Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
มิถุนายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
28 มิถุนายน 2557
O คำข้าว .. และใจคน .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
กอไผ่ - ลาวเจริญศรี
O คำข้าวเจ้าคดน้อม - - - นำลง-
สู่บาตรเกื้อกูลสงฆ์ - - - สืบไว้-
รับบทบาทธำรง - - - ปวงหลัก ธรรมแฮ
กล่อมโลกเหนี่ยวรั้งให้ - - - ห่างไข้โศกเข็ญ ฯ
O วงพักตร์เมื่อน้อมสู่..ท่านผู้ขอ
นวลลออ..ผุดผ่องก็มองเห็น
อิริยาจับเลือก..เจ้า-เยือกเย็น
ล้อแววตาตอบเต้น..ไม่เว้นยาม
O มาทำบุญตักบาตรหนุนชาติภพ-
กลับบรรจบโลกสภาพจนวาบหวาม
จักฝ่าฝืนโลมลูบด้วยรูปนาม-
รูปกลับตามติดตาไม่ล้าเลย
O อิริยาจับช้อน ก็อ่อนช้อย
ชั่วแววตาเหลือบชม้อย..จึงค่อยเผย-
ความอ่อนโยนลึกล้ำ..ดั่งรำเพย-
ของลม-เย้ยยั่วชายให้หมายชม
O บัดนั้น..คือช่วงงามคุกคามโลก
กลบสร้อยโศกเบื้องหลังเคยสั่งสม-
จดวงรอบปรารถนาสู่อารมณ์
แฝงสายลมโชยอ่อนพัดย้อนไป
O คำข้าว..ช่อดอกไม้..ถวายพระ
ตอบภาวะศรัทธาที่อาศัย
แต่ละคำข้าวคด..กำหนดใจ-
ลดละให้อัตตานั้นล้าตัว
O คำข้าว..ช่อดอกไม้..ถวายพร้อม-
ความนอบน้อมนิ่มนวล..ออกยวนยั่ว-
ให้แววตาเหลือบเห็น - แล้วเต้นรัว-
สั่นทั้งหัวใจผู้..รับรู้งาม
O แขนเรียวรูปหยิบจับสำรับส่ง-
ให้หมู่สงฆ์ตามแถว, เมื่อแววหวาม-
ในอีกดวงตาพิศ..คอยติดตาม-
เหมือนสุดห้ามหักจิตเอาปลิดปลง
O ผมรวบเกล้า พรรณลออ..อยู่ล้อตา
เผยรูปรอยคุณค่า..ต่อหน้าสงฆ์
ใจนอบน้อม..คำขอ..และช่อบง-
กชงามสี, รูปทรง..สืบวงกรรม
O เหมือนรูปองค์ จบจิต..สัมฤทธิ์รู้-
ความนัยผู้ปรารมภ์ผ่านลมร่ำ
สบชำเลืองเหลือบชม้อย..เหมือนพลอย - บำ-
รุงใจคร่ำครวญชู้..ที่อยู่คอย
O มาบรรจบงดงาม ในยามเช้า
จนเปลี่ยวเหงาถึงบทต้องถดถอย-
ให้จันทร์ล่มลับดวงจนล่วงรอย
เหลือล่องลอยโชนช่วงเพียงดวงเดียว
O เช่นรูปกลางแววตา..เพ-ลานี้
เปล่งราศีผุดผ่องให้มองเหลียว
ละม่อมพักตร์ทั่วแดน, สองแขนเรียว-
ฤๅเปรียบเสี้ยวส่วนองค์..หน้าองค์พระ ?
O โอ งาม..ราวจะตามมาหยามเย้ย
ด้วยรูปเผยรออยู่..ไม่รู้ผละ
แววซ่อนยิ้มในตา - หรือภาวะ-
ตอบฉันทะนัยชู้..อย่างรู้เชิง ?
O โอ งาม..ราวบีบคั้นด้วยทัณฑ์โทษ-
พาหัวใจปราโมทย์..พลอยโลดเหลิง-
ไปกับยิ้มในตา, แววร่าเริง-
ในฝันเวิ้งว้างตอน..ก็ - ย้อนคืน
O ทิวแถวท่านผู้ขอ..ร่ำรออยู่-
เหมือนรอกู้กลับใจ..ช่วยให้ขืน-
ขัดอำนาจลึกล้ำ, ยอมกล้ำกลืน-
ข่มความรื่นรมย์ชู้..ให้รู้เกรง
O คงจะสายเกินการณ์ แล้วท่านเอ๋ย
เมื่อรูปเผยปรารมภ์..เข้าข่มเหง
ดูเถิดตาตอบตื่นแสนครื้นเครง-
เหมือน-คอยเร่งรอบชู้..ไม่รู้วาง
O คงจะสายเกินการณ์ แล้วท่านเอ๋ย
เมื่อตาเอ่ยเอื้อนความ..ออกตามขวาง-
ขับความเงียบเปล่าเปลี่ยวในเที่ยวทาง
ข่มความอ้างว้างเหงา..เมื่อเช้าวัน
O รูปแห่งธรรมเลือนบทไปหมดแล้ว
เหลือผ่องแผ้วรูปละม่อม..รายล้อมขวัญ
คงรูปรอ..ปักปลูกความผูกพัน
เพื่อร่วมบันทึกส่วนคร่ำครวญคอย
O เสียงธรรมเคยก้องอยู่ไม่รู้แล้ว
เพียงชั่วยามเคยแว่ว..เหลือแผ่วค่อย
โอ งาม..ราวจะแกล้งเข้าแฝงรอย-
จนสุดใจเคลื่อนคล้อย...จากรอยงาม !
O คำข้าวเจ้าคดน้อม - - - นำวาง
กำหนดจิตขีดทาง - - - ย่างเท้า
คำพระยกธรรมขวาง - - - ฝากคิด
กำหนดกรรมกล่อมเช้า - - - หากช้าเกินการณ์ !
Create Date : 28 มิถุนายน 2557
Last Update : 15 พฤษภาคม 2566 6:35:12 น.
9 comments
Counter : 3738 Pageviews.
Share
Tweet
ดายุ..
ใจหายวาบ นึกว่า เวปจะโดนปิดไป
เพราะ ช่วงวีคเอ็น มีแจ้งว่า เข้าgateway ไปสู่ระบบไม่ได้
นึกเสียใจว่า มินตราเป็นตัวปัญหารึเปล่าที่ขวนคุยเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองน่ะ..
หากเป็นเช่นนั้น ก็ขอโทษค่ะ คนอยู่ในโลกเสรีที่มีสิทธิจะพูดจะเสนอความคิดได้ ..
จนไม่รู้จักที่จะ "จำกัดสิทธิของตนเอง"ได้...
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 30 มิถุนายน 2557 เวลา:14:37:38 น.
มินตรา ..
ที่นี่เป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ .. ไม่มีใครสนใจหรอก
ว่าแต่ สถานภาพผู้ลี้ภัยการเมืองในเยอรมันหรือกลุ่มสแกนดิเนเวียร์ เขาพิจารณาจากอะไร
ทำไมถึงถามเช่นนี้รู้ไหม ?
เพราะเชื่อว่า อีก 1000 ปีเมืองไทยก็คงพัฒนาแล้วแบบเยอรมัน สวิส สแกนดิเนเวียร์ ไม่ได้
เป็นเรื่องทางชาติพันธุ์
แค่ความสะอาดเรียบร้อยในแต่ละบ้านที่มีอำนาจจัดการเองไม่ต้องรอใคร ยังทำกันไม่ได้เลย
อีกอย่าง ..
ผมไม่ชอบดูจำอวด ..
ที่แสดงโดยคณะตลกหลวง
อยากเปลี่ยนสัญชาติ !
555
โดย:
สดายุ...
วันที่: 30 มิถุนายน 2557 เวลา:22:00:00 น.
ดายุ..
"สถานภาพผู้ลี้ภัยการเมืองในเยอรมัน"
ต้องเข้ามาบนผืนดินเยอรมันก่อน.
ทันทีที่ล้อเครื่องบิน แตะ แผ่นดินเยอรมัน..เจ้าหน้าที่ต้องรับเรื่องขอลี้ภัยไว้พิจารณา..นานเป็นสองปี เพราะคิวยาว..
ท่านจารุพงศ์ คุณจักรภพนี่ ตอนนี้ คสช.ช่วยทำให้สะดวกในการขอลี้ภัยได้แล้ว เพราะเป็นผู้ไร้สัญชาติ
หากมีใครในเยอรมัน รับรอง ก็ง่ายขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่จะดึงเรื่องมาพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
ในระหว่างขอลี้ภัย ห้ามทำงาน รัฐก็จะจัดหาที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า อาหาร ยารักษาโรค และ ประกันสุขภาพให้
โดยจ่ายให้เป็นรายเดือน
เยอรมันเป็นรัฐสวัสดิการ คือรัฐต้องดูแลประชาชนจนกว่าจะมีสัมมาอาชีวะ
คนยุโรปจึงลี้ภัยเศรษฐกิจเข้าเยอรมันมาก เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนในสแกนดิเนเวียนี่ไม่ทราบ ทราบแต่ว่า ที่ดินมาก แต่พลเมืองน้อย จึงยินดีต้อนรับ..ง่ายกว่าเยอรมัน
กฎเกณฑ์ ก็คงใกล้เคียงกัน คือ ต้องอยู่ในแผ่นดินนั้นก่อน..
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 30 มิถุนายน 2557 เวลา:22:24:39 น.
มินตรา ..
เท่าที่เคยไปมา สแกนดิเนเวียร์น่าอยู่กว่าเยอรมันอย่างที่พูดนั่นแหละ คนน้อยพื้นที่เยอะ มาตรฐานชีวิตสูงมาก แม้จะหนาวไปหน่อย (พอดีไปตอนปีใหม่พอดี)
ลองมองลงไปในสังคมไทยดูสิ ..
.. ทั้งเรื่องพฤติกรรมของคน
.. แนวคิดการแบ่งชนชั้น
.. จารีตประเพณีที่งมงายไร้สาระ
.. ลักษณาการเชื่อง่าย หัวอ่อน ใช้อารมณ์ ไม่ถือเหตุผล ของคน แม้ในกลุ่มคนที่"ใช้ชีวิตในสถานศึกษามายาวนานหน่อย" ก็ไม่ยกเว้น
มองอย่างไม่ต้องมีอคติ .. มันยากมากที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้เหมือนที่ ลี กวนยู เปลี่ยนพวกเจ๊ก แขกอินเดีย แขกมาเลย์ บนเกาะนั้นให้มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย และขยันขันแข็งทำมาหากิน จาก 2509 - 2539 ใช้เวลาแค่ 30 ปีเอง ก็กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วคู่เคียง เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
และ U of Singapore คงไม่มี issue โง่ๆ เรื่องเด็กสาวปากคอพฤติกรรมจัดจ้านลูกไฮโซ มานำกล่าวปฏิญาณบัณฑิต อะไรแบบนั้น
U Singapore นี้รู้สึกจะอันดับ 25 ของโลกหากจำไม่ผิดของปี 2012-2013 นะตาม link
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=22-02-2013&group=132&gblog=124
ส่วนที่กำลังเป็นข่าวในเมืองไทย อยู่อันดับเท่าไรดูกันเอาเอง 55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 1 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:24:23 น.
ดายุ..
ตอนนี้นึกถึงชนเผ่า มายา ที่เคยเจริญรุ่งเรืองสูงส่งทางวัฒนธรรม และในบัดนี้ได้สูญเสียชาติไปแล้ว..ไม่เหลือเผ่าพันธุ์
ในยามที่ความเสื่อมความวิบัติเข้าสู่ตนนั้น
เราจะมีพวก หูหนาตาเหล่ ตัวดำแขนคอก บ้า ใบ้ บอด
..อาการที่เราเคยถือว่า "ผิดปกติมนุษย์" เข้ามามีอำนาจ
ให้คนเคารพกราบไหว้ชื่นชม...ได้อย่างไม่เคอะเขิน..
เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเอง เพื่อแย่งอำนาจ ทรัพย์สินเงินทอง ไร้ศีลไร้ธรรม เห็นผิดเป็นชอบ..
แล้วจะมีภัยธรรมชาติ..แผ่นดินไหว ..เลื่อนไหลของดินน้ำ
ข้าวจะยากหมากจะแพง..
จนไพร่ฟ้าประชาชน ต้องหลบลี้หนีภัยทั้งทางธรรมชาติและภัยที่มาจากจิตใจคิดผิดริษยา..เปลี่ยนถิ่นฐานบ้านเมือง..
และนี่คือการเริ่มต้นของการสูญสิ้น ชนชาวมายา..
กลายเป็นตำนานให้ชนรุ่นหลังได้ยินได้ฟัง..
ไทยจะไม่เป็นเยี่ยงนี้ใช่ไหม...
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 1 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:51:50 น.
มินตรา ..
ไทยคงไม่สูญพันธุ์แบบมายาหรอก .. อย่างน้อยนโยบายโง่ๆ ในอดีตของอดีตชนชั้นปกครองชาติไทยนี้ ที่มีลูกไม่ถึง 4 ห้ามทำหมันเพื่อจะเพิ่ม "ปริมาณที่ไร้คุณภาพ" เพราะวิสัยทัศน์แค่หางอึ่ง ช่วยเอาไว้บ้าง 55
มินตราเคยสงสัยไหมว่า ลาว ที่มีประชากรแค่ 6 ล้านคนในปัจจุบัน ปฏิวัติสังคมมาแล้ว 2558-2518 = 40 ปี แล้วทำไมยังยากจน ไม่เหมือนสิงคโปร์
.. การเมืองก็เป็นธรรมแล้ว ไม่มีเรื่องชนชั้นที่คิดอะไรไม่เป็น ยืนหายใจ ทำตัวฟุ้งเฟ้อไปวันๆ
.. จำนวนคนก็พอๆกับสิงคโปร์ แถมทรัพยากรมากกว่ากันเยอะ
.. หากจะอ้างทำเลประเทศว่าไม่ติดทะเล ก็ต้องถามว่าแล้ว สวิส ล่ะ
ในความเห็นของผม ..
1. ปัญหาทางชาติพันธุ์ที่เฉื่อย ไม่กระตือรือร้น ไม่ขยัน
2. ปัญหาเรื่องเหล่าผู้นำกองทัพปฏิวัติที่กุมอำนาจใน ปูลิตบูโร สายตาสั้นเรื่องเศรษฐกิจ
3. เบอร์ 1 ของประเทศที่ควรเป็นจอมยุทธด้านเศรษศาสตร์ กลับไปเอาจอมยุทธสายนักรบมาลงตำแหน่ง ทำให้ขับเคลื่อนนโยบายไม่ิิออก
โดย:
สดายุ...
วันที่: 1 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:06:06 น.
ดายุ..
O คำข้าว .. และใจคน .. O
นี่ ตอนจบ ต้องสึกพระกันรึเปล่า เอ่ย..
อ่านกลอนไป ใจคิดว่า พระต้องออกสึก นะ555
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 กรกฎาคม 2557 เวลา:2:35:30 น.
มินตรา
พระไม่เกี่ยว ..
เป็นบริบทที่บรรยายคลอกันไปกับสายตาชายหนุ่มอีกฝั่งถนนเท่านั้นเอง ..
นี่ เขาเรียกจินตนาการที่ไปคนละทาง 55
เมืองพุทธแท้ๆ กลับหาภาพสาวงามใส่บาตรตอนเช้าๆ ได้ยากเย็น รูปข้างบนนั่นก็เป็นสาวลาวเขา
ประเทศนี้ ขนาดกองประกวดนางงามยังทำภาพออกมาติดเบอร์สาวงามผู้เข้าประกวด ดูเกะกะลูกตาชะมัด .. แถมตั้งใจสบกล้องสู้กล้องจนหาความเป็นธรรมชาติไม่ได้เลย แล้วยังเอามาเผยแพร่ทางอินเตอร์เนตอีก ..
น่าปวดหัวกับ crative, innovation ที่ดูจะไม่มีเอาเสียเลยกับเมืองไทย
science ก็ไม่ได้เรื่อง
art ก็ลอกๆ จำๆ เขามา
ไหว้เจว็ด กันต่อไป
เฮ้อ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 3 กรกฎาคม 2557 เวลา:5:58:53 น.
ดายุ..
ลูกสาวครอบครัวดีดีน่ะ คนไทยเค้าหวง...
ไม่ปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่านคนเดียวให้ใครใครได้มาชมหรอก..
ใส่บาตรคนเดียวก็ไม่ได้..555
เดี๋ยวจะโดนพระ แกล้งปิดฝาบาตร งับมือ!
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 กรกฎาคม 2557 เวลา:15:47:57 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ใจหายวาบ นึกว่า เวปจะโดนปิดไป
เพราะ ช่วงวีคเอ็น มีแจ้งว่า เข้าgateway ไปสู่ระบบไม่ได้
นึกเสียใจว่า มินตราเป็นตัวปัญหารึเปล่าที่ขวนคุยเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองน่ะ..
หากเป็นเช่นนั้น ก็ขอโทษค่ะ คนอยู่ในโลกเสรีที่มีสิทธิจะพูดจะเสนอความคิดได้ ..
จนไม่รู้จักที่จะ "จำกัดสิทธิของตนเอง"ได้...