Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 

O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O








Moon River - Yuki



O แต่เมื่อเดินเข้ามาให้ตาเห็น
ก็บีบเค้นอารมณ์เกินข่มไหว
โลกตรงหน้าพลิกผันขึ้นทันใด
เมื่อรูปคราญสดใส..ล้อมนัยน์ตา
O หรือหัตถ์พรหมลอบเร้น..จัดเส้นทาง
ให้ยกย่างเหยียดก้าวมุ่งเข้าหา
แล้วรอการสัมผัส..รูป-ทัศนา
ก่อคุณค่าจับวางลงกลางใจ
O แต่บัดนั้น..รุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า-
ก็เหมือนว่าทอดโค้งยึดโยงให้-
ความขัดเขินอ่อนหวานที่ด้านใน-
อกทรวงใคร..กับผกายแห่งสายตา
O ยิ้มรับความสดใสแห่งวัยเยาว์
เช่นยามเช้าสุมาลย์ช้อย..ช่อ-คอยท่า-
ภุมรินผึ้งภู่..จะรู้มา-
ตฤปรสผาณิตหอม..อย่างยอมตน
O ยิ้มรับความอ่อนไหว..ของใครนั้น
กับแวววามไหวสั่นนับพันหน
เอ็นดูความขัดเขินหยอกเอินคน
หวามที่ล้นเอ่อแล้ว..ผ่านแววตา !
O เหมือนว่างามลามรุกไปทุกบท
ชี้..กำหนด..รูปรอยให้คอยหา
และเหมือนงามลามรุกไปทุกครา-
กับท่วงท่าเหลือบค้อน..ตาซ่อนยิ้ม
O ระริกคลื่นผ่านระลอกยั่วหยอกฝั่ง
รูปแฝงฝังแยกแย้ม .. พวงแก้มอิ่ม
หวานแววตาเผยระยับ .. ยามพรับพริ้ม
ทอดทับพิมพ์ภาพอยู่เพียงผู้เดียว
O คลื่นใหญ่น้อยวนวิ่ง .. แอบอิงฝั่ง
เหมือนแก้มปลั่งผุดผ่อง .. รอข้องเกี่ยว
คลื่นต้องลมผันผวน .. ก็ม้วนเกลียว
เข้าโน้มเหนี่ยวสายตา .. ไม่ล้าเลย
O จันทร์บนสรวงดวงใหญ่ .. แจ้งใจอยู่
เมื่ออารมณ์รับรู้ .. ยากอยู่เฉย
คลื่นทะเลครวญคร่ำ .. ลมรำเพย
ราวยั่วเย้ยปรารถนา .. แห่งอาวรณ์
O ย่ำค่ำ .. ลมทะเลเริ่มเห่กล่อม
เมื่อหวานหอมรอบชู้ .. ยากรู้ถอน
คลื่นแล่นริ้ว .. ลมร่ำ .. และคำวอน-
คล้ายดั่งอ้อนแอบอยู่ .. ไม่รู้ลา
O ค่ำนี้ .. ลมทะเล คอยเห่กล่อม
อยู่แวดล้อม-ภพ .. ชาติ .. แรงปรารถนา
โคมบนสรวงทอดแสง .. ลงแจ้งตา
เมื่อห้วงอารมณ์นั้น .. เริ่มสั่นรัว
O เกลียวคลื่นน้อยยังวิ่ง .. แอบอิงฝั่ง
ความเปล่งปลั่งนวลแก้ม .. ก็แย้มยั่ว
ระลอกคลื่นลมหวน .. ก็ม้วนตัว-
เข้าโลมทั่วผืนทรายที่ปลายคืน
O จันทร์บนสรวงอำไพ .. แจ้งใจอยู่
เมื่อแรงชู้ลอดเลี้ยวล้อเกลียวคลื่น
กลางลมร่ำปฏิพัทธก็หยัดยืน-
อยู่บนการพลิกผืนของพื้นน้ำ
O ระลอกน้ำโตนตื่น .. ครึกครื้นแล่น
โยนยกแผ่นน้ำป่วน .. ก่อนม้วนคว่ำ
มีอาวรณ์ .. อาลัย .. และนัยคำ-
แข่งเสียงคร่ำครวญคลื่นทั้งคืน .. วัน
O แว่ว .. ดนตรีพากย์เพลง ..เร้า-เร่งเสียง
ผ่านสำเนียงยวนยั่ว .. เร้า-รัวขวัญ
ที่เพ่งรูปคราญอยู่ .. ฤๅรู้ทัน-
การกีดกั้นแอบออ .. ด้วยทรมา
O โลกหนอไย .. เคลื่อนผ่านเข้าหว่านล้อม
ด้วยหวานพร้อมพรั่งปวงแรงห่วงหา
แทรกลงจิตวิญญาณ .. นับนานมา
และทุกคราทุกครั้ง .. สุดรั้งลง
O ค้างรูปในนิรมิต .. ให้คิดครวญ
ทุกเสี้ยวส่วนซอกหลืบ .. คอยสืบส่ง
หยัดหยั่งอ่อนหวานล้ำ .. ให้ดำรง-
เป็นจำนงอยู่ล้อ .. ให้ต่อกร
O ค่ำนี้ .. ลมทะเลยังเห่กล่อม
ใจหวงหอมหวานอยู่ .. ฤๅรู้ถอน
เสียงคลื่นถั่ง .. ลมร่ำ .. และคำวอน-
คล้ายดั่งอ้อนคลออยู่ .. ไม่รู้ลา
O ค่ำนี้ .. ลมทะเลโลมเห่น้ำ
เมื่อใจคร่ำครวญคอยละห้อยหา
ระลอกคลื่นซาบฝั่ง .. ฟองยังคา
รูปเอย .. รูปปรารถนา .. ย่อมคาใจ
O เพลงสังคีตพ้นผ่านไปนานแล้ว
จันทร์ผ่องแผ้ว .. ล่มล่อง .. คนผ่องใส
วาบวับสองดวงตา .. เหมือนว่าใคร-
เผยอ่อนไหวอ่อนหวาน .. หันด้านมา
O ท่ามกลางเสียงหลากหลายที่รายรอบ
เนตรตื่นตอบค่อยชม้อยชม้ายหา
โลกในกายเงียบงันลงทันตา-
เมื่อเรียวปากเบื้องหน้า .. เหมือนว่า .. ยิ้ม !




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2558
2 comments
Last Update : 16 เมษายน 2566 11:23:44 น.
Counter : 3453 Pageviews.

 

สดายุ...

เสียงของ" อังคาร" กร้าว..กระด้าง..ขมขื่น..
แต่เสียงจากสดายุ นั้น..หวานซะ..มิมี..
ยังรัก ยังอาวรณ์ ยังอ่อนหวาน...555

"O จะเกิดดับกี่วัฏฏะวงรอบ
ขอนบนอบด้วยเล่ห์เสน่หา
ยอมให้เหยียบย่ำเล่นเหมือนเป็นมา
ในทุกกาละภพที่พบกัน
O อย่าได้คลายอาวรณ์ที่เคยมี
ในทุกที่ทางเที่ยวจะเหลียว-หัน
จะรอคอยย่ำเหยียบ..อย่างเงียบงัน
รอเท้าเรียวเจ้านั้น..เหยียบ-หยันเทอญ !

 

โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 18 กรกฎาคม 2558 13:45:41 น.  

 

มินตรา ..

คุณอังคาร นั้นเขากวีใหญ่ .. บท"เสียเจ้า"ที่ใช้"อติพจน์"จึงเป็นที่จดจำมาอย่างยาวนาน

ของผม เป็นเพียงคนเขียนกลอนตัวเล็กๆ .. ที่อย่างไรเสียก็ยังรู้สึกเอ็นดูอารมณ์สาวน้อยไม่รู้คลาย

ธรรมชาติช่างสร้างสรร และช่างสุมใส่"อารมณ์"ที่ชายมิอาจต่อต้านได้ลงในหญิงสาววัยแรกเสียเหลือเกิน ..

ยิ่งเมื่อมองผ่านวัฒนธรรมแบบที่ไม่ปกปิด กดข่มไว้มากนักอย่างทางตะวันตกหรือละติน .. มันยิ่ง"ยากรับมือ"เสียจริงๆ

55

 

โดย: สดายุ... 19 กรกฎาคม 2558 9:02:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.