นั่ง ๆ นึกถึงรายการอาหารไทยที่อยากทำให้เพื่อนคนไทยทาน นึกถึงสาคูใส้หมูขึ้นมาค่ะ ... ความจริงอยากทานมานานแล้ว แต่ไม่ขยันซักที อิอิ ... พอได้ทำ ก็ทำซะเยอะเลย กะเก็บไว้ในฟรีซเซอร์ ไว้นึ่งทานกับเพื่อนเวลามีโอกาสพบกันอีกที แรงบันดาลใจก็ได้จากเพื่อน ๆ หลาย ๆ ท่านเลยนะคะ ..
พี่โอ-บ้านเนินน้ำ ...
พี่ภัส-นางฟ้าของชาลี ...
พี่แหม่ม mambymam ...
น้องหนึ่ง AdrenalineRush ...
คุณ RinS CookBook ยูทูป .... เปลือกสาคูที่ทำจากน้ำผลไม้ เราได้แนวคิดมาจากพี่โอ ค่ะ ... ส่วนใส้ และการใส่สีจากดอกอัญชันได้จากพี่ภัส มีประยุกต์ตามประสาชาวไกลบ้านนิดหน่อย ... เทคนิคการเตรียมเม็ดสาคูจากคุณ RinS CookBook ... รวมทั้งวิธีห่อ-ปั้นเม็ดสาคูจากพี่แหม่ม น้องหนึ่ง ขอบคุณพี่-เพื่อน ทุกท่านสำหรับความรู้ดี ๆ ค่ะ (สูตร คลิ้กตามรายชื่อไปเลยนะคะ)
ส่วนผสม
ก. ส่วนเปลือก
1. สาคูเม็ดเล็ก 250 กรัม
2. น้ำผลไม้ (เราใช้น้ำองุ่น ค่ะ)หรือน้ำเปล่าผสมสีธรรมชาติ ~ 1 ¼ ถึง 1 ½ ถ้วย *
3. ดอกอัญชันแห้ง 12-18 ดอก **
4. น้ำมะนาว ***
*ปริมาณน้ำ สำหรับแช่เม็ดสาคู 250 กรัม จะใช้ประมาณ 1 ¼ ถ้วย ... แต่ถ้าสูตรหนึ่งแยกทำหลาย ๆ สี ก็เฉลี่ย ๆ ตามปริมาณเม็ดสาคู เอานะคะ
** ปริมาณดอกอัญชันแห้ง ขึ้นอยู่กับเฉดสีที่ต้องการ
*** ปริมาณน้ำมะนาว มากน้อย ขึ้นอยู่กับเฉดสีม่วงที่ต้องการ ถ้าต้องการม่วงเข้ม ก็ใส่มากหน่อย ถ้าต้องการออกสีคราม ๆ ก็ใส่นิดเดียว ถ้าต้องการออกสีฟ้า ๆ ก็ไม่ต้องการเติมน้ำมะนาวก็ได้ค่ะ
ข. ส่วนใส้
1. หมูสับ 200 กรัม
2. หอมแดงสับละเอียด 100 กรัม
3. หัวไชโป๊วเค็ม 50 กรัม (จะใช้แบบหวานก็ได้ค่ะ)
4. ถั่วลิสงป่นหยาบ 100 กรัม
5. กระเทียมจีน ½ หัวใหญ่
6. ก้านผักชี ซอย ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
7. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
8. น้ำตาลทรายแดง 45 กรัม (3 ช้อนโต๊ะ)
9. น้ำตาลปี๊บ 80 กรัม
10. น้ำปลานิดหน่อย (ขึ้นอยู่กับความเค็มของหัวไชโป๊ว)
หอมแดงหาซื้อได้ยาก และราคาแพง เราใช้หอมหัวใหญ่ สับละเอียด แทน ค่ะ ... อร่อยอยู่นะคะ ส่วนตัวคิดว่าไม่ต่างกันมาก ช่วงผัดใส้หอมหวลไปทั่วบ้านเหมือนกัน แต่อาจไม่หอมเท่าหอมแดง ^^
ถั่วลิสง คั่วแล้วป่น สด ๆ เลยค่ะ จะได้อร่อย
ค. เครื่องเคียง
ผักชี ผักกาดหอม พริกขี้หนู กระเทียมเจียว + น้ำมันจากกระเทียมเจียว
----------------------------------------------------
วิธีทำ
ก. ส่วนเปลือก
คิดว่าสาคูจะอร่อย ไม่อร่อย ส่วนเปลือกมีความสำคัญมากเหมือนกันเนาะ อันนี้ขอเล่าตามวิธีลองผิด-ถูก ตามที่ทำ นะคะ เราพบว่าวิธีเตรียมที่ต่างกัน ก็มีผลต่อรสชาติ-ผิวสัมผัสของสาคูที่ต่างกันด้วยค่ะ
1. วิธีเตรียมเปลือกแบบแช่น้ำอุ่น แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ ~ 4 ชั่วโมง
(วิธีนี้ใช้เวลานานหน่อย แต่จะได้เปลือกสาคูนุ่มลิ้นมาก ๆ ค่ะ ควรเตรียมล่วงหน้าก่อนลงมือทำใส้สาคู ** เราเลือกทำวิธีนี้ด้วยน้ำผลไม้ ทำ 1 สูตร ตวงน้ำผลไม้ 1 ½ ถ้วยเผื่อไว้เลยค่ะ)
- ล้างเม็ดสาคูให้สะอาด โดยการเอาเม็ดสาคูใส่กระชอน แล้วเปิดน้ำให้ไหลผ่านเม็ดสาคูหลาย ๆ ครั้ง พักไว้
- อุ่นน้ำผลไม้ (เราใช้น้ำองุ่น) ในไมโครเวฟพออุ่น ๆ เวลาเอานิ้วจุ่มเช็ค (ไม่ถึงกับร้อนเดือดนะคะ) เสร็จแล้วก็เทน้ำผลไม้ ที่อุ่นแล้วพอให้ท่วมเม็ดสาคูขึ้นมานิดหน่อย ทิ้งให้เม็ดสาคูดูดน้ำ + สี ประมาณ 20 นาที
- เทสาคูใส่กระชอน (อาจมีน้ำส่วนเกินไหลออกนิดหน่อย) ... เอาแผ่นพลาสติกคลุมกระชอนสาคูกันหน้าแห้ง ... เอากระชอนสาคูวางบนหม้อที่ใส่น้ำพอประมาณ (เราใช้น้ำอุ่นจากก๊อก) ระวังอย่าให้ระดับน้ำแตะกระชอนหรือสาคู .... พักไว้ ประมาณ 4 ชั่วโมง - (จุดประสงค์ที่วางบนหม้อใส่น้ำ เพื่อรักษาความชื้นของเม็ดสาคูค่ะ)
- ครบกำหนด เอามือรวบ ๆ เม็ดสาคู นวดเบา ๆ พอให้เม็ดสาคูเริ่มผสานกันได้ก็พอ (ไม่นานค่ะ เดี๋ยวเม็ดสาคูแตกละเอียดไป ให้บางส่วนยังเป็นเม็ดอยู่) ใส่น้ำมันพืชประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ นวดพอให้น้ำมันเข้ากัน เวลาปั้นจะได้ไม่ติดมือ ... อันนี้เป็นเทคนิคจากคุณรินค่ะ
2. วิธีเตรียมเปลือกแบบผสมกับน้ำร้อนจัด - ไม่ต้องพักสาคูนาน
(วิธีนี้ใช้เวลาเตรียมไม่นาน ควรทำหลังจากการเตรียมใส้สาคูเสร็จแล้ว - เหมาะสำหรับสาวใจร้อน ห่อได้ง่าย แต่เมื่อสุกเปลือกจะมีผิวสัมผัสนุ่มละมุนลิ้นน้อยกว่าวิธีการเตรียมที่ 1 หน่อยค่ะ)
- ล้างเม็ดสาคูให้สะอาด โดยการเอาเม็ดสาคูใส่กระชอน แล้วเปิดน้ำให้ไหลผ่านเม็ดสาคูหลาย ๆ ครั้ง พักไว้
- ต้มน้ำเปล่า ในไมโครเวฟ ให้ร้อนจัด สังเกตได้จากน้ำเริ่มมีฟองปุด ๆ (ถ้าทำ 1 สูตร หลายสี หรือน้ำผลไม้หลายรส ก็ทอนปริมาณน้ำเอานะคะ) *** ทำสีจากดอกอัญชัน โดยการใส่ดอกไม้ลงในน้ำร้อน ทิ้งไว้ซักครู่ใหญ่ 4-5 นาที หากต้องการสีม่วงก็บีบน้ำมะนาวใส่ จนได้เฉดม่วงที่ต้องการ กรองเอากากดอกไม้ออก นำไปต้มในไมโคเวฟให้ร้อนจัดอีกครั้ง
- ทยอยเทน้ำร้อน ใส่เม็ดสาคู จนมั่นใจว่ามีปริมาณน้ำดูดเข้าเม็ดสาคูดี วิธีนี้ไม่ถึงกับน้ำต้องท่วมสาคูปริ่มนะคะ พักไว้ประมาณ 10 นาที ก่อนเอามือรวบ ๆ เม็ดสาคูให้เข้ากัน - ไม่ถึงกับต้องนวด ประมาณเม็ดสาคูเริ่มผสานกันได้ก็พอ (เพราะน้ำร้อนจะช่วยให้เนื้อสาคูเปื่อยง่ายอยู่แล้ว) ... เสร็จแล้วก็เตรียมห่อใส้ได้เลยค่ะ
*** จากที่ทดลองชิมขนมเปรียบเทียบกันหลาย ๆ ครั้ง เราพบว่าวิธีเตรียมแบบพักเม็ดสาคูนาน ๆ เวลานึ่งจะให้ผิวสัมผัสที่นิ่มกว่าค่ะ มันนุ่มลิ้นดี (อธิบายไม่ถูก แหะแหะ) คือให้คะแนนบวกกว่านิด ๆ ถ้าทำครั้งต่อไป คงใช้วิธีนี้ . แต่ถ้าไม่มีเวลาจริง ๆ ใช้วิธีที่สองก็สะดวกดี อยากได้เนื้อสาคูนิ่ม ๆ ก็นึ่งนานขึ้นเอาค่ะ อร่อยเหมือนกัน เอ๊ะยังไง อิอิ
ข. ส่วนใส้
1. เอากระทะตั้งไฟกลาง พอร้อน ใส่น้ำมัน ใส่สามเกลอ (กระเทียม+ก้านผักชี+พริกไทย) ที่โขลกละเอียดลงผัดพอหอม ใส่หอมสับลงผัดต่อจนสุกดี
2. ใส่หมูสับ ยีให้หมูกระจาย ผัดจนเริ่มสุกดี
3. ใส่หัวไชโป๊ว ผัดให้เข้ากัน
4. ใส่น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลปี๊บ ผัดจนน้ำตาลละลายดี ชิมรส ก่อนใส่น้ำปลา นิดหน่อย จนได้ความเค็ม นัว ที่ต้องการ (ปรุงรสแค่นี้ก็อร่อยมากแล้วค่ะ)
5. ใส่ถั่วลิสง ผัดจนแห้ง ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็นลงหน่อย ก่อนปั้นใส้
6. ปั้นใส้ ให้ได้ขนาดเม็ดมะยม อย่าให้ลูกใหญ่มาก ... ของเรานี่คิดว่าใหญ่กว่าลูกมะยมหน่อย ๆ 55 .. ชอบลูกโต ๆ หน่อยค่ะ
** สูตรนี้ไม่ได้ใส่น้ำตาลมาก แต่ก็เหนียว ปั้นเป็นก้อนได้ง่ายอยู่ค่ะ (จะใส่น้ำแบะแซ หรือ corn syrup ผสมนิดหน่อยด้วยก็ได้ หากพบว่าปั้นยาก แต่เราว่าใส้ประมาณกำลังพอดี ๆ แล้วค่ะ)
พอปั้นใส้เสร็จ คลุมด้วย plastic wrap กันใส้แห้งผสานกับเปลือกยากเวลาห่อด้วยค่ะ
วิธีห่อใส้และนึ่ง
- หยิบสาคูให้ได้ลูกกลมขนาดใหญ่กว่าใส้หน่อย ใช้นิ้วกดแผ่แป้งให้บาง .. วางใส้ แล้วรวบสาคูให้หุ้มใส้ดี คลึงลูกสาคูให้กลมระหว่างฝ่ามืออีกที
ห่อใส้แบบมือลูบน้ำมัน
ห่อใส้แบบมือลูบแป้งนวล
* เวลาห่อใส้ ใช้น้ำมันพืชลูบมือ ก่อนแผ่แป้ง เตรียมถ้วยน้ำมันน้อย ๆ และผ้าเช็ดมือมาวางเคียงไว้เลย จะใช้วิธีลูบแป้งนวลก็ได้นะคะ วิธีนี้พอห่อใส้ไปซักพัก มือจะเลอะ ... เตรียมน้ำอุ่นสะอาด ใส่ถ้วย พร้อมผ้าขนหนูมาวางข้าง ๆ เลยค่ะ พอมือเลอะมาก ๆ ก็จุ่มล้าง-เช็ดให้สะอาดที ... ทั้งสองวิธีช่วยให้การห่อใส้ง่ายขึ้นค่ะ แต่เราพบว่าวิธีลูบแป้งนวล เม็ดสาคูที่ห่อใส้แล้วมีแห้งแตก ถ้าเก็บไว้นาน ๆ ไม่นำไปนึ่ง หรือ ต้มทันที
- นึ่งสาคู โดยการ ปูใบตองในลังถึง ฉีกใบตองเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ไอความร้อนผ่านขึ้นมาได้ง่าย ทาน้ำมันจากกระเทียมเจียวบนใบตองให้ทั่ว กันเม็ดสาคูติด ... วางสาคูให้มีช่องว่างหน่อย ๆ กันสาคูติดกัน เราทาน้ำมันบนเม็ดสาคูด้วยค่ะ 55 ช่วยให้สาคูไม่ติดกัน ตักขึ้นจากหม้อได้ง่ายดี ... นำลังถึงไปวางบนหม้อต้มน้ำเดือดไฟแรง นึ่งประมาณ 15 นาที หรือจนได้สาคูผิวเนียนใส มองเห็นใส้ด้านใน
- ตักสาคูวางบนถาดที่ทาน้ำมัน ทาน้ำมันให้ทั่วบนสาคูอีกทีค่ะ
- จัดเสิร์ฟ ด้วยการโรยกระเทียมเจียว ทานกับผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนู
- สาคูนำกลับมาอุ่นทานได้ในวันต่อ ๆ ไป ได้นะคะ ... โดยการ เอาสาคูใส่ลัง นำไปอุ่นบนหม้อต้มน้ำเดือด ประมาณ 3 4 นาที .. สาคูจะกลับมานุ่ม อร่อยเช่นเดิมค่ะ ... หลังอุ่น ถ้าทิ้งไว้ในหม้อนึ่ง ที่ยังปิดฝา ปล่อยให้คลายร้อนลงซักครู่ใหญ่ เราพบว่าสาคูยิ่งนุ่มมากขึ้นด้วยค่ะ
---------------------------------------------------------
อันนี้เป็นสีจากอัญชันที่ไม่ได้ผสมน้ำมะนาว ... เม็ดสาคูใส่น้ำร้อน ใช้ช้อนคน ๆ ... ไม่ได้นวด ใช้เวลานึ่งเท่ากับตัวอื่น ๆ พบว่าไม่นุ่มเท่าแบบอื่น อาจเป็นเพราะเราชอบแบบเปลือกนุ่ม สุกดี ก็ได้ค่ะ ... บางท่านก็อาจชอบแบบเนื้อเด้ง ๆ หน่อยเนาะ ... แต่พอเอามาอุ่น นึ่งนานขึ้น ก็กลับมานุ่มถูกใจได้เหมือนกัน ทั้งนี้ก็คงขึ้นกับระยะเวลานึ่งด้วยนะคะ
อันนี้เป็นตัวที่แช่ด้วยน้ำองุ่น แล้วพักสะเด็ดน้ำนาน ๆ ค่ะ .. เราพบว่าเปลือกเขานุ่มมากเลยค่ะ นุ่มแม้เย็นลงเป็นชั่วโมง ๆ ... ไม่ทราบว่าน้ำตาลในน้ำผลไม้ช่วยด้วยรึเปล่าก็ไม่ทราบนะคะ คงต้องทดลองทำหลาย ๆ ครั้ง
เฉดสีม่วงคราม สีเข้มมาก มือหนักไปหน่อยค่ะ 55 ... ถ้าชอบสีจาง ๆ ก็ลดจำนวนดอกอัญชัญลงนะคะ
โดยรวม อร่อยถูกใจดีค่ะ ... ทานแบบเอาผักกาดหอมพัน กัดพริกและผักชีแกล้ม
เพลินเลย ... แอบคิดคนเดียว อาหารไทยอร่อยที่สุด ^^
--------------------------------------------
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมานะคะ มีเวลาดี ๆ กัน
ลูกกลมเท่าๆกันใสสวยแถมเนียนกริบ
คุณฉวีทำได้น่าทานมากจ้ะ
สีก็สวย ชอบสีชมพูอ่อนๆแปลกตาดี
วันนี้ลงชื่อชิมไว้ก่อน พรุ่งนี้มาใหม่จ้ะ