O ในห้วงคำนึง .. O
VIDEO Love Theme from Romeo and Juliet O เรื่อยรี้คีตะกานท์ .. ค่อยผ่านแว่ว เมื่อลมแผ่วผ่านริ้ว .. น้ำพลิ้วผืน กรุ่นกลิ่นแก้วอบร่ำ .. รอค่ำคืน- คลี่ลงโอบกอดคลื่น .. ที่ตื่นฟอง O เจื้อยแจ้วเสียงสูงต่ำ .. คล้ายรำพัน- กล่อมดวงขวัญทอนโศกแห่งโลกผอง มีจังหวะใจย้ำเร่งทำนอง- เสียงพร่ำพร้องแห่งชู้ .. ให้รู้นัย O ร้างเดือนดาวกลางพลบ, หรือ-หลบซ่อน- จากแววตาออดอ้อน .. แสนอ่อนไหว รื่นเย็นลมร่ำหา, แววตาใคร- ก็ช่างแสนร่ำไร .. ล้อใจคน O แม้น-เหมือนจันทร์ซ่อนแสงจากแหล่งที่ ทั้งราศีดาวช่วง .. ลับห้วงหน หากแววตาหวั่นสะทก .. ยังวก-วน- ทอดทอแสงอำพน .. เข้าดลใจ O โบกโบยลมเย็นรื่น .. ล้อมผืนน้ำ เมื่อคืนค่ำปรากฏความสดใส โดยความซึ้งซ่านล้ำ, แก้มก่ำใคร- ก็เรื่อสีแต้มใส่ .. ทุกนัยน์ตา O ระริกสายน้ำตื่นพลิ้วผืนระลอก- เข้ายั่วหยอกโลมหลั่ง .. ริมฝั่งท่า รูปละม่อมเนียนแก้มยั่วแย้มมา ปรารถนาอาวรณ์ ฤๅถอนพ้น ? O อ้อยอิ่งเสียงสังคีตแว่วหวีดผ่าน พาหอมหวานทั้งปวงให้ร่วงหล่น- ลงสู่ห้วงคำนึง .. ของหนึ่งคน- เลื่อนระดับเอ่อล้นท่วมท้นใจ O รูปนามเอย .. เผยลักษณ์มาดักขวาง- หรือเพื่อรอก้าวย่างทุกย่างให้- ย่ำเหยียบลงกลางบ่วง .. ความห่วงใย- แล้วอาลัยเสน่หา .. ไม่ล้าเลือน ? O พร่างพรายน้ำเหลื่อมรับอยู่วับไหว เมื่อหัวใจคำนึง .. ซาบซึ้งเหมือน- ว่า .. รูปนามตามติด .. คอยพิศเบือน- สายตาเลื่อนแววชู้ .. ให้รู้การณ์ O สูงต่ำแห่งสังคีตแว่วหวีดเสียง ยังแว่วเพียงขับกล่อมพาหอมหวาน- เข้าโอบไล้โลมสิ้นจิตวิญญาณ ให้สะท้านสะเทื้อนอยู่ .. แต่ผู้เดียว O วิกาลคล้อยน้ำค้างพรายพร่างเม็ด ดั่งแพรเพชรลอยผืนในคืนเปลี่ยว สรวงย่อมมืดหม่นครัน .. เพราะจันทร์เรียว- เร้นส่วนเสี้ยวเลื่อนดวงจนล่วงรอย O ป่านฉะนี้ .. รูปแพงจักแฝงร่าง- ในท่ามกลางเย็นเยียบและเงียบหงอย หรือ .. หัวใจพร่ำพ้อเฝ้ารอคอย- อกแขนอ้อยสร้อยโอบให้แอบอิง ? O คิดถึงกันมากไหม .. หัวใจนั่น แล้ว .. ไหวสั่นเพียงไหนหนอ .. ใจหญิง ? แทน-เตียงนุ่ม .. เนื้ออ่อนเจ้าผ่อนพิง- หมาย .. เกลือกกลิ้งก่ายร่างที่กลางทรวง O รอคอยเถิด .. รูปละม่อมในอ้อมแขน- จักโอบรูปไว้แน่น .. อย่างแหนหวง- เพียงเพื่อแววหวามไหวที่ในดวง- ตาคู่ช่วงโชนความออกล่ามพัน ! O แม้นจันทร์แรมเร้นดวง .. เลือนช่วงแสง หากที่แฝงฝากช่วงในห้วงฝัน- กลับเจิดจ้าโชนช่วงเยี่ยงดวงวัน- เมื่อแรกผันเรือนรุ้งทาบคุ้งฟ้า O เก็บงำแวววับวามแห่งยามเช้า- พร้อมเหลื่อมเงาสายน้ำที่หลามบ่า ก่อรูปนามพร่างพรายในสายตา ให้แต่ปรารมภ์ชู้ .. ไม่รู้แล้ว O ค่ำนี้ .. แววตาระยับเกินขับข่ม แก้วกรุ่นกลิ่นรื่นฉม, สายลมแผ่ว- ก็รำบัดรำบายปัดป่ายแนว ลูบโลมความผ่องแผ้ว .. ล้อมแววตา O ฟากฟ้า .. เมฆหม่นดำ, เสียงคำรน- ก้องกาหลครึกโครม, ลมโหมหา บนโลกต่ำ-รูปนาม .. ก็ล่ามคา- ปรารถนาอาลัย .. ที่ในตน O มีใจ .. พร้อมรูปเงา-รุมเร้าอยู่- เมื่อรอบชู้โหมช่วง, กลางห้วงหน- สายวิชชุเฟื้อยเส้น .. แล้วเต้น .. วน แข่งใจคนรัวเต้นไม่เว้นยาม O ถวิลถึง .. รูปสล้างที่กลางหมอน- จักทอดถอนใจทราบ - รสวาบหวาม อ้อมแขน .. อกอุ่นเอื้อ .. นิ่มเนื้องาม- หรืออาจห้ามใจข่ม .. การสมยอม ? O ลมลูบน้ำกระเพื่อมผิวเป็นริ้วตื่น เสียงโอดอื้นพร่ำพ้อ .. ร่ำรอ-ถนอม- ก็แผ่วผ่านตอกย้ำ .. ให้ด่ำดอม- รสหวานหอมรูปนามแห่งยามนั้น O เรื่อยรี้ .. คีตะกานท์ยังผ่านแว่ว- ก็เมื่อแววในตา .. ค่อยพร่าสั่น ระทึก .. ระทวยใจ .. ของใครกัน- คงแว่วอยู่เช่นนั้น .. เสียง-สั่นเครือ O คงแว่วอยู่ในโสต .. เสียงโอดอื้น รัญจวนตื่น .. ในยามก็งามเหลือ ร้างเหน็บหนาวทุกรอย .. จะคอยเจือ- จางช่วงเชื้ออุ่นร้อน .. ให้ผ่อนแรง O ราวเสียงแผ่วไกลลิบ .. กระซิบกระซาบ ก่อนนัยน์ตาสบทราบ .. แล้ววาบแสง ออดอ้อนผ่านรูปคำ .. ก็สำแดง- นัยฝากแฝงอาวรณ์ .. อันร้อนรน O วูบวับความอ่อนไหว .. ผ่านนัยน์ตา ที่เหมือนว่าไหวสั่นนับพันหน- จากอาวรณ์สั่นสะทก .. ในอกคน- ผู้วกวนเวียนหอมไม่ยอมร้าง O คะเนนึก .. รูปพรรณในบรรจถรณ์- จักออดอ้อนแวดล้อมไม่ยอมห่าง ช่วงแขนเรียว, ดวงขวัญ, รูปสรรพางค์- จักร่วมวางชาติภพบรรจบลง O คะเนนึก .. เนื้อนวลคร่ำครวญถวิล เมื่อกรุ่นกลิ่นหอมระรุม .. ให้ลุ่มหลง- ค่อยผ่านรสรื่นล้ำ .. ร่วมจำนง- การรับส่งหวานหอม .. รายล้อมใจ O เรื่อยรี้คีตาพร้องทำนองประณีต ดังแว่วหวีดโลมรุกผ่านยุคสมัย เสียงสั่นเครือคร่ำครวญ, เนื้อนวลใย- ค่อยพลิ้วไหวตอบรู้ .. แรงชู้นั้น O พร้อมคีตาพร่ำพร้องทำนองประณีต เสียงแว่วหวีดก้องรัว, เนื้อตัวสั่น- ก็เผยผ่านแขนเรียว .. โอบเหนี่ยวพัน- ธนา-ความใฝ่ฝัน .. บัดนั้นเอง !
Create Date : 14 ธันวาคม 2555
Last Update : 20 เมษายน 2566 18:16:54 น.
15 comments
Counter : 3630 Pageviews.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.155 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:1:03:22 น.
โดย: น้องเล็ก IP: 118.172.114.111 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:8:06:44 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:10:31:07 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.143 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:13:54:23 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:14:36:41 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.143 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:18:05:58 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.143 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:18:35:53 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:20:56:07 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.143 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:21:46:03 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:12:15:05 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.195.245 วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:13:59:13 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.195.245 วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:14:07:43 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.195.245 วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:14:11:37 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:15:26:38 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.195.245 วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:16:39:07 น.
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [? ]
O ใช่แน่หรือ ? .. O O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ? ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว- แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์ เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์ ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
ต๊าย..ดายุ..
"O คิดถึงกันมากไหม .. หัวใจนั่น
แล้ว .. ไหวสั่นเพียงไหนหนอ .. ใจหญิง ?
แทน-เตียงนุ่ม .. เนื้ออ่อนเจ้าผ่อนพิง-
หมาย .. เกลือกกลิ้งก่ายร่างที่กลางทรวง"
กลอนนี้ อายุต่ำกว่า แปดสิบ อ่านได้ไหมนี่..
แม่บอกว่า โคลงฉันท์กาพย์กลอนนั้น ต้องเลือกอ่าน
..เดี๋ยวจะใจแตก...ฮึ..ฮึ..
ชักจะsexy !