หลายเรื่องราว...เล่าเรื่องลูก...ที่คงไม่มีวันเลือนหาย..ในความรู้สึกของแม่
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
เรื่องดีๆ

แก้ไขเรื่องลูกผ่านพ้นไป สบายใจไปพักหนึ่ง แต่ก็ยังเฝ้าระวังอยู่เช่นเดิมว่าลูกจะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่ สอนลูกให้มั่นใจ ให้เข้มแข็ง แต่ตัวฉันเองลึกๆแล้วยังหวั่นใจอยู่เสมอนะ แต่ไม่เคยแสดงให้ลูกเห็น

บางทีฉันก็คิดว่า จะเอาอะไรนักหนากับเด็กสิบขวบ แม้เราเองโตๆเป็นพ่อแม่คน บางทีเรายังมีปัญหาที่เราเองต้องแก้ไข หรือบางทีก็ปล่อยๆมันให้ผ่านไปบ้างเพื่อความสบายใจ แต่เด็กเขาคงคิดปล่อยผ่านอย่างเราไม่เป็น

สองวันก่อน ฉันได้รับจดหมายจากทางโรงเรียน แต่ขอเกริ่นให้ฟังก่อนว่าปกติระบบการเรียนของแอลเอ จะแบ่งแยกโรงเรียน แยกนักเรียน ไปตามขีดความสามารถ โรงเรียนไหนมาตรฐานการสอนดี เขาเรียกว่า โรงเรียนmagnet มาตรฐานการสอนดี คือเด็กผ่านการสอบวัดผลของรัฐแคลิฟอร์เนียสูง บางโรงเรียนก็เรียกว่า โรงเรียน Gifted magnet คือโรงเรียนที่รับเด็กที่คะแนนสูงในวิชาใดวิชาหนึ่ง ระหว่างคณิตศาสตร์ หรือศิลป์ภาษา ยิ่งกว่าโรงเรียน Gifted magnet เขาเรียกว่า โรงเรียน Highly gifted เล่าให้ฟังคร่าวๆถึงการจัดระบบการศึกษาของแอลเอเท่าที่รู้

นิก..จัดอยู่ในเด็ก Gifted แต่ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน magnet แต่เรียนอยู่ในห้องเด็ก advanced ที่จะสอนต่างจากเด็กทั่วไป เนื่องจากความสามารถของเด็กพวกนี้จะสูงกว่าเด็กทั่วไป

โดกปกติ เขตการศึกษาจะส่งโบรชัวร์ให้พ่อแม่สมัครลูกตัวเองเรียนโรงเรียนแม๊กเน็ตได้ทุกปี จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับผลการเรียนของเด็ก และบางทีก็ต้องรอคิวเก็บคะแนนสมัครสะสมทุกปี ฉันไม่เคยสมัครโรงเรียนแม๊กเน็ทให้นิก เพราะถือว่า ข้อสอบมันก็ใช้ข้อสอบตัวเดียวกันวัดผลเด็กทั้งเขต ไม่ว่าจะเรียนอยู่ที่ไหนก็ตาม ช้างเผือกมันก็ยังมีอยู่ในป่า เป็นเด็ก gifted เรียนอยู่ใกล้บ้านก็พอ โบรชัวร์ที่ได้มาจึงนอนอยู่ในถังขยะทุกปี

แต่ปีนี้ไม่อย่างนั้น ฉันได้รับจดหมายฉบับแรก บอกว่าจะมีโบรชัวร์ส่งมาให้ที่บ้าน จดหมายนั่นก็ลงขยะไปตามระเบียบ อาทิตย์ต่อมามีจดหมายอีกฉบับส่งตามมา บอกว่า ลูกของฉันมีคะแนน(อะไรไม่รู้และไม่รู้มันจับลูกไปวัดผลตอนไหนอีก)
99.5 - 99.8% และไม่ใช่เด็กทุกคนในห้องที่จะได้จดหมายด้วย ปกติเด็ก highly gifted นั้นจะต้องได้คะแนนอยู่ที่ 99.9%(ให้ตาย! เด็กอะไรมันจะเก่งปานนั้น) อย่างไรก็แล้วแต่ คะแนนของนิกต่างเพียงแค่ .1 ในจดหมายระบุว่าฉันสามารถสมัครโรงเรียน Highly gifted ให้ลูกได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่า จะว่างพอที่จะรับลูกฉันหรือไม่

วานนี้ได้โบรชัวร์มาเรียบร้อย เปิดดูหน้าที่จดหมายระบุ โรงเรียนแบบนี้มีโรงเรียน
ประถมอยู่แค่ 3 แห่ง มัธยมต้นแค่ 1 โรงเรียน มัธยมปลายแค่ 1 โรงเรียน เราสามคนปรึกษากันว่า จะทำอย่างไร ที่แน่นอนที่สุดคือ ต้องพูดกับลูก ดูเหมือนว่านิกนั้นอยากไปเรียน ฉันแนะนำลูกว่า ถ้าคิดจะไปนิกต้องรับผิดชอบมากมายกว่าที่คิดนะ เพราะโรงเรียนอย่างนี้มันเรียนหนัก การบ้านเยอะ แต่ที่ไม่ได้บอกลูกคือ มันมีที่ว่างให้เราสมัครซะด้วย

วันนี้ ฉันไปขอครูให้พริ้นท์การบ้านที่นิกทำหาย ฉันได้ปรึกษาครูประจำชั้นเรื่องนี้
เผื่อครูจะมีความรู้และความคิดเห็นประการใด ซึ่งเธอก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่เธอแนะนำให้ฉันไปถามครูเก่าของนิกที่เชี่ยวชาญมากกว่าเธอ และเธอก็บอกฉันว่า เด็กอย่าง อนิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โปรแกรมต่างๆมันจะวิ่งเข้ามาชนเอง ตราบใดที่แกยังคงทำเกรดได้ดีอยู่อย่างนี้ ครูอาจจะพยายามบอกให้ฉันเข้าใจก็ได้ว่าโรงเรียนปกติก็มีเงินสนับสนุนให้เด็กที่เรียนดีอยู่เสมอ

ฉันก็ไม่รู้ลึกนักกับสิ่งที่ครูพูด เพียงแต่รับฟังความคิดเห็นและคิดว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปถามครู Feldman เพื่อได้รายละเอียดที่ลึกกว่านี้ประกอบการตัดสินใจอีกที เพราะฉันไม่รู้ว่า มันมีจำนวนเด็กกี่คนในห้องที่มีโอกาสนี้




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 7:06:58 น. 8 comments
Counter : 585 Pageviews.

 
ลองดูก็ดีครับ แต่ถ้านิกรับไหว ก็โอเคไป กลัวนิกจะเกิดอาการเครื่องรวนมาตอนเรียนไปแล้วนี่สิครับ อันนั้นอ่ะแย่แน่ ๆ

แต่ถ้าเป็นผมตอนอายุเท่านิกก็คงอยากไปล่ะครับ ไม่ได้เป็นเพราะอยากลองอะไรใหม่ๆ แต่อยากให้พ่อแม่รู้สึกว่าเราเรียนเก่ง ประมาณนั้น แต่ถ้าโตมากกว่านี้อีกหน่อยจะเริ่มไม่เอาแล้วเพราะเริ่มประเมินตัวเองได้ว่าไหวรึเปล่า

แต่ช่วงตอนนี้ที่ผมอยากเรียน อยากรู้ คืออยากรู้อะไรใหม่ๆ ที่สนใจมากขึ้นจริง ๆ


โดย: Darth Trowa IP: 58.9.158.47 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:11:12 น.  

 
แล้วแต่ครอบครัวแกพร้อมในแง่ไหน....กลัวนิกเข้าไปแล้วปรับตัวยากน่ะซิ่ ขนาดที่เก่ายังมีปัญหากับเพื่อนไม่ใช่หรือ


โดย: แม่น้องกุ๊ก IP: 210.246.146.188 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:37:54 น.  

 
เอ้คิดเหมือนกับเอ็มค่ะ

สมัยเรียนไม่เคยนึกอิจฉาคนที่ได้เรียนห้องเก่งเลย เพราะพวกนั้นเอาแต่แข่งกันเรียนอย่างเดียว สู้เรียนห้องธรรมดาไม่ได้ เรียนด้วย สนุกสนานเฮฮากับเพื่อนด้วยดีกว่า

แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ คนที่เรียนเก่งก็มีโอกาสดีกว่าคนเรียนไม่เก่ง



โดย: น้องเอ้ IP: 125.25.193.63 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:16:15 น.  

 


มีความสุขในเทศกาลขอบคุณพระเจ้านะคะ


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:46:40 น.  

 
เอ็ม

วันนี้ พี่ไปถามครูที่ให้ความรู้ต่างๆในห้อง
ที่พี่ประชุมผู้ปกครอง พอดีคลาร่าคนแปลภาษาให้แม่ๆฟัง เขามีความรู้เรื่องนี้ดี เขา
แนะนำพี่ได้มาก แรกเลย เขาแสดงความ
ยินดีกับพี่ แล้วบอกว่า..จดหมายที่ยูได้นี่นะ
ไม่ได้เด็กทุกคนจะได้รับมัน มีน้อยมากที่
เด็กจะผ่านมาถึงขั้นนี้ พี่ฟังแล้วปลื้มใจในตัว
นิกมากทีเดียวล่ะ คลาร่าบอกว่า ไม่ต้องกลัว
ว่าลูกจะปรับตัวไม่ได้ เด็กที่เรียนโรงเรียน
แบบนี้ มีจำนวนน้อย และเป็นเด็กนิสัยดี
จำนวนนักเรียนต่อห้องก็น้อย เพราะมันไม่ได้
เป็นแบบนี้ซะทุกคน

มันต้องผ่านการสอบการประเมินผล และนั่น
แสดงให้เห็นว่า ยู(พี่)ช่วยเหลือลูกด้านการ
เรียนมากทีเดียว เขาแนะนำให้พี่สมัครให้นิก
เขาบอกแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่ถึงระดับที่นิก
ได้ด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาถามพี่ว่า พี่อธิบายให้ลูกฟัง
หรือปล่าวว่า ถ้าไปแล้วจะต้องไปเจอกับอะไร พี่ก็บอกว่า พี่บอก และนิกก็อยากไป
ซึ่งเขาถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เด็กต้องการไป

นิกไม่ได้อยากทำให้พ่อแม่ภูมิใจหรอกจ้ะเอ็ม
แต่แกรู้ว่า โรงเรียนที่แกจะไป มันมีเงินสนับสนุนเยอะมาก แกจะมีโอกาสดีในการเรียน
ชั่วโมงดนตรีที่แกชอบ ได้ทำกิจกรรมมากมายที่แกสนใจ เพราะเงินมันไปกองอยู่โรงเรียนแบบนั้นเยอะ และการเรียนก็สนุก
เสมอสำหรับนิก แกชอบเรียนแบบทำให้แก
คิดและมีกิจกรรมทำตลอด นิกไม่ชอบนั่งฟัง
ทั้งชั่วโมง ซึ่งครูที่สอนเด็กไฮลี่ เขาจะ
เชี่ยวชาญด้านการสอนเด็กพวกนี้ค่ะ

+++++++++++++
แม่น้องกุ๊ก

เราก็กลัวนะทีแรก แต่พอฟังคลาร่าพูด
เราก็เห็นด้วยพอสมควร เขาแนะนำเราว่า
ให้ไปที่โรงเรียน ไปดูสภาพโรงเรียน ไปดู
ว่าโรงเรียนมีโปรแกรมอะไรที่นิกชอบบ้าง
ถ้าลูกชอบก็สมัคร เขาบอกโรงเรียนแบบนี้
เด็กเก่งมันเรียนกันและเด็กพวกนี้มันไม่ดื้อ
ส่วนมากเป็นเด็กดี เด็กเรียนกัน เขาว่างี้นะ

เขาบอกเราว่า จดหมายที่เราได้รับ
มันเป็นใบเบิกทางที่ดีให้นิก พอเรียนจบ
ชั้นประถม โรงเรียนเขาจะโอนนิกไปเข้า
โรงเรียนอื่นที่เทียบเคียงความสามารถ
ของนิกน่ะ โดยที่เราไม่ต้องไปสมัคร
โรงเรียนแม๊กเน็ทให้เสียเวลา มันไหลลื่น
ไปตามโปรแกรมที่เขาวางไว้ให้นิกมัน

อันนี้เราชอบนะแม่น้องกุ๊ก

+++++++++++++
เอ้

ที่อเมริกา ไม่ต้องเรียนแข่งกับใครเลยค่ะ
เรียนแข่งกับตัวเองน่ะแหละ ได้ความรู้มาก
เท่าไหร่ ก็ได้กับตัวมากเท่านั้น พี่ยังแปลกใจ
ว่าลิเดีย เรียนเก่งกว่านิกอีก สอบออกมา
เขาก็ได้คะแนนสูงเสมอ แต่ทำไมเขาไม่ได้
จดหมาย และจดหมายมันก็ออกมาตั้งแต่
วันที่ 9 พฤศจิกายนแล้วน่ะค่ะ ถามแม่เขา
แม่เขาก็บอกว่า เขาไม่ได้

คลาร่าบอกพี่ว่า เขาทดสอบเด็กทั้งแต่
ระดับปอสอง แล้วทดสอบเรื่อยมาจน
คะแนนออกมาแบบนี้ พี่เลยไม่รู้ว่า
ที่เขาทดสอบ มันเป็นข้อสอบแบบไหน
พี่ไม่รู้เหมือนกันเอ้ และพี่ก็ไม่รู้จะไปถามใคร
เราก็อยากได้ข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อที่จะ
ตัดสินใจและเล่าให้ลูกฟัง จะถามครูมากไป
ก็กลัวเขาว่าเว่อร์ นี่แหละนิสัยไทยเรา

บางทีกลัวนะว่า อีจดหมายที่เราได้รับ
มันส่งผิดตัวหรือปล่าววะ

แต่ทุกอย่างพี่ก็อยากให้นิกได้สิ่งที่ดีที่สุด
เพราะโอกาสมันไม่ได้มีมาถึงบ่อยๆ



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.135 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:28:55 น.  

 
ดีจังเลยครับ การศึกษาของเขาสนับสนุนเด็กดีจริงๆ บ้านเราเอะอะอะไรก็เรียนๆๆ กิจกรรมแทบไม่มีพ่อแม่เห็นความสำคัญ หรือถ้าเห็นก็จะบังคับกันแทบสุดโต่ง คือเด็กจะเล่นเอาตามความพอใจไม่ได้ ต้องเล่นจริงจังเพื่อให้เก่งเท่านั้น แทนที่เด็กจะได้เล่นสนุกกลับกลายเป็นต้องเครียดไป

การศึกษาบ้านเรา บ่อนทำลายเด็กอัจฉริยะไปแทบทั้งระบบ ไม่ว่าจะวิชาเรียน ครูอาจารย์ แม้กระทั่งพ่อแม่ของเด็กเองก็ตาม เพราะคนในระบบจะคิดว่าเด็ก Gifted คือเด็กที่มีผลการเรียนเป็นเลิศ ซึ่งตามจริงแล้วมันบอกไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเด็กนั้นมีพรสวรรค์จริง (แล้วจริงๆ เด็กพวกนี้ไม่ได้มีพรสวรรค์นะผมว่าคำสาปนรกมากกว่า เพราะเด็กพวกนี้จะมีพฤติกรรมที่ผมจัดอยู่ในระดับที่แย่มาก ไม่ได้แย่ที่ก้าวร้าวหรืออะไรนะครับ แย่เพราะว่าแนวคิดของตัวเด็กเองเลย คือจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ แล้วดูถูกคนอื่นอีกต่างหาก) ปัญหาก็มาตกเอาตอนที่เรียนระดับมหาวิทยาลัยนี่แหละครับ พื้นไม่ดีพร้อม เรียนในแบบที่ไม่ชอบ เขียนข้อสอบไม่เป็น เดี้ยงกันจนถึงเรียนป.โทโน่นแหละถึงเริ่มโงหัวมาได้เพราะความจำเป็นบังคับที่ต้องเขียนตัวจบนี่แหละ

ยังไงก็ยินดีกะนิกด้วยครับ ฝากบอกด้วยนะครับว่าผมดีใจด้วย แล้วก็ขอให้สู้ถึงที่สุดด้วยครับ

แต่ชอบระบบการศึกษาของเขาจริงๆ แฮะ ส่วนบ้านเรา ดีที่สุดคือต้องทำแบบอัจฉริยะของโลกหลายๆ คน คือสอนลูกเองไม่ส่งไปเรียนตามโรงเรียนให้มันบั่นทอนปัญญานั่นแหละ


โดย: Darth Trowa IP: 58.9.165.230 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:4:54:28 น.  

 
เอ็ม

วันนี้ครูแครอลเขาก็บอกพี่เหมือนกันค่ะ
ว่า..หากลูกได้เข้าไปเรียนแล้ว สอนลูก
ด้วยว่า..เรียนเก่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าให้
เขากลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว คิดว่าตัวเอง
เก่งจนไม่เห็นหัวใคร มองใครด้อยไปหมด

อันนี้พี่เข้าใจนะ พี่บอกครูเหมือนกันว่า
พี่เข้าใจเรื่องนี้ พี่ว่า..ลูกจะเห็นแก่ตัวหรือไม่
มันอยู่ที่แบบอย่างจากคนในครอบครัว

พี่บอกครูว่า ลูกพี่เขาเบื่อที่จะนั่งฟังครูสอน
ในเรื่องที่เขารู้แล้ว คือเขาต้องคอยเพื่อนที่
ยังไม่รู้ไงเอ็ม มันก็ทำให้นิกไม่อยากทำงาน
ในห้องเรียนกับเรื่องเดิมๆที่รู้แล้ว

บางทีพี่ก็คิดนะว่า หรือเราสอนให้มันรู้
เกินหน้าชาวบ้านไปวะ คือถ้าพี่มองว่า
เรื่องไหนนิกทำได้ พี่สอนล้ำหน้าไปเลย
ไม่รู้จะแช่มันค้างไว้ทำไม สอนไปเรื่อยๆ
กลายเป็นลูกพาลเบื่อนั่งฟังครูไปดื้อๆ

แล้วพี่จะบอกนิกให้ค่ะ ไม่รู้ว่าจะสู้หรือปล่าว
วันนี้พี่บอก นิก..การบ้านเยอะนะลูก
มันบอก เหรอแม่..ขอคิดดูก่อนนะ


โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:54:06 น.  

 
ระบบการศึกษาบ้านเราน่าจะพัฒนาไปได้แบบนั้นบ้างนะคะ นี่ปรับปรุงหลักสูตรมาไม่รู้จะกี่ครั้งแล้ว กี่ปี ๆ ก็ยังไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น


โดย: น้องเอ้ IP: 125.25.199.2 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:08:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mommy and me
Location :
California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mommy and me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.