หลายเรื่องราว...เล่าเรื่องลูก...ที่คงไม่มีวันเลือนหาย..ในความรู้สึกของแม่
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
หลายวันที่ผ่านมา

หลายวันที่ผ่านมา..ฉันเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ทุกวันต้องเดินไปส่งและรับลูกกลับจากโรงเรียน เนื่องจากเวลาเรียนของลูกทั้งสองไม่ตรงกัน จากที่เดินไปกลับวันละสี่เที่ยว ต้องเดินเพิ่มเป็นหกเที่ยว เรียกว่า..เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย

เหนื่อยกายแค่ไหน..ก็ยังไม่เหนื่อยใจเท่ากับผลสอบเสตทของนิกที่ออกมาแล้ววิชาเลขลูกคะแนนสูงเกินมาตรฐานที่เสตทกำหนด แต่วิชาศิลป์-ภาษา กลับอ่อนกว่ามาตรฐานที่เสตทกำหนด ทำให้แม่ผิดหวังวิ๊ดเอากับลูก จนลูกร้องไห้ แม้ว่าลูกจะบอกว่า..นิกจะปรับให้มันดีขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นในตอนนั้น ฉันบอกลูกว่า..ก่อนที่ลูกจะมาพูดอย่างนี้กับแม่ ควรจะตั้งใจทำข้อสอบให้ดีกว่านี้ ณ. ตอนนั้นฉันโทษลูกไปเต็มๆ ไม่ได้มองเหตุผลอะไรมากมายนัก ฉันคุยกับน้องอาร์ตๆให้ข้อคิดมาข้อหนึ่งว่า..ขอให้ไปดูเด็กทั้งห้องก่อนว่าทั้งกลุ่มผลมันออกมาเป็นอย่างไร เธอพูดให้ฉันใจเย็นๆ อย่าดุด่าว่ากล่าวลูก และคืนนั้นฉันก็ขอโทษลูกและบอกว่า..เดี๋ยวเราเริ่มต้นกันใหม่ปีนี้นะลูก แม่อาจจะให้ความสนใจกับวิชานั้นน้อยไป และคิดว่า การที่นิกพูดภาษาอยู่ทุกวัน นิกคงไม่มีปัญหาอะไรนัก แต่แม่คิดผิด

รุ่งเช้า ไปถึงโรงเรียน ฉันเจอ เออม่า แม่ของเพื่อนนิก จึงถามเรื่องผลสอบของเสตทของลูกเขา สรุปได้ว่า..ลูกของเออม่าก็เจอปัญหาเดียวกันกับนิก ทั้งๆที่เด็กคนนี้วิชาศิลป์ภาษาของเธอดีกว่านิกมาก ฉันเลยได้ข้อสรุปว่า ไม่ใช่ความผิดของลูก แต่เป็นเพราะวิธีการสอนของครูไม่ดีพอ ฉันอุตส่าห์ไว้ใจ ให้เครดิตซะมากมาย ต่อไปนี้ ฉันไม่วางใจอีกต่อไป เพราะนักเรียนมันเยอะและฉันไม่คิดว่าครูจะมีเวลา มาเอาใจใส่ลูกฉันอยู่ได้คนเดียว

แทนที่ฉันจะวางใจและสบายใจว่าลูกไม่มีปัญหา กลับกายเป็นว่าต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม และลูกก็ทำท่าไม่สนใจกับการเรียน เวลาทำการบ้านแม่จะต้องนั่งเฝ้าถ้าไม่เฝ้านิกก็หันไปเล่น อย่างไม่มีความรับผิดชอบ และเวลาทำการบ้านก็สักแต่เขียนๆให้เสร็จ ไม่ใส่ใจเนื้อหาสาระ ไม่พยายามคิดหาเหตุผลมาตอบคำถาม รวมถึงไม่พยายามเข้าใจว่าคำถามๆว่าอะไร หลายปัญหาที่ฉันทนไม่ได้อีกต่อไป เพราะฉันรู้สึกว่า ลูกอายุ 9 ขวบแล้ว ไม่ควรที่จะให้แม่ต้องเฝ้า ต้องพูดมาก หรือคอยบอกคอยสอนซ้ำๆซากๆอีก เขาควรจะมีความรับผิดชอบในหน้าที่ให้มากกว่าที่เป็น ไม่ใช่เล่นไม่รู้เรื่องเหมือนที่ผ่านมา

ตกค่ำ..ฉันเรียกนิกมานั่งคุย ฉันถามว่า..ทำไมเวลาที่แม่พูดดีๆแล้วนิกไม่ปฏิบัติ ต่อเมื่อแม่..โมโห หรือขึ้นเสียง นิกก็จะกลัว พอกลัวแล้วร้องไห้ นิกจะร้องทำไม ในเมื่อแม่ไม่เคยตีลูก ถ้านิกรู้จักรับผิดชอบ แม่ก็ไม่โมโหหรอก..

นิกเห็นมั๊ย!!...ว่าทุกวันนี้ เรากินข้าวเย็นกันดึก เพราะแม่ไม่มีเวลาทำอาหาร แม่เอาเวลาของแม่ไปนั่งเฝ้านิกทำการบ้าน

นิกเห็นมั๊ย!!...ว่าแม่เหนื่อยเดินไปรับไปส่งลูกสองคน เพราะแม่ไม่อยากกวนแด๊ด จากที่แม่เดินแค่ไปรับส่งนิกเดี๋ยวนี้แม่ต้องเดินเพิ่มขึ้นเพื่อไปรับอลีนา

นิกเห็นมั๊ย!!...ว่าแม่พยายามที่จะทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุดเพื่อลูก เพื่อครอบครัวของเรา เหนื่อยแม่ก็ทนได้ แต่ที่แม่อยากเห็นคือ นิกรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง อย่าให้แม่ต้องตามเช็ดตามล้างไปในทุกๆเรื่อง

นิกเห็นมั๊ย!!..แทนที่แม่จะได้เอาเวลาที่เหลือไปเอาใจใส่น้อง แม่ก็ยังทิ้งนิกไม่ได้อยู่นั่นเอง ในทุกเรื่อง

เมื่อวาน..เป็นวันที่เหนื่อยที่สุดที่ฉันต้องกรองคำพูดๆกับลูกให้เข้าใจ ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ เข้าใจถึงความรักของพ่อแม่ เข้าใจถึงคำว่าครอบครัวที่มันไม่สามารถจะเดินไปได้เพียงลำพัง หากปราศจากทีมเวิร์คที่ดี ดูเหมือนว่า..นิกจะเข้าใจมากขึ้น ฉันรู้ว่า..ลูกแคร์ฉันและรักฉันมากมาย หลายหนที่ฉันต้องขอโทษลูกที่แสดงกิริยาไม่ดี แต่ความเป็นแม่มันสอนให้ฉันต้องทำอย่างนั้น หลายหนที่ฉันก็เสียใจเมื่อหันไปทบทวนมัน ไม่มีแม่คนไหนกล้าสามารถไปหมดทุกเรื่อง เรียกว่าลูกใครๆก็ต้องเรียนรู้กันไปเองที่จะแนะนำลูกไปในทางที่ถูกที่ควร..

คำว่า..ที่ถูกที่ควรนี่แหละทำให้ฉันล้า ว่าเมื่อไหร่ลูกจะไปในทางที่ถูก และเมื่อใหร่จะไปในทางที่ควร ในสมัยของฉัน ความถูกความควร การคิดเป็น ฉันก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง พ่อแม่ไม่ต้องสอนสั่งมากมายนัก หรือเป็นเพราะความยากลำบากของพ่อแม่ สอนให้เราเป็นเช่นนั้น..ฉันคุยกับเพื่อนว่า..หรือเด็กสมัยนี้ไม่ได้เรียนรู้ความยากลำบากด้วยตาเห็น เลยไม่เข้าใจว่า..ชีวิตไม่ได้ความสบายมาโดยง่าย ต่อให้เราพูดสอนจนปากแทบฉีก เด็กจะเข้าใจมั๊ย..ในเมื่อเขาเกิดมาบนความสบายไปแล้ว นี่แหละ..หัวข้อที่พูดกันไม่เคยจบ และหลายวันที่ผ่านมาก็มีเรื่องให้คิดมากมาย




Create Date : 15 กันยายน 2550
Last Update : 15 กันยายน 2550 1:04:55 น. 12 comments
Counter : 636 Pageviews.

 
มาให้กำลังใจคุณแม่คนเก่งค่ะ ใจเย็นๆ นะคะ เด็กๆ ก็มักจะเล่นอยู่เรื่อยแหละค่ะ แต่ความรักและความอบอุ่นในครอบครัว รวมทั้งการเอาใจใส่ของคุณพ่อคุณแม่จะทำให้เค๊าเป็นเด็กดีแน่นอน และผลการเรียนวิชานี้ต้องดีขึ้นตามลำดับค่ะ

สู้ๆ ค่ะ แม่น้องนิก ...


โดย: the Vicky วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:4:42:16 น.  

 
อิแม่....น้องว่าบางทีคนเฮาก็ต้องเรียนรู้จากเรื่องแย่ ๆ พ่องนะ
ถ้าอะหยังก็ต้องทำหื้อดีหื้อเป๊ะๆๆ ไปหมด แล้วถ้าวันหนึ่งผิดพลาดขึ้นมา เขาจะเอาประสบการณ์และบทเรียนไหนไปแก้?


แต่มันก็ต้องอยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะพอดีอ่ะนะ
ถ้ามันนักล้ำอย่างน้องนี่ก็บ่ไหว ชีวิตเต๋มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลประสบการณ์
โดยเฉพาะกล๋างหลัง แผลเพียบบบ


โดย: อลีหน่อย IP: 61.7.172.103 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:9:25:05 น.  

 
เนี่ยล่ะ อาร์ตไม่อยากมีลูกก็เพราะว่าต้องสอนการบ้านลูกนี่หละ

การจะให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาโดยที่มีความรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ของตัวเองมันยากนะพี่แม่น้องนิก


การเดินไปกลับหลายๆ รอบทำให้ก้นและต้นขาเต่งตึง เฟิร์มแน่นกระชับจ้ะ





โดย: อาร์ตค่ะ IP: 58.10.128.104 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:9:48:29 น.  

 
ใจเย็นๆ ครับ...

เด็กช่วงวัยนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ สมาธิเขาจะค่อนข้างสั้น อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าเริ่มที่จะมีการสนใจในสิ่งอื่นๆ รอบตัวมากขึ้นกว่าเดิม ก็เลยมีใจพะวงที่จะไปทำนู่นทำนี่ มากกว่าที่จะใส่ใจในภาระหน้าที่ของตนเอง

ผมก็พอบอกได้แต่สาเหตุ ส่วนวิธีแก้ ผมก็ลำบากเหมือนกัน ผมเจอเด็กป.4 มา 3 คน มาแนวเดียวกันหมด สอนก็ไม่สนใจ บอกแล้วให้คิด ให้จำ ให้ทำความเข้าใจ ก็มักจะทำได้ช้า ใจมัวแต่พะวงจะไปเล่น ไปทำอย่างอื่น ก็ได้แต่หาวิธีแก้ไขเฉพาะหน้ากันไป ส่วนวิธีแก้ระยะยาว ก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน

แต่สมัยเด็กๆ ช่วงป.4 นี่แหละเป็นช่วงที่ผมเริ่มเกเร การบ้านไม่ค่อยจะทำเหมือนกัน แต่พอช่วงป.5 ก็กลับมาทำ แต่ทำได้แค่วิชาเดียวคือเลข เพราะวิชานี้ครูดุมาก การบ้านก็เยอะ ทำการบ้านเลขอย่างเดียวก็หมดเวลาแล้ว ไม่ต้องนึกถึงวิชาอื่นหรอก

แต่ตอนนี้ อาจารย์สั่งการบ้านมานี่ต้องรีบทำกันน่าดู กลัวเกรดเน่าครับ


โดย: Darth Trowa IP: 58.9.159.191 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:10:20:28 น.  

 
ใจเย็น ๆ ค่ะ คุณแม่
เด็ก ๆ ที่บ้านเราก็เป็นเหมือนกันค่ะ

แต่เราจะไม่ค่อยเครียดเรื่องนี้เท่าไหร่
เพราะคิดว่า .. เมื่อเค้าโตขึ้น ก็น่าจะดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ

เรื่องผลสอบเราก็ไม่ซีเรียสค่ะ
เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งเหมือนกัน

ตอนนี้สอนลูกอยู่เสมอค่ะ
ว่าไม่ต้องเรียนเก่งก็ได้
แค่อยากให้ลูกเป็นคนดีเท่านั้นเองค่ะ


โดย: BFBMOM วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:11:55:42 น.  

 
ไม่รู้ว่าพี่แมวก็มีเรื่องน่าเหนื่อยใจอยู่เหมือนกัน แล้วดูสิ...เอ้ยังเอาปัญหาของเอ้ไปปรึกษาพี่แมวอีก รู้สึกผิดจังเลยค่ะ

เอ้เชื่อมั่นว่าทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีแหละค่ะ

เอ้อ่านข้างบนแล้ว เอ้เห็นด้วยกับทุกคนที่บอกพี่แมวนะคะ



โดย: น้องเอ้ IP: 125.25.197.250 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:17:19:47 น.  

 
อ่านแล้วสงสารนิก...
พี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ แม่น้องนิกพูดกับลูกเช่นนั้น
นิกเห็นมัียว่าแม่.......สารพัดที่พูดไปน่ะแหละ
พี่ว่าแรงมากนะ หัวใจลูกคงบอบช้ำไม่น้อย
ทุกอย่างที่พูดนั้น เป็นหน้าที่ของแม่ที่เราต้องยอมรับอย่างอดทน
และไม่สามารถไปเรียกร้องเช่นนั้นกับลูกได้
ถ้าจะพูดให้ลูกเห็นใจ เข้าใจ ต้องพูดด้วยปิยวาจากว่านี้

พี่ว่า แม่น้องนิกฟิวส์ขาดเพราะ คาดหวังมากเกินไป
มองลูกด้วยเมตตาบ้างสิจ๊ะ นิกอาจทำดีที่สุดแล้ว
มันทำได้แค่นั้นจริงๆ
ยืดหยุ่นผ่อนปรนบ้าง
การสร้างระเบียบวินัยอุปนิสัยในตัวลูก ไม่ได้ใช้เวลาเพียงข้ามคืน
ที่บอกกี่หนแล้วลูกไม่จำ ไม่ใช่เพราะเขาจำไม่ได้
แต่เพราะเขายังเด็ก ชีวิตของเด็กคือ การเล่น
นิกยังอยากเล่น ยังแว่บเล่นเวลาทำการบ้าน
แสดงว่า นิกยังมีหัวใจเด็ก ยังร่าเริง ยังมีชีวิตอยู่
ถ้าวันไหนนิกกลายเป็นหุ่นยนต์ นั่งทำการบ้านด้วยอาการเซื่องซึม หวาดผวาแม่จะดุ
วันนั้นแม่น้องนิกจะเสียใจกว่าลูกสอบตกหลายเท่าตัว
ถ้าแม่น้องนิกตระหนักในธรรมชาติของเด็กว่า เขาต้องเล่น เขาเรียนรู้ผ่านการเล่น
แม่น้องนิกจะอภัยให้ลูก และใจเย็นที่จะพูด ใจเย็นที่จะค่อยๆให้นิกเปลี่ยนแปลงเรื่องความ รับผิดชอบได้ดีขึ้นกว่านี้

การกระแทกคำพูดเหล่านั้นกับลูก ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
นอกจากสร้างความรู้สึกไม่ดีลงในใจลูก
ต่อให้รู้สึกผิด ขอโทษกันทีหลัง มันก็ไม่ได้ช่วยลบล้างบาดแผลที่แม่กรีดใจลูกลงไปแล้วได้หรอก

เด็กก็คือ เด็ก เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ย่อส่วน
ฉะนั้นเขามีขีดจำกัดในความสามารถ การเรียนรู้และควบคุมตัวเอง
จะให้เขานิ่ง รับผิดชอบได้อย่างที่ผู้ใหญ่ทำกัน
หรือเข้าใจในสิ่งที่เราพูดทุกอย่าง
ไม่ใช่แน่นอน

อย่าทำร้ายหัวใจลูกแบบนี้อีก
แม่น้องนิกต้องควบคุมอารมณ์และคำพูดที่กล่าวกับลูก
ลูกอยากให้เราเป็นแม่ เป็นคนที่เขารู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ด้วย
และชีวิตก็มีอะไรให้เด็กต้องเรียนรู้มากกว่าการเรียน
และผลสอบอีกหลายร้อยเรื่อง
และสิ่งประกอบอื่นๆเหล่านี้แหละ ที่จะทำให้เขาเติบโตอย่างมีความสุขและเป็นคนดี

รักและปรารถนาดีอย่างจริงใจ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.58.145 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:23:10:47 น.  

 
สวัสดีค่ะทุกๆคน

สองสามวันมานี้อากาศเปลี่ยน แม่น้องนิก
เป็นหวัด แล้วตามด้วยอาการไอทั้งวันทั้งคืน
ลูกๆก็พลอยติดหวัดและไอจากแม่งอมแงม
ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาเม้นท์ แต่ตอบทุกคนไม่ไหวค่ะวันนี้ น้ำใจทุกท่านขอน้อมรับไว้
พิจารณาค่ะ

+++++++++++++
พี่ตะเบบูญ่าคะ

แม่น้องนิกไม่ได้คาดหวังขนาดนั้นหรอกพี่
แต่พอผลออกมา ก็ทำให้นึกเป็นห่วงลูก
เพราะว่า..ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย หากสอบไม่ผ่าน
เสตทเทส ในระดับไฮสคูลปีสุดท้าย เด็กก็
จบไม่ได้ค่ะพี่ นี่คือเหตุผลที่อยากจะให้ลูก
ได้เข้าใจ อย่างน้อยๆนิกก็ได้เรียนรู้กับบทเรียนในครั้งนี้

ที่สำคัญ..หากคะแนนสอบไม่ดีทั้งการสอบที่โรงเรียนและเสตท นิกก็จะต้องไปเรียนซ่อมเสริมตอนปิดเทอม..ซึ่งแม่น้องนิกก็บอกลูก
ว่า..ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะไม่ได้ไปพักร้อนเลย ที่จริงนิกเขาทำได้พี่ ถ้าเขาตั้งใจ แต่ที่ผ่านมา ก็เป็นความผิดของแม่น้องนิกเอง
ที่ไม่ได้ใส่ใจกับวิชาศิลป์ภาษาให้ลูก
มัวแต่ไปเน้น math

อารมณ์โมโหมันก็พาไปล่ะพี่ ความรัก
ความห่วงใย มันแปรออกมาเป็นแบบนั้น
นิกเขาก็รู้ว่าแม่รัก ปีนี้ เราตกลงกันว่า
เราจะพยายามกันใหม่ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า
ติวเตอร์ฟรี จะมาติวให้ที่บ้านค่ะ เป็นติวเตอร์
คนเดิมที่ติวmath ให้ปีที่แล้ว ปีนี้ไม่ต้อง
ทดสอบก่อนสอน แม่รีเควส ศิลป์ภาษา
แล้วแม่ก็ไปดีลกับครูด้วย เล่นมันทุกทางล่ะพี่
โชคดีว่า ติวเตอร์เป็นคนเวียดนามที่ไปโต
ที่โน่น ก็ง่ายที่จะพูดคุยกันเพราะเป็นเอเชี่ยน
เหมือนกัน ความเอาใจใส่ที่เขาจะมีให้นิก
มันจะพิเศษอยู่หน่อย ที่สำคัญพี่..ติวเตอร์บ้านอยู่ซอยเดียวกันเลย

นี่ก็เริ่มมองเห็นแนวข้อสอบละ ไม่ยาก
ถ้านิกไม่เจ๊งไปซะก่อนนะพี่ แต่ต้องอธิบาย
ใหม่หมดเลย ความรู้ต่างๆนิกคืนครูไปหมด
ตอนปิดเทอม

ขอบคุณค่ะพี่ตะเบบูญ่า ในน้ำใจไมตรี
แหมเนาะ..พูดเรื่องลูกเมื่อไหร่ พี่เป็นยอม
ไม่ได้เลย นี่ถ้าอยู่ใกล้กัน สงสัยโดนตำหนิ
เนื้อเขียวแน่ๆ ขอน้อมรับคำดุทั้งหลาย
จะพยายามใจเย็นๆกับลูกอ่ะพี่



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.139 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:11:37:43 น.  

 
คิดอยู่เหมือนกันว่า แม่น้องนิกจะโกรธไหมเนี่ย
ก็ดีใจแหละที่ไม่โกรธกัน
พี่เองก็หละหลวมไปหน่อยตรงที่
พี่ไม่รู้ระบบการเรียนที่นั่นว่า พลาดไม่ได้(ทำนองนั้น)
แม่น้องนิกถึงต้องเข้มหนัก

พี่เป็นพวกสงสารจิตใจเด็ก
ยกเรื่องนี้ขึ้นมานำหน้าเสมอ
จึงรู้สึกสงสารนิกที่ถูกท่านแม่ดุเอาขนาดนั้น

เอาล่ะจ้ะ...เป็นว่าต้องมั่นใจว่า แม่น้องนิกย่อมรู้และทำทุกอย่างดีที่สุดเพื่อลูกแน่นอน

เรียนกันโหดเนอะ...ฟังแล้วเครียด...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.63.198 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:22:02:44 น.  

 
พี่ตะเบบูญ่า

ไม่โกรธหรอกค่ะพี่..พูดกันด้วยเหตุด้วยผล
จะโกรธกันได้ไง ในทุกคำพูดก็คือความรัก
ในตัวลูก และความหวังดีต่อกันทั้งนั้น

พี่แนะนำ ก็ยังดีกว่านิ่งเฉย เพราะคงไม่มีแม่
คนไหน สมบูรณ์พร้อมทุกเรื่อง บางทีการกระทำของแม่น้องนิกก็อาจจะไม่ถูกต้อง
ซึ่งมันก็ต้องพยายามเรียนรู้กันไป

ก็คิดอยู่ค่ะว่า..แม่น้องนิกอาจจะพูดไม่กระจ่าง
ทำให้พี่ไม่เข้าใจเรื่องการเรียนของที่โน่น อย่างไรก็ตาม นั่นก็ถือว่าพี่เตือนสติ และหวังดีต่อกัน

อย่างน้อยๆ ผลสอบของโรงเรียนของนิก
ออกมาในเกณฑ์ดี ผลสอบเสตทออกมา
ไม่สวยหนึ่งตัว คงไม่มีผลเท่าไหร่นัก

หลังจากที่ไปหักคอครู จิกหนังสือเก่าของครูมา แล้วนำมาอ่านเปรียบเทียบกัน ว่าเราพลาดไปจุดไหน ถึงได้รู้ถึงความยาก และเชื่อเลยว่าลูกไม่เข้าใจหรอก แต่ปีนี้ แม่จะฝึกนิกเอง ครูเขาก็ดีนะพี่ เขาคงรู้..ว่ายัยนี่มันช่วยลูกจริง ถึงได้ให้ทั้งยืม และให้สมุดแบบฝึกหัดมา แม่น้องนิกว่า ครูเขาดูความใส่ใจของพ่อแม่ด้วย และบางทีแม่นี่แหละที่วิ่งไปขอคำอธิบายกับครูซะเอง

นิกเขาถามแม่น้องนิกว่า..แม่ครับ ทำไมแด๊ด
ไม่อธิบายหลักภาษาให้นิก ทำไมต้องเป็นแม่..แม่ตอบว่า..ฝรั่งอ่ะลูก ตกหลักภาษากันทั้งนั้นล่ะ ถึงแม่พูดอังกฤษไม่เก่งอย่างแด๊ด แต่แม่เรียนหลักภาษาเยอะกว่าในประเทศของแม่ นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไม แม่ต้องเป็นคนอธิบาย เพราะแด๊ดไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรให้นิก

พี่คิดดูนะ..ลูกยังไม่ทันสอบวัดผลเสตท
ของปอสี่เลย แต่แม่มั่นใจมากว่า..ปีนี้ต้องผ่าน



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.135.93 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:22:49:31 น.  

 
เป็นเด็กสมัยไหน
เด็กฝรั่งเด็กไทย
ก็คือเด็ก
อ่านแล้วเข้าใจ
คิดถึงสมัยฉันเป็นเด็ก
แล้วชีวิตก็ดำเนินตัวมันเองไป
และเราก็เป็นผู้ใหญ่มิใช่เด็กเด็ก
ความรักที่มอบให้มากมาย
ก็เพราะความเดียวดายในวัยเด็ก
แทบทั้งนั้น พ่อแม่ไม่รักฉัน
เพราะเราไปฝันแทนเด็กเด็ก
เชื่อเถอะพวกเขามีฝันอันยิ่งใหญ่
แม้จะมีหัวใจดวงเล็ก-เล็ก

จาก
เด็กกำพร้าพ่อ
และไม่เคยได้อยู่กับแม่แต่วัยเด็ก






โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:0:33:45 น.  

 
ขอบคุณเจ้าอ้ายปอน ที่แวะมาให้ข้อคิด
ในความเป็นพ่อแม่ และวัยเด็กที่ผ่านมา
เดี๋ยวไปเม้นท์บ้านอ้ายเจ้า


โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:1:01:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mommy and me
Location :
California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mommy and me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.