Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O








Ernesto Cortazar - Morelia's Waltz



O เกลื่อนหยาดเม็ดเกล็ดแก้วเห็นแวววับ
ใต้ฟ้าหม่นมืดอับคลุมสรรพ .. ส่ำ
ลมแผ่วลูบโลมสุคนธ์กลางหม่นดำ
เมื่อใจคร่ำครวญชู้ .. ไม่รู้วาง
O รอคอยลำแสงแรกจักแทรกสู่-
ให้หล้าต่ำรับรู้ ว่าตรู่สาง-
หยัดในยามรอคอยลบรอยพราง-
หม่นมัวอ้างว้างวิถี ให้ลี้ลับ
O เยี่ยงอารมณ์ครวญคร่ำกลางต่ำใต้
ที่อาลัยแรงชู้เข้าจู่-จับ
ยิ่งน้ำค้างเหน็บหนาวเหลื่อมวาววับ
คือแววตาพริ้มพรับเหลือบรับนัย
O หนาวน้ำค้างล้อมห่มสายลมแผ่ว
เมื่อดวงแก้วบนฟ้าทาบทาสมัย
คำนึงอันทาบทวงด้วยห่วงใย
ย่อมเพียงแววอ่อนไหวที่นัยน์ตา
O วามเลศนัยสื่อสู่ .. ให้รู้รับ
อ่อนหวานที่โจมจับคือทัพหน้า
ขัดเขิน, ความเอ็นดูก็จู่มา-
ล้อม, ค้ำคาแจ่มชัดในบัดนั้น !
O สัญญาภาพวาบลงที่ตรงหน้า
พร้อมแววตาเยาว์วัย-คล้ายไหวสั่น
เผยความหมายแทนคำ .. เป็นรำพัน-
เข้ากล่อมขวัญห้วงฤดีผู้มีใจ
O เงียบงันในหมอกพรางแห่งสางตรู่
เลศแห่งชู้ก็กระหยับรอ-ขับไข
แววนัยน์ตารูปนามที่วามนัย-
คล้ายรอให้เร่งรุด .. สู่จุดปลาย
O ภาพแห่งความเอียงอายเมื่อปลายฝน
ขับหมองหม่นเลือนดับจนลับหาย
กระนั้นแล้ว .. ความ .. คำ .. จึงรำบาย-
แต้มความหมายอาวรณ์สุมซ้อนลง
O ลมเช้าเคย .. ผ่านช่วงโอบทรวงร้าว
ความเหน็บหนาวที่เผชิญ .. ก็เกินบ่ง
มาบัดนี้ความ .. คำ .. เจตจำนง-
ช่วยสาปส่งเหน็บหนาวจนร้าวราน
O ด้วยหัวใจใฝ่คอยละห้อยห่วง
ความแหนหวงอาลัยก็ไพศาล
ริ้วลมร่ำเริงระลอก..โอบดอกมาลย์-
ส่งหอมหวานซ่านบ่มอารมณ์ชู้
O ช้อยเรียวกลีบชูช่อ .. ให้รอชม-
สี, กลิ่นฉม .. ลมชาย .. กำจายสู่
อิริยาแฝงเร้นให้เอ็นดู-
ก็ไหวอยู่ด้วยสุมาลย์กลีบบานนั้น
O ละม่อมพักตร์แก้มอิ่ม .. ตาพริ้มหลบ
เมื่อบรรจบด้วยใจ .. ย่อมไหวสั่น
ด้วยความหอมหวานซึ้งที่ดึงดัน-
สร้างรูปฝันลงแฝงในแหล่งทรวง
O คาบหนาวนี้ลมร่ำ .. อยู่ค่ำเช้า
ความเปลี่ยวเปล่าห้วงใจ .. เคยใหญ่หลวง-
ก็ลับเลือนภาพหลังเสียทั้งปวง
จากความห่วงใยล้น .. ใครคนนั้น
O จากตรู่สาง .. เช้าสายจนบ่ายค่ำ
ลมคงร่ำฝ่าหาว, ความหนาวสั่น-
กลับลบเลือนเร้นหายที่ปลายวัน
จากอบอุ่นโอบขวัญ .. อย่างมั่นคง
O แดดแจ่มจ้า .. ฟ้าคราม .. เนตรวามแสง-
ค่อยเร้นแฝงเร้ารุมให้ลุ่มหลง
ดูเถิดแววเนตรดำ .. เหมือนจำนง-
ขอร่วมวงวัฏฏะชู้ .. ด้วยผู้เดียว
O อบอุ่นกลางเหน็บหนาว .. ที่ราวว่า-
แววในตาห่วงละห้อยต้องคอยเหลียว-
มองหาผ่านลมริ้ว .. ถึงนิ้วเรียว-
เอื้อมมาเกี่ยวก้อยกัน .. เพื่อพันธนา
O ให้อาวรณ์อบอุ่นแทนฝุ่นฝน
ทั้งอำพนโอภาสแทนวาสนา
คำสัตย์แทนคำมั่นคำสัญญา
บำบวงฟ้าแมนสรรพ .. ให้รับรอง
O ว่าตราบที่มีใจแต่เพียงเจ้า
ย่อมหวังเพียงใฝ่เฝ้าเป็นเจ้าของ
ขอหัวใจเจ้ามอบให้ครอบครอง
แต่แรกพ้องสบกัน .. บัดนั้นมา
O อยู่ที่ไหน .. ให้คอยละห้อยหวง
แต่ละช่วงคาบยามคอยถามหา
มีหัวใจมุ่งมั่นคอยบัญชา-
ปรารถนาอาลัยอยู่ในวัน
O แฝงฝากสายลมร่ำ..ให้นำสู่
ความนัยชู้โอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
เพียงเพื่อร่วมปักปลูกความผูกพัน
ตราบนิรันดร์กาลภพชาติลบเลือน !



Create Date : 14 มกราคม 2558
Last Update : 31 พฤษภาคม 2566 12:41:10 น. 2 comments
Counter : 3503 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ คุณสดายุ...

พี่แวะมาเยี่ยมนะคะ

ดีใจที่ได้ยินเสียงที่ส่งมาทางสายค่ะ

โชคดีมีความสุขนะคะ


โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:9:35:55 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับพี่พรหมญาณี

ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน
หวังว่าสุขภาพพี่จะดีวันดีคืน
ขอให้พุทธธรรมคุ้มครองจิตพี่ตลอดไปครับ


โดย: สดายุ... วันที่: 14 มกราคม 2558 เวลา:18:58:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.