O ห้วงเสน่หา .. O
VIDEO Secret Garden - Adagio O แม้น .. ภพชาติช่วงต่างมาขวางคั่น ใช่อาจกั้นกีดเล่ห์สิเนหา จน .. วงรอบการอุบัติแห่งอัตตา- ยังยากฝ่าหวานล้ำ .. ในคำนึง O จากเมฆหม่นฝนโปรย .. ลมโรยอยู่ พาพบเจอ .. รับรู้ .. ย่อมรู้ถึง- แววอ่อนหวานในตาที่ตราตรึง และหวานซึ้งในอกที่ยกตัว O แต่บัดนั้นหวานละมุนก็หนุนเนื่อง พร้อม-รูปเรื่อง, แววตา, พืดฟ้าหลัว ระลอกลม, คลื่นฝนแสนหม่นมัว ตา, อีกหัวใจหนึ่ง .. สบ, ตรึงไว้ O อบอุ่นกลางเหน็บหนาวที่พราวหยาด เมื่อรูปชาติเผยโฉมเข้าโหมใส่ ถ้วนคันธารสประทิ่น ณ ถิ่นใด หวานหอมได้เยี่ยงนี้ .. จะมีฤา ? O ปากคล้ายยิ้ม, เนียนแก้ม .. คล้ายแย้มสู่- ถามแววตารับรู้ .. ว่ารู้หรือ- ความอ่อนโยนโผนผกในอกคือ- ผลจากสื่อสบต้อง .. ตาของใคร ? O ปากคล้ายยิ้ม, เนียนแก้ม .. ยังแย้มอยู่ คอยสื่อสู่เพรียกถวิล อย่าสิ้นได้ เบื้องนอกฝนโปรยปราย .. หากภายใน- ความอ่อนโยนอ่อนไหว .. เริ่มไกวตัว O ก็แค่แววตาพบ .. แล้วสบนิ่ง สบแล้วยิ่งคล้ายแก้มนั้นแย้มยั่ว ภาพแวดล้อมในตาจึงพร่ามัว กับเพียงชั่วปากแก้มนั้นแจ่มชัด O แต่แววตาผ่านสู่ .. ก็รู้ถึง- ความหวานซึ้งผ่านต้อง .. สุดป้องปัด แล้วอาวรณ์พิสวาดิก็สาดซัด เมื่อท่วงทีความอุทธัจ .. สุดตัดตอน O จะฝืนฝ่าอาลัยอย่างไรรอด ยามแววตาพร่ำพลอดความออดอ้อน ยามกำลังเสน่หา, แรงอาวรณ์ นั้นสุดถอนถอดบทให้หมดรอย O ฝนหยุดสาย, พร้อมลมที่พรมอยู่ แววแฝงเร้นสื่อสู่ไม่รู้ถอย เหมือนจะสั่งชี้อยู่ให้รู้คอย เต็มละห้อยห่วงเห็นอย่าเว้นวาง O แต่บัดนั้นจนบัดนี้เท่าเห็น ล้วนอาวรณ์เพียบเพ็ญไม่เว้นว่าง จนแววตา, ฝนปรอย .. พ้นรอยทาง ถ้วนความอ้างว้างเทียบ .. ก็เพียบพร้อม . . O ลมยามเช้าห้อมเห่ช่อเกสรา เพรียกคันธารสสุมาลย์อันหวานหอม- อวลกลิ่นรุมภุมรินให้บินดอม เพื่อจมจ่อมหวานรสเป็นบทเดียว O แต่แววตาสบรูป-ที่วูบหล่น- คือ ..ใจ-อลเวง, ตา-ละล้าเหลียว สายใยอย่างแฝงเร้น .. ฟั่นเป็นเกลียว- ล้อมรัดใจทุกเสี้ยว .. แล้ว-เหนี่ยวดึง ! O รูปนามที่คุกคามทั้งสามโลก หรือ-เพื่อโยกคลอนจิต .. เฝ้าคิดถึง แล้วจรด .. รูปจริต .. ให้ติดตรึง- แววตาซึ่ง .. ถวิลเห็น .. ไม่เว้นวาง ? O จริตรูป .. ละม่อมลักษณ์จำหลักแล้ว งาม, ผ่องแผ้ว-รูปพักตร์ .. รอดักขวาง เพรียกอาลัยอาวรณ์ ให้ย้อนทาง- ร่วมสืบสร้างงามล้ำ .. ให้ดำรง O รูปจริตอ่อนน้อย .. เหมือนคอยชี้- บอกท่วงทีแห่งยูงอันสูงส่ง ว่า-กรรมบทสืบสานจากว่านวงศ์ เพรียก-จำนง .. เสน่หาผู้อาลัย O แผ่วแผ่ว .. สายวาโย .. เมื่อโผผ่าน ช่อสุมาลย์ต้องริ้ว .. ย่อมพลิ้วไหว เช่นสบแววตาวาม .. รูปนามใคร แรงอาวรณ์พิสมัย .. ย่อมไหวรับ ! O แต่ละภาพผ่านเคลื่อน .. ก็-เหมือนว่า ยกคุณค่า .. ควรถนอมขึ้นพร้อมสรรพ หน้าผากเนียน, แก้มอิ่ม, เนตรพริ้มพรับ- ก็จู่รูปโจมจับ .. ใจ-รับรู้ O แต่ละภาพผ่านเคลื่อน .. เริ่ม-เหมือนว่า เสน่หาหอมหวาน .. ใครผ่านสู่- เพื่อหัวใจอบร่ำความดำรู- นั้น-จักอยู่ทอดทับ .. ใจ-นับนาน O แต่ละภาพผ่านเคลื่อน .. จึง-เหมือนว่า ถ้วนคุณค่าอาวรณ์แสนอ่อนหวาน- จากรูปนามพริ้มเพรา .. รูปเยาวพาล- เจ้าส่งผ่านมอบสู่ .. ให้ผู้เดียว O หลับตาลงปล่อยใจพาไหลล่อง ท่วงทำนองตื่นตอบ .. คอยลอบเหลียว ฝนหยุดเม็ด, ลมพลิ้ว, เมื่อนิ้วเรียว- เหมือนลอบเหนี่ยวลอบล้ำ .. ล่วงคำนึง O คล้ายอาวรณ์ซ่อนเร้นที่เป็นอยู่ ได้เผยความผ่านสู่ .. ให้รู้ถึง- อีกใจที่เสน่หา .. ได้ตราตรึง- ร่วมหวานซึ้งหอมรส .. เป็นบทเดียว !
Create Date : 02 กรกฎาคม 2559
19 comments
Last Update : 27 เมษายน 2566 20:50:58 น.
Counter : 4110 Pageviews.
"O แม้น .. ภพชาติช่วงต่างมาขวางคั่น
ใช่อาจกั้นกีดเล่ห์สิเนหา"
เริ่มต้นก็โศกนาฏกรรม (Tragedy) แล้ว
จะ จบยังไงนี่ Happy Ending ไหมคะ