Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
เมษายน 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
8 เมษายน 2555
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
Giovanni Marradi - Always
-1-
O ทั้งหลับคล้ายกลับตื่น
พร้อมโอดอื้นในอกราวผกเผย
ลมลูบไม้ดาวดวง .. นั้นล่วงเลย
ด้วยเมฆเกยกอดฟ้า .. คลุมราตรี
O ฝันล่องลอยย้อนสู่-
สิ่งรับรู้บรรดา, ใบหน้าที่-
รอชื่นชม .. หวั่นไหวอยู่ในที
กับไมตรีรับมอบคืนตอบมา
O เงียบงัน .. ในค่ำดึก
กลับอึกทึกเหมือน .. ไม่เลือน-พร่า
และเหมือนร่วมสืบสั่งทุกครั้งครา-
ทั้งหลับตา .. ด้วยยิ้มอันพิมพ์ใจ-
O ของแก้มอิ่มใสแห่งวัยเยาว์
ที่รุมเร้าอารมณ์เกินข่มไหว
ฟองคลื่น แดดระยิบเห็นลิบไกล
แทรกผ่านใฝ่ฝันห่ม .. สายลมพรู
O เงียบงาม .. ครั้งยามเห็น
นั่น-คลื่นล้อลมเล่นฟองเต้นอยู่
และเช่นรูปพักตร์เรียว .. เมื่อเหลียวดู
ฟองคลื่น-ตา-เต้นอยู่.. ฤๅรู้เลือน
-2-
O ดาวดับดวงในห้วงฝัน-
เหลืองจวงจันทร์ กลางฟ้าก็ล้าเลื่อน
ทางเที่ยวมุ่งสู่ปลายที่หมายเยือน
ช่างไม่เหมือนรูปเงา .. ครั้งเยาว์วัย
O ทอนเถิดความใฝ่ฝัน-
ด้วยว่ามัน-ยากเย็นจะเป็นได้
เมื่อเหตุเพิกพังพ่ายจากภายใน
นั่น-ด้วยใจซาบซับ .. ลำดับรู้
O ในฝันรวนเร -
ลมทะเลเห่คลื่น .. ครั่นครื้นอยู่
เรียวยอดต้นมะพร้าว .. ทอดยาว .. ดู-
ตามล้อลมไหววู่ .. ใบลู่เรียง
O เรียวใบระริกรับ
กลางนิ่งนึกย้อนกลับ .. ราวสรรพเสียง-
ผ่านห้วงยามวัยเยาว์ - ตัวเราเพียง-
คอยเคลื่อนเดียงสาตนอยู่บนวัน
O เมื่อโลกหมุน
ใจคนวุ่นวายคว้างตามทางฝัน
พบ, คบหา, จำพรากไปจากกัน
เขา, เธอ, ฉันสิ้นศัพท์ให้รับรู้
O ฟองคลื่นที่ท้ายเรือ
ล้อแดดเรื่อระยับตาเพื่อพาสู่-
จุดมุ่งหมายปลายทาง .. ทอดวาง .. ปู
ให้รับรู้ .. ก้าวล่วงด้วยดวงใจ
O ลาแล้ว-
แดดวับแวว .. ทรายขาว .. เนตรวาวใส
กาลจะพาเลยลับ .. หรือกลับไป
ก็แต่ใจไขว่คว้าเบื้องหน้าโน้น
-3-
O วัยเยาว์ .. ที่เยาว์นัก
เรียนรู้ .. ถึงความรักเมื่อหักโค่น
จิตวิญญาณทุกดวงเคยช่วงโชน-
ก็ห้อยโหนทุกข์โศกให้โบกเย้ย
O ไหนเล่าเด็กชายคนก่อน
เดินเล่นนอนปากคำเฝ้าพร่ำเอ่ย
ฤๅหายกับฟ้าคราม .. ลมรำเพย
เหลือชายผู้เหยียดเย้ยโชคชะตา
O คืนแรมมืดหม่น-
ยังวกวนหลงทาง .. อยู่ข้างหน้า
ตามเอื้อมเด็ดดาวดวงที่ลวงตา
ในฝันพร่ารางเลือนอันเลื่อนลอย
O คลื่นทะเลแห่งวัยเยาว์
ฟองยังคงเต้นเร่า .. อย่างเศร้าสร้อย
แผ่นน้ำพลิกผิวรับ .. แสงวับ .. พลอย-
ยอแสงพร้อยพร่างแพร้วสู่แววตา
O พันแสงที่บนสรวง
ราศีดวงแรกแย้มเมื่อแจ่มจ้า
ย่อมแต่งแต้มอาลัยลงนัยน์ตา
เพียงเพื่อว่าสมสร้างบนทางจร
O กรุงเทพเมืองฟ้า
ตื่นรับกับนัยน์ตา .. เกินกว่าซ่อน
ภาพฝันอันแทรกซุกไปทุกตอน
ค่อยสุมซ้อนทอทาบด้วยภาพจริง
O จึงดอกไม้ที่ในฝัน
ก็ฉับพลันเบ่งบานบนก้าน .. กิ่ง
ต้องแดดร้อนลมโอบ .. ค่อยซบอิง
ลงผ่อนพิงตัวตนอยู่บนวัน
O ดาวรุ่งยังรุ่งเรื้อง
จันทร์ยังเปลื้องแสงทาบทอภาพฝัน
ด้วยใจที่ทราบรู้ .. ย่อมรู้ทัน
เธอและฉันเปลี่ยนแล้ว .. ที่แววตา
O วัยเยาว์ที่เยาว์นัก
ค่อยโค่นหัก .. พังลงที่ตรงหน้า
รูปฝันที่บิดเบือนค่อยเลือน .. ลา
พร้อมคุณค่าล้าเลื่อนไม่เหมือนเดิม
-4-
O นั้นคือเธอ ..
ราว .. พบเจอจากบุญช่วยหนุนเสริม
เปลื้องความหมายแอบแฝงเข้าแต่งเติม
ให้เคลิบเคลิ้มภาพฝันแห่งวันนี้
O ไขว่คว้าดาวดวง .. กลางสรวงโน่น
อันวามแสงช่วงโชน .. อยู่โพ้นที่
เพียงภาพฝันสมสั่งที่ยังมี-
คอยช่วงชี้เร่งระรัวในหัวใจ
O ดอกไม้เบ่งบาน
กลิ่นหอมล้วนหอมซ่านทุกผ่านใกล้
ตลอดสองข้างทางก้าวย่างไป
ค่อยกร่อนสิ้นฝันใฝ่ .. แห่งวัยเยาว์
O คือ .. ดาวที่ลอยดวง
ยังโชนช่วงแสงให้ .. คอยใฝ่เฝ้า
เพื่อเสพซับโลมลูบด้วยรูปเงา
แล้วแนบเนาแทนฝัน .. ที่อันตรธาน
O บางครั้งที่วับวาวแห่งดาวฟ้า
ตอบแววตา, ใจหนึ่ง .. จนซึ้งซ่าน
กระพริบแสงส่ง-รับ .. อยู่นับนาน
หยาดหอมหวานทุกหยดเป็นหยดเดียว
O บ่อยครั้งที่วับวาวแห่งดาวฟ้า
เปลื้องแสงอวดแจ่มจ้าให้ตาเหลียว
ขณะเบื้องรอบกาย .. ความดายเดียว
ก็หน่วงเหนี่ยวคลุมครองทุกห้องใจ
O เพียงฝันพร่างพร้อยที่ลอย .. ล่อ
ให้แอบออ .. จำนง .. เฝ้าหลงใหล
ดาวอันช่วงแสงกระพริบอยู่ลิบไกล
เพียงภาพให้เบิกบาน .. พอผ่านวัน
-5-
O จิตวิญญาณอันหวานหอม
ก็รายล้อมเสพทราบ .. ด้วยภาพฝัน
ปีกผีเสื้อหลากสี .. มาลีพรรณ-
ก็ฉับพลันขับขจ่างขึ้นกลางใจ
O ค่อยค่อยไหวระริก
ธารน้ำพลิกพลิ้วผืนเป็นคลื่นไหล
ม่านหมอกเช้าหม่นมัวอยู่ทั่วไป
เมื่อแรงไหวหวั่นระรัว .. มีทั่วตน
O หอมโกสุมภุมรินนั้นบินว่อน
ตฤปเกสรหวานชุ่มทุกขุมขน
สาปหมอกหม่นสีมาลย์โรยผ่านปน
พารื่นล้นแห่งเช้าแนบเนาทรวง
O ในความรื่นรมย์ .. แห่งลมเช้า
หมอกบางเบาคลุมครอง .. ใจล่องล่วง-
สู่ภาพซึ้งงดงามกว่างามปวง
ท่ามกลางดวงน้ำฟ้า .. สุมาลี
O ล่องลอยรมย์ร่ำหยาดน้ำทิพย์
หยดปร่าปริบปริบผ่านกลีบมาลย์สี
เย้าไอหมอกเผาะร่วง .. ทุกช่วง .. มี-
พื้นธาตรีรับรื่นจากผืนฟ้า
O แทนหมายจากสรวงที่ร่วงหล่น
เข้าแทรกปรนเปรอขวัญ .. จูงฝัน .. ฝ่า-
สู่ทิพรูป-เสพรู้ .. ค้ำอยู่คา-
ชี้บัญชาเจตจินต์ให้ยินยอม
O เห็นเธอเคลื่อนร่าง .. ริมทางฝัน
รอกีดกันรสสุมาลย์อันหวานหอม
เพียรสอดรูปพิมพ์แทรก .. ความแปลกปลอม
ที่รายล้อมตัวฉัน .. ค่ำยันเช้า
O สอดรูปพร่างแพร้วที่แววตา
เพื่อผลาญพร่าขับเคี่ยวความเปลี่ยวเปล่า
แล้วที่สุดปลายทาง .. เพียงร่างเงา-
หนึ่งเดียวเท่านั้นที่ .. อยู่ที่นั้น
O หมอกหม่นคลุมถิ่นจนสิ้นสาง
หยาดน้ำค้าง .. รูปนัยน์คล้ายไหวสั่น
แพรผืนพลอยลมลูบ .. ไหววูบ .. พลัน-
รูปหนึ่งแนบตาฉัน .. แต่นั้นมา
-6-
O รูปเอยรูปละออ .. ไม่พอที่
เริ่มช่วงชี้ให้แต่คอยละห้อยหา
เมื่อยอรูปแนบขวัญลงสัญญา
ก็ราวว่าเกินการณ์จะต้านตน
O ทั้งหลับคล้ายกลับตื่น
พร้อมแว่วเสียงครั่นครื้นแห่งคลื่นฝน
ไร้ลมล่อง, ดาวดวง-ที่สรวงบน
หาก-ใจคน-ดาวช่วง .. ไม่ล่วงแล้ว !
Create Date : 08 เมษายน 2555
Last Update : 3 เมษายน 2566 12:24:25 น.
12 comments
Counter : 4517 Pageviews.
Share
Tweet
สดายุคะ
นี่เป็นครั้งแรกที่อ่านโคลงกลอนแล้ว ไม่เข้าใจเนื้อความ
คำไพเราะ สวยงามนัก..
แต่คล้ายมีภาพ หลายภาพ เป็นช่วงช่วง ของหลาย"งาม"
นี่มินตราเข้าใจถูกต้องไหม..
เป็นวิวัฒนาการความรู้สึกของชายคนหนึ่ง ใช่ไหมเอ่ย
เฉลยค่ะ
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.142.176 วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:11:49:41 น.
ดายุ..
"O นัยน์ตาซึ้งโศกหวาน..สบ..ซ่านแวว-
ความผ่องแผ้วอ่อนไหวของใจหญิง
เจ้าเอยคำออดอ้อน..ร่างผ่อนพิง-
คงยากนิ่งงันอยู่..แม้-ครู่เดียว !"
รู้แล้วล่ะ ว่า"หญิง"ของสดายุน่ะ.."นัยน์ตาซึ้งโศกหวาน"
และช่างออดช่างอ้อน นัก..เฮ้อ(ถอนหายใจ)..นะ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.142.176 วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:12:01:19 น.
มินตรา...
เก่งนี่..เข้าใจถูกต้องแล้ว
เป็นการพูดย้อนกลับไปตั้งแต่ครั้งเยาว์วัยที่แดนเกิดที่มีทะเลล้อมรอบ..และความงดงามนั้นเป็นเพียงสายตาของเด็กชาย หาใช่ความงดงามของช่วงที่ 6 คือ ปัจจุบันไม่
งามของเด็กสาวบ้านนอกช่วงประถม...กับงามแบบสาวเมืองหลวงช่วงวัยรุ่นมัธยมต้นมันช่างต่างกันมากมายนัก
ในความเป็นจริงเป็นเช่นนั้น...
มัธยม ในกรุงเทพ ที่สาวน้อยรุ่นเดียวกัน และสาวมัธยมปลายรุ่นพี่หน้าตางดงามหมดจดนักหนา ยังความตื่นตาตื่นใจไม่รู้วาย จนบัดเดี๋ยวนี้ 555
บทนี้พยายามเขียนให้ลื่นไหลต่อเนื่องเป็นกระแสน้ำ...แต่ยังไม่ได้อย่างใจสักเท่าไร ..
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:13:16:08 น.
สดายุ..
"บทนี้พยายามเขียนให้ลื่นไหลต่อเนื่องเป็นกระแสน้ำ...แต่ยังไม่ได้อย่างใจสักเท่าไร .."
กลอนรึ..จะ"ลื่น"เกินหน้ากวีผู้ผลิต ได้...555
"O และแล้วก็มองเห็นความเป็นไป-
ของอกที่โหยไห้..อาลัย-หวง
แววอาวรณ์โลมไล้อยู่ในดวง-
ตาที่ห่วงใยอยู่แต่ผู้เดียว"
เมื่อเ่ป็นนี้แล้ว จะมีกลอน"ลื่นไหลต่อเนื่องเป็นกระแสน้ำ" ได้อย่างไร.
"O เหมือนรูปรอยคุณค่า..ค่อยตราตรึง-
ความซาบซึ้งแรงชู้..ลงสู่สม
พาอกใจละห้อยหาเฝ้าปรารมภ์-
แววเนตรคมเหลือบชม้อย..เฝ้าคอยรอ"
แถมยัง"เหมือนรูปรอยคุณค่า..ค่อยตราตรึง-
ความซาบซึ้งแรงชู้..ลงสู่สม"....
เอวังก็มีด้วยประการะ ฉะนี้แล...
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.140.39 วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:14:19:14 น.
มินตรา..
บทกลอนที่ดีนั้น..ควรเขียนให้ผู้อ่านนั้น อ่านได้เหมือนอ่าน
บทร้อยแก้วให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถ หรือเหมือนบทพรรณาโวหารเป็นอย่างน้อย (ซึ่ง เด็กหนุ่ม ม8 สวนกุหลาบอย่าง"พนมเทียน"ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในจุฬาตรีคูณ จนมือเขียนเพลงระดับเทพ ถึงกับแต่งเพลง จุฬาตรีคูณ ใต้ร่มมลุลี ฯ ให้ประกอบเรื่องราวทีเดียว...) ...หากมิเช่นนั้นแล้ว คือ ล้มเหลว..
หมี่เป็ด - มนตรี ศรียงค์ กวีซีไรท์ เมื่อสัก 2-3 ปีที่ผ่านมา
เป็นคนหนึ่งที่เขียนได้ดีอย่างที่ว่า
........................................
by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
เบิกหอกวี
ปลาน้ำลึกว่ายมาแต่ฟ้าโน้น
ไกลโพ้นจากขั้วโลกขั้วไหน ?
ร่องน้ำกระแสเชี่ยวเป็นเกลียวไกว
แรงไหวแกนโลกเหวี่ยงโยกมา ?
โขดหินกองเกยอย่างเคยเป็น
รับเซ็นคลื่นซัดมาสาดซ่า
ซ้อนชั้นชันสูงสุดสายตา
เป็นภูเขาเลากาทะมึนงำ
สูงและลึกลึกลับดูซับซ้อน
เช้ายังกร่อนสูงใหญ่ทะลายคว่ำ
คืนถมลึกให้ตื้นเป็นพื้นดำ
วัฏฏะธรรมดาประสาเป็น
เปลี่ยนสูงให้ลึกด้วยเวลา
ปลาน้ำลึกว่ายมาย่อมตาเห็น
ยอดภูใต้น้ำถูกงำเร้น
ลึกเช่นโลกลึกมาดึกดำ
นิตยสาร สารคดี เดือน มีนาคม 2554
.............................
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:15:42:07 น.
สวัสดีค่ะ...
ไพเราะค่ะ... แต่ไม่บอกว่าแปลได้ว่าไง เด๋วไม่ถูก เอาเป็นว่าแปลตามใจฉันแล้วกัน อิอิ
มีความสุขมากๆมีสุขภาพแข็งแรงนะเจ้าคะ
ขอบคุณเจ้าค่ะ
โดย: witch IP: 118.172.117.185 วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:17:55:08 น.
แม่มดน้อย...
เวลาอ่านกลอนอย่าพยายามไปแปลมัน...
ให้อ่านไปเรื่อยๆ..เข้าใจอย่างไรก็ถือเอาอย่างนั้น..
เหมือนภาษาอังกฤษนั่นแหละ..
พอแปลแล้วมันจินตนาการมันจะหดหายหมด...อิๆๆ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:6:20:49 น.
อ่านแล้ว..ให้ความรู้สึกดีจังนะคะ...สงกรานต์ปีนี้ เรนจะไปทะเลกับมี้...
และเพื่อนๆด้วยคะ... สับเปลี่ยนกันขับรถ ไปทางสุพรรณด้วยคะ มี้จะพาไป
ตลาดสามชุก เรนจะเที่ยวเผื่อพี่สดายุนะคะ...
โดย: เรนโมจัง... IP: 115.67.32.137 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:6:31:41 น.
เรนชอบบทกลอนของคุณอาหมี่เป็ดด้วยนะคะ... เรนว่าอ่านแล้วทำให้จินตนาการภาพได้ดีด้วยคะ..
โดย: เรนโมเมจัง... IP: 115.67.32.137 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:6:35:22 น.
พี่ชาย..
สวัสดีตอนเช้าๆค่ะ..พี่
สงกรานต์ปีนี้พี่ชายยังอยู่ลำปางเหรอคะ?
ที่ไซด์งานของพี่ชายไม่หยุดให้คนงานพักเหรอคะ?
เมืองแม่ที่น้องว่าไม่ใช่เชียงใหม่ค่ะ..แต่เป็น..แม่ฮ่องสอน.
มาร่วมงานบุญประเพณีบวชส่างลอง(ลูกแก้ว)ที่วัดกลางทุ่งค่ะ.
ประเพณีเค้าสวยงามมากค่ะพี่..ตระการตาจริงๆค่ะ.
..ผู้อ่อนเยาว์..จะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนแล้ว..พี่ชายรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?..น้องฝากความคิดถึง..ผู้อ่อนอเยาว์..ด้วยนะคะ
ฝากความระลึกถึง..ผู้สูงวัย..ด้วยนะคะ..รักษาสุขภาพค่ะ
ส่วนพี่ชายก็เช่นกันค่ะ..รักษาสุขภาพ..ค่ะ
สงกรานต์ปีนี้น้องจะเที่ยวเผื่อ..พี่ชาย..ค่ะ
วันนี้ตอนบ่ายๆจะออกเดินทางแล้วค่ะ..หยุดยาวพักผ่อนกันบ้างค่ะ..ถือโอกาสพักผ่อนกับครอบครัวค่ะพี่..
บทกลอนยังไพเราะเหมือนเดิมค่ะ..สาวน้อยของพี่ชายก็ยังเหมือนเดิมนะคะ..จากบทกลอนค่ะ
ยิ้มๆค่ะ..พี่ชาย...
โดย: น้องฟาง IP: 180.180.223.117 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:8:14:46 น.
เรน...
สบายดีนะ...ยังเล่นอยู่ thaipoem หรือเปล่านี่..?
อ้อ สงกรานต์ไปทะเล - ถือว่าถูกต้องเหมาะสม เพราะมันร้อน
ก็ต้องไปเล่นน้ำ..
ส่วนที่สุพรรณ ก็มีของกินอร่อยหลายอย่าง..
มีที่เที่ยวหลายที่ .. ผ่านวัดป่าเลยไลก์ก็ลองแวะไหว้พระเก่าแก่ดู...วัดนี้ปรากฎชื่อในเรื่องขุนช้างขุนแผน มาตั้งแต่สมัยอยุธยา..
ขอให้เที่ยวให้สนุก
น้องฟาง...
อ้อ เมืองแม่ฮ่องสอนเองดอกหรือนี่...
พี่ไปมาหลายครั้ง ทั้งเวียนขวา ทั้งเวียนซ้าย เส้น 1095
แม่มาลัย ปาย มีที่เที่ยวสวยงามหลายที่..รวมทั้งห้วยน้ำดัง
สถานที่กางเต้นท์เลื่องชื่อ..
สงกรานต์นี้พี่ต้องอยู่ดูแลโรงงานค่ะ ให้พวกคนงานเขาหยุดกัน
แล้วพี่ค่อยหยุดหลังจากพ้นเทศกาลแล้ว...ราวๆมิถุนายน
พี่กำลังนึกถึงภาพทรายขาวละเอียดบนเกาะเสม็ด และน้ำทะเลที่ใสราวกระจก อยู่ค่ะ...อิๆๆ
เที่ยวให้สนุกนะคะ...
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:10:25:06 น.
ดายุ..
"O O ดูเถิด..รูปเรียวร่างคิ้วคางแก้ม-
ซับเลือดแต้ม, เนตรชม้อยก็คอยเหลียว-
เวียนสบเลศนัยชาย..ที่คลายเกลียว-
เข้ารัดเหนี่ยวโอบขวัญ..ลอบพันธนา"
ชอบสาวรุ่นพี่ที่ "..รูปเรียวร่างคิ้วคางแก้ม-
ซับเลือดแต้ม"....แปลว่า หน้าเลือด ใช่ไหมเอ่ย..555
อารมณ์ขันของกวี หรือของผู้อ่าน หรือ ของภาษานะ
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.158.53 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:13:48:15 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สดายุคะ
นี่เป็นครั้งแรกที่อ่านโคลงกลอนแล้ว ไม่เข้าใจเนื้อความ
คำไพเราะ สวยงามนัก..
แต่คล้ายมีภาพ หลายภาพ เป็นช่วงช่วง ของหลาย"งาม"
นี่มินตราเข้าใจถูกต้องไหม..
เป็นวิวัฒนาการความรู้สึกของชายคนหนึ่ง ใช่ไหมเอ่ย
เฉลยค่ะ