Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
ธันวาคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 ธันวาคม 2555
O ใจเอย .. ! O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O ใจเอย .. ! O
ลาวม่านแก้ว - เปียโน
O จนถึงยามหลับนอน-คงซ่อนยิ้ม
ยามตาพริ้มหลับลง..ก็คงเห็น-
ว่า-วงหน้า, แก้มอิ่มและยิ้มเย็น
ค่อยเผยความซ่อนเร้น..ที่เป็นมา
O อยู่ท่ามกลางบรรจถรณ์และหมอนหนุน
กับอาวรณ์อบอุ่นเต็มคุณค่า-
คอยห้อมห่มให้สนิทในนิทรา
เพื่อสืบช่วงถวิลหา..ข้ามราตรี
O แฝงเร้นต่อไปเถิด..อย่าเปิดเลย
เกรงว่าเอ่ยออกมา-แล้วราศี-
จะหมองมัวรูปเงา..ไม่เข้าที
เป็นอย่างนี้เหมาะควร..ทุกส่วนแล้ว
O พวงกลีบก้านกุสุมา..ค่อยปร่าโปรย-
กลิ่นหอม-ผ่านลมโชย..อย่างโผยแผ่ว
รับรู้ว่า-อ่อนหวานคงผ่านแวว-
ตา-ซาบซึ้ง-ผ่องแผ้ว..ไม่แล้ว-เลือน
O เก็บไว้เถิดหัวใจ..รอไขว่หา
เมื่ออีกใจเหว่ว้า..เริ่มล้าเลื่อน-
กับร่างเหงาเงียบงัน..ที่พลันเลือน-
จากใจ-เหมือนมือเรียว..ใคร-เหนี่ยวดึง
O เก็บเถิด-รอยหัวใจ..เก็บไว้ก่อน
อย่าเพิ่งเผยช่วงตอน..อาวรณ์ถึง
เก็บเอาไว้อบร่ำในคำนึง
ด้วยหวานซึ้งโอบไล้..หัวใจตน
O ขอเพียงทุกหลับฝัน..จงฝันว่า-
ปรารถนาซ่อนเร้นอาจเป็นผล-
จากการเต้นแกว่งไกวของใจคน
ร่วม-อึงอลภาวะจังหวะเดียว
O เมื่อถึงยามหลับนอน-จะซ่อนยิ้ม-
ตาหลับพริ้มหรือว่า-เหลือบตาเหลียว
ความซับซ้อนวุ่นวายจะคลายเกลียว
บอกทุกเสี้ยวส่วนใจ..นั้นให้รู้
O คงไม่ต้องเผยออก..เพื่อบอกใคร
กับอาลัยอ่อนหวาน..เมื่อผ่านสู่
แฝงเร้นให้อารมณ์ ได้ชม-ชู
กับนัยชู้ชื่นล้ำ..หยอดย้ำใจ
O แนบหน้ากับหมอนหนุนให้อุ่นแก้ม
แล้วค่อยแย้มยิ้มรับการขับไข-
รติกาลหวานล้ำ..แสนร่ำไร
จงแอบนัยแฝงเร้น..อยู่เช่นนั้น
O หลับตาลงปล่อยให้หัวใจล่อง
กับพร่ำพร้องความนัย..จากใจนั่น
อ่อนหวานทั้งอ่อนไหวมีให้กัน
ฝากแสงจันทร์โน้มนำสู่คำนึง
O ให้บรรดาซ่อนเร้นที่เป็นอยู่
ได้เผยความผ่านสู่..ให้รู้ถึง-
อีกใจที่ปรารถนา..ได้ตราตรึง-
รอบความซึ้งหวานหอม..ลงพร้อมกัน
O ให้บรรดาซ่อนเร้น..เคยเร้นแฝง
ผ่านรอบแรงอาลัย-จากใจฝัน
กลบขัดเขินรูปการณ์..จากนานวัน-
ร่วมบีบคั้นรูปรอยให้พลอยชม
O จากนี้จนรุ่งราง..แห่งสางตรู่
อ่อนหวานย่อมผ่านสู่..ให้รู้สม
กลางหมอนหนุน, เสน่หาแห่งอารมณ์-
จะห้อมห่มรอบชู้..ให้รู้นัย
O จนใกล้ยามตื่นนอน-อาจซ่อนยิ้ม
ทั้งดวงตาหลับพริ้ม..คงยิ้มให้-
กับรูปรอยซ่อนเร้นที่เป็นไป
เถิด...อย่าหมายว่าใคร..จะได้รู้ !
O จึงแม้นมีถ้อยซึ้งรำพึงผ่าน
กอปรความหมายอ่อนหวาน-เผยผ่านสู่
จะยังคงแฝงรอย..เถิด-คอยดู-
คงยิ้มอยู่ในหน้า..อย่างท้าทาย..!
O แฝงเร้นเถิดหัวใจ..อย่าได้เผย
ให้ล่วงเลยกันไปอย่างใจหมาย
พึงอิ่มเอมเขษมอยู่อย่ารู้คลาย
ทั้งใจกายอย่าเผย..เดี๋ยว-เคยตัว !
Create Date : 12 ธันวาคม 2555
Last Update : 16 เมษายน 2566 10:38:27 น.
4 comments
Counter : 3297 Pageviews.
Share
Tweet
ดายุคะ
เห็นฉันท์ปุ๊ป..มินตราวางตนเป็น"นางในฉันท์"เลยค่ะ
วสันตดิลกฉัน๑๔
O คงบุญะหนุนรติพิจิตร
สุจริตะรับรอง
คงบาป ณ คาบนิระสนอง
มนะสองก็สืบสาน
O ร่วมบาตร ณ ชาติบุพะประภพ
ดละภพะร่วมพาล
เติมแต่งเพราะแรงอธิษฐาน
อุปการะร่วมกรรม"
ทำได้ยังไงนะ.. ดูท่าจะหลับตาเขียน..ง่ายง่าย
คนอ่านก็อ่านได้ง่ายง่าย ไม่สะดุดคำใดคำหนึ่งเลย..
เด็กวัดแหง๋..วัดบวรฯ ด้วย เพราะเป็นวัดที่จ้าวจ้าวไปบวชกัน...ฮึ..ฮึ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.109 วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:16:02:35 น.
มินตรา ..
อะไรที่เราทำบ่อย เราจะคุ้นเคย และกลายเป็นความรู้สึกที่ "เรียกใช้ความคุ้นเคยนั้น" มาได้ง่ายๆ
เหมือนคนขี่จักรยาน ..
ตอนหัดและเพิ่งขี่ได้ใหม่ๆ จะระมัดระวังจนเกร็งไปทั้งตัว
แต่พอขี่ไปสัก 5-6 ปี จะคุ้นเคยจนปล่อย 2 มือได้ .. ฉันใดฉันนั้น
หากเรามองว่า ฉันท์ ก็ใช้คำเช่นเดียวกับกลอน คือเป็นคำที่หาความหมายได้ในพจนานุกรมได้เช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรต่างกันเลย .. เราก็จะไม่ต้องกลัว
ฉันทลักษณ์ก็แค่นั้น ..
พอดีกับว่า ผมฝึกเขียนฉันท์พร้อมๆกับเขียนกลอน .. ฉันท์ที่เขียนไว้ตอนฝึกใหม่ เอามาอ่านตอนนี้ก็เอาไม่ลงเลยเหมือนกัน - 55
ลองไปดูงานเก่าดู .. เห็นแล้วยังต้องส่ายหัวเรยยย . . . 55
//topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W2039500/W2039500.html
โดย:
สดายุ...
วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:17:06:17 น.
ใครคะ? แฝงเร้น ... เดาได้เองค่ะไม่ต้องตอบก็ได้...
อากาศเย็นดูแลสุขภาพด้วนะคะ
โดย: น้องเล็ก IP: 118.172.108.211 วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:19:38:07 น.
น้องเล็ก
ตอนเขียนนั้นไม่รู้หรอกว่าใคร .. มารู้ทีหลังค่ะ ..ว่าใคร ..
รู้แล้วก็รู้สึกดีจริงๆ .. อิๆๆ
พอดีว่าเนื้อหามันไปกับเพลงได้ก็เลยเอามาลง ..
เพราะมีคนชอบเพลงนี้ ไงคะ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:20:08:56 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ดายุคะ
เห็นฉันท์ปุ๊ป..มินตราวางตนเป็น"นางในฉันท์"เลยค่ะ
วสันตดิลกฉัน๑๔
O คงบุญะหนุนรติพิจิตร
สุจริตะรับรอง
คงบาป ณ คาบนิระสนอง
มนะสองก็สืบสาน
O ร่วมบาตร ณ ชาติบุพะประภพ
ดละภพะร่วมพาล
เติมแต่งเพราะแรงอธิษฐาน
อุปการะร่วมกรรม"
ทำได้ยังไงนะ.. ดูท่าจะหลับตาเขียน..ง่ายง่าย
คนอ่านก็อ่านได้ง่ายง่าย ไม่สะดุดคำใดคำหนึ่งเลย..
เด็กวัดแหง๋..วัดบวรฯ ด้วย เพราะเป็นวัดที่จ้าวจ้าวไปบวชกัน...ฮึ..ฮึ..