Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
O ขวัญเอย .. O








Ernesto Cortazar - Blue Waters



O คงละห้อยคอยหาแต่ตาตื่น
ในความรื่นรมย์ตอนแสนอ่อนหวาน
วนเวียนคอยผ่านช่วงล้อมดวงมาน
ให้เบิกบานวาบหวาม .. รับความนัย
O ทั้งดวงตาหลับพริ้ม .. คงยิ้มรื่น
ด้วยอกใจแช่มชื่นเกินฝืนไหว
ถวิลคอย, ถ้อยปวง, ความห่วงใย-
คงวุ่นวายวูบไหว .. กลางใจนั้น
O หมอกหม่นมัวโอบเช้า อีกเช้าหนึ่ง
กับหวานซึ้งอีกใจ, อีกไหวหวั่น-
คงไหวกลางแสงสี, มาลีพรรณ-
เมื่อต้องลมลูบ .. สั่น ..ดั่ง-ขวัญน้อย
O ยิ้มรับความรุมเร้า .. แห่งเช้าวัน
ลูบโลมขวัญผ่องแผ้ว, จากแผ่วค่อย-
จนรับรู้, รับรอง .. ความล่องลอย-
ของดวงใจดวงน้อย .. จากถ้อยคำ
O โอ หวานหอมรื่นถิ่น .. หนอ-กลิ่นแก้ว
กับผ่องแผ้วอารมณ์, สายลมร่ำ-
โปรยปรายภาพงดงามจากความจำ
เอาล่วงล้ำอยู่ล้อ .. การรอคอย
O แว่วยินไหมกระซิบเสียง .. หมายเพียงว่า-
จะเหนี่ยวรั้งเหว่ว้าให้ล่าถอย
เพื่อจุนเจืออกใจเอาไว้ลอย-
ล่องตามถ้อยกระซิบนั้น .. ผูกพันไว้
O แทนอ้อมกอด, สายลมจักพรมผ่าน
หอบหอมหวานโอบขวัญ .. รับฝันใฝ่
รอรับเถิดความร้อย .. ทุกรอยนัย
นั้น-บอกความอาลัย .. ผู้ใยดี
O จึงหอมจะน้อมรอ .. ความพ้อพร่ำ-
แฝงผ่านสายลมร่ำ .. เพื่อคำที่-
แทนอาวรณ์อาลัยหัวใจมี
จักเรื่อยรี้โอบขวัญ .. รับฉันทา
O งดงามเอย .. แววเนตรแฝงเลศฉาย
เปล่งประกายเรื่อเรื้องที่เบื้องหน้า
ใครนั่นหนอเผยแล้วที่แววตา
ยิ้มรับความละห้อยหา .. ตอบอาลัย
O พริ้มหลับลงเถิดหนา..นัยน์ตานั้น
เก็บงำแววพร่าสั่น .. อย่าสั่นให้-
บีบเค้นการสั่นรัวอีกหัวใจ
ที่จะคอยสั่นไหว .. ล้อนัยน์ตา
O แม้นอารมณ์แช่มชื่นเกินฝืนไหว
อาจงำให้ความถ้อยแสร้งพลอยว่า
ที่วาบแววอาวรณ์แอบซ่อนมา
ด้วยเกินกว่ากีดกั้นได้ทันการณ์ !
O ภายใต้ความเรียบเฉย .. อย่าเผยเลศ-
ให้ดวงเนตรเผลออ้อน .. แววอ่อนหวาน
เกรงลมร่ำแสงช่วงจะหน่วงกาล
ให้เบิกบานอารมณ์ .. รับสมยอม
O อาจละห้อยคอยเห็นตราบเย็นย่ำ
เฝ้าอบร่ำดวงมานด้วย .. หวานหอม-
ของรอบซึ้งซ่านรส, เกินอดออม-
ด้วยยากพร้อมพาใจออกไกลกัน
O ในความรื่นรมย์ตอนแสนอ่อนหวาน
วนเวียนคอยล้อมผ่านระรานฝัน
พึงเบิกบานวาบหวาม .. กับยามวัน
เมื่อกีดกันทั้งปวง .. มาล่วงร้าง
O ในความรื่นรมย์ตอนออดอ้อนนั้น
จะอุ่นขวัญโอบไว้อยู่ไม่ห่าง
เด็ดดึงความเปล่าเปลี่ยวในเที่ยวทาง
ปูลาดให้ก้าวย่าง .. ลงกลางใจ !



Create Date : 03 ตุลาคม 2557
Last Update : 21 มิถุนายน 2566 5:04:49 น. 3 comments
Counter : 3493 Pageviews.

 
สดายุ...

"ขวัญเอย ..
O คงละห้อยคอยหาแต่ตาตื่น
ในความรื่นรมย์ตอนแสนอ่อนหวาน
วนเวียนคอยผ่านช่วงล้อมดวงมาน
ให้เบิกบานวาบหวาม .. รับความนัย
O ทั้งดวงตาหลับพริ้ม .. คงยิ้มรื่น
ด้วยอกใจแช่มชื่นเกินฝืนไหว
ถวิลคอย, ถ้อยปวง, ความห่วงใย-
คงวุ่นวายวูบไหว .. กลางใจนั้น "

อ่านแล้ว ..
เห็นถึง ความสดใส แช่มชื่น รื่นรมย์ ของ"ขวัญ" ทีเดียว...
คนอะไรไม่มีหมองมีหม่น เกรี้ยวกราด ใดใดติดตัวเลย..




โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 ตุลาคม 2557 เวลา:14:14:44 น.  

 
มินตรา ..

วัยสาวน้อย ในห้วงคิดคำนึงมักเต็มไปด้วยจินตนาการอันเพริดแพร้วพิสดารสุดที่จะมีใครสามารถเข้าใจได้ถ่องแท้

เป็นจินตนาการที่มักสอดคล้องในท่วงทำนองเดียวกับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาแต่วัยเด็กเป็นส่วนใหญ่

ซับซ้อน หรือ เปิดเผยเรียบง่าย
ระแวงระวังภัยรอบตัว หรือ มั่นคงต่อสถานภาพ
อ่อนหวานอ่อนโยน หรือ แข็งกระด้าง
เอาเรื่องเอาราว หรือ ปล่อยวางง่ายๆ
ฯลฯ

วัยที่สดใสตามธรรมชาติจึงมักมีแรงเหนี่ยวรั้งต้านทานจากภูมิหลังดังกล่าวพอสมควรทำให้ความสดใสตามวัย ที่ควรมีตามปกติ ถูกลดทอนลงอย่างน่าเสียดาย

เวลาเขียนนารีปราโมชส่วนใหญ่ คนเขียนจึงมีจินตนาการผสมผสานกันระหว่างความเปิดเผยกล้าแสดงออกแบบเด็กรุ่นใหม่ที่มีอิทธิพลของโลกตะวันตกชักนำ ..

กับท่วงทีแบบคุณหนูแห่งโลกยุคเก่าที่กอปรด้วยจริตแห่งวัยสาวแบบยุค แม่หญิงเรไรในสายโลหิตตอนปลายสมัยอยุธยา จนมาถึง แม่พลอยในสี่แผ่นดินตอนกลางยุครัตนโกสินทร์

เป็นเสน่ห์ของจริตแบบไทยๆที่ไม่มีในสาวน้อยฝรั่ง
หากแต่เปิดเผยมากกว่ายุคโบราณ ยังคง"ออดอ้อน" - แต่ไม่ถึงกับ"จัดจ้าน"

คงเพราะคนเขียนชอบแบบนั้น
55




โดย: สดายุ... วันที่: 4 ตุลาคม 2557 เวลา:16:28:04 น.  

 
สดายุ..

เฉียดไปนิดเดียว..
หลบเกือบไม่ทันแน่ะ 555

"O โอ หวานหอมรื่นถิ่น .. หนอ-กลิ่นแก้ว
กับผ่องแผ้วอารมณ์, สายลมร่ำ-
โปรยปรายภาพงดงามจากความจำ
เอาล่วงล้ำอยู่ล้อ .. การรอคอย "


โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 5 ตุลาคม 2557 เวลา:2:58:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.