Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
กันยายน 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
13 กันยายน 2556
O อาวรณะสมัย .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O อาวรณะสมัย .. O
Eldar Mansurov - Taleyim
O เกิดแต่เมื่อช่วงตอนความอ่อนหวาน-
ค่อยเผยผ่านอิริยาให้ตาเห็น
ละม่อมพักตร์รูปเยาว์ลำเพาเพ็ญ-
ก็วาบเต้นตอบตื่น .. ความรื่นรมย์
O ลมแรกสางโชยเอื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
บนช่วงตอนแสงระยับเริ่มทับถม
บนท้องฟ้าฝูงวิหคบินผกลม
เมื่อปรารมภ์แห่งชาย .. รำบายล้อม !
O มีรูปและมีใจหวั่นไหวอยู่
อารมณ์ชู้รองรับ .. การขับกล่อม
พร้อมหัวใจเพ็ญถวิลที่ยินยอม-
ลงนอบน้อมคันธรส .. เป็นบทเดียว
O สบเพียงวูบรูปแพงก็แฝง .. ฝัง
เร่งกำลังห่วงละห้อยให้คอยเหลียว
ภาพแววตาเหลือบชม้ายก็คล้ายเกลียว-
ล่ามรั้งเหนี่ยวถวิลชู้เกินรู้คลาย
O บริบทงดงามแห่งยามเช้า
จึงครองด้วยรูปเยาว์จนเข้าสาย
ทุกเหลือบสบหลบเมิน .. ทุกเขินอาย-
ล้วนรำบายรุมเร้าจากเช้านั้น
O ลมล่องสายรายรอบ .. ตาลอบเหลือบ-
นั้น-คอยเคลือบอารมณ์ให้ซมสั่น
พร้อมขอบฟ้าเลื่อนช่วง .. คือดวงวัน-
ลอยช่วงขึ้นล้อมขวัญ .. อย่างบรรจง
O บริบทงดงามแห่งยามสาย
บ่ม .. รำบายโลกธาตุด้วยชาติหงส์
ที่ที่ใจหวานล้ำ .. จักธำรง-
อาวรณ์ในรูปองค์ .. ดำรงไว้ !
O บริบทงดงามแห่งยามนั้น
ร้อนดวงวันแม้นรุม .. ลงสุมใส่
หากอาวรณ์นฤมิตแนบจิตใจ-
บดบังให้ตอบตื่นแต่รื่นเย็น
O แล้วร่องรอยปริศนา .. แห่งท่าทาง
เหมือนรอขวางฝากรอยให้คอยเห็น
กลางช่วงเดือนเรื้องรอง, ความผ่องเพ็ญ-
ก็วาบเต้นตอบแล้วทั้งแววตา
O อ่อนหวานละเมียดละมุน .. อบอุ่นแสน
จึงห้อมแหนทุกช่วง .. ความห่วงหา
ให้แนบน้อมหอมหวาน .. แห่งมารยา-
แต่เมื่อราตรีนั้น .. แสงจันทร์ทอ
O ทิพเอย .. ทิพแถนถ้วนแดนสรวง
สดับเถิดความปวง .. เฝ้าบวงขอ
โปรดช่วยดลจิตเยาว์พะเน้าพะนอ-
ใจผู้เฝ้าจดจ่อ .. ร่ำรอกัน
O ทิพเอย .. ทิพแถนทั่วแดนฟ้า
เสน่หาเต็มช่วง .. ในทรวงขวัญ-
พึงสื่อนัยออกสู่ .. ให้รู้ทัน
ว่าทั้งรัก, ผูกพัน .. แสนมั่นคง
O กลางเหน็บหนาวรอบฤดู .. ลมกรูเกรียว
ทุกส่วนเสี้ยว-ข่ายขุม .. แรงลุ่มหลง-
เหมือนตรารอยลึกล้ำ .. ตอกย้ำลง
เป็นจำนงคงอยู่ .. เกินรู้ล้าง
O กลางออดอ้อนรอบชู้ .. ฤดูลม-
ค่อยพัดข่มขับแทรกความแตกต่าง
ใบไม้แห้งหลุดร่อนลงว่อนวาง-
เช่นขวากขวางในอก .. ถูกยกทิ้ง
O แค่หัวใจรับรู้ .. ยอมคู่เคียง-
หวานย่อมเพียงพอรุก .. ข่มทุกสิ่ง
ในความหมายอ้อนแอบ .. รอแนบอิง-
ย่อมอาลัยรักยิ่ง .. ดำดิ่งลง
O อกเอย .. แม้นหนาวอยู่ .. ฤดูนี้-
อุ่นกลับมีตวงเติม .. คอยเสริมส่ง
จากใจหนึ่งมอบนำ .. แรงจำนง
งามจึงคงคาอยู่เกินรู้เลือน
O อกเอย .. แม้นหนาวอยู่ .. ฤดูลม
ที่ห้อมห่มล้อมอยู่ .. กลับดูเหมือน-
ความอบอุ่นอ่อนหวาน .. ค่อยผ่านเยือน-
แล้วป่ายเปื้อนโลมทั่วทั้งหัวใจ
O แล้วคลี่อุ่นโอบหนาว .. ให้หนาวผ่าน
จนอุ่นร้อนแผ่ซ่าน .. จึงต้านไหว
ฤดูลมร่ำสาย .. จึงสายใย-
ม้วนปลายให้ผูกมั่น .. เป็นพันธนา
O แต่เมื่อเดือนลอยดวงบนสรวงพู้น
ความจำรูญ .. ดวงสุรีย์ .. ย่อมลี้หน้า
แสงเรื่อจากห้วงใจ .. แววในตา-
ย่อมแจ่มจ้าโชนช่วง .. เป็นดวงเดียว
O รู้ใช่ไหม .. ดาวช่วงกลางห้วงฟ้า
เช่นแววตาตื่นตอบ .. ยามลอบเหลียว
รู้ใช่ไหม .. รอบฤดูลมกรูเกรียว
ทุกส่วนเสี้ยวห่วงละห้อย - ห่วง .. คอย .. ใคร ?
Create Date : 13 กันยายน 2556
Last Update : 11 มิถุนายน 2566 7:07:20 น.
8 comments
Counter : 3217 Pageviews.
Share
Tweet
ดายุ..
ผ่านมาหายรอบแล้วนะ มิกล้าโพสเพราะ ดูท่าจะเป็น
มินตราคนเดียวที่โพสอยู่ สาวสาวของสดายุหายไปหมดเลย..
เดี๋ยวจะลือกันไปว่า มินตรามาติดใจสดายุ..
นี่ไม่ได้โพสนะคะ มาเรียนให้ทราบเท่านั้น 555
แม่บอกว่า เป็นสาวเป็นนาง ต้องรู้จักสงวนท่าทีบ้าง
นางแบบของสดายุที่"ยิ้มในหน้า" นี่แหละ ที่สตรีไทยโดนฝึกมาแต่อ้อนแต่ออก ให้รู้จักวิธียิ้มในหน้า..
โดย: บุษบามินตรา IP: 80.129.194.250 วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:15:38:49 น.
มินตรา ..
คำก็แม่
สองคำก็แม่
พ่อได้ยินต้องว่า 2 มาตรฐานแหงซะ .. ยายลูกลำเอียง - 55
ยิ้มแบบนี้แหละที่หายาก - ทำไมถึงชอบยิ้มแฉ่งจนแก้มชนหูกันจริงประเทศนี้ .. แม้แต่พวกดารา หายากหาเย็น
ผมถึงชอบหน้านิ่งๆแบบนางแบบฝรั่งมากกว่า
เพราะรู้สึกว่า ยิ้มสยามนี่มันยิ้มเสแสร้ง แกล้งทำอยู่หลายส่วน ไม่ค่อยจริงใจ ซะทีเดียว
ยิ่งสาวเยอรมันนี่นอกจาก "ตัวใหญ่ size ยักษ์" แล้วยังหารอยยิ้มไม่ค่อยได้เลย จริงไหม - ดูนายกเขา กับนายกเราสิ - 555
สงสัยเครียด เพราะค่าครองชีพสูง แถมโกงกินกันไม่ค่อยได้ - เหมือนประเทศแถวๆนี้ 55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:16:41:39 น.
ดายุ
"ตัวใหญ่ size ยักษ์" นี่น่ะ นักฟิสิกส์นะคะ
เยอรมันจะนิยมมันสมองและความสามารถส่วนบุคคลมากกว่า สาวรุ่นไร้เดียงสาปัญญาอ่อน แบบที่ทางเอเซียนิยม และสาวไทยระดับจบมหาวิทยาลัยชอบแสดง"อาการไร้เดียงสา"..จนชาวเยอรมันถามว่า เรียนมาจนถึงระดับนี้ ทำไมจึงยังมีหน้าตาอาการไร้เดียงสาอยู่เลย..555 แต่ชายไทยชอบ ..
กุลสตรีไทย ท่านสอนให้วางท่าทางนิ่งและวางหน้าเฉย
แม่ก็ฝึกจนมินตราเป็นกุลสตรีได้นะ แต่ เวลาเจออะไรถูกใจนี่..ตาระยิบเชียวล่ะ 555
(ก้อ.. ท่านมิได้สอนว่า ต้องทำตาเฉยด้วยนี่นา )
พูดถึงแม่บ่อยเพราะ ทะเลาะกับแม่นี่ล่ะ มาตลอดชีวิต
แต่เป็นลูกรักของป๋า (อุปนิสัยชอบออเซาะ)555
นี่ขนาดกะจะเปิดโอกาสให้สาวสาวของสดายุเข้ามา
โพสนะนี่..ยังเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะ อีก !
โดย: บุษบามินตรา IP: 80.129.194.250 วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:17:50:20 น.
ดายุ..
"O ทิพเอย .. ทิพแถนทั่วแดนฟ้า
เสน่หาเต็มช่วง .. ในทรวงขวัญ-
พึงสื่อนัยออกสู่ .. ให้รู้ทัน
ว่าทั้งรัก, ผูกพัน .. แสนมั่นคง"
ตรงนี้ อบอุ่นจังเลย...
คุยกันอยู่สองคนนี่ ทำไมจึงเป็นBest of the Blog
ได้นะ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 80.129.194.250 วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:18:01:23 น.
มินตรา ..
ตอบแบบนี้เขาเรียกว่าชงลูกหน้าเนต ให้ตบนะนี่ 55
"สาวรุ่นไร้เดียงสาปัญญาอ่อน" ..
แรงนะนี่
แต่เข้าใจได้เพราะ ..
เป็นอาการของวุฒิภาวะที่มีปัญหาจากการเลี้ยงดูเด็กแบบ spoil ที่"รักมากเกินเหตุ" แบบพ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชาย .. แพ้ทางกันมาตั้งแต่เลือกทำเลตั้งสยามเมืองยิ้ม(แฉ่ง)โน่นแล้ว
รากเหง้าเลยก็มาจากความเป็นสังคมอุปถัมภ์ต่อสายเลือด .. อยู่ร่วมกันในครอบครัวทุก generation
ส่งผลให้ขาดความเป็นอิสระจากการชี้นำของคนรุ่นเกิดก่อน .. โดยมีเรื่องอาวุโส เรื่องกตัญญูเกี่ยวพันจนมั่วไปหมด
พูดได้ว่า การเลือกคู่เพื่อจะสืบทอดเผ่าพันธุ์ กลายเป็นเรื่องตอบแทนพระคุณบ้าง การเชื่อฟังจากสำนึกในพระคุณบ้าง ความหวังดีบ้าง การสมประโยชน์ สมฐานะ ความเสมอกันด้วยปัจจัยภายนอก ฯลฯ
คือชี้นำ ตัดสินให้เสร็จสรรพ พูดกรอกหูทุกวัน จนทำให้ลูกที่ควรมีความใคร่ครวญต่อโลกแวดล้อมได้เอง กลายเป็นนกแก้ว นกขุนทอง พูดตามเสียงพ่อแม่ พร้อมนัยน์เซื่องซึมไร้ประกายไปได้ในที่สุด .. 55
โตขึ้นตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ .. มาดูได้เลยทางเหนือนี่ อาการสาหัส
ผมวิเคราะห์ว่าอาการแบบนี้ทำให้อ่อนแอจนทำให้ล้านนาไม่สามารถเป็นเอกราชจากสยามได้เหมือนล้านช้าง ..
การ spoil นี้ทำลาย "ลูกชาย" มากี่บ้านแล้ว มินตรารู้ไหม ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นลูกชายคนเดียว
555
การตัดสินใจเองไม่ได้ เป็นปัญหาในทุกเรื่อง โดยเฉพาะทางการเมือง ..
ที่จริงโดยเนื้อตัวแล้ว ผมเป็นคนชอบฝรั่ง ทั้งเรื่องบุคคลิกภาพ ความคิด ความเป็นตัวของตัวเอง ความมีเหตุผล ความเป็นผู้มีความรู้รอบตัว ทัสนะต่อโลกที่ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินผู้อื่นแบบ "ตามแห่ ตามโหน"
จารีต วัฒนธรรมแบบไทยๆหลายอย่างที่รับไม่ลง 55
ยิ่งความงมงายนี่ เป็นพิษต่อการรับรู้มากที่สุด
โดย:
สดายุ...
วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:19:22:28 น.
อ้อ เกือบลืม
บล็อคนี้ไม่มี .." สาวสาวของสดายุ" .. นะขอรับ
เด็กเกินไปก็ too much story
สาวไทยต้องวัยสัก 30+ ถึงกำลังดี .. เป็นผู้ใหญ่หน่อย
โดย:
สดายุ...
วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:21:06:41 น.
ดายุ..
มิได้หมายความว่า สาวไทยปัญญาอ่อน มิฉะนั้นก็ไม่มีแผ่นดินไทยเหลืออยู่เพราะกี่ครั้งที่ผ่านมา ก็โจงกระเบนรับศึกจนรักษาบ้านเมืองมาได้
เช่น ท้าวสุรนารีท้าวศรีสุนทร
นี่ชายยุโรปก็ชื่นชมว่า สาวไทยมีความรับผิดชอบสูง..
เด็กฝรั่งมีค่านิยมว่าเมื่ออายุ18บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย
ฉลองกันใหญ่โตตามประเพณีว่า เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ
เลยทำท่าหน้าตาขึงขังเป็นผู้ใหญ่ เพื่อพร้อมที่จะรับผิดชอบกับชีวิตตนเองและผู้อื่นได้
ในขณะที่นักศึกษาไทย แม้นจะมิได้เป็น"คุณหนู"มาจากครอบครัว ร่ำรวย ใดใด ก็ชอบแสดงท่าทาง"เสมือน"เป็นคุณหนู..
ในขณะที่คุณหนูตัวจริงน่ะ ต้องการเป็นผู้ใหญ่เพื่อต่อรองกับพ่อแม่ว่า นั่งรถเมล์ไปมหาวิทยาลัยได้เองคนเดียวนะ..เสรีภาพ..ไงคะ
คล้ายเป็น"ค่านิยม"ของสังคมนะที่จะแสดงท่าปัญญาน้อย..ทั้งทั้งที่ฉลาดมากพอที่จะแกล้งทำเป็นไม่ฉลาด
มีชายไทยกี่คนที่ชอบสตรีที่เป็น"สาวเต็มตัว" อย่างสดายุชอบ..ฮึ... ปกครองยากนะ 555
แถมยังต้องมีความรู้มากพอที่จะคุยกับเธอรู้เรื่องได้..
ชายยุโรปจะชื่นชมกับสตรีที่มีความรู้ความสามารถ เป็นตัวของตัวเอง คุยกันรู้เรื่อง ร่วมตัดสินใจชีวิตด้วยกันได้..
มิใช่สตรีนะ แต่ผู้ชายต่างหากที่ต้องการเด็กไม่บรรลุนิติภาวะ มีการค้นคว้า รสนิยมของชายยุโรป ชายอาหรับ และชายเอเซีย นะ...
ตอนนี้มีการถกกันมากเรื่อง ชายอินเดียที่นิยม เด็ก..
สหประชาชาติกำลังประชุมวางมาตรการมิให้มีการบังคับแต่งงานกับ"ภรรยาเด็ก"
แหม..เลยถือโอกาสแถลงการณ์ว่า ไม่มีสาวสาวของสดายุ ..เจ้าเล่ห์นะนี่..!
โดย: บุษบามินตรา IP: 80.129.194.250 วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:21:36:26 น.
มินตรา ..
ความเป็นฝรั่งนี่คล้ายกันไปหมดนะในสายตาผม
ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน สเปน อเมริกัน แคนนาดา สวีดิช เดนนิส ..
ที่ค่อนข้างแตกต่างก็เห็นจะมี อิตาเลี่ยน นี่แหละ "เจ๊กยุโรป" 555
แปลกที่ทำไมในอเมริกาถึงเรียกคนบางกลุ่มว่า "เชื้อสายสเปน" ที่กำลังจะเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในสหรัฐในอนาคตอีกไม่นาน .. ในขณะเชื้อสายยุโรปเหนือไม่เรียกว่าเชื้อสายอะไร ทั้งๆที่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นอังกฤษ
ทั้งๆที่ สเปน อยู่ในยุโรป แต่เพียงข้ามช่องแคบยิบรอลต้าก็เจอแผ่นดิน อาหรับ มอรอคโค หรือเพราะว่าเชื้อสายสเปนนี้หมายถึง ไม่ใช่ยุโรปผมทอง ตาสีฟ้า ผิวขาวแบบยุโรปเหนือ ..
แต่เป็นฝรั่งผิวคล้ำผมดำตาดำคล้ายพวกละตินอเมริกา อย่าง โคลอมเบีย เวเนซูเอล่า แบบ นาดาล ?
ที่เยอรมันยังมีผมทองน้อยกว่า สวีเดนนะ ..
เพราะเคยไปมาแค่ 2 ประเทศนี้เท่านั้น 55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 14 กันยายน 2556 เวลา:22:06:36 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ดายุ..
ผ่านมาหายรอบแล้วนะ มิกล้าโพสเพราะ ดูท่าจะเป็น
มินตราคนเดียวที่โพสอยู่ สาวสาวของสดายุหายไปหมดเลย..
เดี๋ยวจะลือกันไปว่า มินตรามาติดใจสดายุ..
นี่ไม่ได้โพสนะคะ มาเรียนให้ทราบเท่านั้น 555
แม่บอกว่า เป็นสาวเป็นนาง ต้องรู้จักสงวนท่าทีบ้าง
นางแบบของสดายุที่"ยิ้มในหน้า" นี่แหละ ที่สตรีไทยโดนฝึกมาแต่อ้อนแต่ออก ให้รู้จักวิธียิ้มในหน้า..