Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
มกราคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
4 มกราคม 2557
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
Secret Garden - Song From A Secret Garden
O แล้วร่องรอยปริศนาก็ปรากฏ
ลีลาศบทบาทอยู่แต่ตรู่สาง
ในคาบยามหมอกหม่นคลุมหนทาง-
ค่อยก้าวย่างฝ่ามัว .. มายั่วใจ
O เห็น-อ่อนเอนแกว่งไกวของไม้พุ่ม-
ต้องลมรุมเร้าผ่าน .. กิ่ง .. ก้านไหว
ฤาต่างความรุมเร้า รูปเงาใคร-
เผยผ่านงาม .. สดใส .. คอยไหววน
O กี่ปีกนกล้อลม .. กี่ร่มพฤกษ์-
ผ่าน .. รำลึกย้อนหลัง, สักครั้งหน-
ที่รูปคราญโลมไล้ .. หัวใจคน-
จัก .. ฝ่าพ้นผ่านงาม .. สักงามนั้น ?
O เห็นแต่ .. ความปรารถนาแห่งอารมณ์-
ที่ค่อยถมทับใจจนไหวสั่น
เห็นแต่ .. ความถวิลอยู่ไม่รู้วัน-
คอยรูปฝันแฝงเร้น .. เผยเห็นเงา
O สายหยุด .. เจ้าหยุดกลิ่นแต่สิ้นสาย
หากแววฉายโชนเลศอีกเนตรเล่า-
จะหยุดแววเง้างอน .. ให้ผ่อนเบา-
แต่เมื่อเข้าคาบยาม .. ของยามใด ?
O ดูเถิด .. แววตอบเต้นไม่เร้นแฝง
ราวจะแกล้งเวียนวก .. พาอกไหว-
ด้วยรูปการณ์ .. รูปธรรมโน้มนำไป
จนเกินใจอาจข่ม .. อารมณ์คอย
O เมื่อความหมายแฝงเร้น .. เผลอ .. เต้นแวว-
วาบสู่แล้ว .. กี่ระยับ .. ก็ยับย่อย
ด้วยงามนี้ .. จับจองทุกร่องรอย
ผลักงามอื่นถดถอยทุกรอยงาม
O เฝ้าผูกพันเป็นห่วง .. ไม่ล่วงแล้ว
และยิ่งแววเนตรปลาบ .. นัยวาบหวาม-
ยิ่งห่วงหวงถวิลเห็นไม่เว้นยาม
สุดใจอาจข่มข้าม .. งดงามนี้
O เยี่ยงนกยูงอกแอ่นรำแพนหาง
ให้โลกล่างตื่นค่า .. รูปราศี
เมื่องามเยาว์เคล้าคลอ .. เข้าต่อตี-
ฤๅอาจมีที่ทางให้ย่างพ้น ?
O ดูเอาเถิด .. เนตรชม้อยชม้ายสู่-
คลายนัยชู้ซ่อนพราง .. ให้คว้าง .. หล่น-
จากรุมเร้าอาลัยที่ไหววน-
เปลื้องปลิดป่นยุดยื้อ .. ความถือตัว
O ดูเอาเถิด .. วาบผกายจนส่ายสั่น
แววตาฝันโชนออก .. ราวหยอกยั่ว-
เย้าหัวใจผูกพันจนสั่นรัว-
ลบเลือนมัวหม่นแล้ว .. ทุกแววตา
O ปลายปีกนกโบยโบก .. เย้ยโลกกว้าง
เมื่อหัวใจหล่นคว้าง .. ติดกลางค่า-
ความอบอุ่นหวานล้ำ .. ที่ค้ำคา-
อยู่ยั่วล้อ .. ทรมา- ให้อาวรณ์
O โอ หนอลายขาบเขียวแห่งเรียวขน-
นั้น-งามล้นเกินใจ .. อาจไถ่ถอน
ด้วยบางความรุมเร้าแสนเว้าวอน-
ไม่ยอมผ่อนเพลาค่า .. ความอาลัย
O เยี่ยงไร .. จึงแฝงเร้นอยู่เช่นนั้น
หรือเพียงยอรูปฝัน .. แนบฝันใฝ่-
แล้วคอยแว่วความ .. เสียง .. หล่อเลี้ยงใจ
พร้อมร่องรอยอ่อนไหว .. ล้อไยดี ?
O สายหยุด .. หยุดหอมหวาน .. ไปนานแล้ว
เหลือเพียงแววตาพร้อม .. แวดล้อมที่
เผยแววหวานห้อมห่ม .. สายลมวี-
วาดเย็นรื่นล้อมฤดีผู้มีใจ
O ปลายปีกนกโบกผ่านไปนานเนิ่น
แววขัดเขินในตา .. คล้ายว่า-ไหว
ปริศนาเร้นแฝง .. ราวแกว่งไกว-
ล้อสายลมล่องไหล .. อยู่ในยาม
O ปลายปีกนกโบกลับไปกับฟ้า
สุดสายตา .. เพียงภาพแวววาบหวาม-
ของอาวรณ์อ่อนไหวที่ไหลลาม-
ของรูปนามปริศนา .. ผู้อ่าองค์ !
Create Date : 04 มกราคม 2557
Last Update : 10 มิถุนายน 2566 18:36:42 น.
2 comments
Counter : 2894 Pageviews.
Share
Tweet
ดายุ..
" กี่ปีกนกล้อลม .. กี่ร่มพฤกษ์-"
"ปลายปีกนกโบยโบก .. เย้ยโลกกว้าง"
สังเกตุมาหลายครั้งแล้วว่า ทำไม ดายุ จึงชอบผูกพันกับ การโบยบินเหลือเกิน เสมือนต้องการอิสรภาพ
แต่มาถึงตรงนี้ เลยใจหายตามไปด้วยกับการโบยบิน..
"O ปลายปีกนกโบกลับไปกับฟ้า
สุดสายตา .. เพียงภาพแวววาบหวาม-
ของอาวรณ์อ่อนไหวที่ไหลลาม-
ของรูปนามปริศนา .. ผู้อ่าองค์ !"
เธอบินหายไปเลยรึ..
แต่ก็เห็นดายุ ยังรื่นรมย์ อยู่นี่นะ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.5.89.173 วันที่: 4 มกราคม 2557 เวลา:13:47:07 น.
มินตรา ..
ภาวะการณ์ที่ปีกนกคลี่กางเพื่อลอยตัวกลางอากาศนั้น
ดูแล้วสง่างามยากหาใดเปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกอินทรี
และความรัก เป็นอิสระภาพสิ่งเดียวในโลกที่ไม่อาจเหนี่ยวรั้งกักขัง ..
ไม่เห็นกันเพียงนิดก็คิดถึง
ห่างกันแค่วันหนึ่งก็ซึมเศร้า
จะหักใจอย่างไรไม่บันเทา
เอ๊ะ .. นี่เรารักเขาหรือเปล่านะ ?
หมายความว่า ที่ว่ามาทั้งหมดเป็นภาพในห้วงคำนึง .. และ มาถึงบทสุดท้าย ก็เผยโฉมให้เห็นตัว !
ว่าที่สุดสายตาคือร่างตรงหน้านี่เอง
โดย:
สดายุ...
วันที่: 4 มกราคม 2557 เวลา:14:51:22 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ดายุ..
" กี่ปีกนกล้อลม .. กี่ร่มพฤกษ์-"
"ปลายปีกนกโบยโบก .. เย้ยโลกกว้าง"
สังเกตุมาหลายครั้งแล้วว่า ทำไม ดายุ จึงชอบผูกพันกับ การโบยบินเหลือเกิน เสมือนต้องการอิสรภาพ
แต่มาถึงตรงนี้ เลยใจหายตามไปด้วยกับการโบยบิน..
"O ปลายปีกนกโบกลับไปกับฟ้า
สุดสายตา .. เพียงภาพแวววาบหวาม-
ของอาวรณ์อ่อนไหวที่ไหลลาม-
ของรูปนามปริศนา .. ผู้อ่าองค์ !"
เธอบินหายไปเลยรึ..
แต่ก็เห็นดายุ ยังรื่นรมย์ อยู่นี่นะ..