Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ธันวาคม 2559
 
All Blogs
 
O รูปเอย .. O








ลาวดวงดอกไม้



O คล้ายว่าแดดทอดสู่ .. ไม่สู้ร้อน
เมื่อเนตรคล้ายชายค้อน .. เหลือบย้อนหา
นิ่ง, เงียบงัน - แฝงเร้นความเย็นชา
หากเหมือนว่าลอบเร้น .. บีบเค้นใจ
O ค่อยค่อยเยื้อง .. ค่อยค่อยย่าง .. อยู่กลางแถว
เนตรผ่องแผ้วลอบชาย .. ก็คล้ายไหว-
ตามการเพ่งพิศโลม .. รูปโฉมใคร
งามแจ่มใส .. ยิ่งนักรูปพักตร์นั้น
O นุ่งห่มดำ .. ทองลออ-รอบคอระหง
จำหลักวงรอบแขน-ห้อมแหนขวัญ-
ด้วยตุ้มหูแต่งประดับ .. แบบรับกัน
แล้วค่อยผันพักตร์พริ้มมาพิมพ์ใจ
O อ่อนหวานถึงปานนั้น .. เจ้าขวัญน้อย
เมื่อชม้อยเนตรพลัน-ที่สั่นไหว-
ย่อมเป็นอกวาบหวามด้วยความนัย
อกของใครคนหนึ่ง .. ที่อึงอล
O ใต้ท่วงทีงำเงียบ .. พักตร์เรียบเฉย
คล้ายเอื้อนเอ่ยต่อกัน .. นับพันหน
ความรู้สึกในอก .. พลอยวก-วน
สุดฝ่าพ้นรูปลักษณ์ .. ที่ดักทาง
O หรือ .. ผ่านล่วงลงมาจากฟ้าสูง
จึงเหมือนยูงอกแอ่นรำแพนหาง
เหลื่อมลายขนงดงามอยู่ท่ามกลาง-
เงียบงันอ้างว้างในห้วงใจชาย
O สะท้อนความอาลัย .. ที่ในทรวง
พร้อมร่างรุ้งแสงสรวง .. แผ่ช่วง-ฉาย
สะท้อนเพียงวูบวับ .. ก่อนลับ-วาย
คือเนตรผายปริศนา .. ให้คา-คง
O อ่อนไหวถึงปานนั้น .. ดวงขวัญเอ๋ย
หวั่นลับเลยรูปยูง อันสูงส่ง
หลัง-พระลบบำราศ .. ค่อยหยาดลง
หยาดรูปรอย .. ลุ่มหลงสู่ดวงใจ
O มีความหมายปรากฏ .. ในบทบาท-
เรื้องลีลาศแววระยับ .. ออกขับไข
แปรอบอุ่นลามล่วงเป็นห่วงใย
ก็โดยนัยน์อาวรณ์ .. เจ้าอ่อนน้อย
O ลมแผ่วโผยอ่อนพลิ้ว .. โลมริ้วแก้ว
อ่อนเอนตามเจ้าแล้ว .. จากแผ่วค่อย-
จนรอบความทดท้อเคยรอคอย
คล้ายอ่อนเอนเงียบหงอย .. ด้วยน้อยใจ
O สะท้อนรูปฝ่าแดด .. ผ่านแวดล้อม
พักตร์ละม่อมแววตา .. คล้าย-ปราศรัย
สะท้อนผ่านท่วงทีอันมีนัย
ผูกคล้องไว้ยึดมั่น .. เป็นพันธนา
O เช้าชื่นนั้นน้ำค้าง .. เคยวางหยาด
จนโอภาสเรื้องลออทอดทอหา
บริสุทธิ์และสะอาด .. บำราศลา-
เพื่อแฝงฝังคุณค่าให้อาวรณ์
O เรื่อรุ้งของดวงโคม .. เมื่อโลมหล้า
ก็งามเต็มคุณค่าเกินกว่า-ซ่อน
จึงโชติช่วงดวงอุทัย .. เหมือนไฟฟอน
ลงแทรกซ้อนทับทรวงด้วยห่วงใย
O รอคอยมานับนาน .. แต่ผ่านพลบ
จึงบรรจบบริบท .. งาม, สดใส
ดูเอาเถิดตระการตา .. ยิ่งกว่าใด
ประชุมรูป-นามให้ .. หัวใจยอม
O แต่รับทราบ-งามล้ำแห่งลำแสง
อุ่นก็แฝงกำลังเข้าหลั่งหลอม
ที่ว่าหวานมธุรส .. ยาก-อดออม
เหมือนรายล้อมมธุรส .. เกินอดใจ
O ล่องลอยผ่านฟ้าคราม .. สู่งามรูป
ลมแผ่วผ่านโลมลูบ .. จิตวูบไหว
สบชม้อยชม้ายมา .. ครั้งคราใด
ก็อาวรณ์อาลัยเฝ้าไขว่คว้า
O คล้ายว่าร้อนสรวงบนจะพ้นผ่าน
เมื่อเนตรคราญเหมือนคอย-ชม้อยหา
นิ่ง, เงียบงัน - แฝงเร้นความเย็นชา
หากแววตามุ่งหมาย .. นั้นฉายทอ
O หรือว่าเหล่าทิพแถนทั้งแดนสรวง
จะรับรู้ความปวง .. เคยบวงขอ
จึงเมตตาอำนวย .. จนช่วยยอ-
รูปลออหยั่งร่างลงกลางใจ
O หรือว่า .. ปวงทิพแถนทั้งแดนฟ้า
รับพรรณนาสื่อผ่าน .. สุดต้านไหว
มาร่วมพร้องคุณค่าความอาลัย
ร่วมจารบทพิสมัย .. พิมพ์ใจคน
O รูปพักตร์เอยเผยแล้ว .. หากแล้วล่วง-
ถ้อยคำที่บำบวงฝากห้วงหน
จะผูกล่ามเจตจินต์ .. ให้ดิ้นรน
เกินกว่าใจจะหลุดพ้นแล้ว .. คนดี
O ต่อแต่นี้คือวาระ .. เฝ้าละห้อย
ของดวงใจดวงน้อยเฝ้าคอยพี่
ขอ .. อาวรณ์อาลัย .. เงื่อนไมตรี
อย่าได้ลี้เลือนกัน .. ตราบวันวาย !



Create Date : 08 ธันวาคม 2559
Last Update : 13 เมษายน 2566 18:12:21 น. 2 comments
Counter : 3932 Pageviews.

 

คุยกันแต่ในเฟส ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมบล็อก นารีปราโมช ซะนานเลย พี่กายก็คือพี่กาย กี่ปีก็เหมือนเดิม หล่อกว่าเดิมนิสสสนุง ._ .


โดย: EconCU IP: 192.95.30.51 วันที่: 16 ธันวาคม 2559 เวลา:18:32:30 น.  

 


ตัวน้อย ..

นิสสสนุง เองเหรอ ..
ช่วงหลังพี่ไม่ค่อยได้เขียนใหม่หรอก
ส่วนมากเป็นงานเก่าเอามาลงใหม่ .. เปลี่ยนแต่รูปนางเอกเท่านั้น

รูปข้างบนนี้สวยไหมคะ ?


โดย: สดายุ... วันที่: 17 ธันวาคม 2559 เวลา:13:59:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.