O เมื่ออุษาสาง .. O
ชัยภัค ภัทรจินดา - ลาวคำหอม
O เพียงลมเช้าเฉื่อยโชย .. อย่างโผยแผ่ว พายวาดแล้ว-อ่อยเอื่อย, เรือเรื่อยไหล คลื่นน้ำพลิ้วโยนระลอก .. แผ่ออกไป พร้อมริ้ววงน้ำไหว .. คือใจรอ O บรรจงหยิบจับของประคองถวาย นอบน้อมกายมอบสู่ท่านผู้ขอ หมายนัยธรรมผ่านเสียง .. จะเพียงพอ- ช่วยเติมต่อภูมิธรรมลงย้ำใจ O ภาพ-พระที่ท่าน้ำ, เรือลำน้อย- กับงามหนึ่งรูปรอย .. ที่ค่อยไหว- ค้อมคอลงรับคำ .. พากย์ธรรมนัย พาเงื่อนเหตุอาลัย .. พลอยไหววน O แสงเช้านั้นรองเรืองที่เบื้องหน้า เมื่อสบตาปลาบปลั่ง .. อีกครั้งหน ช่อดอกไม้, ขันข้าว, เนตรวาวจน- สะท้อนพื้นสายชล-วาบ-วนเวียน O จวบแว่วเสียงสาธุ .. บรรลุโสต เช่นกาลโชติช่วงแสงเข้าแปลงเปลี่ยน คือใจตรองธรรมพากย์ .. พลอยพากเพียร- เอาปัญญาตัดเตียน .. บ่งเสี้ยนแซม O ชื่นเช้ากับนัยธรรม .. จากคำพระ เมื่อสุดผละแววตา .. จากหน้า-แก้ม พาอ่อนหวานรำบายลงก่ายแกม ก่อนป่ายแต้มพักตร์พิไลติดนัยน์ตา O จึงเช้าชื่น .. ด้วยหมอก, ปวงดอกไม้- น้อมแนบไว้ด้วยละห้อยเฝ้าคอยหา ช่วงเช้านี้ลมเห่ .. กาลเวลา เกสรา-ภุมรินก็บินล้อม O ไหว้พระ .. อธิษฐานเพื่อกาลหน้า สืบคุณค่าตั้งรอ .. ร่วมหล่อหลอม รูปหน้าหรือนัยธรรม .. หนอ-ด่ำดอม จนดูเหมือนจำยอม .. อย่างพร้อมใจ O กราบพระ .. บำบวงผ่านห้วงสินธุ์ หวังบรรลือแรงถวิล .. จนสิ้นได้ จังหวะพายจ้ำจ้วง .. หวัง-ทรวงใคร- จักหวามไหวตามระยะจังหวะแรง O กราบพระ .. บำบวงผ่านท่วงที แววตาที่อ่อนโยนเริ่มโชนแสง พร้อมความหวานหอมล้ำ .. ที่สำแดง ลงเติมแต่งโลกธรรม .. ล้อมรำบาย O ภาพ-กุศลสืบสาน, ดอกมาลย์หอม ก็งามพร้อมแสงสรวงขึ้นช่วงฉาย ความอ่อนหวานอ่อนไหว .. หัวใจชาย- ก็กำจายฝากคลื่น .. แนบผืนน้ำ O ร่ำรอภาพ-บุญกุศลให้วนกลับ เพื่อสำหรับปลาบปลื้ม .. แสนดื่มด่ำ- จักวนรอบเวียนรับ .. ลำดับกรรม เอาหยั่งย้ำอาวรณ์ .. แนบนอนทรวง O ภาพสาวน้อย .. ละม่อมหน้า .. ที่ท่าน้ำ ค่อยตอกย้ำอกใจพลอยไห้หวง กราบพระดูแช่มช้อย, คำถ้อย-ปวง- หวังผ่านล่วงถึงใคร .. หนอใจนั้น .. ? O น้ำกระทบกราบเรือ, แสงเรื่อส่อง- ก็เหลื่อมต้องผ่านแต้มสองแก้มนั่น ตากระทบรูปเยาว์, เมื่อเช้าวัน- ก็เฝ้าฝันใฝ่อยู่ .. ไม่รู้แล้ว O คล้ายเสียงธรรมล้อมโลก .. เข้าโบกโบย เมื่อลมเช้าเฉื่อยโชย .. ยังโผยแผ่ว ใจคนฤๅต้องสาป .. เมื่อภาพแวว- ตาผ่องแผ้วผ่านนัย .. รอไขว่คว้า O ก่อนเสียงธรรมจางหายกับสายลม เมื่อปรารมภ์มุ่งมั่นขอฟันฝ่า หมายเอื้อมเหนี่ยวพวงพะยอมให้น้อมมา ร่วมรับรองคุณค่า .. แรงอาลัย O ลมเช้ายังเฉื่อยโชยอย่างโผยแผ่ว เมื่อดวงแก้วบนฟ้าทาบทา .. สมัย ปลายปีกนกผกบินสู่ถิ่นไกล เมื่อหัวใจถวิลเห็นไม่เว้นวาง O ภาพพระที่ท่าน้ำ, เรือลำน้อย- เหมือนดั่งคอยเฝ้าอุบัติขึ้นขัดขวาง พร้อมรูปมือเรียวงามอยู่ท่ามกลาง- ม่านหมอกพรางขุ่นขาวแห่งเช้าวัน O ผมหล่นล้อมวงหน้า .. เมื่อหน้าก้ม มือประนมคอค้อมอยู่พร้อมนั่น ด้วยรูปและโดยใจของใครกัน- แต่งเป็นสัญญาร่าง .. ขึ้นขวางไว้ O ภาพ-จีวร, ลำเรือ, แดดเรื่อส่อง, พักตร์ผุดผ่องรูปขวัญ, เช้าวันใหม่- ก็เคลื่อนบทบาทล้อมเข้าย้อมใจ กลางลมไหววาดวี .. ในที่นั้น O ภาพ-จีวร, ลำเรือ, ผิวเนื้อเนียน, เนตรวกเวียนเหลือบชะม้าย, น้ำส่ายสั่น- ก็เคลื่อนผ่านวูบไหวดั่งไฟควัน- แทรกส่วนสัญญารูป .. โลมลูบใจ O จนเสียงธรรมจางหายกับสายลม เหลือเพียง-เนตร, เส้นผม .. เกินข่มไหว- เข้ารายล้อมดวงตา .. เกินฝ่าไป- พ้นผ่านรูปเพ็ญพิไล .. ของใครแล้ว !
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2558 |
|
1 comments |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2566 9:54:37 น. |
Counter : 3586 Pageviews. |
|
|
|
แววตาผู้สบรูป .. จึงวูบไหว
กลีบพวงครามต้องลม, เนตรคมใคร-
เหมือนพรมนัยแผ่วพลิ้วกว่าริ้วลม
.
พวงคราม ฤ งาม พิศะกระนั้น
อภินันทะเมื่อนัย-
ผ่านสู่, พบู จะ รู้บทะสยาย
เพราะชม้ายชม้อยไฉน ?