 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:46:40 น.  

 


ทั้งสี่สาวจุฬาฯ ก็เป็นผู้นำเชียร์เหมือนทางธรรมศาสตร์...
แต่ถ่ายภาพออกมาดูดีกว่า เพราะเป็นภาพใช้ประชาสัมพันธ์...ขณะที่ทางธรรมศาสตร์เป็นภาพข่าวธรรมดา....

หากดูกันรายตัว...ธรรมศาสตร์สวยกว่านะปีนี้...


จะจำหลักลงทรวง-ความห่วงหา
เพื่อคุณค่างามเลิศ..เมื่อเกิดก่อ-
จักผูกชาติหวงแหน-จนแน่นพอ-
ตราบโลกย่อเที่ยวทาง..ให้ย่างเท้า

จำหลัก คำนี้ในพจนานุกรมหมายถึง...
สลัก, แกะให้เป็นลวดลาย
แต่เราอาจยักเยื้องใช้ในความหมายทำนองเดียวกับคำว่า"ประทับ"หรือ..stamp..ได้

ชาติ [ชาด, ชาติ, ชาดติ] น. การเกิด เช่น ชาตินี้ ชาติหน้า
ผูกชาติ...หมายถึง เกิดร่วมกาลเวลาเดียวกันไปทุกครั้ง...คือขอพบเจอไปทุกชาติ นั้นแล

ตราบโลกย่อเที่ยวทาง..ให้ย่างเท้า
แปลว่า..ไม่ว่าเกิด หรือ อยู่ห่างกันแค่ไหน...ก็ไม่พ้นกันไปได้
โลกจะหมุนพาเส้นทางให้มาซ้อนทับ..พบเจอกันในที่สุด

เหมือนคนสองคนที่เดินไปมาอยู่กรุงเทพตั้งนานไม่เจอกัน...กลับมาเจอกันที่ลำปาง...คือ หนีกันไม่พ้น

อะไรประมาณนั้น 555


โดย: สดายุ... วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:45:49 น.  

 
.




ปีกกระหยับโบกขึ้น - - - บินบน
กางแผ่บังสุริยน - - - ปิดฟ้า
ปักษาสดายุดล - - - ฤทธิเดช
โผผ่านพลิกแผ่นหล้า - - - ตระหลบฟ้าตะล่อมฝัน ฯ




โดย: สดายุ... วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:38:21 น.  

 

สดายุ..

งดงามและยิ่งใหญ่นัก..
"ปักษาสดายุดล - - - ฤทธิเดช
โผผ่านพลิกแผ่นหล้า - - - ตระหลบฟ้าตะล่อมฝัน ฯ"
ใครคง"หนีกันไม่พ้น" อย่างที่เอ่ย..
หากถึงขนาดจะ" ตระหลบฟ้าตะล่อมฝัน ฯ"อย่างนี้

"O แต่นี้-เวียนเกิดดับกี่กัปกัลป์
ขอผูกพันเพียงเจ้า..เป็นเป้าหมาย
ยึดครองเถิด, อย่างไรทั้งใจกาย-
นี้-คงสายเกินการณ์..จะต้านแล้ว !"

เหลือเกิน..นะ..เป็นกวีซะอย่าง!


โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.152.50 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:26:25 น.  

 


มินตรา...
เวลาเขียนบทนารีปราโมชนี่...อารมณ์จะดีที่สุด...
เพราะนึกถึงความเป็นหญิงสาวที่อารมณ์อ่อนไหว แปรปรวน
ร้ายลึกๆ...รวมทั้งช่างออดอ้อนออเซาะ...ทำให้เขียนไปครึ้มอกครึ้มใจไป...55

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดา"ตัวเล็กตัวน้อย"อย่างใน คคห.2
ที่ผู้ชายเห็นแล้วโลกสว่างไสวไปหมดนั้น...เป็นแรงจูงใจได้
เป็นอย่างดี

ความเป็นหญิงวัยสาวจึงไม่อาจห่างหายไปได้เลยจากโลกของชาย...โดยเฉพาะชายคนนี้...555


โดย: สดายุ... วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:03:50 น.  

 


"ความเป็นหญิงวัยสาวจึงไม่อาจห่างหายไปได้เลยจากโลกของชาย...โดยเฉพาะชายคนนี้..."

เจ้าชู้ ! 555


โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.152.50 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:21:17 น.  

 

.




O เจ้าเอย, จนดับ, ทิ้ง - - - ทรมาน
หรือตราบรอบสังขาร - - - หยุดสร้าง
เอกภพจักรพาฬ - - - พาล่ม ลาญแล
ไฟนอกโลกแล่นล้าง - - - อาจล้างอาลัย ฯ



โดย: สดายุ... วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:15:11 น.  

 


O บัวดอกนั้น .. O

"O ร่ำรมรสตมดินในถิ่นล่าง
ช่อดอกตูมแช่ค้างอยู่กลางสินธุ์
ฤๅจะอาจรับรู้..ผึ้งภู่-บิน
และลมรินรวยสู่..ฤดูกาล"

..."ฤๅจะอาจรับรู้..ผึ้งภู่-บิน
และลมรินรวยสู่..ฤดูกาล"....555


โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.152.50 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:16:31 น.  

 
สวัสดีคับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องมิน


โดย: บอล เอฟซี คลับ IP: 1.10.232.22 วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:21:40:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.