Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
มิถุนายน 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
8 มิถุนายน 2554
O สิ้น .. วาสนา .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O สิ้น .. วาสนา .. O
พญาโศก
O และแล้วก็มองเห็นความเป็นจริง
ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง..เพียงร่างฝัน
ปรากฎขึ้นเป็นโจทก์..ชี้โทษทัณฑ์
เพื่อสุมใส่โศกศัลย์..เข้าพันธนา
O ถวิลถึงก็วิตกสะทกสะท้อน
ฑิฆัมพร..เฝ้าแต่เหลียวแลหา
ลอยเด่นกลางสรวงนั่น..คือจันทรา
จนเกินมือเอื้อมหา..เพื่อคว้าดึง !
O เคว้งคว้างอยู่กลางคลื่นที่ตื่น..คลั่ง
คลื่นเทวษที่ลึกดั่ง..เกินหยั่งถึง
รอวิญญาณไร้สิทธิ์..ลงติดตรึง-
อยู่ก้นบึ้งโศกศัลย์..ในบั้นปลาย
O อีกครั้ง..และอีกครา-ความอาวรณ์-
ต้องขาดตอนขาดช่วงจนล่วงหาย
อีกครั้งที่อาลัยจากใจชาย-
ต้องวอดวายล่มคา .. รูปปรารมภ์
O อีกครั้งที่ใจชาย..จะคล้ายว่า-
ต้องโทษทัณฑ์ทรมาจนสาสม
เมื่องามหนึ่งรูปละม่อมเคยจ่อมจม
ต้องมาล่มลับหายกับสายกาล
O รูปเอยรูปงามเยาว์..ดั่งเงาล้อม
จากเผยรูปเห่กล่อมด้วยหอมหวาน
ดลจริตส่งรับอยู่นับนาน
กลับต้องลาญลบสิ้น..จากถิ่นทรวง
O เสียเจ้า-เยาวรูป..ราวสูบสั่ง-
จากเทพทวงเปล่งปลั่ง-คืนฝั่งสรวง
มอบเปล่าเปลี่ยวสุมสั่ง..ใจทั้งดวง
เป็นภาพลวงรองรับ..การลับ..ลา
O จะมีหรือกาลหวนให้จวน-จบ
แต่นี้ตราบผืนภพ..ดินกลบหน้า
คงรอคอยเงียบเหงาให้เข้ามา-
ฉุดลากอาดูรถวิล..ให้สิ้นลง
O นี่หรือ-ปวดร้าว, เจ็บ..อันเหน็บหนาว
ในทุกก้าวย่างรุดเหมือนสุดบ่ง
นี่หรือ..ความขมขื่นที่ยืนยง
คล้ายสืบส่งสมสั่ง..จนคั่งคา
O จะเจ็บจำฝังไว้..เพื่อได้เห็น-
ใจที่เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อปลดปล่อยโทษทัณฑ์ให้บรรดา-
ชายอื่นรอเยี่ยมหน้าด้วยสาใจ
O เทพผู้กอปรฤทธีทั้งสี่โลก
พึงอวยโศกครอบอก-จนหมกไหม้
เอื้อดวงจิตหลอมเหลวด้วยเปลวไฟ
เผาผลาญให้มอดสิ้นทั้งจินตนา
O จะเกิดดับกี่วัฏฏะวงรอบ
ขอนบนอบด้วยเล่ห์เสน่หา
ยอมให้เหยียบย่ำเล่นเหมือนเป็นมา
ในทุกกาละภพที่พบกัน
O อย่าได้คลายอาวรณ์ที่เคยมี
ในทุกที่ทางเที่ยวจะเหลียว-หัน
จะรอคอยย่ำเหยียบ..อย่างเงียบงัน
รอเท้าเรียวเจ้านั้น..เหยียบ-หยันเทอญ
Create Date : 08 มิถุนายน 2554
Last Update : 21 พฤษภาคม 2566 20:25:10 น.
40 comments
Counter : 7516 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะคุณสดายุ..
ฟ้ารู้สึกยินดี..ที่คุณได้ให้เกียรติมาเยี่ยมเยียนด้วยมิตรภาพที่จริงใจถึงที่บ้านฟ้า...ฟ้าคลิ๊กไปดูอันดับบล็อกเพราะรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าใช่สดายุที่ติดลำดับที่ 1 เป็นประจำหรือเปล่า?
แต่ฟ้าคิดว่าคงใช่ เพราะในพันทิปไม่มีชื่อซ้ำอยู่แล้ว..และในสมาชิกที่เขียนกลอนเท่าที่ฟ้าผ่านตา ฟ้าไม่เคยเห็นชื่อคุณในเม้นท์ของใครเลย ซึ่งนับว่าเป็นความมีน้ำใจที่มีต่อฟ้าเป็นอย่างมาก
และสุดท้ายฟ้าขอขอบคุณ...คุณสดายุเป็นอย่างมากที่..กรุณาช่วยชี้แนะในเรื่องของการเขียนกลอน ฟ้าเขียนกลอนไม่เก่งหรอกค่ะ แค่เพียงเขียนได้แบบอ่านเล่นๆเท่านั้นเอง...
คุณเขียนกลอนได้ไพเราะงดงามจนไร้ที่ติอยู่ใน"ขั้นบรมครู" หากฟ้ามีส่วนไหนที่ไม่ถูกต้อง คุณสามารถชี้แนะและติติงได้เสมอนะคะ คิดเสียว่าฟ้าเป็นลูกศิษย์คุณก็แล้วกัน
ฟ้าขอขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่ดีงามอีกครั้ง...และหวังว่าฟ้าคงมีโอกาสได้ต้อนรับคุณเสมอๆที่บ้านฟ้าด้วยนะคะ...ฟ้าจะรอด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 8 มิถุนายน 2554 เวลา:18:57:29 น.
เสียเจ้า-เยาวรูป..ราวสูบสั่ง-น่ากลัวจัง
ถ้าไม่ตามด้วย จากเทพทวงเปล่งปลั่ง-คืนฝั่งสรวง
จะแปลความอย่างไรให้สวยงามกว่า
เคยมองคำว่า"สูบ"ใช้กับธรณีและความหมายเชิงติดลบ
เปิดหน้าบุรุษอาดูรใหม่ดีกว่าค่ะ จะตามอ่านไม่บ่นสักคำ
บล็อกมวลชนต้องตามใจคนอ่านสิคะ เพราะคนอ่านไม่ต้องลงทุน
แฟนคลับประท้วง ก็ให้หน้านี้เป็นนารีปราโมชไม่ใช่เหรอคะ
น่าแปลกที่เขียนให้เศร้าก็ได้ด้วย เหมือนจะเศร้าจริงจริงเลย
โดย:
Peakroong
วันที่: 8 มิถุนายน 2554 เวลา:20:51:40 น.
สวัสดีครับ...
ขออนุญาตเรียกคุณฟ้านะครับ...
ก่อนอื่นต้องขอบคุณดอกไม้ที่นำมามอบให้...ต้องบอกว่าสวยงามมากครับ
ปกติผมเองแทบไม่ได้ไปคอมเมนต์ที่ไหนเลยแม้กระทั่งบล็อคของน้องๆ หรือ เพื่อนๆที่แวะเวียนมาทักทาย...เป็นคนนิสัยไม่ค่อยดีอยู่ตรงนี้แหละครับ...หากไม่ใช่เรื่องกลอน หรือ ศาสนาแล้วผมไม่ค่อยมีประเด็นที่จะพูดคุยมากนัก
ผมเห็นในบล็อคคุณฟ้ามีกลอนแนวสนุกสนานเฮฮาอยู่ด้วย...จึงเข้าใจเอาว่าจะเป็นคนที่มีบุคคลิกร่าเริงสนุกสนาน..เป็นมิตรกับผู้คน...และลักษณะนี้อีกไม่นานคงมีเพื่อนฝูงมากมาย
เรื่องกลอนนั้น ผมเองยังไม่ถึงขั้นบรมครูอย่างที่คุณฟ้าว่ามาหรอกครับ...แค่เขียนมานานและพอเขียนได้เท่านั้น...หากคุณฟ้าสงสัยอยากถามก็พอจะบอกได้อยู่บ้างครับ...
ร้อยกรอง เป็นเพียงการกำหนดกฎเกณฑ์ชุดหนึ่งสำหรับรูปแบบหนึ่งๆ...ให้เราลองทำดู...เป้นความท้าทายอย่างหนึ่งในทางอักษรที่จะสื่อข้อความออกไปภายใต้กฎเกณฑ์แล้วให้คนอ่านรู้เรื่อง...ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับคนที่มีใจรัก
ผมเองรู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสรู้จักคุณฟ้าในครั้งนี้...ครับ
คุณปีกรุ้ง....สวัสดีครับ
สรรพสิ่งในโลกล้วนแปรเปลี่ยนเอาแน่นอนไม่ได้....จิตใจและอารมณ์คนก็เช่นเดียวกัน...พระท่านถึงสอนเรื่องอนิจจังไงครับ...นี่แหละหลักไตรลักษณ์แห่งพุทธที่แน่นอนที่สุด...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...
เวลาสิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ได้อย่างที่หวังขึ้นมา...หากรู้ตัวไม่ทันก็จะเกิดอาการที่เรียกว่า"จิตตก" ขึ้นมาฉะนี้แหละครับ...
ความสวยงามแห่งรูปของสตรี มักเข้ายึดกุมและครอบครองจิตวิญญาณของบุรุษเสมอมาทุกยุคทุกสมัย...ตั้งแต่คลีโอพัตรา..โน่นมาแล้ว
ขณะเดียวกันบริบทของความสัมพันธ์หนุ่มสาวอย่าง กามนิต-วาสิฏฐี หรือ โรมิโอ-จูเลียต ก็มีให้รับรู้อยู่เสมอมาเช่นกัน....แม้ในชีวิตจริง
คุณปีกรุ้งคิดว่า...กลอนบทนี้เศร้าไหม ?
และอารมณ์คนเขียนน่าจะเศร้าพอกันไหม ครับ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 8 มิถุนายน 2554 เวลา:22:02:12 น.
เข้ามาอ่านครับ
โดย: dontana (
dontana
) วันที่: 8 มิถุนายน 2554 เวลา:22:13:44 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณสดายุ..อย่าเที่ยวโศกให้มากนักเลยค่ะ..เดี๋ยวน้ำตาจะท่วมบล็อกเอานะคะ..มีความสุขมากๆค่ะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:6:32:22 น.
คุณสดายุ สวัสดีค่ะ
สรรพสิ่งในโลกล้วนแปรเปลี่ยนเอาแน่นอนไม่ได้จริงค่ะ
แต่หากเรารู้เท่าทันก็ไม่ทุกข์ใช่ไหมคะ ปลงให้ตกแล้วไม่ต้องเก็บ
ถามว่ากลอนเศร้าไหม ก็ต้องเศร้าสิคะ
แต่อารมณ์คนเขียนไม่แน่ใจ ไม่ถามดีกว่า(แม้จะอยากรู้มากเลย)
ตรงนี้จินตนาการได้ตามใจ เจ้าของบล็อกอนุญาตไว้นานแล้ว
แต่หากเศร้าจริงก็ขออภัยค่ะ แบบปลอบใครไม่เป็นเอาเสียเลย
จะตั้งใจเขียนกลอนสักบทก็กลัวจะกลายเป็นจำอวดหาเสียง..ยิ่งเศร้าหนัก..
มั่นใจว่าคนเขียนกลอนที่สนใจพุทธศาสนาและรอบรู้เรื่องราวมากมาย
ถึงเศร้าก็เศร้าไม่นาน ใช่ไหมคะ
เวลาที่ไม่สบายใจจะปลอบตัวเองเสมอว่าใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่
วันนี้วันพระ..ทำสมาธิกันค่ะ..
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตานะคะ
โดย:
Peakroong
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:6:49:47 น.
คุณฟ้า...สวัสดีครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ...
สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับที่เดิมเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของคนเรา...
และอีกครั้งที่ต้องขอบคุณสำหรับความสุข สดชื่น แจ่มใส ที่มอบมาให้ดู...ในยามเช่นนี้
ยินดีมากครับที่เปิดบล็อคขึ้นมาก็เห็นดอกไม้สวยงามมาวางไว้ในบล็อค
คุณปีกรุ้ง....
สวัสดีครับ...ขอบคุณที่แวะมาพูกคุยเป็นเพื่อน...
ผมเองเพิ่งรู้ว่า..ตอนคุณอังคาร กัลยาณพงศ์ ท่านเขียนบท "เสียเจ้า" อันโด่งดังข้ามทศวรรษมานั้น...อารมณ์ตอนเขียนนั้นเป็นอย่างไร...ก็ตอนนี้เอง...
หากสังเกตุให้ดี..กลอนข้างบนเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากบทนี้เต็มๆเช่นกัน...
เสียเจ้า
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย.
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:9:24:15 น.
คุณสดายุค่ะ..
ฟ้าขออนุญาติแวะเข้ามาปลอบใจคุณอีกครั้งค่ะ..ฟ้าไม่รู้ว่าเกิด
สิ่งใดขึ้นกับคุณ..แต่ในฐานะที่เราเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน
ฟ้าขอเป็นกำลังใจให้คุณได้มีสติอันมั่นคง มีจิตใจที่เข้มแข็ง
พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจที่กล้าแกร่ง..พร้อมกับยิ้มเข้า
ไว้..นะคะ
"ฟ้าเอาดอกไม้มาปลอบใจ...ให้คลายเศร้าเร็วๆนะคะ"
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:13:58:26 น.
สวัสดีครับคุณฟ้า....
ขอขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีที่มีให้กัน...ในคำปลอบใจให้กำลังใจ
และในช่อดอกไม้แสนสวยช่อนี้...จนคนที่ได้รับหากกำลังป่วยอยู่คงหายป่วยได้ในฉับพลัน...
คุณฟ้าเป็นคนมีน้ำใจงดงามมากนะครับ...ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นคุณธรรมสำคัญของวิญญูชนครับ....ซึ่งคุณฟ้ามีอยู่เต็มเปี่ยม
ผมจึงไม่แปลกใจเลยหากคุณจะเป็นคนที่มีคนรักคนพอใจมากมาย...
ความปรารถนาอันใดที่มีให้มา...ผมก็ขอมอบกลับไปให้คุณฟ้าด้วยความจริงใจนะครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:15:06:36 น.
ช่วงนี้มาหาอาหารตาอาหารใจที่นี่ได้บ่อยนิดนึงค่ะ เพราะได้เป็นเจ้าแม่ห้องคอมพิวเตอร์ กับ internet เอง 555 อยู่กะคอมพิวเตอร์ที่ทำงาน วันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และที่บ้านอีกไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง แหะๆๆๆ เปลี่ยนแว่นสายตามาแล้ว 1 ครั้ง ก่อนจะพ้นเบญจเพส คงต้องเปลี่ยนอีกครั้งมั้ง
พี่กายคะ ความสุขกับความเศร้ามันอยู่ห่างกันแค่ชั่ววินาทีเอง พี่ว่าจริงไหมคะ
โดย: ม่านแพร IP: 223.204.94.190 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:16:12:51 น.
คุณสดายุ สวัสดีค่ะ
ยินดีที่ได้เข้ามาคุยในนี้นะคะ เพราะมีคำตอบให้มากมาย
ในนี้มีบล็อกกลอนเยอะแยะ แต่เหมือนมีแนวต่างไม่มากนัก
เลาะไปทุกหน้า พบว่าบางคนก็มีบล็อกหลายบล็อก
เลยนั่งเรียนวิชาแกะรอยอัตลักษณ์อยู่ค่ะ เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ
บทกวีสุดโต่งของคุณอังคารไม่เหมือนคนอาลัยรักเลยสักนิด
เหมือนเป็นแค้นฝังหุ่นมากกว่า
แต่งานของคุณสดายุข้างบนมีความอาลัยอาวรณ์หยอดไว้ในทุกบท
ดูความต่างสิคะ
แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
จะเกิดดับกี่วัฏฏะวงรอบ
ขอนบนอบด้วยเล่ห์เสน่หา
ยอมให้เหยียบย่ำเล่นเหมือนเป็นมา
ในทุกกาละภพที่พบกัน
ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
เทพผู้กอปรฤทธีทั้งสี่โลก
พึงอวยโศกครอบอก-จนหมกไหม้
เอื้อดวงจิตหลอมเหลวด้วยเปลวไฟ
เผาผลาญให้มอดสิ้นทั้งจินตนา
จนแม้ในบทสุดท้าย
"อย่าได้คลายอาวรณ์ที่เคยมี
ในทุกที่ทางเที่ยวจะเหลียว-หัน
จะรอคอยย่ำเหยียบ..อย่างเงียบงัน
รอเท้าเรียวเจ้านั้น..เหยียบ-หยันเทอญ"
จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
สรุปว่าคนละอารมณ์กวีเลย
ว่าแต่คุณสดายุ"ป่วย"จริงจริงเหรอคะ..
ก็ฟังว่าจะพากันหนีพ่ออยู่เมื่อวานนี้เอง
คิดจะหอบดอกไม้มาเยี่ยมมั่ง ก็แพ้เกสรดอกไม้เสียได้
อย่า"ป่วย"นานเลยค่ะ
รอบท "สุดรอคอยค่อยเห็นว่าเป็นเจ้า" กลับมาอีกครั้งในเร็ววันนะคะ
โดย:
Peakroong
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:17:48:07 น.
ม่านแพร....
อ้อ เปลี่ยนหน้าที่แล้วหรือนี่...ก็ดีนะอยู่กับอินเตอร์เนตมันมีความรู้หลากหลายกว้างขวางดีมาก...หากเป็นคนไขว่รู้รักการอ่านแล้วล่ะก็...มีให้อ่านไม่หวาดไม่ไหวทีเดียว
มาแลคเชอร์เรื่องปรัชญากันสักหน่อย...
พระท่านว่า...
นันทิใดในเวทนา นั่นคือ อุปาทาน
นันทิ น. ผู้มีความยินดี. (ส.).
เวทนา ๑ [เวทะ] น. ความรู้สึก, ความรู้สึกทุกข์สุข, (เป็นขันธ์ ๑ ในขันธ์ทั้ง ๕
คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ); ความเจ็บปวด,
ทุกข์ทรมาน. (ป., ส.).
อุปาทาน [อุปาทาน, อุบปาทาน] น. การยึดมั่นถือมั่น, การนึกเอาเองแล้ว
ยึดมั่นถือมั่นว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น ๆ. (ป.).
(ส. คือสันสกฤต....ป. คือ ประโยค คือ บาลี)
เมื่อตาเห็นรูป...บุคคลผู้กอปรอยู่ด้วยอวิชชาคือสภาพที่ปราศจากความรู้อยู่พร้อมแล้วนั่น...อำนาจแห่งการปรุงแต่งที่เราเรียกว่า สังขาร ก็จะทำหน้าที่ในทันที สร้างวิญญาณทางตาคือจักขุวิญญาณสวมทับตาเนื้อที่เราเรียกว่าอายตนะภายใน...บัดนั้นเองการสัมผัสของรูป กับ จักขุวิญญาณ ก็เกิดขึ้น...แล้วปรุงแต่งเป็นตัณหา
ตัณหา [ตันหา] น. ความทะยานอยาก, โดยทั่วไปใช้หมายถึงความใคร่ในกาม.
(ป.; ส. ตฺฤษฺณา).
เมื่อจิตที่ยังฝึกไว้ไม่รวดเร็วพอหยุดไม่ทัน...ตัวตัณหาก็ปรุงแต่งต่อไปเป็นเวทนาในชั่วพริบตานั้น...เมื่อถึงอุปาทาน ก็เรียกว่าสายเสียแล้ว จิตมันจับยึดผูกพันไว้เรียบร้อย...จนเป็น ภพ ชาติ ชรามรณะ....เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ภพ - โลกเป็นที่อยู่ของสัตว์,
ชาติ - การเกิดของสังขาร (อำนาจการปรุงแต่งทั้งปวง)
การเกิดขึ้นของทุกข์ในจิตก็ถึงพร้อม...
วินาทียังยาวนานเกินไป กับ ภาวะที่เกิดขึ้นติดต่อเป็นลูกโซ่....มันต้องบอกว่า ชั่วกระพริบตา
คุณปีกรุ้ง....
ครับ...บทของคุณอังคารออกแนว...อติพจน์ ไปหน่อย...แต่การใช้คำใหญ่คำโตแบบนั้นแหละที่ในเชิงโวหารกวีแล้ว ต้องถือว่ากระชากใจนักเชียว....
ส่วนของผมเป็นแนว เจียมเนื้อเจียมตัว...ไปหลงรักดอกฟ้า กระต่ายหลงจันทร์ อะไรประมาณนั้น...หากเคยอ่านเพชรพระอุมา...ก็คงนายพรานไพรใจฉกาจกับราชนิกูลสาวสวยคนนั้นนั่นแหละ....
ส่วนเรื่องหนีพ่ออะไรนั่น...ไปเอาที่ไหนมาพูดครับ...น่าจะเป็นสำนวนพูดเล่นของหนุ่มยุคขวัญกะเรียมมากกว่าที่ว่า...รักพี่ต้องหนีพ่อ...555
ผมเป็นคนอาภัพเรื่องผู้หญิงครับ...มักจะเป็นว่าไปรักชอบคนที่เขาไม่มีใจให้เป็นส่วนมาก...อาจเป็นเพราะมักชอบสาวสวย...และสาวสวยมักมีหนุ่มหล่อเคียงข้างอยู่แล้วเป็นส่วนมาก (คิดเอาเองครับ) จึงไม่เคยสมหวังกับใครเขา...
O หมาย เค้นชีพบีบชาติ..ลงลาดรับ
ไว้สำหรับรอบล้อม..ใจ"หม่อมฉัน"
หมาย - รองภาษพจนีย์ด้วยชีวัน
ทอนโศกศัลย์ห่างเห..รูปเทพินทร์
ยินดีที่แวะมาทักทายครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:18:55:29 น.
ทักทายยามค่ำค่ะคุณสดายุ..
ฟ้าถ้าได้รู้ว่าคนกำลังจะมีความทุกข์นี่..ต้องมาให้กำลังใจกันบ่อยๆหน่อยค่ะ..
ฟ้าอยากจะให้ข้อคิดตามคำที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้นะคะว่า"ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีทุกข์ "
และหากรักมาก ก็ทุกข์มาก รักน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่รักก็ไม่ทุกข์เลย
แต่คุณไม่ได้สิ่งที่รัก ย่อมเป็นทุกข์ ฟ้าอยากให้คุณได้ลองพิจารณาธรรมตามที่...พระองค์ท่านได้กล่าวไว้ตามสภาพจริง
อาจจะทำให้คุณได้สติและมีปัญญาที่...จะพาตัวเองให้พ้นจากทุกข์ได้
ฟ้าขอเป็นกำลังใจให้คุณ...ฝ่าฟันทุกข์อันเกิดจากรักไม่สมหวังให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ...
และถ้าหากดอกไม้จะช่วยทำให้คุณได้คลายโศกมากขึ้น ฟ้ายินดีที่จะส่งมาให้อีก...เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้คุณด้วยนะคะ
ดงทิวลิปคลายโศกค่ะ
กระเช้ากุหลาบปลอบใจ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:20:45:45 น.
สวัสดียามค่ำครับคุณฟ้า....
ชายใดมีคุณอยู่เคียงข้างคงทั้งรักทั้งหลงนะ..ผมว่า
เพราะมีความอ่อนโยนในจิตใจ...มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอย่างน่ายกย่อง...
ครับ...ผมกำลังใช้ธรรมของพระพุทธองค์รำงับความหม่นมัวในหัวใจอยู่อย่างแข็งขันยิ่งครับ...
กำลังใจจากมิตรผู้มีความปรารถนาดีต่อกันช่วยด้านจิตใจได้ดีเหลือเกิน...
และต้องขอขอบคุณในเจตนารมย์อันเป็นกุศลนี้อย่างยิ่งที่จะช่วยปลอบใจผู้อื่นของคุณฟ้า...ที่ผมเองก็ไม่ได้พบเจอบ่อยนัก...ในสังคมยุคนี้
ดอกไม้ทั้งสองชนิดสวยงามมากแค่ไหนก็ไม่เท่าน้ำใจคนให้หรอกครับ...คนรับย่อมซาบซึ้งนักแล้ว...
ขอให้มีความสุขกับคนที่คุณฟ้ารักนะครับ...
โดย:
สดายุ...
วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:21:10:49 น.
พี่คะ
ในวันที่ทิพย์อ่านย้อนไปถึงบทนี้ ในความรู้สึกตอนนั้นคือความสุขใจที่ได้สัมผัสตัวอักษรที่เรียงร้อยไว้อย่างงดงาม ความรักที่งดงามและมากมายจากหัวใจของบุรุษหนึ่ง ที่มีต่อหญิงอันเป็นที่รัก ที่ไม่เสื่อมคลาย
บทกลอนนี้ยังคงไพเราะเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย แต่วันนี้กลับสัมผัสได้ถึงความเศร้าในหัวใจ...ของพี่
แต่พี่ชายเป็นคนที่เข้มแข็ง ทิพย์เชื่อว่าอีกไม่นาน จะได้อ่านนารีปราโมช ที่แสนอ่อนหวานอีก...
โดย: ทิพย์ IP: 110.49.241.39 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:21:30:05 น.
จะดีเลวร้ายเพียงใดผ่านมาแล้วก็ต้องไป
โดย: หนึ่งมิตร IP: 202.91.19.194, 82.145.209.63 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:22:22:42 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณสดายุ..วันนี้ฟ้านำกำลังใจมามอบให้ สู้ สู้ สู้ อย่างชายชาติทรนง มีความสุขมากๆนะคะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:5:37:11 น.
ทิพย์...
พี่ไม่ค่อยได้เขียนบทกลอนในอารมณ์นี้นัก...จำได้ว่ามีไม่เกิน 5 บท...ส่วนมากที่เขียนจะเป็นการบรรยาย"กิริยาของนารี" ผู้มีรูปงามเป็นส่วนใหญ่...
เพราะเหตุว่าบุคลิกท่าทางของนารีนั้น...ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมาให้เป็นที่น่าเอ็นดูนัก แทบทุกคนในวัยที่เริ่มเป็นสาว....และในภาวะการณ์นั้นๆบุคคลแวดล้อมที่"ไม่มีความละเอียดอ่อนพอ" จะไม่สามารถเข้าใจบรรดาอ่อนน้อยนั้นได้เลย...
บทกลอนที่บรรยายความตามอิริยาบทของสาวน้อยจึงมีมากมายในการถ่ายทอดของพี่...ที่ดูเหมือนจะไม่หมดไม่สิ้น...
ความอ่อนโยน..อ่อนหวาน...กอปรด้วยวาจาอันไพเราะเป้นเสน่ห์ของดรุณีวัยกำดัดที่ทำให้กลอนเพลงยาวได้สืบทอดดำรงมาจนถึงยุคนารีปราโมชในปัจจุบันอย่างไม่เคยขาดช่วง...
หากแต่บทอ่อนหวานแบบนั้นจำเป็นต้องมี "รูป" เป็นแรงบันดาลใจเป็นอย่างยิ่ง...หาไม่เช่นนั้นแล้ว...จักไปไม่เป็นเลยทีเดียว...
ขอบคุณนะคะ ที่มาคุยเป็นเพื่อนพี่ในยามที่พี่ไม่มีใคร....ยิ้ม
หนึ่งมิตร....
สวัสดีครับ...เรื่องพวกนี้ผมเข้าใจดีครับ...ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ
คุณฟ้า....
ขอบคุณสำหรับรูปทะเลและท้องฟ้าที่สดใส...
ผมชอบถ้อยคำในรูปมากเลย...อีกไม่นานหวังว่าจะเจอใครสักคนบอกกับผมเช่นนี้อีกสักครั้ง...
"ขอเราสอง...มีกันและกันตลอดไป"
ขอบคุณมากครับ....ยิ้ม ๆ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:7:13:09 น.
ฮือๆๆๆๆ พวกเรามาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับคุณด้วย ก็บอกแล้วไงถ้าเราไม่หล่อจริง ก็อย่าไปหลงรักคนสวยเลย แล้วเป็นไงช้ำรักอีกตามเคย นี่โชคดีที่ยังไม่ตายแต่ก็คงร่อแร่ เอ้าแจ่มเอ้ย คั้นน้ำใบบัวบกสัก 3 ปี๊บทั้งกิน ทั้งทา อาบด้วย ใครที่เคยเป็นแฟนคลับกัน ก็มาช่วยดูแลใจกันยามทุกข์ยากหน่อย อย่าปล่อยให้โศกกันนาน เดี๋ยวจะซี้แหงแก๋ซะก่อน กลุ้มแทนจริงๆพับผ่า ถ้าเนตติดก็จะมาดูอาการกันใหม่ก็แล้วกันนะพ่อสดายุคนดี
โดย: คณะสาวซิ่ง IP: 61.19.86.130 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:12:05:35 น.
สวัสดีค่ะพี่สดายุ
เศร้าจริงอะไรจริงค่ะ
โดย:
medkhanun
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:14:48:50 น.
....ไม่ได้เปลี่ยนหน้าที่ค่ะ แต่เปลี่ยนวิชาสอน ได้เป็น Master teacher ภาษาไทย และ Master teacher บรรณารักษ์ แต่มาสอนคอมพิวเตอร์ ฟังดูดีไหมคะ 555
.....นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ม่านต้องทำงานมากขึ้น เพราะต้องหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องของคอมพิวเตอร์ แบบลึกมากกว่าที่เป็น กำลังลงเรียน ป.โท เทคโนโลยีสารสนเทศ แบบคู่ขนาน อีกสักใบ ในเดือน ต.ค.นี้ จะได้การันตีได้ว่า สอนตรงกับที่เรียนมาจริงๆ
.....พี่กายว่าความสุขความเศร้าอยู่ใกล้กันชั่วกระพริบตา ม่านก็หวังว่าพี่กายคงกระพริบตาได้แล้วเนอะ
โดย: ม่านแพร IP: 223.204.94.190 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:16:48:06 น.
สาวซิ่ง....
ขอบคุณที่อุตส่าห์จะหาน้ำบัวบกมาให้อาบ...แต่ผมเป็นคนชอบ โค๊กซีโร่ มาก..ขอเปลี่ยนก็แล้วกันจะได้ไม่ต้องซื้อเอง...555
เรื่องชอบสาวสวยมันเป็นเรื่องที่แก้ยาก...มันฝังลงไปในโครโมโซมแล้ว...ชาตินี้คงไม่สามารถเปลี่ยนได้อีกแล้ว...
คติผมมีว่า...
หากแม้นไม่ได้คู่ที่พึงเชย...ก็อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า...
และหากเอาดีทางนี้ไม่ได้แน่นอนแล้ว...จะขอพึ่งธรรมพระศาสดาเป็นลำดับต่อไป...ดังนี้ขอรับ
เม็ดขนุน....
เศร้า ไม่เศร้า ฟังเพลงดูก็แล้วกัน...
ใครนะช่างแต่งเพลงนี้...
สงสารพี่รึเปล่า เราน่ะ...
ม่านแพร....
แสดงว่าเขาเห็นศักยภาพของเราสินะ....ว่าสามารถหลายด้าน....หรือไม่ก็เป็นคนที่"เอาได้" มอบหมายอะไรแล้วจัดการเรื่องราวได้ดี...คิดเป็นระบบ...
ยังเป็นผู้น้อยก็พยายามวิ่งเข้าหางาน (ไม่ใช่วิ่งเข้าหานาย...เหมือนผู้ชายหลายๆคน) เพราะมันเป็นศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์...
เขาคงไม่มอบหมายงานที่มีความสำคัญให้คนที่"ไม่ได้เรื่อง" ทำหรอก....เพราะมันเหนื่อยที่ต้องมาคอยตามเช็คว่าจะทำเสร็จตามกำหนดเวลาหรือเปล่า....
คอมพิวเตอร์...มีแค่สองเรื่อง...hardware กับ software...เราเป็นแค่ user ที่ต้องพยายามเรียนรู้ในส่วนของการใช้งานด้าน software เป็นหลักเท่านั้นเอง....งาน hardware เป็นเรื่องของคนที่เรียนรู้มาเฉพาะทางที่จะเป็นผู้ดูแล...
software เองก็มีหลายระดับ....พื้นฐานสุดก็คือ...operating system (os) ที่มีชื่อเรียกว่า window ของไมโครซอฟท์ หรือ ลีนุกซ์อันเป็น os ที่คนทั้งหลายร่วมกันพัฒนาเป็นระบบเปิดและไม่มีลิขสิทธิ์ (เกิดขึ้นจากพวกต่อต้านการผูกขาดของไมโครซอฟท์) ทั้งหลาย....หรือ Macintosh หากเป็นเครื่องของ apple .....
เมื่อมีระบบพื้นฐานแล้ว...ก็จะมีระบบย่อยที่ใช้งานบนระบบพื้นฐานพวกนี้อีกทีเช่น ระบบท่องเวป เป็นต้นว่า Internet Exploror IE ของค่ายไมโครซอฟท์....GoogleChrom ของค่าย กูเกิล....Mozzilla Firefox ของค่ายอะไรก็ไม่รู้...Maxthon ของไมโครซอฟท์....safari ของค่าย apple...เป็นต้น
รวมทั้งระบบช่วยงานเฉพาะด้านต่างๆ...เช่น paint ใช้สำหรับจัดการเรื่องรูปภาพ... โปรแกรมจัดการเรื่องเพลง...โปรแกรมจัดการเรื่องไวรัส...โปรแกรมทำแบบทางวิศวกรรมเช่น AutoCAD...Premavera....เป็นต้น...ฯลฯ
หากมองภาพใหญ่ๆได้แล้ว เราจะเข้าใจได้ง่าย
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:17:52:54 น.
ทักทายยามสุรีย์ลับฟ้าค่ะคุณสดายุ..
ฟ้าเอาไอศครีมผลไม้รวม..มาเยี่ยมผู้ป่วยไข้ใจค่ะ..
วันนี้อาการดีขึ้นบ้างหรือยังค่ะ?..ฟ้าคาดว่าผู้ป่วยใจเข้มแข็งแบบนี้
คงป่วยอีกไม่นานนะคะ..ฟ้าเอาใจช่วยให้หายโดยเร็ววันค่ะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:19:03:57 น.
ตั้งอกตั้งใจมาดูว่าเปลี่ยนอารมณ์กลอนหรือยัง
เลยทันอ่านปณิธานกวีข้างบน
แหม๋..วันไหนถ้าได้พึ่งพระธรรมศาสดาเป็นการถาวรแล้ว
บทเด่นๆอย่าง คำข้าวและใจคน คงยิ่งดังหยุดไม่อยู่เลยสิคะ
แต่ภาพข้างบนไม่เข้ากับเพลงและอารมณ์กลอนสักนิด
ถามเรื่องดาวน์โหลดยูทูปด้วยโปรแกรม IDM ได้ไหมคะ
เผื่อมีใครสนใจเพราะยูทูปที่มากับ IDM เร็วกว่า keepvid
แต่มีปัญหา(อีกแล้ว)ที่โหลดทีไรวิ่งเข้า GOM ทุกที
จะทำอย่างไรให้เป็นไฟล์ winamp วงกลมแล้วชี้ให้หน่อยสิคะ
หาอยู่หลายวัน อยากได้เพลงหลายเพลงไปใส่ E-Book ค่ะ
ขอบพระคุณมาเป็นอย่างสูงนะคะ
โดย:
Peakroong
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:19:29:54 น.
สวัสดีขอรับคุณฟ้า
เหมือนจะรู้ใจผมดีทีเดียว...พอดีกับว่าเป็นคนชอบทานไอศครีมเอามากๆ....ในรูปที่เอามานี่ก็เป็นผลไม้ที่อยากทานทั้งนั้น...โดยเฉพาะกีวี...
คุณฟ้าลองซื้อไอศครีมวอลล์วนิลามา แล้ว ตักลูกพีชกระป๋องพร้อมน้ำหวานนิดหน่อยแปะหน้าลงไป...ราดด้วยชอคโกแลตเหลวของเฮอร์ชี...แล้วโรยด้วยลูกเกดแห้งแบบสีดำ...นั่นล่ะ...สวรรค์ในปากเลยทีเดียว...
แต่ทานมากไม่ดีครับ...นอกจากเปลืองเงินแล้วยัง...อ้วนด้วย...อิๆๆ
ผมได้กำลังใจจากคุณฟ้าและน้องๆ...ทำให้ดีขึ้นพอสมควรแล้วครับ
ต้องขอบคุณในน้ำใจ และความปรารถนาดีที่มีให้กันตั้งแต่แรกรู้จักนี้ มากมาย...เกินคำพูดจะกล่าวได้...ขอรับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:19:32:14 น.
คุณปีกรุ้ง....
ที่จริงบท"คำข้าวและใจคน" ที่วิ่งอยู่แถบขวามือนี้...ผมเองก็ชอบกว่าหลายๆบทที่ใช้คำได้อย่างที่ต้องการ...
บริบทแบบในกลอนนี้ขาดสิ่งที่สำคัญมากอยู่ประการหนึ่ง..คือรูปประกอบ...ยังไม่ชอบรูปที่ใช้อยู่นี่เท่าไรเลย...หายากมากรูปสาวงามที่กำลังใส่บาตร ที่งามถูกใจทั้งรูปหน้าที่สวยระดับ แคทลียา แมคอินทอช ตอนอายุ 18 ที่กำลังก้มน้อยๆ. ..กำลังคดคำข้าวใส่บาตรพระอยู่..ทั้งรูปร่างเพรียวงามด้วยชุดไทยดั้งเดิม ผ้านุ่งสีแดงสด ห่มสไบเฉียงสีทอง...ผมยาวถึงกลางหลังดำสนิท...และยืนบนพื้นหญ้าเขียวนุ่มเท้าเปล่า...มีกำไลทองข้อเท้าวงเล็กๆ.....
หากเจอที่ไหน อย่าลืมเอามาฝากผมด้วยนะครับ...
ส่วนโปรแกรมที่ว่า...ยังไม่ได้ลองเลย...ไว้มีเวลาแล้วผมจะลองดูก่อน...
ได้ความเยี่ยงไรแล้วจะมาบอก นะขอรับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:19:47:13 น.
ภาพประกอบคำข้าวและใจคนสวยงามร่วมสมัยนะคะ
ที่ไม่เข้ากับอารมณ์กลอนและเพลงนั่นคือภาพคนเสื้อลายขนมชั้นข้างบน
ถ้าพบสาวผมยาวกำลังคดคำข้าวใส่บาตรพระอยู่..
ทั้งรูปร่างเพรียวงามด้วยชุดไทยดั้งเดิม ผ้านุ่งสีแดงสด
ห่มสไบเฉียงสีทอง...ผมยาวถึงกลางหลังดำสนิท...
และยืนบนพื้นหญ้าเขียวนุ่มเท้าเปล่า...
มีกำไลทองข้อเท้าวงเล็กๆ.....ตอนเช้ามืด..คงคิดหนักเลยค่ะ
เรื่องโปรแกรมหากได้ความก่อนเยี่ยงไรแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
โดย:
Peakroong
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:20:23:55 น.
อ้อ ครับ...
คงเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มไม่เข้ากับเพลงพญาโศกกระมัง....เปลี่ยนเป็นหน้าเฉยๆก็ดีเหมือนกัน...
รูปนางเอกของผมส่วนมากจะหายาก...ผมพยายามหาจากกิจกรรมของกองประกวดนางงามทุกปี...แต่ผิดหวัง...ไม่เคยมีภาพสวยๆ อย่างที่ถูกใจออกมาเลย....ซึ่งแปลกมากทั้งๆที่เป็นกิจกรรมของคนสวยๆทั้งนั้น...แต่คนจัดการเหมือนไม่มีภาพตั้งอยู่ในความคิดเลยว่าทำการประชาสัมพันธ์แบบไหน คนถึงจะติดตาม รวมทั้งเผยแพร่ความงามแบบไทยๆไปทั่วโลกผ่านโลกออนไลน์....รูปแบบไหนถึงเรียกความสนใจจากทั้งคนไทยและต่างชาติ....
ส่วนมากมีสัญญลักษณ์แห่งความเป็นของตนคาดกลาง คาดบน คาดล่าง ด้วยตัวอักษรแสดงความหวงแหน ทำให้ภาพรกรุงรังเสียบรรยากาศไปหมด....ทำให้ภาพเสียหายหมด ไม่น่าดูเลย....จริงไหมครับ
lสงสัยคงต้องรอชาติหน้า...
โดย:
สดายุ...
วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:23:14:32 น.
ติดตามอ่านอยู่ตลอด
จากรัก ถึงโศก
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นกำลังใจให้คุณสดายุเสมอ
หมายเหตุ ปรกติไม่ได้ comment วันนี้เห็นต้องขอให้กำลังใจกันหน่อยค่ะ
โดย: โสพิศ IP: 124.121.149.65 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:1:43:32 น.
มายิ้มทักทายในวันหยุดค่ะคุณสดายุ..
ฟ้าคิดว่าคุณคงจะสบายใจดีขึ้นมากแล้วใช่ไหมค่ะ?..
ในยามภาวะที่เรากำลังทุกข์..สิ่งไหนหามีค่า..เท่ากับกำลังใจในยามทุกข์ทนนี้ไม่..
ฟ้าเห็นคุณค่าของกำลังใจ..และขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะมอบกำลังใจให้คุณเสมอค่ะคุณสดายุ..มีความสุขมากๆนะคะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:6:36:36 น.
คุณสดายุ
นับจากปี 2477 ที่มีการประกวด"นางงาม" มาก็มีวิวัฒนาการอยู่เยอะ
งามอย่างไทยแท้มีให้เห็นในยุคแรกๆ ก่อนวัฒนธรรมข้ามชาติจะไหลลาม
ปัจจุบันหน้าตานางสาวไทย - ความงาม เน้นความเป็น "สากล"
เป้าหมายหลักจากการเผยแพร่วัฒนธรรม การส่งเสริมการท่องเที่ยว
การประชาสัมพันธ์ เปลี่ยนไปเป็นชิงตำแหน่งที่สากลกว่า
หน้าตาก็ออกมาอย่างนี้แหล่ะค่ะ
อ่านทีแรกยังงัวเงียอยู่ตกใจนึกว่าจะให้สาวงามเปลือยกายประกวด
ไม่ต้องคาดบน คาดกลาง คาดล่าง
ที่แท้ก็ลิขสิทธิ์ภาพนี่เอง ต้องส่งแบบคลิปสดๆเลยดีไหมคะ
เมื่อชาติคือการเกิดของสังขาร (อำนาจการปรุงแต่งทั้งปวง)
ก็คงต้องรอไปเรื่อยๆ (แล้วจะรอทำไมล่ะคะ งง..)
โดย:
Peakroong
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:7:25:04 น.
คุณโสพิศ....
สวัสดีครับ....ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจ ทั้งๆที่ไม่เห็นคอมเมนต์กันมานานแล้ว...
สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาครับ....เราต้องยอมรับมันให้ได้
คุณฟ้า....
สวัสดีครับ....ต้องบอกว่าคุณฟ้าเป็นคนทำให้บล็อคนี้มีสีสันขึ้น...ด้วยรูปภาพสวยงามต่างๆที่นำมามอบให้เป็นกำลังใจ....
ต้องบอกว่ามีความยินดีทุกครั้งที่เห็นนาม "พิรุณร่ำ" มาปรากฏให้เห็นพร้อมทั้งรูปภาพสวยงามที่มีถ้อยคำอันควรแก่การจดจำ...
ผมหวังว่าจะได้เห็นเช่นนี้ไปตราบนานเท่านาน...
ขอบคุณครับ
คุณปีกรุ้ง....
ที่จริงผมไม่ควรพูดถึงบรรดานางงามเข้าประกวดเหล่านั้น....เพียงแต่เมื่อเราต้องการอะไรเราก็จำต้องพยายามคิดไปในทางที่มีความเป็นไปได้ที่จะได้มาให้มากที่สุด....และในกองประกวดนางงามนั้น โดยเฉลี่ยแล้วก็ย่อมมีความงามอยู่เหนือคนทั่วไปทั้งโดยรูปและโดยวัย...อันเป็นการระบุไว้แล้วเป็นการเฉพาะเจาะจง....
อาจมีส่วนทับซ้อนกันอยู่บ้างกับความต้องการของผม....ที่ต้องการ
- รูปที่แสดงถึงความเป็นไทยโบราณโดยการแต่งกาย....
- แสดงถึงความเป็นพุทธโดยบริบทแวดล้อม...คือการตักบาตร
- แสดงถึงความงามของนางในจินตนาการผ่านรูปความสวยงามแห่งยุคสมัย (ที่ไม่ใช่งามแบบไทยโบราณ...แต่งามแบบลูกครึ่ง...ดังตัวดาราที่ระบุนามไว้ก่อนแล้วนั้น)
หากผมเจอความงามดังกล่าวแล้วนั้น....บทแบบ คำข้าวและใจคน คงได้เขียนอีก....เพราะมันฝังใจครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:8:04:27 น.
คุณสดายุ
ในช่วงชีวิตของคนเรามีภาพที่ควรแก่การจดจำมากมาย
เลือกเก็บภาพที่งดงามนะคะ
เอาต้นวาสนามาฝากค่ะ
วาสนาเป็นไม้มงคล หากปลูกลงดินจะสูงและแพร่ขยายให้ร่มเงา
เวลาออกดอกสะพรั่งสวยงาม แต่กลิ่นแรงจนเป็นภัยต่อระบบหายใจ
คนส่วนหนึ่งนิยมเลือกปลูกเพาะในกระถางตามรสนิยมของตัวเอง
กระถางปลูกราคาแพงแพงทำให้ไม้มองดูเหมือนมีค่ากว่ากระถางดิน
แต่จริงจริงแล้วหาได้เปลี่ยนชาติพันธุ์ของวาสนาไม่
บางสิ่งที่เห็น แค่สมมุติเท่านั้นเอง.
โดย:
Peakroong
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:11:39:38 น.
ฟ้าเห็นคุณสดายุบอกว่าชอบกีวี..ยามค่ำลมพัดโชยอ่อน..ฟ้าเลยนำน้ำผลไม้นานาชนิด..มาฝากให้คุณได้เลือกดื่มตามชอบใจค่ะ
นิทรานี้ขอให้คุณหลับอย่างเป็นสุขนะคะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:20:30:47 น.
คุณปีกรุ้ง...
ขอบคุณสำหรับรูปต้นไม้...ที่คนเราสมมุติชื่อเรียกว่า.."วาสนา"...
ชื่อย่อมเป็นสมมุติโดยแท้...แต่กลับมีคนจำนวนมากยึดถือเป็นจริงเป็นจังกับสมมุตินี้...จนจัดเป็น"ไม้มงคล" ?
ในขณะที่สิ่งที่เป็นจริงคือ รูปธรรมที่สายตาเห็นได้...คือ ต้น..ดอกใบ..ราก..รวมทั้งกลิ่นของดอก...ส่วนนั้นย่อมไม่ใช่สมมุติ...
และที่จริงแล้ว...คนเราอยู่ภายใต้แวดล้อมของสมมุติแทบทั้งสิ้น...ไม่เว้นแม้แต่ความ หรือคำที่คิดขึ้นมาเปรียบเปรยในชีวิต...จริงไหมครับ ? ....สิ่งที่แตกต่างระหว่างมนุษย์เราคือการสามารถเข้าใจแล้ว มองผ่าน หรือ จับยึด สมมุติภาวะได้มากน้อยต่างกันไปตามกำลังปัญญา...
และความงามของดรุณีที่สายตามองเห็นได้เป็นรูปธรรมนั้น..ไม่ใช่สมมุติครับ...เป็นภาวะธรรมที่เป็นจริงอย่างไม่อาจปฏิเสธได้...แต่ความเปลี่ยนแปลงย่อมดำรงอยู่ในสภาวะธรรมนั้นอย่างแน่แท้....ดังนี้ขอรับ
คุณฟ้า....
ช่างรู้ใจผมเสียจริง....ทั้งกีวี ทั้งสตอร์เบอรี เป็นของชอบทั้งคู่...เหมาะมากที่จะนำมาทำน้ำผลไม้ปั่น...เหมาะมากสำหรับดื่มก่อนนอนครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณฟ้าจะมีความสุขกับบุคคลแวดล้อมในบรรยากาศที่กอปรด้วยมิตรไมตรี
สมดังที่มีแต่ความอ่อนโยนเอื้ออารีต่อผู้อื่นมาโดยตลอด....
มีความสุขกับค่ำคืนของวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:21:21:02 น.
สวัสดีค่ะ
...กลับมาเมืองไทยแล้ว
ตกลงไป สเปน ฝรั่งเศส โมนาโค
ไม่ได้ไปอังกฤษเพราะไม่ทัน
พักซักเดือนจะไปนำเสนองานที่ศรีลังกาต่อ
...การใช้เพลงพญาโศก ใช้ในงานอวมงคล....ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ใช้....คนโบราณถือมากค่ะ....แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ใช้กันจนเป็นเรื่อง .......ปกติ .
โดย: จิดา IP: 183.89.192.195 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:23:27:58 น.
จิดา...
ผมไม่ถือเรื่องพวกนี้...เพราะมันไม่ใช่คติทางพุทธแต่อย่างใด...
เป็นลัทธิถือผีที่ปะปนมั่วอยู่ในสังคมไทย...
ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย
โดย:
สดายุ...
วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:23:38:45 น.
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าอะไรเป็นพุทธหรือเป็นผี
แม่เป็นคนอยุธยา แม่เล่าให้ฟัง....
และไปศรีลังกาเดือนสิงหาคม ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
คงมีเวลาแวะมาอ่านได้บ่อยก่อนไปค่ะ
โดย: จิดา IP: 183.89.192.195 วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:1:58:08 น.
ฟ้ามายิ้มทักทายคุณสดายุในวันหยุดสบายๆอีกวันหนึ่งค่า..หายเศร้าไวๆ..เจอคนถูกใจเร็วๆด้วยน๊า..ยิ้ม ยิ้มค่ะ
โดย:
พิรุณร่ำ
วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:11:38:20 น.
จิดา....
ครับ เรื่องแบบนี้นานาจิตตัง...
เป็นเรื่องของปัจเจกภาวะ...ที่จะจับยึดกันไป...สำหรับผมไม่ฟังคำโบราณ...ฟังแต่พระพุทธเจ้าองค์เดียว...
คุณพิรุณร่ำ...
สวัสดียามสายๆ...ครับ
หวังว่าจะเป็นดังพรปรารถนาที่มอบให้ในเร็ววันครับ...
ขอให้มีความสุขในวันหยุด...กับคนที่รักครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:12:23:29 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ฟ้ารู้สึกยินดี..ที่คุณได้ให้เกียรติมาเยี่ยมเยียนด้วยมิตรภาพที่จริงใจถึงที่บ้านฟ้า...ฟ้าคลิ๊กไปดูอันดับบล็อกเพราะรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าใช่สดายุที่ติดลำดับที่ 1 เป็นประจำหรือเปล่า?
แต่ฟ้าคิดว่าคงใช่ เพราะในพันทิปไม่มีชื่อซ้ำอยู่แล้ว..และในสมาชิกที่เขียนกลอนเท่าที่ฟ้าผ่านตา ฟ้าไม่เคยเห็นชื่อคุณในเม้นท์ของใครเลย ซึ่งนับว่าเป็นความมีน้ำใจที่มีต่อฟ้าเป็นอย่างมาก
และสุดท้ายฟ้าขอขอบคุณ...คุณสดายุเป็นอย่างมากที่..กรุณาช่วยชี้แนะในเรื่องของการเขียนกลอน ฟ้าเขียนกลอนไม่เก่งหรอกค่ะ แค่เพียงเขียนได้แบบอ่านเล่นๆเท่านั้นเอง...
คุณเขียนกลอนได้ไพเราะงดงามจนไร้ที่ติอยู่ใน"ขั้นบรมครู" หากฟ้ามีส่วนไหนที่ไม่ถูกต้อง คุณสามารถชี้แนะและติติงได้เสมอนะคะ คิดเสียว่าฟ้าเป็นลูกศิษย์คุณก็แล้วกัน
ฟ้าขอขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่ดีงามอีกครั้ง...และหวังว่าฟ้าคงมีโอกาสได้ต้อนรับคุณเสมอๆที่บ้านฟ้าด้วยนะคะ...ฟ้าจะรอด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ