O เดือนลอยดวง .. O
ลาวดวงเดือน - ขิม
O พร้อมกับเดือนลอยดวงกลางสรวงพู้น- ผ่องจำรูญพลอดสินธุ์ที่รินไหล ลมรื่นเย็นยามค่ำ..คล้ายร่ำไร- ผ่านลูบไล้น้ำพลิ้วแล่นผิวพื้น O พรายระลอกจนกระเพื่อม..เข้าเหลื่อมรับ- ดวงไฟวับวามสั่นทั้ง..พัน-หมื่น กระทงสาย, ลมร่ำ, ยามค่ำคืน- น้ำโยนผืนเหลื่อมไฟ..ย้อนนัยน์ตา O งามเอยระยับช่วง..ไม่ล่วงแล้ว กระทงสายเรียงแนว..ผ่านแถวท่า ไฟลิบล่องผ่องแผ้ว- เมื่อแล้วลา- กลับเหมือนว่าอีกดวง..นั้นช่วงแทน O วับวามราว..แข่งจันทร์ในชั้นสรวง หลังกระทงลับล่วง..กลับช่วงแสน ในท่ามกลางระลอกสินธุ์..ในถิ่นแดน ใจเช่นแผ่นน้ำระริก..เริ่มพลิกตัว O คืนนี้แม้จันทร์งาม, ที่งามกว่า- คือรูปรอยละม่อมหน้ากลางฟ้าหลัว ลมผ่านกลิ่นหอมละลานในม่านมัว ราวจะยั่วราวจะเย้ยให้เชยชม O ละเลียดรสอารมณ์กลางลมโรย หอมก็โผยแผ่วประดังเข้าสั่งสม บุหลันเลื่อนดวงล้อม...ที่จ่อมจม- คือดวงใจสุดข่ม..ให้คืนตัว O น้ำหลากฝั่ง..ดวงไฟลอยไกลลิบ ดาวบนฟ้าราวกระพริบ..ระยิบยั่ว ดาวอีกคู่-แววนั่น...เหมือนสั่นรัว ราวจะดับแสงทั่วทั้งถิ่นฟ้า O กระทงสายล่วงภพ, พระลบล้อม คนก็ห้อมแหนรอย..เฝ้าคอยท่า ปรารมภ์รูปพักตร์ละม่อม..ไม่ยอมลา และห่วงหาเห็นอยู่ไม่รู้พอ O ฤๅว่าพรหมยื่นหัตถ์ช่วยจัดทำ จึงเอื้ออวยด้วยคำ..ที่พร่ำขอ ต่อแต่นี้นัยคำ..จักร่ำรอ- สืบสานต่อเติมสิทธิ์จากฤทธิ์พรหม O เมื่อเดือนเพ็ญลอยดวง..แสงช่วงฟ้า รอบมารยาก็ประดังเข้าสั่งสม ต่อสบเนตรเมียงชม้าย, พลัน-สายลม- ราวพัดบ่มบอกนัย..ช่วยไหววี O เรื่อแสงเย็นกลางสรวงยังช่วงโชน พร้อมความคำอ่อนโยน..จากโพ้นที่ กลางอารมณ์ละห้อยหา, สายวารี- ก็เรื่อยรี้เอื่อยไหลเหมือนใจคน O โอภาสแขเปลั่งปลั่ง, ในฝั่งฝัน- ก็ร่ำร้อยจำนรรจ์เป็นพันหน เพื่อว่าช่วงเลศนัยจักไหววน- รอหัวใจร้อนรน..จำนน-ยอม O พร้อมดาวเดือนลอยดวงกลางสรวงโน่น- คืออ่อนโยนผ้ายผ่าน..รอบหวานหอม น้ำหลากสาย, จันทร์ช่วง, หมาย-ดวงพะยอม- จักโน้มช่อกลีบน้อม..ให้ดอมรส !
Create Date : 25 กรกฎาคม 2558 |
|
8 comments |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2566 18:42:18 น. |
Counter : 3783 Pageviews. |
|
|
|
สดายุ...
นี่ลอยกระทงใช่ไหม ตั้งแต่ปีไหนนี่...
จึงยัง " และห่วงหาเห็นอยู่ไม่รู้พอ"
"O กระทงสายล่วงภพ, พระลบล้อม
คนก็ห้อมแหนรอย..เฝ้าคอยท่า
ปรารมภ์รูปพักตร์ละม่อม..ไม่ยอมลา
และห่วงหาเห็นอยู่ไม่รู้พอ"