สนในทำขนมนี้มานานเหมือนกันค่ะ เพราะเคยชอบสมัยเด็ก ๆ แม้มันจะเป็นขนมท็อฟฟี่ หรือแท่งน้ำตาลดี ๆ นี่เอง อิอิ .... แต่ส่วนใหญ่สูตรที่หาเจอ มีใส่ corn syrup (means fat :)) เยอะมาก ๆ ก็เลยยังลังเลที่จะทำ เพราะ คอร์นไซรัป หมายถึงถ้าบริโภคเข้าไปมาก ก็จะอ้วนกันเนาะ 55+ สูตรที่ทำในวันนี้ได้จาก นิตยสาร Southern Living ฉบับประจำเดือน มีนาคม 2010 ไม่มีคอร์น ไซรัป อยู่ในส่วนผสมเลยค่ะ






เขาโฆษณาว่าขนมนี้เป็น super-easy treat แต่เราให้ความยากเป็นปานกลางค่ะ .... เพราะต้องใช้เวลากวนน้ำตาลให้ละลายนานเหมือนกัน เขาบอกว่าประมาณ 10 นาที เรากวนประมาณ 20 นาทีแน่ะค่ะ อาจเป็นเพราะใช้หม้อก้นหนาด้วย (ทั้งปี โทษหม้อ อิอิ) ความยากอีกอย่างคือช่วงเทขนมจากหม้อ
(หรือกระทะก้นแบน) ลงถาด เพื่อทิ้งไว้ให้แห้งค่ะ ....



ส่วนผสม

(ได้ขนมประมาณ 450 กรัม)


1. งา 1 ถ้วย
2. น้ำตาล 2 ถ้วย
3. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
4. วนิลา 1 ช้อนชา



วิธีทำ




1. นำงาไปคั่วในกระทะ ด้วยไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนงาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ....
กะเอาแค่พอเหลืองอ่อน ๆ ก็พอค่ะ ใช้เวลาประมาณ 8 นาที เสร็จแล้วก็ปิดไฟ พักไว้



2. เตรียมถาดอบคุุกกี้ 1 ถาด / หรือถาดทำขนมหม้อแกง 2 ถาด ทาเนยหนา ๆ ให้ทั่วไว้ค่ะ
ส่วนวนิลา และงา ก็เตรียมไว้ใกล้ ๆ ... รวมทั้งสแป๊ตทูล่า (ทาเนยไว้)
ที่จะเกลี่ยขนมเวลาเทลงถาด






3. ใส่น้ำตาลและน้ำเปล่าลงในหม้อ* แล้วนำไปกวนด้วยไฟต่ำ คนไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด
ตอนแรกน้ำตาลจะจับเป็นก้อนแห้ง ๆ ก็ไม่ต้องตกใจค่ะ






V
V




คนไปเรื่อย ๆ .... พอได้เวลาประมาณ 10 นาทีขึ้น น้ำตาลก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นก้อนสีน้ำตาลอ่อน ๆ
กวนไปซักอีกระยะหนึ่ง (ห้ามใจร้อนเร่งไฟ) น้ำตาลก็จะเริ่มละลาย .... แต่ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน
กวนต่อไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายหมด ตอนนี้สีน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นสีคาราเมลค่ะ ให้ใส่วนิลา
และงาลงไป และกวนผสมอย่างรวดเร็ว จนส่วนผสมเข้ากันดี คนต่อไปอีกซักครึ่งนาที
เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำตาลละลายหมด ไหลเอื่อย ๆ ได้ ทดสอบโดยยกไม้พายดูนะคะ
(ตอนนี้ขนมจะเหนียวมาก ๆ ค่ะ) ....






เสร็จแล้วก็นำหม้อขนมไปเทบนถาดที่เตรียมไว้ .... ใช้สแป๊ตทูล่า หรือช้อนแสตนเลส
เล็กก้นแบน ๆ ทาเนยให้ลื่นหน่อย (ควรเตรียมไว้ล่วงหน้า) เกลี่ยให้ขนมให้เรียบและ
บางลง ได้ความหนา ประมาณ 1/8 นิ้ว ..... (ขั้นตอนนี้ต้องทำอย่างรวดเร็วค่ะ)
ทิ้งขนมให้เย็นสนิทในถาด ประมาณ 20 นาที



เพื่อความชัวร์ อย่าเพิ่งปิดไฟเตานะคะ .... เพราะบางทีเทขนมขาดตอน (เหมือนเราทำ
ในภาพ อิอิ) .... จะได้เอาหม้อคืนเตา เลี้ยงขนมที่เหลือในหม้อ ไม่ให้จับกันแข็งตัว
ช่วงเราไปยุ่งอยู่กับการเกลี่ยหน้าขนมที่เราเทไปแล้วค่ะ ...


4. เมื่อเย็นสนิท ก็หักขนม บรรจุใส่ขวดโหล ที่มีฝาปิดสนิท ก็เป็นอันเสร็จค่ะ


------------------------------------------------------


(ช่วงหลัง ๆ ไม่ได้ถ่ายภาพแล้วค่ะ ไม่อยากทิ้งหม้อไว้)



* หมายเหตุ

1. ตามสูตรเขาใช้กระทะก้นแบนเคี่ยวน้ำตาลนะคะ .... ช่วงเราทดลองทำครั้งแรก เราใช้กระทะ
เหล็ก กวน .... ใช้เวลาไม่นานค่ะ เร็วดี แต่ครั้งที่สอง ที่ถ่ายรูปวิธีทำไว้ทดลองใช้หม้อ ...
ฝ่าฝืน อิอิ ... คิดว่ากระทะดีกว่าค่ะ ... เวลาเทก็ง่ายกว่า เพราะก้นภาชนะไม่ลึกเหมือนหม้อ



2. ใช้ไม้พายยางแข็ง ๆ ทนความร้อนสูง ๆ ได้ กวนน้ำตาลจะดีกว่าพายไม้แบบที่เราใช้ค่ะ
เวลาเทขนมลงถาด จะกวาดขนมจากหม้อหรือกระทะได้ง่ายกว่า ....


-----------------------------------------------------------------




ได้แล้วค่ะ Benne Brittle ไม่แน่ใจว่าบ้านเราเรียกขนมกระจก … หรือขนมอะไรคะ …
ไม่มั่นใจ กินเป็นอย่างเดียว อิอิ … กรอบ มาก ๆๆๆ หอมอร่อย ไม่เหนียวด้วยค่ะ
แต่อย่าบริโภคมาก เก็บไว้ทานช่วงไม่มีขนมหวานติดบ้าน หรือช่วง sugar rush








เคยอ่านเจอ เขาเล่าว่า "งา" เป็นที่รู้จักในอเมริกา ก็เพราะทาสผิวดำนำเมล็ดพันธุ์ ติดตัวมาจากภูมิลำเนาเดิม (ทวีปอัฟริกา) .... เอามาเพาะปลูก ในตอนใต้ของอเมริกาก่อนที่อื่น ... เพราะที่นั่น สมัยก่อนเขานำทาสเข้ามาเป็นแรงงานในฟาร์มกัน.... จากนั้นขนมที่มีส่วนผสมงาก็จึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันในอเมริกา เช่น คุ้กกี้งา หรือ Benne Cookies .... หรือ Benne Brittle ที่เราทำวันนี้ค่ะ







เริ่มต้นอาทิตย์ใหม่ด้วยความสดใสค่ะ :)))